“พระมหาพิชัยราชรถ” ราชยานในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีขนาดกว้าง 4.88 เมตร ยาว 18เมตร สูง 11.20 เมตร มีน้ำหนัก 13.7 ตัน มีความเป็นมาดังนี้
พระมหาพิชัยราชรถทำด้วยไม้แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจก ใช้จำนวนพลฉุดชัก 216 นาย แบ่งเป็นด้านหน้า 172 นาย ด้านหลัง 44 นาย และผู้ควบคุม 5 นาย
ต่อมาในปี พ.ศ.2342 สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี สิ้นพระชนม์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหาพิชัยราชรถอัญเชิญพระโกศพระศพอีกครั้งหนึ่ง นับจากนั้นมา พระมหาพิชัยราชรถถูกกำหนดให้เป็นราชรถอัญเชิญพระบรมโกศพระมหากษัตริย์และพระโกศพระบรมวงศ์ตลอดมา
...
เมื่อสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระมหาพิชัยราชรถได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ดังนั้นในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 จึงใช้ เวชยันตราชรถ เป็นราชรถอัญเชิญพระโกศพระบรมศพแทน แต่ให้ออกนามในหมายกำหนดการว่า พระมหาพิชัยราชรถ ตามพระราชอิสริยยศ
ในครั้งนั้น นอกจากซ่อมแซมให้สวยงามแล้ว ยังโปรดให้เพิ่มล้อขึ้นอีกที่ใต้ตัวราชรถ ทั้งนี้เพื่อให้รับน้ำหนักตัวราชรถและบุษบกยอด และพระโกศที่ตั้งอยู่บนราชรถได้ทั้งหมด
จนกระทั่งในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในปี พ.ศ. 2539 จึงได้มีการบูรณะพระมหาพิชัยราชรถครั้งใหญ่โดยกรมสรรพาวุธทหารบก และเชิญออกใช้การอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ในคติพราหมณ์-ฮินดู ราชรถถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกลับคืนสู่เทวโลก ดังนั้น ราชรถในพระราชพิธีหลวงจึงเปรียบเสมือน ‘พาหนะแห่งเทพ’ ที่อัญเชิญพระวิญญาณของกษัตริย์หรือเจ้านายกลับสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด
ราชรถถูกสร้างขึ้นตามแบบราชรถแห่งพระอาทิตย์หรือพระอินทร์ มีบุษบกแทน ‘เขาพระสุเมรุจำลอง’ ตั้งอยู่กลางราชรถ แสดงถึงจักรวาลคติที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์กลาง ขณะที่ตามชั้นของราชรถสลักรูปเทพนม พญานาค แสดงให้เห็นถึงเทพเจ้าชั้นรอง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาพิธีพระบรมศพ ราชรถจึงเป็นสื่อระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ เป็นการ ‘ส่งคืนเทวะ’ ด้วยศักดิ์สูงสุดตามลำดับชั้นแห่งพระอิสริยยศ
...
ประวัติการใช้งานมหาพิชัยราชรถ
พ.ศ.2354 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
...
พ.ศ.2361 อัญเชิญพระบรมโกศพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์
พ.ศ.2368 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พ.ศ.2371 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระอมรินทรา บรมราชินี ในรัชกาลที่ 1
พ.ศ.2376 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
...
พ.ศ.2380 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี ในรัชกาลที่ 2
พ.ศ.2381 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ 3
พ.ศ.2395 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2405 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระเทพศิรินทร บรมราชินี ในรัชกาลที่ 4
พ.ศ.2409 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2412 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2423 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสี
พ.ศ.2430 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ประไพพรรณพิจิตรนริศรราชกุมารี
พ.ศ.2430 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จเจ้าฟ้าชายตรีเพชรุตม์ธำรง
พ.ศ.2443 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
พ.ศ.2443 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์
พ.ศ.2453 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2463 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พ.ศ.2468 อัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2539 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
พ.ศ.2551 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
พ.ศ.2555 อัญเชิญพระบรมโกศสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
พ.ศ.2560 อัญเชิญพระบรมโกศประกอบพระราชอิสริยยศพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ปัจจุบันพระมหาพิชัยราชรถถูกเก็บรักษาไว้ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีความเชื่อว่า หน้าโรงเก็บราชรถจะไม่มีถนนและบริเวณประตูด้านหน้าโรงราชรถจะมีกำแพงปูนกั้นเพื่อไม่ให้มีทางออก
สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะจัดขึ้นใน 1 ปีหลังจากนี้นั้น จะมีการอัญเชิญ พระมหาพิชัยราชรถ ออกมาจากโรงราชรถ เพื่อใช้ในพิธีการ โดยก่อนอัญเชิญราชรถจะต้องมีการทุบทำลายกำแพงปูนก่อน และจะก่อขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นพิธี เนื่องจากเป็นความเชื่อว่า “ราชรถไม่ควรอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน” และจะจัดทำทางลาดยางสำหรับนำราชรถออกมาเฉพาะเวลามีงานพระบรมศพหรือพระศพเจ้านายเท่านั้น หากงานเสร็จสิ้น จะต้องรื้อทำลายทางลาดยางดังกล่าว เพราะงานที่ต้องใช้ราชรถอัญเชิญพระโกศถือว่าเป็นงานอวมงคล
ที่มา กรมศิลปกร