สุสานสแกมเมอร์ปอยเปต "ศูนย์ช่วยเหลือฯ" แฉ “มูลนิธิเถื่อน” รับกำจัดศพเหยื่อ 3 แสนบาทต่อร่าง ขณะที่ความขัดแย้งชายแดนทำแก๊งทุนเทาพฤติกรรมรุนแรงขึ้น มองทางการ 2 ชาติจะไม่ร่วมมือจัดการ  

จากกรณีวานนี้ (18 พ.ย.) มีรายงานพบศพคนไทยเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์เพิ่มอีกราย คือนายศราวุธ ชายไทยชาวจังหวัดสมุทรปราการ ที่ถูกแก๊งสแกมเมอร์ทรมาน ใช้ไฟฟ้าแรงสูงช็อตจนเสียชีวิตที่อาคาร “บัวลัย” ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จุดเดียวกับนางสาวสุดา หญิงไทยชาวพังงา ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ในวันที่ 10 พ.ย.

มูลนิธิอิมมานูเอล ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน รายงานข้อมูลว่า มีเหยื่อชาวไทยในขบวนการสแกมเมอร์เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน ในช่วง 3 เดือน และ 6 คนเกิดขึ้นในช่วง 30 วันที่ผ่านมา  

ปมชายแดนกระทบพฤติกรรมแก๊งสแกมเมอร์

คุณเบิร์ด หัวหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีคนไทยในวงจรสแกมเมอร์เสียชีวิตอยู่เป็นระยะ แต่ไม่ค่อยเป็นข่าวมากนักและบางส่วนเสียชีวิตในพื้นที่นอกปอยเปตที่ห่างไกลกับไทย เช่น ตามชายแดนเวียดนาม แต่ในช่วงนี้ที่เป็นข่าวขึ้นมาเพราะประเด็นสแกมเมอร์ได้รับความสนใจ และอาจเสียชีวิตในจำนวนที่มากขึ้น เลยหลุดเป็นข่าวมากขึ้นด้วย

ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิต 11 คน ใน 3 เดือนถือว่าไม่ปกติ ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย ในส่วนของเหยื่อที่จบชีวิตตนเองนั้น เบื้องลึกก็มาจากการถูกกักขัง บังคับทำงาน ถูกทรมานจนทนไม่ไหว

ก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดด่าน บางช่วงก็ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเลย แต่ในช่วงนี้ที่สถานการณ์ชายแดนตึงเครียดมีการปิดด่าน ทำให้แรงงานไทยถูกกักขังอยู่ในตึก ไม่สามารถเดินทางกลับได้ และแก๊งอาชญากรยังมองว่ารัฐบาลไทย-กัมพูชาคงไม่สามารถร่วมมือแก้ปัญหาได้ ทำให้กล้าลงมือรุนแรงมากขึ้นด้วย

...

“ช่วงเปิดด่านปกติ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องซ้อมทุบตีมากนัก ถ้าทำงานไม่ได้ก็ขายต่อ แต่ตอนนี้เขามองว่าอำนาจรัฐบาลไทยเข้าไม่ถึง เลยกล้าซ้อม บังคับให้ทำงาน”

คุณเบิร์ด หัวหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน
คุณเบิร์ด หัวหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน

นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา บรรดาแก๊งสแกมเมอร์ยังแข่งขันทำยอด เมื่อรวมกับการปิดด่านที่ส่งผลให้การลักลอบเข้าไปทำงานยากขึ้น และคนไทยหลายคนรู้ทันไม่ตกเป็นเหยื่อ ทำให้จำนวนแรงงานใหม่ลดลง แรงงานที่มีอยู่เดิมจึงต้องทำงานหนักมากขึ้นจนร่างกายอ่อนล้าสะสม เมื่อทำยอดไม่ได้ตามเป้าก็ถูกซ้อมทรมาน ซึ่งบางครั้งนายจ้างก็พลั้งมือรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต

“แรงงานต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า เพื่อทำยอดรายวันให้ได้ตามเป้า วันไหนทำยอดไม่ได้ หลอกใครไม่ได้ก็ต้องอยู่ถึงตี 4-5 แล้วตื่นมาทำงานใหม่ สภาพร่างกายไม่ไหวอยู่แล้ว พอล้าสะสมมีอาการน็อค หน้ามืด ก็ถูกซ้อม เสี่ยงถึงตายง่ายขึ้น”

"มูลนิธิเถื่อน" รับกำจัดศพ

คุณเบิร์ด ยังเปิดเผยถึงข้อมูลที่ได้รับล่าสุด คือในประเทศกัมพูชามีการตั้ง “มูลนิธิ” แห่งหนึ่งขึ้นมาบังหน้า แต่แท้จริงรับกำจัดศพเหยื่อสแกมเมอร์โดยเฉพาะ คิดราคาต่อศพที่ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย 3 แสนกว่าบาท โดยมี “คนมีสี” หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เหยื่อหลายรายไม่เป็นข่าว

“มูลนิธินี้จะรับกำจัดศพโดยเฉพาะ ทำให้เรื่องการเสียชีวิตมันเงียบ เวลามีคนเสียชีวิตแก๊งสแกมเมอร์พวกนี้ก็ยอมจ่ายเงิน 3 แสนบาทเพื่อไม่ให้เป็นข่าว เพราะหากเป็นข่าวก็ต้องมีการย้ายฐานหนี”

จากข้อมูลที่สืบทราบมา การทำงานขององค์กรนี้จะดีลกับหัวหน้าแก๊งทุนเทา เมื่อมีแรงงานเสียชีวิตก็จะนำรถย้ายศพไปเผาที่วัด ลักษณะคล้ายกู้ภัยฯ โดยพบวัดแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากมีรายได้มากผิดปกติ

...

“บัวลัย” อาคารมรณะ

คุณเบิร์ด ไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าตึกไหน อาคารไหนมีการเสียชีวิตเยอะ เพราะบางพิกัดก็มีการปิดข่าว แต่ทุกแก๊งสแกมเมอร์ทุบตีแรงงานเป็นปกติอยู่แล้ว อย่าง 2 เคสล่าสุดที่เสียชีวิตในจุดเดียวกัน เกิดขึ้นใน “บัวลัย” พื้นที่ใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างไม่ถึงปี ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างติดกันเป็นแนวยาว แบ่งเป็นห้องๆ เปิดให้แก๊งสแกมเมอร์เข้ามาเช่าใช้งาน โดยมีอาคารที่พักสูง 6 ชั้นแยกออกไปต่างหาก อาคารทั้งหมดอยู่ในรั้วรอบขอบชิด มียามเฝ้าแน่นหนา

สถานการณ์ “ปอยเปต” ปัจจุบัน

คุณเบิร์ด เผยว่า ปัจจุบันแก๊งสแกมเมอร์ในปอยเปตยังคงมีอยู่ตามปกติ โดยย้ายฐานหนีไปมาเรื่อยๆ แรงกดดันนานาชาติไม่ได้กระทบมากนัก โดยทางการกัมพูชาแสดงท่าทีขึงขังเท่านั้นแต่ไม่ได้ปราบปรามอย่างจริงจัง 

“อย่างตอนเกาหลีใต้เข้ามา อยากได้พลเมือง 70 คนกลับ ทางกัมพูชาก็ไปตามหาตัวมาให้ แต่ไม่ใช่ในลักษณะการบุกเข้าไปทำลายขบวนการ คุณเห็นมีตัวการโดนจับสักคนไหม ก็ไม่มี”