ถอดรหัสสมรภูมิ "เนิน 350" ลุ้นปิดเกมก่อนสิ้นปี โอกาสเปลี่ยนตัวกลางเจรจา “อดีตทหารพราน” เผยเป็นจุดชี้ขาดสำคัญต้องยึดให้ได้ ปรับยุทธวิธี-ตัดกำลังบำรุงกัมพูชาเด็ดขาด
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงปะทะกันต่อเนื่องในหลายสมรภูมิ โดยวานนี้ (16 ธ.ค.) ทหารไทยได้เข้ายึดคืนพื้นที่ “ช่องอานม้า” อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้ 100% เช่นเดียวกับเช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) ที่เข้ายึดคืนพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้สำเร็จอีกหนึ่งสมรภูมิ พร้อมนำธงชาติไทยมาปักและร้องเพลงชาติไทยดังกระหึ่ม
อย่างไรก็ดี กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า มีการปะทะกันในบริเวณหน้าปราสาทตาควายจากความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ และใช้กำลังที่เหมาะสมเพื่อยับยั้งและควบคุมสถานการณ์ โดยมีการยิงสนับสนุนเพื่อรักษาพื้นที่ ควบคุมเส้นทาง และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้การปฏิบัติการยังคงดำเนินอยู่ภายใต้การอำนวยการและการควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความมั่นคงของพื้นที่และความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ
ขณะที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เปิดเผยว่า ในพื้นที่ “เนิน 350” ซึ่งเป็นจุดยุทธภูมิสำคัญใกล้ปราสาทตาควายยังมีการสู้รบอย่างหนัก เป็นพื้นที่ช่วงชิงอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการ ส่งผลให้ทหารสละชีพเพิ่ม 2 นาย ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้
เช่นเดียวกับเพจเฟซบุ๊ก "Army Military Force" ที่เปิดเผยว่า เนิน 350 ถูกใช้เป็นฐานตั้งรับและซุ่มโจมตีอย่างหนัก พบว่ากองกำลังฝ่ายตรงข้ามได้สร้างป้อมปืนและบังเกอร์หลายจุด พร้อมใช้ยุทธวิธีซุ่มโจมตีเพื่อหน่วงการรุกของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
...
ไทยต้องยึด “เนิน 350” ให้ได้
เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายกรกต เกตุแก้ว อดีตทหารพราน นักรบเดนตายหลายสมรภูมิ ร้อย ทพ.จู่โจม911 ค่ายปักธงชัย ซึ่งให้มุมมองทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ การทหาร และผลกระทบต่อทิศทางการเจรจาในอนาคต โดยชี้ให้เห็นว่า “เนิน 350” เป็นมากกว่าพื้นที่สูงตามแนวชายแดน แต่เป็นจุดชี้ขาดที่อาจกำหนดผลลัพธ์ของความขัดแย้งครั้งนี้ได้
กรกต มองว่า การที่ประเทศไทยเข้าไปปักธงชาติในพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควาย ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการปะทะในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ทั้งสองจุดตั้งอยู่ในผืนแผ่นดินของไทย ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ฝ่ายไทยจึงเป็นเพียงการเข้าไปแสดงสิทธิในดินแดนของตนตามแนวเขตแดนที่ยึดถือมาโดยตลอดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยต้องการพลิกสถานการณ์ความขัดแย้งในครั้งนี้ให้ได้เปรียบอย่างแท้จริง จำเป็นต้องสามารถควบคุมพื้นที่สูงตามแนวชายแดนทั้งหมด ปัจจุบันไทยสามารถยึดพื้นที่สำคัญได้หลายจุดแล้ว เหลือเพียงเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ยังคงมีข้อพิพาทและปัญหาในการควบคุมอยู่ในขณะนี้
“ถ้าเรายังรบแบบจำกัดพื้นที่แบบนี้ มันจะเกิดสงครามกองโจรแบบกัมพูชา จะยาวยืดเยื้อไปแบบไม่จบไม่สิ้นง่ายๆ”
