เปิดผังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พิกัด “ห้องใต้บันได” รังรักนักโทษจีนเทา "อดีตผู้ต้องขัง" เผยนักโทษ VIP มีมานาน แต่อภิสิทธิแก๊งจีนคือขั้นกว่า 

จากกรณีข่าวใหญ่ ประเด็นฉาว “นักโทษจีนเทา VIP” กินหรูอยู่สบายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ไปจนถึงการพานางแบบสาวสวยต่างชาติ มาปรนเปรอถึงในคุก

ต้นเรื่องนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 16 พ.ย. ชุดจู่โจมได้เข้าตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และตรวจพบเจ้าหน้าที่กระทำความผิด มีการได้สั่งย้าย ผบ.เรือนจำฯ และเจ้าหน้าที่บางส่วน 

ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ออกมาชี้แจงว่า การจู่โจมตรวจค้นเนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีผู้ต้องขังชาวจีนบางรายที่มีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังรายอื่นภายในเรือนจำฯ จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องขังชาวไทย ซึ่งได้มีการตั้งกรรมการสอบ ผบ.เรือนจำฯ และเจ้าหน้าที่ อีก 14 คนแล้ว 

มีรายงานด้วยว่า ในการตรวจค้นพบสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ทั้งไมโครเวฟ แอร์ กาน้ำ รวมถึงยังพบของมีคม มีด ไฟแช็ก ซึ่งเป็นของต้องห้ามในเรือนจำ เพราะใช้เป็นอาวุธได้ และไฟแช็กบ่งชี้ได้ว่ามีการสูบบุหรี่ มีการจ้างนักโทษชาวไทยที่พอสื่อสารภาษาจีนได้มาดูแลรับใช้ และใน 3 แดนขัง ยังมีการแบ่งกันเองให้หัวหน้ากลุ่มพักอยู่ในแดนเดียวกัน ระดับรองหรือลูกน้องพักแยกคนละแดน ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งกรรมการสอบ ผบ.เรือนจำฯ และเจ้าหน้าที่ อีก 14 คนแล้ว 

...

สุดฉาว จ้างนางแบบปรนเปรอถึงในคุก

ขณะที่สำนักข่าวมติชน รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงกรมราชทัณฑ์ว่า ในการบุกจู่โจมในเช้าวันที่ 16 พ.ย. นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ยังพบมีการจ้างนางแบบสาวชาวจีน บินตรงมาปรนเปรอถึงภายในคุก โดยใช้ “ห้องใต้บันได” ที่อยู่ระหว่างประตู 1 และประตู 2 ของเรือนจำฯ ที่ทางเรือนจำทำไว้รับรองแขก เป็นสถานที่มีเซ็กส์ ซึ่งในการตรวจค้นพบหลักฐานเป็นนางแบบสาว ผู้ต้องขัง ถุงยางอนามัยใช้แล้ว และกระดาษทิชชู่ในห้องดังกล่าว

นางแบบสาวสวยนี้ ค่าจ้างบินระดับ 7 หลัก โดยเข้าไปด้านในผ่านห้อง ผบ.เรือนจำที่อยู่ชั้น 2 ก่อนลงไปด้านล่างของเรือนจำโดยไม่ต้องผ่านประตู 1 ขณะที่ผู้ต้องขังออกมาจากแดน 3 ผ่านประตู 2 เพื่อมายังห้องใต้บันได

ประตู 1 (ทางซ้าย) ชั้น 2 เป็นห้องทำงานเจ้าหน้าที่
ประตู 1 (ทางซ้าย) ชั้น 2 เป็นห้องทำงานเจ้าหน้าที่

ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ย.) นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ นำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นที่แดน 8 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแดนที่มีผู้ต้องขังมากที่สุด กว่า 900 คน ซึ่งภายในมีโรงงานช่างไม้เป็นสถานที่ฝึกอาชีพ แต่กลับถูกปิดร้างและให้กลุ่มนักโทษจีนเทาไปพักรวมกัน

นายยุทธนา ยังกล่าวถึงการตรวจค้นในวันที่ 16 พ.ย.ว่า ไม่พบถุงยางอนามัย แต่ยอมรับว่าพบกล่อง และพบผู้หญิงกับผู้ต้องขังชาวจีน และของต้องห้าม เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจง ลงวันที่ 20 พ.ย.2568 ว่า จากการตรวจค้นพบมีสิ่งของต้องห้าม สิ่งของเกินความจำเป็น เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ แอร์เคลื่อนที่ และอีกหลายรายการ รวมถึงพบว่าผู้ต้องขังบางรายมีการครอบครองสิ่งของแบรนด์เนม และจากการตรวจค้นห้องเจ้าหน้าที่ยังพบกาแฟซองจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ใช้แทนการพนันของผู้ต้องขังชาวจีนบางรายในเรือนจำ

กรมราชทัณฑ์ ได้ย้ายผู้ต้องขังชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปยังเรือนจำที่เหมาะสม เพื่อความมั่นคง ปลอดภัย และจะเร่งรัดดำเนินการสอบสวนต่อไป

...

