ขีปนาวุธรุ่นใหม่สุดล้ำ GAM-102LR โผล่แนวรบกัมพูชา หน่วยมั่นคงตั้งคำถาม ใครหนุนเบื้องหลัง? “ดร.ปณิธาน” วิเคราะห์ อาจหลุดจากตลาดมืด โยกเงินช่วยเหลือต่างชาติ-เงินเทาจัดซื้อ
จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา "กองทัพบก" ยืนยันว่าทหารไทยสามารถยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีนจากทหารกัมพูชา บนเนิน 500 ได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นอาวุธรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี
ทำให้ หน่วยงานความมั่นคง ตั้งคำถามว่า ในประเทศกัมพูชา ที่ประชาชนอดอยาก เศรษฐกิจตกต่ำ หลายพื้นที่ขาดแคลนแม้แต่ยารักษาโรค แต่กลับมียุทโธปกรณ์ทันสมัยราคาหลายล้านบาทต่อชิ้นปรากฏอยู่ในแนวรบชายแดนเช่นนี้ กัมพูชามีงบประมาณจากไหน มีผู้สนับสนุน "เงียบๆ" ที่ไม่เคยปรากฏหน้าอยู่เบื้องหลังหรือไม่?
กัมพูชาเอา GAM-102LR มาจากไหน?
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยเรื่องนี้กับ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศและความมั่นคง อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้รัฐบาลไทยหลายชุด เปิดเผยว่า การพบอาวุธรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2025 ในพื้นที่สู้รบ สะท้อนให้เห็นหลายประเด็น ประเด็นแรกคือ ตลาดอาวุธสมัยใหม่ค่อนข้างเปิดกว้าง สามารถส่งมอบได้รวดเร็วมาก และน่าจะยังไม่ได้บรรจุประจำการอย่างเป็นทางการ
...
ประเด็นต่อมาคือ การได้มาซึ่งอาวุธนี้น่าจะมี “ช่องทางพิเศษ” เนื่องจากอาวุธสมัยใหม่รุ่นล่าสุดเช่นนี้ ส่วนใหญ่ต้องมีใบสั่งและรอคิวกันค่อนข้างนาน โดยเฉพาะการรอ “ช่างเทคนิค” เข้ามาวางระบบ อัปเดตซอฟต์แวร์ นำระบบปฏิบัติการเข้าระบบการสู้รบภาคพื้นดิน
“กรณีนี้เป็นจรวดต่อต้านรถถัง ซึ่งมีระยะการยิงสูงกว่าที่หลายประเทศมีอยู่ รวมถึงที่กัมพูชาเคยมี ฉะนั้นอาจจะมีช่างเทคนิค มีคนคอยช่วยในการเอาเข้าระบบในสนามรบจริง”
ประเด็นที่สามคือแหล่งที่มาของอาวุธ ที่ทางกระทรวงต่างประเทศของไทยต้องไปตรวจสอบต่อ โดยอาจมาจากการซื้อขายผ่านรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในกรณีนี้ประเทศผู้ผลิต-ผู้ซื้อมักรายงานต่อสภาฯ อย่างเป็นทางการอยู่แล้ว นอกจากนี้หลายๆ ประเทศรวมถึงไทย ได้ลงทะเบียนการจัดซื้อจัดหาอาวุธกับสหประชาชาติ ทำให้สามารถตรวจสอบการนำเข้า ส่งออก ครอบครองอาวุธหนักได้
ในส่วนของประเทศจีนซึ่งเป็นต้นทางอาวุธ ก็มีการยืนยันเป็นระยะว่าไม่ได้ส่งอาวุธให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุความขัดแย้งชายแดน ซึ่งในกรณี GAM-102LR ยังไม่ถูกสอบถามหรือมีการชี้แจง
อีกความเป็นไปได้ คืออาจมาจากแหล่งผลิตโดยตรงและเล็ดรอดเข้าสู่ตลาดมืด กรณีนี้ไทยต้องระวังอย่างยิ่งเพราะหมายความว่าอาจมีอาวุธอีกหลายประเภทที่เราไม่รู้ว่ากัมพูชาถือครองอยู่ ในส่วนของการฝึก-ควบคุม ก็อาจมีบริษัทรับจ้าง กลุ่มทุนสีเทา เข้ามาช่วยฝึก หรือกำกับวิธีใช้ในเบื้องต้น
ในการหาความจริงเรื่องนี้ อาจสอบปากคำกลุ่มบุคคลที่รับจ้างหรือว่าบุคคลที่มีทักษะ เช่น ทหารประจำการ ทหารนอกราชการ หรือพลเรือนช่วยรบ ซึ่งไทยก็ได้สอบปากคำแล้วบางส่วน แต่ยังไม่มีข้อมูลออกมาชัดเจน
โยกงบช่วยเหลือต่างชาติ-ใช้เงินทุนเทาซื้ออาวุธ?