ดังนั้น สิ่งที่ประเทศไทยควรดำเนินการในเวลานี้ คือ การปรับยุทธวิธีของกองทัพให้เป็นการปฏิบัติการในลักษณะเต็มรูปแบบ โดยจัดกำลังพลขนาดเล็กเข้าไปปรับระบบการส่งกำลังบำรุง บริเวณเนิน 350 พร้อมทั้งดำเนินการตัดเส้นทางสนับสนุนจากด้านหลังกัมพูชา เพื่อไม่ให้สามารถลำเลียงอาวุธ อาหาร และกำลังพลเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวได้ หากสามารถตัดช่องทางการส่งกำลังบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าฝ่ายกัมพูชาจะอ่อนกำลังลงภายในระยะเวลาไม่นาน
หากกองทัพไทยสามารถดำเนินการตามแนวทางนี้ได้ เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถยึดพื้นที่ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ แต่หากยังไม่มีการปรับระบบการส่งกำลังบำรุงและยุทธวิธีอย่างเหมาะสม ความขัดแย้งครั้งนี้ก็มีแนวโน้มจะยืดเยื้อต่อไป
ในส่วนของการเข้าสู่โต๊ะเจรจา กรกต มองว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถทวงคืนผืนแผ่นดินได้ครบถ้วน การเจรจาในช่วงเวลานี้อาจเท่ากับการยอมรับสภาพการสูญเสียพื้นที่โดยปริยาย ประเทศไทยควรเข้าสู่การเจรจาก็ต่อเมื่อสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมดตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 เท่านั้น และในการเจรจาควรมีความชัดเจนว่าต้องยึดแผนที่ดังกล่าวเป็นหลัก เพื่อป้องกันการตีความหรือโต้แย้งในอนาคต
นอกจากนี้ หากมีการเปลี่ยนตัวกลางในการเจรจา ควรเป็นตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แม้ส่วนตัวยังไม่มีตัวเลือกที่ชัดเจน แต่เชื่อว่ารัฐบาลไทยย่อมทราบดีว่าควรเลือกประเทศหรือองค์กรใดมาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในประเด็นสำคัญนี้
“อยากให้กองทัพปรับยุทธวิธีเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปเลย ส่งกำลังไปหลังแนวข้าศึก ไม่ให้เขาส่งกำลังสนับสนุน กำลังพล และอาหารการกินขึ้นมาที่เนิน 350 เราต้องปรับแบบนั้น ไทยถึงจะได้ชัยชนะกลับมา”
...
รู้จัก "เนิน 350"
เนิน 350 ไม่ใช่ชื่อทางภูมิศาสตร์ทั่วไป แต่เป็นชื่อเรียกในเชิงยุทธวิธีของเนินเขาที่ตั้งอยู่บนแนวสันเขาพนมดงรัก โดยมีพิกัดอยู่ใกล้บริเวณปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวปราสาท ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร ส่วนที่มาของชื่อเรียกเกิดจากระดับความสูงของพื้นที่ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 350 เมตร
เนิน 350 ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เนื่องจากเป็น “จุดสูงข่ม” (High Ground Advantage) ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบ พื้นที่โดยรอบมีความสูงเฉลี่ยเพียง 200-300 เมตร แต่เนินนี้สูงถึง 350 เมตร หากฝ่ายไทยสามารถยึดเนินนี้ได้ จะเปรียบเสมือนยืนอยู่บนหอคอยสูง สามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้กว้างไกล ใช้เป็นฐานสังเกตการณ์ ควบคุมแนวรบ ชี้เป้า และสกัดกั้นการเคลื่อนพลของอีกฝ่ายได้ง่ายดาย
...
ด้วยเหตุนี้ “เนิน 350” จึงไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนทั่วไป แต่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีนัยสำคัญต่อทิศทางของสถานการณ์ทั้งในสนามรบและบนโต๊ะเจรจา การควบคุมพื้นที่สูงดังกล่าวหมายถึงการครอบครองความได้เปรียบเชิงภูมิประเทศ และการควบคุมการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามช่วงชิงพื้นที่แห่งนี้อย่างดุเดือด และทำให้ “เนิน 350” ถูกจับตามองว่าอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดบทสรุปของความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาในระยะต่อไป