กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (Japan Self-Defense Forces - JSDF) แม้จะถูกจำกัดภายใต้รัฐธรรมนูญให้มีบทบาทในการป้องกันตนเอง แต่ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในกองทัพที่มีความแข็งแกร่งและก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก อันดับ 8 ของโลกในปี 2025
ศักยภาพหลักของกองทัพญี่ปุ่น
เทคโนโลยีขั้นสูง: ญี่ปุ่นเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ล้ำสมัย และผลิตยุทโธปกรณ์ในประเทศหลายรายการ เช่น รถถัง เครื่องบิน และเรือดำน้ำ
กองทัพเรือที่ทรงอานุภาพ (JMSDF): ถือเป็นหนึ่งในกองทัพเรือตามแบบ (Conventional Naval) ที่ก้าวหน้าและมีความสามารถมากที่สุดของพันธมิตรของสหรัฐฯ
เรือพิฆาตติดระบบ Aegis: เช่น เรือชั้น Atago และ Maya ซึ่งเป็นเรือหลักในระบบป้องกันขีปนาวุธของญี่ปุ่น (Ballistic Missile Defense) สามารถติดตั้งขีปนาวุธสกัดกั้น SM-3
เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Soryu: ถูกยกย่องว่าเป็นเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดในโลกบางลำ ด้วยเทคโนโลยี AIP (Air-Independent Propulsion)
...
กองทัพอากาศที่ทันสมัย (JASDF):
มีเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 อย่าง F-35A และกำลังจัดตั้งหน่วยสำหรับ F-35B (รุ่นบินขึ้นระยะสั้น/ลงจอดในแนวดิ่ง)
กำลังพัฒนาระบบเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ F-X (หรือ F-3)
ขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้ (Counterattack Capability): ภายใต้นโยบายความมั่นคงใหม่ ญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนจากกลาโหมแบบตั้งรับไปสู่การมีขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้ (Stand-off Defense Capability) โดยมีการจัดหา:
ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล: เช่น Tomahawk (นำเข้าจากสหรัฐฯ), JASSM-ER (นำเข้าจากสหรัฐฯ), JSM (นำเข้าจากนอร์เวย์) และการอัปเกรดขีปนาวุธต่อต้านเรือ Type 12 ให้มีพิสัยทำการไกลถึงประมาณ 1,000 กิโลเมตร
อาวุธที่น่ากลัวที่สุด (ในแง่ของความสามารถทางทหารสมัยใหม่)
การระบุ "อาวุธที่น่ากลัวที่สุด" เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับบริบท แต่ในแง่ของศักยภาพทางยุทธศาสตร์และการป้องปรามในปัจจุบัน อาวุธที่สำคัญที่สุดของ JSDF อาจเป็น:
ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Ballistic Missile Defense - BMD) ด้วยระบบ Aegis:
เหตุผล: เนื่องจากภัยคุกคามจากขีปนาวุธจากประเทศเพื่อนบ้าน ระบบ BMD ของญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเรือพิฆาตชั้น Atago/Maya ที่ติดตั้งขีปนาวุธ SM-3) ถือเป็นเกราะป้องกันหลักและเป็นหัวใจสำคัญของการป้องปรามในภูมิภาค การสกัดกั้นขีปนาวุธข้าศึกได้ก่อนถึงเป้าหมายถือเป็นความสามารถทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด
อ้างอิง: เรือพิฆาตเหล่านี้สามารถบรรจุขีปนาวุธสกัดกั้น SM-3 ในช่องยิงแนวดิ่ง Mk. 41 (VLS) (ที่มา: The National Interest, Vajiramandravi)
เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Soryu:
เหตุผล: เรือดำน้ำเหล่านี้มีความเงียบ (Stealth) และความสามารถในการปฏิบัติการใต้น้ำที่ยาวนานด้วยเทคโนโลยี AIP ทำให้พวกมันเป็น "นักล่าที่มองไม่เห็น" ซึ่งเป็นเครื่องมือป้องปรามใต้น้ำที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
อ้างอิง: ถูกระบุว่าเป็นเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดในโลกบางลำ มีขีดความสามารถด้านอาวุธที่เข้าใกล้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ (ที่มา: Defencyclopedia, The National Interest)
...
ขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้ระยะไกล (Long-Range Stand-off/Counterattack Capabilities):
เหตุผล: การจัดซื้อและพัฒนาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล เช่น Tomahawk และ Type 12 ที่ได้รับการอัปเกรด เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการ "ยิงตอบโต้" ไปยังฐานที่ตั้งของศัตรู หากญี่ปุ่นถูกโจมตี นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ และเพิ่มอำนาจการป้องปรามอย่างมาก
อ้างอิง: ญี่ปุ่นอนุมัติการจัดหาอาวุธพิสัยไกลและกำลังจะเริ่มการผลิตขีปนาวุธ Type 12 รุ่นใหม่ที่มีพิสัยทำการประมาณ 1,000 กม. เพื่อใช้เป็นขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้ (ที่มา: China Military)
หมายเหตุ: ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง อาวุธที่น่ากลัวในเชิงความเสียหายทางจิตวิทยาคืออาวุธที่มีการโจมตีพลีชีพ เช่น "กามิกาเซ่" (เครื่องบิน), "ไคเต็น" (ตอร์ปิโดนำวิถีโดยมนุษย์) หรือ "Ohka MXY-7" (จรวดนำวิถีโดยมนุษย์) แต่ในบริบทของกองทัพป้องกันตนเองสมัยใหม่ อาวุธเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในประจำการแล้ว
10 กล่อง คน