ในปี 2569 ทิศทางเกษตรกรรมของไทยมุ่งเน้นไปที่ "พืชแห่งอนาคต" (Future Crops) ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ (Superfood), ความยั่งยืน (Green Economy) และอุตสาหกรรมแปรรูปมูลค่าสูง โดยเฉพาะกลุ่มพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบใน "เนื้อจากพืช" (Plant-based Meat) และ "นมจากพืช" (Plant-based Milk) ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
นี่คือรายชื่อพืชเศรษฐกิจ 10 ชนิดที่มีศักยภาพสูงในปี 2569 ดังนี้
10 พืชเศรษฐกิจใหม่และดาวรุ่งปี 2569
1. ไข่ผำ (Wolffia) - "ซูเปอร์ฟู้ดของโลก"
พืชนํ้าขนาดเล็กที่มีโปรตีนสูงมาก เป็นที่ต้องการอย่างหนักในตลาดโปรตีนทางเลือก
วิธีการปลูก: เลี้ยงในบ่อพลาสติกหรือบ่อปูน นํ้านิ่ง เติมปุ๋ยอินทรีย์หรือนํ้าหมักชีวภาพ ควบคุมไม่ให้โดนแสงแดดจัดเกินไป เก็บเกี่ยวได้ทุก 7–10 วัน
จุดเด่น: ใช้พื้นที่น้อย ปลูกได้ทุกภาคทั่วไทย และใช้นํ้าน้อยมาก
...
2. โกโก้ (Cocoa)
จากความต้องการช็อกโกแลตคราฟต์ (Craft Chocolate) ที่เพิ่มขึ้น ทำให้โกโก้ไทยมีโอกาสส่งออกสูง
วิธีการปลูก: ชอบอากาศร้อนชื้น ปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นอื่นเพื่อเป็นร่มเงาในช่วงแรก (Intercropping) ต้องการการตัดแต่งกิ่งและการหมักเมล็ดที่ถูกต้องเพื่อให้ได้คุณภาพพรีเมียม
จุดเด่น: เก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี และมีอายุยืนนานหลายสิบปี
3. วานิลลา (Vanilla)
พืชที่ให้ผลตอบแทนต่อกิโลกรัมสูงถึงหลักหมื่นบาท ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาสายพันธุ์ที่ปลูกได้ในอากาศร้อน
วิธีการปลูก: เป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ ต้องการร่มเงา 50-70% (ปลูกในโรงเรือนตาข่าย) ต้องช่วยผสมเกสรด้วยมือในช่วงเช้า
จุดเด่น: ตลาดมีความต้องการสูงมาก ทั้งในอุตสาหกรรมขนมและนํ้าหอม
4. อะโวคาโด (Avocado)
ผลไม้ไขมันดีที่กลายเป็นพื้นฐานของอาหารสุขภาพยุคใหม่
วิธีการปลูก: ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ที่ปลูกในพื้นที่ราบ (พื้นที่ตํ่า) ได้ดี เช่น พันธุ์บัคคาเนียร์ หรือ ปีเตอร์สัน เน้นดินระบายนํ้าดี ไม่ชอบนํ้าขัง
จุดเด่น: ราคายังคงเสถียรและมีความต้องการในตลาดพรีเมียมสูง
...
5. ไผ่ซางหม่น (Giant Bamboo)
พืชเศรษฐกิจอเนกประสงค์ที่รัฐบาลส่งเสริมเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และกระดาษ
วิธีการปลูก: ปลูกง่าย ทนแล้งได้ดีในทุกสภาพดิน ระยะปลูก 4x4 เมตร ให้ผลผลิตทั้งหน่อและลำไม้
จุดเด่น: เป็นพืชช่วยกักเก็บคาร์บอน (Carbon Credit) ซึ่งเป็นเทรนด์เศรษฐกิจสีเขียว
6. กัญชง (Hemp) เพื่ออุตสาหกรรม
เน้นการสกัด CBD และใช้เส้นใยในอุตสาหกรรมสิ่งทอและวัสดุเกรดสูง
วิธีการปลูก: ต้องการดินร่วนซุยและการจัดการสารอาหารที่แม่นยำ ปัจจุบันปลูกได้ง่ายขึ้นตามใบอนุญาตเชิงพาณิชย์
จุดเด่น: มีมูลค่าสูงในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง
7. พืชกลุ่มถั่ว (Beans & Pulses)
โดยเฉพาะ "ถั่วเหลือง" และ "ถั่วเขียว" เพื่อป้อนโรงงานผลิตโปรตีนจากพืช
วิธีการปลูก: ปลูกหลังฤดูกาลทำนา ช่วยบำรุงดินโดยการตรึงไนโตรเจน ใช้นํ้าน้อยกว่าการทำนาปรัง
จุดเด่น: เป็นวัตถุดิบหลักของ Plant-based Food ที่ไทยกำลังผลักดันเป็น Hub
8. มันสำปะหลัง (สายพันธุ์ต้านทานโรค)
มันสำปะหลังยังคงเป็นพืชหลัก แต่ในปี 2569 จะเน้นสายพันธุ์ใหม่ที่ทนโรคใบด่างและมีเปอร์เซ็นต์แป้งสูง
วิธีการปลูก: เตรียมดินให้ร่วนซุย ยกร่องสูง ใช้ท่อนพันธุ์สะอาดจากการรับรองของกรมวิชาการเกษตร
จุดเด่น: ตลาดพลังงานสะอาด (เอทานอล) และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารยังต้องการต่อเนื่อง
9. มะพร้าวนํ้าหอม (Aromatic Coconut)
เป็นสินค้า GI ที่ทั่วโลกยอมรับและถูกจัดเป็น Superfood
...
วิธีการปลูก: ปลูกในพื้นที่ราบลุ่ม ดินเหนียวหรือดินร่วนปนทรายที่มีแหล่งนํ้าสมบูรณ์ ระยะปลูก 6x6 เมตร
จุดเด่น: เป็นสินค้าส่งออกดาวรุ่งที่ไทยครองตลาดอันดับ 1 ของโลก
10. สมุนไพรไทย (ขมิ้นชัน / ฟ้าทะลายโจร)
เน้นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งออกในรูปแบบสารสกัดเข้มข้น
วิธีการปลูก: ปลูกในดินร่วนซุย ระบายนํ้าดี เน้นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อให้ได้สารสำคัญ (Active Compound) สูง
จุดเด่น: ตอบโจทย์เทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Healthcare)
ตารางสรุปการวิเคราะห์ตลาดปี 2569
กลุ่มพืช | ตัวอย่างพืช | ตลาดรองรับ | ความยากในการปลูก |
Superfood | ไข่ผำ, อะโวคาโด | ตลาดสุขภาพ, ร้านอาหาร | ปานกลาง |
อุตสาหกรรมใหม่ | วานิลลา, โกโก้ | ขนม, เครื่องดื่ม, เครื่องสำอาง | สูง |
ความยั่งยืน | ไผ่, ถั่วต่างๆ | ก่อสร้าง, พลาสติกชีวภาพ, โปรตีนทางเลือก | ต่ำ-ปานกลาง |
พืชหลักยกระดับ | มะพร้าว, มันสำปะหลัง | ส่งออก, พลังงาน | ปานกลาง |
...