พรรคเพื่อไทย เตรียมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลวันที่ 2 ส.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางการโหวตนายกฯ ครั้งถัดไป มีแนวโน้มเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกของพรรคฯ ท่ามกลางข่าวลือข้ามขั้ว แม้มีการออกมาปฏิเสธ แต่การโหวตนายกฯ รอบถัดไป อาจยืดเยื้อ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง จะเกิดรัฐบาลสลับขั้วแบบไม่มี 2 ลุง
สำหรับการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์กับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การโหวตนายกฯ รอบนี้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีแนวโน้มสูงจะเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกของพรรคฯ เพื่อให้ที่ประชุมโหวต ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ก็จะถูกบีบจากมติ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งให้โหวตเพียงครั้งเดียว ต่อ 1 แคนดิเดตนายกฯ ประเด็นนี้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่วินิจฉัย ก็ยังต้องยึดตามมตินั้นอยู่
มติดังกล่าวทำให้การเสนอชื่อ คุณเศรษฐา เพื่อโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ มีความเสี่ยง หลายคนยังจับตาว่า วันดังกล่าวจะมีการเสนอชื่อเพื่อโหวตนายกฯ หรือไม่ หากยังต้องเผชิญความเสี่ยงนี้อยู่ ดังนั้น การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย รอบนี้ ต้องมีความมั่นใจว่ามีคะแนนเสียงเพียงพอ ทำให้การโหวตนายกฯ ผ่าน เพราะไม่เช่นนั้น คนที่ถูกเสนอชื่อจะเสียโอกาส
...
ประกอบกับเวลานี้ พรรคเพื่อไทย จะโหวตนายกฯ ให้ผ่านต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว เพราะ สว. และพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ก็ไม่ยกมือโหวตนายกฯ ให้ ดังนั้น ถ้าหากพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเวลานี้ ต้องเจอปัญหาของมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วม เพราะการตั้งรัฐบาลรอบนี้ต้องมีการสร้างความสมดุล ทั้งเรื่องคะแนนสนับสนุนของพรรค การวางตัวของบิ๊กตู่ ที่มีนัยอะไรหรือไม่ รวมถึงการประกาศกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร และมวลชนสนับสนุนพรรคก้าวไกล ดังนั้น ถ้าความสมดุลเหล่านี้ไม่เกิด ก็ยากจะจัดตั้งรัฐบาลได้
ต้องจับตา หากมีการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ จะมีการชุมนุมใหญ่นอกสภา กดดันการโหวตหรือไม่ เพราะมีผลต่อความสงบเรียบร้อย โดยเกมการเมืองจะมีการปล่อยข่าว เพื่อหยั่งเชิงกระแสของมวลชนก่อน เพราะสมการที่เป็นไปได้ตอนนี้คือ การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วแบบที่ไม่มี 2 ลุง แต่พรรคเพื่อไทย จะยอมหรือไม่ ในการไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเพื่อไทย ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า และ 8 พรรคร่วมเดิม
แม้ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยู่ในสมการของการจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย แต่เวลานี้ต้องมานั่งคุยกัยเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหา และฝ่าวิกฤติการเมืองไปได้ แม้ที่ผ่านมา 2 พรรคนี้ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด
อีกประเด็นน่าเป็นห่วงคือ คะแนนเสียงสนับสนุนของ สว. ส่วนใหญ่ชัดเจนว่า พรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลต้องไม่มีพรรคก้าวไกล จึงทำให้การโหวตนายกฯ ยืดเยื้อ เพราะมีปัจจัยเรื่องการกลับมาของคุณทักษิณด้วย
หากพรรคเพื่อไทย ประสานจนสามารถดันคุณเศรษฐา ก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯ ได้ สิ่งแรกที่ต้องเร่งทำคือ ตอบคำถามสังคมถึงความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ต้องเป็นการตอบคำถามที่ดี หากเป็นคำตอบที่ไม่สมเหตุสมผล จะทำให้มวลชนไม่พอใจ เกิดการชุมนุมที่รุนแรง โดยเฉพาะถ้าเป็นการข้ามขั้วไปร่วมกับ 2 ลุง
...
“สิ่งที่นายกฯ คนต่อไปต้องเร่งทำ หลังจากรับตำแหน่งคือ การสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน แล้วจึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเมืองกลับสู่สภาพปกติเร็วที่สุด”
ส่วนตัวเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่กล้าตัดสินใจเสนอชื่อ คุณเศรษฐา ในสภาวะการเมืองที่มีความเสี่ยงว่าจะโหวตไม่ผ่าน จึงทำให้ต่อจากนี้ต้องจับตาท่าทีของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค และฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่หันมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย.