ต่อให้เหลือเพียงร่าง ก็ต้องพาเพื่อนกลับบ้านให้ได้… เปิดสาเหตุกองทัพทั่วโลก ทำไมต้องนำร่างเพื่อนร่วมรบผู้สละชีพกลับบ้านให้ได้ เพราะมิตรภาพ คนแนวหลังอาจเจ็บปวดไม่มีวันสิ้นสุด แต่ในความเป็นจริงของสงคราม บางสถานการณ์ "ความเป็น" ต้องมาก่อน "ความตาย"
การนำร่างทหารกล้ากลับบ้านไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของมนุษยธรรม แต่เป็นเรื่องของ ขวัญกำลังใจ(Morale), พันธสัญญา (Covenant) และ ยุทธศาสตร์ทางการเมือง นี่คือเหตุผลเบื้องหลังความพยายามอันแรงกล้าในการกู้คืนร่างผู้เสียชีวิต และเหตุผลที่บางสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง
1. ทำไมต้องนำร่างกลับบ้านให้ได้?
สำหรับกองทัพสมัยใหม่ โดยเฉพาะสหรัฐฯ หรืออิสราเอล มีคติพจน์ที่ว่า "Leave no man behind" จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งมีความสำคัญดังนี้:
พันธสัญญาทางใจ: ทหารจะสู้ได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อเขารู้ว่า หากเขาบาดเจ็บจะมีคนพาไปรักษา หรือหากเขาเสียชีวิต ร่างของเขาจะถูกส่งกลับไปหาครอบครัวอย่างมีเกียรติ
การปิดจบความเศร้า (Closure): สำหรับครอบครัว การไม่พบร่าง (Missing in Action - MIA) คือความทรมานที่ไม่มีวันสิ้นสุด การได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาช่วยให้ครอบครัวก้าวข้ามความสูญเสียได้
คุณค่าของชีวิตทหาร: ในระบอบประชาธิปไตย ชีวิตทหารมีค่าสูงมากในสายตาประชาชน หากรัฐบาลทอดทิ้งศพทหาร จะส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นและคะแนนนิยมอย่างรุนแรง
...
ตัวอย่าง: หน่วย DPAA ของสหรัฐฯ
หน่วย Defense POW/MIA Accounting Agency (DPAA) มีภารกิจหลักคือการตามหาและระบุอัตลักษณ์บุคคลของเชลยศึกและผู้สูญหายจากสงครามในอดีต (ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน) พวกเขาใช้ทั้งนักโบราณคดี นักมานุษยวิทยา และการตรวจ DNA เพื่อนำร่างกลับบ้าน แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีก็ตาม
2. ทำไมบางครั้งต้องทิ้งศพไว้ในสนามรบ?
แม้จะอยากนำกลับแค่ไหน แต่ในความเป็นจริงของสงคราม บางสถานการณ์ "ความเป็น" ต้องมาก่อน "ความตาย"
สงครามโลกครั้งที่ 1: พื้นที่ No Man's Land
ในสงครามสนามเพลาะ (Trench Warfare) พื้นที่ระหว่างสนามเพลาะสองฝ่ายคือเขตสังหาร ใครก็ตามที่โผล่พ้นขอบสนามเพลาะออกมาจะถูกปืนกลหรือพลซุ่มยิงจัดการทันที
ความเสี่ยงที่สูงเกินไป: การส่งทีมกู้ภัยออกไปเก็บศพในพื้นที่โล่งอาจทำให้เสียกำลังพลเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
สภาพแวดล้อม: ร่างผู้เสียชีวิตมักติดอยู่ในลวดหนาม หรือจมอยู่ในโคลนลึกภายใต้การระดมยิงของปืนใหญ่ตลอดเวลา ทำให้การเก็บกู้แทบเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพ
สุขอนามัย: ในบางกรณี เมื่อศพมีจำนวนมากเกินไปและไม่สามารถเก็บกู้ได้ ศพเหล่านั้นจะถูกทิ้งไว้จนย่อยสลาย หรือถูกฝังกลบด้วยดินจากการระเบิดของปืนใหญ่
...
3. ความแตกต่างเชิงยุทธวิธีและวัฒนธรรม
เหตุผลที่บางประเทศทิ้งศพไว้ หรือจัดการต่างกัน มีปัจจัยดังนี้ครับ:
ปัจจัย | การนำกลับ (เช่น สหรัฐฯ) | การละทิ้ง/ฝังในสนามรบ(เช่น บางกองทัพในอดีต) |
ขีดความสามารถ | มีเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินและงบประมาณมหาศาล | ขาดแคลนทรัพยากร ขนส่งได้เฉพาะเสบียงและกระสุน |
ความเร็วในการเคลื่อนที่ | เน้นการเคลื่อนที่เร็ว หากแบกศพไปด้วยจะทำให้หน่วยตกอยู่ในอันตราย | เน้นการรุกคืบต่อเนื่อง ไม่หยุดเพื่อภารกิจรอง |
จำนวนความสูญเสีย | สูญเสียหลักสิบหลักร้อย(ความสำคัญต่อศพสูง) | สูญเสียหลักหมื่นหลักแสน(การจัดการศพกลายเป็นภาระหนักเกินไป) |
...
ในสมัยโบราณหรือสงครามขนาดใหญ่ หากไม่สามารถนำร่างกลับบ้านเกิดได้ ทหารมักจะทำ "สนามเพลาะรวม" (Mass Grave) หรือฝังไว้ในที่ที่เขาเสียชีวิต โดยจดบันทึกพิกัดไว้เพื่อมาขุดค้นภายหลังเมื่อสงครามสงบครับ