เรือหลวงจักรีนฤเบศร แสนยานุภาพเหนือน่านน้ำ เทียบกองเรือกัมพูชา

เรือหลวงจักรีนฤเบศร (ร.ล.จักรีนฤเบศร) เป็นเรือที่สำคัญและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน (Aircraft Carrier) ถูกจัดอยู่ในประเภท เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (Helicopter Carrier - CVH) ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีเรือประเภทนี้

อานุภาพและอาวุธสำคัญของ ร.ล.จักรีนฤเบศร ขีดความสามารถหลัก

• ฐานบัญชาการลอยน้ำ: ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบัญชาการและควบคุม (Command and Control - C2) และการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations - NCO) เชื่อมโยงกับเรือรบและอากาศยานอื่น ๆ ในกองทัพเรือและกองทัพอากาศ

• ปฏิบัติการทางอากาศ: เดิมออกแบบมาเพื่อรองรับเครื่องบินขับไล่ขึ้นลงทางดิ่ง/ระยะสั้น (V/STOL)รุ่น AV-8S Harrier (ปัจจุบันปลดประจำการแล้ว) และปัจจุบันทำหน้าที่หลักในการบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้หลายแบบ เช่น เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ S-70B-7 Seahawk (ฮ.ปด.1) ได้ถึง 6 เครื่อง(บรรทุกได้สูงสุด 12-14 ลำ) ทำให้มีขีดความสามารถในการต่อต้านเรือดำน้ำ, ค้นหาและกู้ภัย(Search and Rescue - SAR), และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ(Humanitarian Assistance and Disaster Relief - HADR)

• ระยะปฏิบัติการ: มีพิสัยปฏิบัติการไกลถึง 10,000 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วมัธยัสต์ 12 นอต

🛡️ ระบบอาวุธป้องกันตนเอง

• อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศ: ระบบป้องกันตนเองระยะประชิด SADRAL จำนวน 3 แท่นยิง สำหรับจรวด Mistral (อาวุธปล่อยนำวิถีป้องกันภัยทางอากาศ)

• ปืนใหญ่กล: ปืนใหญ่กล Mark 20 DM6 ขนาด 20 มิลลิเมตร

• ปืนกล: ปืนกล M2HB ขนาด 12.7 มิลลิเมตร

🆚 ความทันสมัยในน่านน้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เทียบกับกัมพูชา

การเปรียบเทียบระหว่าง ร.ล.จักรีนฤเบศรของไทยกับกองทัพเรือกัมพูชา (Royal Cambodian Navy - RCN) ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างมากในด้านขนาด, ประเภท, และขีดความสามารถ

🇹🇭 ไทย: ร.ล.จักรีนฤเบศร (เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์)

• ประเภท: เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (เดิมเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน)

• ระวางขับน้ำ: ประมาณ 11,544 ตัน (เต็มที่)

• ขีดความสามารถ: เป็นเรือรบขนาดใหญ่ที่สุดและมีขีดความสามารถสูงสุดในการบัญชาการ ควบคุม และเป็นฐานปฏิบัติการเฮลิคอปเตอร์ในภูมิภาค ทำให้ไทยมีอำนาจในการฉายกำลัง(Power Projection) และขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศเหนือทะเลที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้ว่าบทบาทปัจจุบันจะเน้นไปที่ภารกิจ HADR และการบัญชาการก็ตาม

🇰🇭 กัมพูชา

• ประเภท: กองทัพเรือกัมพูชามีเรือรบและเรือตรวจการณ์เป็นกำลังหลัก

• เรือรบหลัก: เรือรบหลักที่มีระวางขับน้ำมากที่สุดมักเป็นเรือตรวจการณ์ขนาดใหญ่ และล่าสุดได้รับมอบเรือฟริเกต (Frigate) ชั้น Type 056C จากประเทศจีน 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือรบสมัยใหม่:

  • ระวางขับน้ำ Type 056C: ประมาณ 1,300 ตัน

  • อาวุธ Type 056C: ติดตั้งปืน 30 มม., ฐานยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือ YJ-832, ฐานยิงตอร์ปิโด,และระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-10A รวมถึงมีดาดฟ้าจอดเฮลิคอปเตอร์สำหรับเฮลิคอปเตอร์ Z-9

⚖️ เปรียบเทียบกองเรือไทย-กัมพูชา

1. ขนาดและประเภท: ร.ล.จักรีนฤเบศร มีระวางขับน้ำใหญ่กว่าเรือฟริเกตของกัมพูชาประมาณ 8-9 เท่า และเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน/เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นเรือคนละประเภทกับเรือฟริเกตหรือเรือตรวจการณ์ของกัมพูชา

2. ขีดความสามารถ: ร.ล.จักรีนฤเบศรให้ขีดความสามารถในการบัญชาการและฐานปฏิบัติการเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่กลางทะเล ซึ่งกัมพูชาไม่มีเรือประเภทนี้

3. ความทันสมัยในปัจจุบัน: แม้ว่า ร.ล.จักรีนฤเบศร จะเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2540 และอาวุธป้องกันตนเองบางส่วนอาจไม่ถือว่า "ทันสมัยที่สุด" เมื่อเทียบกับเรือฟริเกตใหม่ ๆ ของโลก แต่บทบาทที่เป็นเอกลักษณ์และขีดความสามารถในการเป็นฐานทัพลอยน้ำยังคงทำให้เรือลำนี้เป็นยุทโธปกรณ์เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของกองทัพเรือไทยและในภูมิภาค

ดังนั้น ในแง่ของ อานุภาพและขีดความสามารถทางยุทธศาสตร์ในทะเล ร.ล.จักรีนฤเบศรจึงเหนือกว่ากำลังทางเรือของกัมพูชาอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพเรือกัมพูชายังคงมีขีดความสามารถจำกัดและเพิ่งได้รับการเสริมสร้างด้วยเรือฟริเกตใหม่จากจีนเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศและภารกิจทางทะเลเป็นหลัก