ในส่วนที่มีการตั้งคำถามว่ามีผู้สนับสนุน "เงียบๆ" ที่ไม่เคยปรากฏหน้าอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น รศ.ดร.ปณิธาน มองว่าก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับงบประมาณที่กัมพูชานำมาซื้ออาวุธอาจมาจากเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ทั้งจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือชาติตะวันตกต่างๆ ซึ่งเงินเหล่านี้อาจเป็นเงินที่มอบให้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น แต่ถูกกัมพูชาโยกย้ายนำมาใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์หรือไม่
“ที่ตั้งข้อสังเกตกันมากคือเงินช่วยเหลือจากภาคีต่อต้านทุ่นระเบิดออตตาวา ซึ่งทางประเทศไทยกำลังเดินหน้ากดดัน ตั้งคำถามว่าเงินเหล่านี้รั่วไหลหรือไม่ ผลักดันให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการใช้เงินและการละเมิด”
อีกความเป็นได้คือมีเครือข่ายสีเทา ซึ่งมีเงินมหาศาลเป็นผู้จัดซื้ออาวุธเหล่านี้ อย่างเช่นกรณีในอดีตพบว่ามีการจัดซื้อจรวดพาดบ่า ราคา 2-3 แสนบาท ด้วยเงินที่มาจากระบบนอกกฎหมาย ซึ่งไม่อาจบอกได้ชัดเจนว่าเป็นรูปแบบการมอบเงินให้ทางการกัมพูชาจัดหาอาวุธหรือซื้ออาวุธไปมอบให้ แต่ส่วนใหญ่มักหลบหลีกไม่ให้เกี่ยวข้องกับระบบที่เป็นทางการ
...
หากเป็นกรณีนี้การที่ไทยเดินหน้าปราบทุนเทาจะช่วยเรื่องการสู้รบชายแดนได้มาก และทำได้อย่างรวดเร็วด้วยเพราะไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเท่าไหร่นัก และเรายังสามารถร่วมมือกับจีนหรือนานาชาติได้อีกด้วย
“ถ้าทำได้จริงจะเร็วมาก และเราจะปิดเงินเทาที่ชาติตะวันตกคำนวณว่าอาจมีมากกว่างบประมาณกัมพูชา และจะทำให้สถานการณ์พลิกผันชัดเจน สงครามสมัยใหม่จะพลิกด้วยเรื่องพวกนี้”
การพบ GAM-102LR กระทบไทยอย่างไร?
