"โมเน่" พี่ตามใจหนูไหม? มองมุมการตลาดโซเชียล "คอมมูนิตี้" แฟนคลับ ความน่ารักสร้างเสน่ห์ ดึงดูดความรู้สึก แต่ไม่ใช่ทุกบ้านจะทำได้

ความน่ารักของ "โซล โมเน่" แฝดพี่น้องชายหญิงที่มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย ลูกของ "แม่เม" ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมากจากคอนเทนต์น่ารักๆ และความทะเล้นของทั้งคู่ในแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ช่องmay.primaya เมพรีมายา และด้วยความน่ารักช่างรีวิว ทำให้พี่สาวหลายๆ คนตกหลุมรักในความน่าเอ็นดู และซื้อสินค้าจากการรีวิวจำนวนมาก

โดยเฉพาะ โมเน่ ที่ขี้อ้อน จนมีวลีติดปากเช่น “พี่ๆ ตามใจม๊ายย“ ซึ่งปรากฏการณ์นี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ทำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวในเชิงการตลาดออนไลน์ได้เด่นชัด


ผศ.ดร.พิทักษ์ ชูมงคล อาจารย์ประจำ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า ในเชิงการตลาดสิ่งที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ มีการนำเด็กมาเป็นพรีเซนเตอร์ในการสื่อสารการตลาด เพราะที่จริงแล้วเคสของ "น้องแอบิเกล" ลูกสาวของ“แม่ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ก็คล้ายกัน ในวงการเรียกว่า Kidfluencers คือการนำเด็กหรือลูกมาทำคอนเทนต์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ มักปรากฏในกลุ่มที่เป็นเซเล็บ

...


แต่ทำไมการใช้ Kidfluencers จึงส่งผลต่อการสื่อสาร เพราะคุณลักษณะของเด็กปรากฏในคอนเทนต์จะมีความไร้เดียงสา ความตลก ความคาดเดาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความน่าเอ็นดู สร้างความแตกต่าง ทำให้คนที่นำเด็กมาทำคอนเทนต์ขายของ ช่วยให้เกิดการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ และระหว่างการไลฟ์ขายของไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็ตาม จะช่วยสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์



สิ่งที่มีความพิเศษคือ เด็กแต่ละคนมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน ตรงนี้เองทำให้คอนเทนต์ที่เล่าเรื่องลูกกลายเป็นเสน่ห์ของเด็กแต่ละคน ซึ่งสะท้อนในฝั่งผู้บริโภคว่า ผู้บริโภคไม่ใช่เพียงแค่ซื้อสินค้า แต่เขากำลังติดตามชีวิต และเมื่อติดตามชีวิตไปด้วยก็ทำให้รู้สึกผูกพัน จนกลายเป็นคอมมูนิตี้ จึงไม่แปลกที่กรณีแม่ของน้องโมเน่ มีประเด็นดราม่า คนที่เป็นแฟนคลับก็เข้ามาปกป้อง


“ทุกวันนี้สิ่งที่เราต้องทำมากๆ คือ เราต้องไม่มอง TikTok เป็นที่ขายของ แต่ต้องมองว่า TikTok เป็นพื้นที่ในการสร้างคอมมูนิตี้ เหมือนเคสของครอบครัวต่างๆ ที่ทำให้ช่องของตัวเองกลายเป็นคอมมูนิตี้ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ การไปคาดหวังว่าคอนเทนต์ทุกอย่างในโซเชียลเป็นเรื่องจริงทั้งหมดไม่ได้"

...



ผศ.ดร.พิทักษ์ เผยว่า สิ่งที่ควรเป็นข้อควรระวังและมีการพูดถึงในวงวิชาการเกี่ยวกับในเคสลักษณะนี้ คือสิทธิเด็ก เพราะทุกสิ่งที่เด็กได้รับการถ่ายทอดลงโซเชียล จะกลายเป็นดิจิทัลฟุตพรินต์ ซึ่งกลายเป็นประเด็นคำถามว่า “พ่อแม่ทำละเมิดสิทธิเด็กหรือไม่” กลายเป็นเรื่องต้องเฝ้าระวัง


โดยรวมแม้การใช้เด็กมาเป็น Kidfluencers อาจใช้ไม่ได้ผลกับทุกเคส เพราะขึ้นอยู่กับเสน่ห์ของเด็กคนนั้น ซึ่งการใช้เด็กมาทำไลฟ์ให้ติดตลาดก็สามารถทำได้ ซึ่งบางคนหากไม่ใช้เด็กก็ใช้สัตว์


...


ดังนั้น เคสของ "น้องแอบิเกล" และ "น้องโมเน่" คือ คนที่ทำร้านขายของต้องตั้งสติว่า TikTok ไม่ใช่พื้นที่ขายของ แต่เป็นพื้นที่สร้างคอมมูนิตี้ ที่จะช่วยปกป้องแบรนด์ทั้งในเรื่องการซื้อสินค้า และการเข้ามาสนับสนุน แต่การจะสร้างคอนเทนต์ให้มีลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ปริมาณคอนเทนต์ ที่จะสร้างและดึงดูดคนดูได้ยาวนานแค่ไหน



ขอขอบคุณภาพจาก TikTok ช่อง may.primaya เมพรีมายา


...