ประมวลบรรยากาศเคลื่อนขบวนรถเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง พสกนิกรโศกเศร้า หลั่งไหลถวายความอาลัยตลอดเส้นทาง ตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ถึงหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 

วันที่ 26 ต.ค. 2568 ที่ด้านหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่ช่วงเช้า พสกนิกรจำนวนมากได้เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก่อนการเคลื่อนพระบรมศพออกจาก รพ.จุฬาฯ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความโศกเศร้า พสกนิกรต่างเผยว่าทั้งน้ำตาว่าไม่ทันตั้งตัว คิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง พร้อมรำลึกถึงพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่า ที่จะอยู่ในใจตราบชั่วนิรันดร์

พสกนิกรรายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อตนทราบข่าวได้เดินไปข้างฝาบ้าน ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยืนประทับเคียงข้าง โดยยกมือไหว้พร้อมบอกว่า “พ่อ รับแม่ไปด้วยนะ แม่จะได้พักผ่อนแล้ว พ่อกับแม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ“

...

ในเวลา 16.26 น. ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มุ่งหน้าไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อขบวนรถเคลื่อนผ่านหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ รวมถึงนิสิตแพทย์ นักศึกษาพยาบาล และพสกนิกรจำนวนมาก ต่างพร้อมใจก้มกราบถวายความอาลัย

ขณะที่บริเวณท้องสนามหลวง ก่อนทางเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พสกนิกรจำนวนมาก ได้เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยถวาย บางส่วนเดินทางมาตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ในช่วงเวลา 08.30-12.00 น.ก่อนมานั่งรอรับเสด็จในบริเวณใกล้เคียง ขณะที่ประชาชนจำนวนมากทยอยตามมาสมทบในพื้นที่ในภายหลัง

ส้มเกลี้ยง ตรวจมรคา เกษตรกรชาวจังหวัดปทุมธานีวัย 65 ปี เปิดเผยว่า เดินทางจากบ้านที่ อ.ลำลูกกา ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น.มาถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ก่อนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงและเดินทางมานั่งรอในบริเวณ พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาตนยึดถือหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการประกอบอาชีพและร่วมทำงานจิตอาสามาโดยตลอด แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยของพระองค์ท่าน

“ปลาบปลื้มมากที่ได้มารับใช้ท่าน ได้ช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น มีโอกาสไม่กี่ครั้งที่เราเกิดมาแล้วได้ทดแทนคุณแผ่นดิน เท่านี้ก็ภาคภูมิใจแล้วครับ”

ส้มเกลี้ยง ตรวจมรคา ชาวปทุมธานีวัย 65 ปี
ส้มเกลี้ยง ตรวจมรคา ชาวปทุมธานีวัย 65 ปี

ธนกฤต อัญชลีสังกาศ ชาวสมุทรปราการ วัย 51 ปี เปิดเผยว่าเดินทางมารอรับขบวนรถเชิญพระบรมศพตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน หลังตนได้ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็คิดว่าพระองค์จะได้เสด็จไปอยู่เคียงข้างในหลวงรัชกาลที่ 9 คอยทอดพระเนตรดูแลพสกนิกรของท่านจากบนฟ้า และสมเด็จพระพันปีหลวงจะได้พักผ่อนเสียที หลังจากที่พระองค์ทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดมา

ธนกฤต อัญชลีสังกาศ ชาวสมุทรปราการ วัย 51 ปี
ธนกฤต อัญชลีสังกาศ ชาวสมุทรปราการ วัย 51 ปี

...

ปณิฐาณ์ อัครมหาฐีร ชาวชลบุรีวัย 49 ปี เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกใจหายอย่างมาก โดยเดินทางจากเมืองชลบุรีเพื่อมารอส่งเสด็จพร้อมกับลูกชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และลูกสาวชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อให้ลูกได้รับรู้ถึงบุคคลสำคัญซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ โดนตั้งใจจะทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 

“จะตั้งใจทำความดี อะไรที่เราทำได้จากตัวของเราเองก็จะทำเพื่อพระองค์ท่าน และเราก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาในประเทศไทย”

ปณิฐาณ์ อัครมหาฐีร ชาวชลบุรีวัย 49 ปี
ปณิฐาณ์ อัครมหาฐีร ชาวชลบุรีวัย 49 ปี

เยาวลักษณ์ โตประทีป วัย 45 ปีจาก จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า เมื่อทราบข่าวก็ตัดสินใจเดินทางมาร่วมงานทันที โดยมาตั้งแต่ 10 โมงเช้า เพราะอยากมาร่วมส่งสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะแม่ของแผ่นดิน โดยที่ผ่านมาก็ทำความดี ยึดถือความซื่อสัตย์ถวายเป็นพระราชกุศลอยู่แล้วและจากนี้ก็จะตั้งใจทำต่อไป และถึงแม้ว่าท่านจะไม่อยู่แล้วกับพวกเราแล้ว ก็อยากให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์ สามัคคี รักประเทศไทยและทำความดีเพื่อพระองค์ท่าน

...

“เราอยู่กับท่านมาตั้งแต่เด็ก เราเกิดมาก็เห็นพระองค์ท่านทรงงานแล้ว ท่านเหมือนแม่ของเราจริงๆ ทรงสถิตอยู่ในดวงใจเราอยู่ตลอด“

กิตติ แสนจันทร์ ชาวร้อยเอ็ดวัย 29 ปี เปิดเผยว่า เมื่อทราบข่าวสมเด็จพระพันปีสวรรคตก็รู้สึกใจหายอย่างมากและตั้งใจว่าจะเดินทางมาส่งเสด็จ โดยที่ผ่านมาได้เห็นพระราชกรณียกิจต่างๆ ผ่านสื่อและคำบอกเล่าจากญาติผู้ใหญ่ที่มีโอกาสเข้ารับเสด็จ รู้สึกผูกพันและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตนเป็นชาวภาคอีสานและเรียนจบด้านนาฏศิลป์ ซึ่งสมเด็จพระพันปีทรงเป็นผู้ยกระดับผ้าไทย รื้อฟื้นและสืบสานการแสดงโขน

“อยากจะขอขอบคุณพระองค์ท่าน ที่ทรงเอาใจใส่ชาวบ้าน ชาวอีสาน ฟื้นฟูในเรื่องของผ้าไหม ศิลปวัฒนธรรมจนทำให้ชาวบ้านมีอยู่มีกินถึงทุกวันนี้”

ในเวลา 17.05 น. ขบวนรถเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เคลื่อนเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของประชาชนที่มารอส่งเสด็จ