เกมโหวตนายกฯ คนที่ 30 ขณะนี้ยังพลิกได้ทุกสถานการณ์ แม้ต้องรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเสนอชื่อเพื่อโหวตนายกฯ ซ้ำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่อีกมุมการเมือง พรรคพลังประชารัฐ จัดทัพใหม่ โดยวาง 'พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ' น้องชาย “บิ๊กป้อม” นั่งประธานที่ปรึกษาพรรค ด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดา เพราะมีพาวเวอร์ประสานได้ทั้งแวดวงการเมือง นักธุรกิจ และกลุ่ม สว. จึงเป็นการเปิดเกมรุกทางการเมือง นำสู่การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว
ทันทีที่การประชุมคณะกรรมการพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 29 ก.ค. 2566 เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับมานั่งหัวหน้าพรรค หลังมีข่าวลือว่าจะวางมือทางการเมือง ปิดฉากขุมกำลัง “3 ป.” แต่การกลับมารอบนี้ แม้ไม่มี “บิ๊กตู่” แต่การแต่งตั้งน้องชายคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นั่งประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นสัญญาณทางการเมือง เตือนให้ 8 พรรคที่ขณะนี้ ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เห็นถึงความชัดเจนของ “บิ๊กป้อม”
...
ดร.อมร วาณิชวิวัฒน์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การที่บิ๊กป้อม ให้น้องชายคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นั่งประธานที่ปรึกษาพรรค ถือเป็นสัญญาณชัดเจนถึงการเดินหน้าทางการเมืองเชิงรุกต่อจากนี้ เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของการโหวตฯ นายก การแต่งตั้งน้องชาย ที่มีความไว้เนื้อเชื้อใจ มีอำนาจตัดสินใจเหมือนกับพี่ชาย ทำให้การทำงานด้านเจรจาของพรรคมีความชัดเจนมากขึ้น
มองในแง่ความสัมพันธ์ของพี่น้อง ช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดที่สำคัญทางการเมือง ดังนั้นการเปิดตัวคนที่ไว้ใจมานั่งในตำแหน่งสำคัญของพรรค จะทำให้สามารถเดินเกมรุกได้อย่างแหลมคมมากขึ้น เพราะถ้ามองถึงสายสัมพันธ์ของ พล.ต.อ.พัชรวาท ในวงการตำรวจถือว่าเป็นพี่ใหญ่ ขณะเดียวกันก็มีคอนเน็กชันกับนักธุรกิจรายใหญ่ รวมถึงสามารถประสานกับนักการเมืองระดับผู้ใหญ่หลายท่านในพรรคเพื่อไทย
ในเชิงการเมืองด้วยความที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เคยดำรงตำแหน่งอยู่ใน สนช. ที่ตอนนี้ สว.หลายคนก็อยู่ในรุ่นเดียวกัน ถือว่ามีสายสามพันธ์แนบแน่น และมีผลต่อการโหวตนายกฯ จึงต้องจับตาว่า เมื่อบิ๊กป้อม เปิดเกมรุก โดยให้น้องชายมานั่งประธานที่ปรึกษาพรรคแล้ว หาก 8 พรรคร่วมยังตกลงโหวตนายกฯ ไม่ได้ อาจเกิดการพลิกขั้ว กลายเป็นนายกฯ ส้มหล่นมาถึงกลุ่มที่เป็นรัฐบาลเดิม
แต่ต้องจับตาว่า วันที่ 4 ส.ค.นี้ จะโหวตนายกฯ ได้หรือไม่ ถ้าก่อนวันโหวต ศาลมีคำสั่งชะลอการพิจารณากรณีคุณพิธา ก็อาจมีผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ และส่งผลถึงการกลับมาของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศว่าจะกลับมาประเทศไทย วันที่ 10 ส.ค.นี้ แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ การเปิดตัว พล.ต.อ.พัชรวาท ก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่าถ้าหากมีการดีลเพื่อร่วมรัฐบาล สามารถประสานได้กับทุกฝ่าย โดยเป็นหนึ่งเดียวกันท่ามกลางกระแสข่าว ที่จะผลักให้ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน
หากเกิดรัฐบาลพลิกขั้ว พล.ต.อ.พัชรวาท อาจได้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีบางกระทรวง ขณะเดียวกันก็เป็นการวางเส้นทางการเมืองให้กับน้องชายของบิ๊กป้อม เพราะถ้าพี่ชายไม่ได้ตำแหน่ง อย่างน้อยก็เปิดทางให้น้องได้ทำงานการเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ก็มีบารมีเป็นที่เกรงใจของทหารและตำรวจ
...
หลังจากนี้ต้องจับตาดูการพิจารณาของศาล วันที่ 3 ส.ค.นี้ กรณีการพิจารณาการเสนอชื่อคุณพิธา เพื่อโหวตนายกฯ ซ้ำอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะจะเป็นตัวกำหนดละครการเมืองในฉากถัดไป เพื่อให้มีการเจรจาสลับขั้วทางการเมืองชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณทักษิณ ตัดสินใจกลับไทย ตามกำหนดการที่ได้ประกาศไว้แล้วได้หรือไม่ด้วย.