เปิดผังเรือนจำฯ พิกัด “ห้องลับใต้บันได”

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับแหล่งข่าวผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ลักษณะเรือนจำชั้นหนึ่ง ด้านหน้าสุดจะเป็นประตู 1 เข้าไปเป็นโถงตรงไปสู่ประตู 2 และมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 จึงคาดว่า “ห้องใต้บันได” ที่ปรากฏในข่าวคือจุดนี้

ซึ่งชั้น 2 ที่อยู่ด้านบนจะเป็นห้องทำงานของ ผบ.เรือนจำฯ และเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่ประชาชนภายนอกสามารถขึ้นไปได้จากด้านนอก ดังนั้นจากข่าวที่ระบุว่านางแบบสาวเข้าไปภายในเรือนจำผ่านห้อง ผบ.โดยไม่ผ่านประตู 1 จึงมีโอกาสเป็นไปได้ อย่างไรก็ดีต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ให้แน่ชัด 

เมื่อผ่านประตู 2 เข้าไป จะเป็นส่วนของภายในเรือนจำที่มีช่องทางกลาง และแยกซ้าย-ขวาเป็นแดนต่างๆ ซึ่งแต่ละแดนก็จะมีประตู 2 ชั้นป้องกันอีก โดยแดนที่อยู่ใกล้ประตู 2 ที่สุดคือแดนแรกรับ และอาคารพยาบาล สำหรับผู้ต้องขังมาใหม่และผู้ต้องขังป่วย รวมถึงกระบวนการธุรกรรมต่างๆ ของเรือนจำ ลึกเข้าไปเป็นแดนอื่นๆ ไล่ตามลำดับ ลึกที่สุดคือแดน 8 ห้องอาหาร และโรงฝึกอาชีพ

...

จีนเทาขั้นกว่าของ “นักโทษ VIP”

ทั้งนี้แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำนั้นยังไม่ใช่ช่วงที่แก๊งสแกมเมอร์เหิมเกริม ไม่มีผู้ต้องขังจีนเทาอยู่มากนัก แต่ว่าเรื่องของ “นักโทษ VIP” มีอยู่แล้วเป็นปกติในเรือนจำ ซึ่งอาจเป็นนักโทษที่เป็นผู้มีอิทธิพล เป็นคนดังในสังคม หรือเคยมียศตำแหน่ง ก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ บ้างแตกต่างกันไป

บางคนก็สามารถทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้ ก็อาจถูกแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเหลือระดับ VIP ได้นอนพักในห้องเจ้าหน้าที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น สั่งอาหารพิเศษเข้ามาได้, ฝากผู้คุมช่วยประสานงานกับทางครอบครัว ทางทนาย แต่ไม่ถึงขั้นอุกอาจขนาดพาใครเข้าไปหาได้

“ที่เห็นๆ เขาก็อยู่ดีกินดี เพียงแต่ว่าถูกจำกัดเสรีภาพการเดินทางและการสื่อสารเท่านั้น”

ทั้งนี้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นที่คุมขังสำหรับผู้ต้องขังที่รับโทษไม่เกิน 15 ปี มองว่าการจะตั้งตัวเป็นเจ้าพ่อในเรือนจำเป็นไปได้ยาก แตกต่างจากเรือนจำอื่นๆ ที่มีผู้ต้องขังที่มีโทษจำคุกสูง 30-40 ปีหรือตลอดชีวิต ที่ผู้คุมอาจไม่เข้มงวดมากนัก ยอมปล่อยให้ใช้ชีวิตเท่าที่จะมีความสุขได้ ซึ่งกรณีนักโทษจีนที่เป็นข่าวหากเป็นความจริง ถือว่าอุกอาจมากที่สามารถทำแบบนี้ได้

...

“หากเรื่องนี้เป็นจริง ถือว่ารุนแรงมาก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมเอาตำแหน่งเข้าเสี่ยง แม้จะถูกปลดออกไล่ออกก็ไม่สะเทือน ถึงยอมทำแบบนี้ได้”