รศ.ดร.ปณิธาน มองว่า จากการพบอาวุธดังกล่าว อาจทำให้ปฏิบัติการทางการทหารล่าช้าลง เพราะต้องชะลอการเข้าพื้นที่ของทหารไทย การใช้รถถังเข้าไปในพื้นที่ราบก็ต้องชะงักเพราะอยู่ในวิสัยยิงของอาวุธเหล่านี้ ทำให้เราจัดระเบียบชายแดน ทำพื้นที่ปลอดภัยได้ยากขึ้น หลังจากที่เคยประเมินกันไว้ว่าอาจทำเสร็จก่อนปีใหม่
ในอนาคตไทยต้องปรับรูปแบบการลดภัยคุกคามจากกัมพูชา เพราะที่มีอยู่ตอนนี้ยังช้าและมีข้อจำกัด เช่น เมื่อทิ้งระเบิดแล้วจะไม่สามารถส่งทหารราบ หน่วยรบพิเศษ ส่งรถถังเข้าไปในพื้นที่ของเราได้โดยง่ายเพราะอยู่ในรัศมียิง รวมถึงวางกำลังรบใหม่ หันไปใช้อาวุธขนาดเล็ก คล่องตัว อานุภาพสูง
“หวังว่าเราจะไม่เจออาวุธสมัยใหม่ประเภทอื่นเพิ่มเติมอีก เพราะหากพบไทยก็จะเจอปัญหา เช่น โดรนระดับสูงที่สามารถโจมตีได้ ในอนาคตไทยก็ต้องมีระบบต่อสู้อากาศยาน เช่น แพทริออต แม้มีราคาแพงแต่หากไม่มีเราก็ต้องอพยพคนหลักแสนเช่นนี้ทุกครั้ง รวมถึงการพัฒนากองกำลังแบบสงครามผสม กองโจรขนาดเล็ก ใช้ทหารพรานหรือหน่วยรบพิเศษให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มการใช้โดรนที่มีราคาถูกและความแม่นยำสูงจะสร้างความได้เปรียบมาก”
...
แสนยานุภาพ GAM-102LR
GAM-102LR คือ ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีความแม่นยำสูงพิสัยไกลพิเศษ (Ultra Long-Range Precision Guided Anti-Tank Missile System) ในตระกูลยุคที่ 5 พัฒนาและผลิตโดยประเทศจีน ชื่อ Poly Defense ในเครือ Poly Technologies และถูกเปิดตัวครั้งแรกภายในงานนิทรรศการอาวุธยุทโธปกรณ์ EDEX ประจำปี 2025
มีการติดตั้งระบบออปติคัลแบบหลายเซนเซอร์ (Multi-sensor Optical System) เพื่อตรวจจับและถ่ายภาพ โดยมีเซ็นเซอร์ทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องอินฟราเรด กล้องโทรทัศน์ และเครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ ทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูง รวมถึงยังมีระบบเชื่อมโยงเครื่องมือไร้สาย (Wireless Data Link) เพื่อรับข้อมูลการนำวิถี
สามารถค้นหาเส้นทางการบินและพิกัดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในระยะปฏิบัติการที่มากกว่า 10 กิโลเมตร รวมถึงมีการใช้หัวรบแบบ Tandem Warhead ที่สามารถเจาะทะลุเกราะเหล็กได้มากกว่า 1,000 มิลลิเมตร ทำให้อาวุธชนิดนี้สามารถทำลายรถถังที่ติดตั้งเกราะกันระเบิดได้ทุกรุ่น
คุณสมบัติของ GAM-102LR
1. ระบบยิงแล้วลืม (Fire-and-Forget)
หลังจากล็อกเป้าหมายเรียบร้อย ผู้ปฏิบัติการสามารถยิงขีปนาวุธได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมขีปนาวุธตลอดการบิน ลดความเสี่ยงต่อผู้ยิงในสนามรบ ซึ่งรองรับทั้งแบบล็อกเป้าหมายก่อนยิง (LOBL) และล็อกเป้าหมายหลังยิง (LOAL)
2. ระบบควบคุมวงจร (Man-in-the-Loop)
แม้จะเป็นระบบยิงแล้วลืม แต่ผู้ปฏิบัติการยังสามารถเข้าควบคุมหรือปรับแก้ทิศทางของขีปนาวุธระหว่างการบินได้ เพิ่มความยืดหยุ่นและความแม่นยำในการโจมตี
3. ระบบเชื่อมโยงเครือข่าย (Network Enabled)
GAM-102LR ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายการรบ เพื่อรับข้อมูลพิกัดเป้าหมายจากแหล่งข่าวกรองหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทำให้สามารถปฏิบัติการยิงแบบเหนือแนวสายตา (Beyond Line of Sight – BLOS) หรือการโจมตีจากระยะไกลโดยที่ผู้ยิงไม่จำเป็นต้องเห็นเป้าหมายโดยตรง
...
สำหรับราคาของ GAM-102LR ทางเพจ Army Military Force เปิดเผยว่า มีการประเมินราคาต่อลูกของขีปนาวุธ GAM-102LR อยู่ที่ประมาณ $112,000 USD หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3,530,240 บาท