จากการสรุปสถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2568 หลังการลงนามในถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) วาระพิเศษ กองทัพไทยโดยกองทัพภาคที่ 1 และ 2 สามารถ "ยึดคืนและควบคุมพื้นที่" สำคัญที่เคยมีการปะทะและถูกลุกล้ำก่อนหน้านี้ได้สำเร็จ ดังนี้
1. กองทัพภาคที่ 1 (รับผิดชอบพื้นที่ จ.สระแก้ว)
กองกำลังบูรพาได้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อผลักดันและยึดคืนพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในเขตอำเภอตาพระยาและอำเภอโคกสูง ซึ่งเป็นจุดปะทะรุนแรงในช่วงเดือนธันวาคม โดยพื้นที่ที่ยึดคืนได้มีดังนี้:
บ้านคลองแผง (อ.ตาพระยา): สามารถยึดคืนและควบคุมพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 หลังจากกัมพูชาพยายามเสริมกำลังและใช้ปืนใหญ่ยิงต้านทาน
บ้านหนองจาน (อ.โคกสูง): ยึดคืนและสถาปนาที่มั่นได้สำเร็จเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 แม้จะมีการยิงถล่มด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่อย่างหนักจากฝ่ายกัมพูชาในช่วงก่อนการหยุดยิง
บ้านหนองหญ้าแก้ว (อ.โคกสูง): เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ทหารไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จก่อนเวลาหยุดยิง 12.00 น.
...
2. กองทัพภาคที่ 2 (รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง)
กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณแนวรบปราสาทตาควาย:
เนิน 225 (แนวรบปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์): กองทัพภาคที่ 2 ประกาศยึดคืนพื้นที่นี้ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 โดยปัจจุบันยังคงกำลังเพื่อสถาปนาความมั่นคงและดัดแปลงที่มั่นตั้งรับตามข้อตกลงหยุดยิง
สรุปสถานะปัจจุบัน (หลังเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 68)
ตามข้อตกลงหยุดยิง 16 ข้อ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ:
คงกำลังทหารไว้ ณ จุดเดิม: ไม่มีการเคลื่อนกำลังเพิ่มหรือรุกคืบเข้าไปในพื้นที่ใหม่
เฝ้าระวัง 72 ชั่วโมง: เป็นช่วงเวลาพิสูจน์ความจริงใจ หากไม่มีการละเมิด ไทยจะพิจารณาส่งคืนเชลยทหารกัมพูชา 18 นายที่จับกุมได้จากการปะทะในพื้นที่ดังกล่าว
การกลับเข้าพื้นที่ของพลเรือน: ปัจจุบันกองทัพยังขอให้ประชาชนใน 4 อำเภอของ จ.สระแก้ว รอฟังประกาศอย่างเป็นทางการเนื่องจากต้องมีการเคลียร์พื้นที่และกู้ทุ่นระเบิดตามข้อตกลงก่อน