เพจดัง JapanSalaryman ที่มีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน รวมความเห็นคนญี่ปุ่นจากกรณี "แจ็ก แปปโฮ" อาทิ ทำภูเขาไฟฟูจิเป็นสนามเด็กเล่น, หากไปถอดเสื้อหน้าวัดพระแก้วบ้างจะรู้สึกอย่างไร, มีคนญี่ปุ่นที่ทำแย่ในไทยเหมือนกัน, อย่าซ้ำเติมคนไทยเลย เขาด่ากันเองหนักกว่าเราอีก ฯลฯ สะท้อนความไม่พอใจ แม้ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลก็ตาม


"บูม" ภัทรพล เหลือบุญชู เจ้าของเพจชื่อดัง JapanSalaryman ผู้มีประสบการณ์การเรียนและทำงานกับคนญี่ปุ่นรวมกว่า 17 ปี เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ระบุว่า ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของชาวญี่ปุ่นจากโซเชียลมีเดียที่นิยมเล่นกันอย่าง X หรือ ทวิตเตอร์ และสื่อรอง พบว่า ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นแยกแยะและมองออกว่า การกระทำของ "แจ็ก แปปโฮ" นั้น เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล โดยปกติแล้วคนญี่ปุ่นจะรู้จักคนไทยว่ามีความเข้าใจมารยาทสังคมและเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างเรียบร้อย แต่ฝั่งคนที่ทำคอนเทนต์สายญี่ปุ่นกังวลว่าเรื่องจะใหญ่โต หรือสื่อหลักของญี่ปุ่นจะเล่นข่าวนี้หรือไม่ จนนำไปสู่การเหมารวมได้ แต่ตอนนี้ยังเป็นเพียงสื่อรอง จึงอาจจะยังไม่ได้กระทบในภาพใหญ่มากนัก


นายภัทรพล ยังยกตัวอย่างยูทูบเบอร์ของเยอรมนีที่เคยแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในประเทศญี่ปุ่น เช่น ส่งเสียงดังด้วยการลากลำโพงไปเปิดในรถไฟ ซึ่งคนทั่วไปจะรู้กันดีว่า บนรถไฟเป็นสถานที่ที่เงียบ ไม่มีเสียง จึงไม่เหมาะสมและรบกวนคนรอบข้าง รวมถึงก่อกวนผู้คนที่สถานีด้วย แต่กรณีนี้เป็นยูทูบเบอร์ที่คนญี่ปุ่นเองส่วนหนึ่งก็รู้จัก จึงถูกตีข่าวในสื่อหลักด้วย ซึ่งต่างจากกรณีแจ็ก แปปโฮ ที่คนญี่ปุ่นยังไม่ได้รู้จักมากนัก จึงยังไม่ได้ไปนำเสนอในช่องหลักๆ สักเท่าไหร่ นอกจากนี้ก็จะเห็นกลุ่มคนญี่ปุ่นที่รักประเทศไทยเอานำเรื่องนี้มาโพสต์ลงเยอะเช่นกัน และส่วนใหญ่จะแสดงความคิดเห็นเชิงลบ และต่อว่าพฤติกรรมดังกล่าว 

...


สำหรับกรณีนี้ ขณะที่เจ้าตัวอยู่ที่ญี่ปุ่น หากมีเจ้าทุกข์ไปร้องเรียน เช่น เจ้าของรถเช่า (ถ้าเป็นคนรู้จักอาจจะรอด) แต่เชื่อว่า ถ้าเป็นร้านเช่ารถที่ญี่ปุ่นมาพบเจอเข้า น่าจะถูกเอาเรื่องอย่างแน่นอน หรือจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือธุรกิจในพื้นที่นั้นก็สามารถแจ้งดำเนินคดีได้ เพราะมีกฎหมายรองรับอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากขณะที่ถ่ายคอนเทนต์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ก็อาจจะถูกจับเพราะเป็นความผิดซึ่งหน้าได้ แต่เท่าที่เห็นยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวของตำรวจท้องที่ดังกล่าว 


ทั้งนี้ ยังมีข้อแนะนำจากกรณีนี้ว่า ทุกพฤติกรรมที่ทำมีความเสียหายเกิดขึ้น อาจเอาคลิปที่เผยแพร่กันมาเอาผิดย้อนหลังกับเจ้าตัวได้ จึงต้องการเตือนว่า เวลาทำคอนเทนต์อาจจะต้องคิดให้มากขึ้น ส่วนตอนที่เห็นครั้งแรกรู้ทันทีว่าจะมีดราม่าเกิดขึ้นแน่นอน และเชื่อว่าเจ้าตัวก็รู้ แต่เลือกที่จะทำ ส่วนจะมีแบล็กลิสต์หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทางญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันในสังคมญี่ปุ่นก็มีความร้อนแรงของกระแสการไม่ชอบต่างชาติที่มาท่องเที่ยวแล้วสร้างความเดือดร้อนอยู่แล้ว อาจจะหนักขึ้นกว่าเดิมได้ ส่วนจะรีบกลับหรือไม่ก็คงไม่แตกต่างกัน เพราะความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว 


ส่วนคนไทยที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก เพราะคนญี่ปุ่นเข้าใจคนไทยอยู่แล้วว่ามีความเคารพต่อกัน นิสัยคล้ายกัน คือ ขี้เกรงใจ จึงเชื่อว่าไม่ได้กระทบกับการท่องเที่ยว และไม่น่าไปถึงขั้นแบนนักท่องเที่ยวไทย แต่อยากให้ช่วยดูแลและรักษามารยาททางสังคมให้เหมาะสมก็เพียงพอแล้ว