รวบ “เฉิน จื้อ” นักธุรกิจเจ้าของ Prince Group สมองการเงิน “แก๊ง 14K” องค์กรอาชญกรรรมข้ามชาติระดับโลก เขย่าขบวนการสแกมเมอร์ สั่นคลอนการเงิน “ตระกูลฮุน” คาดโชว์จับถี่ยิบปัดความผิดพ้นตัว  

จากกรณี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ จากนาย เฉิน จื้อ (Chen Zhi) ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) กลุ่มธุรกิจข้ามชาติรายใหญ่ในประเทศกัมพูชา เป็นบิตคอยน์มูลค่ากว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 550,000 ล้านบาท  

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า ทรัพย์สินดังกล่าวมีที่มาจากการดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับ การฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์และการฟอกเงิน โดยนายเฉิน จื้อ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อำนวยการสั่งการให้บริษัทในเครือของ Prince Group ใช้แรงงานบังคับและดำเนินธุรกิจหลอกลวงผ่านระบบออนไลน์ สร้างความเสียหายไปทั่วภูมิภาคอาเซียน

“เฉิน จื้อ” สมองการเงินแก๊ง 14K  

...

ทรงฤทธิ์ โพนเงิน ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง เผยว่า เฉิน จื้อ เป็นหนึ่งใน "แก๊ง 14K" กลุ่มอาชญากรรายใหญ่จากประเทศจีนที่อยู่เบื้องหลังการขยายตัวของเครือข่ายสแกมเมอร์และแก๊งจีนเทาตามลุ่มน้ำโขงและทั่วภูมิภาคอาเซียน ควบคุมโดยหัวหน้าใหญ่ที่เรียกกันว่า Dragon Head หรือหัวมังกร คือ นายหวัน ค็อกคอย (Wan Kuok-koi) ที่จะไม่ค่อยปรากฎตัว แต่จะควบคุมจัดแจงทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเสมอ 

ระบบของ 14K จะคัดคนที่มีความสามารถเฉพาะทางมาทำงานให้ซึ่ง เฉิน จื้อ ได้รับคำเชิญให้มาร่วมธุรกิจจากนายหวัน ค็อกคอย เนื่องจากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและการลงทุน

เมื่อพวกเขาได้เงินจากการหลอกลวงต่างๆ ทั้งกาสิโนออนไลน์ หลอกให้มีการลงทุน คริปโต รวมถึงการค้ามนุษย์ โดยจะนำเงินเหล่านี้หนีข้ามชายแดนฟอกเงินผ่านบ่อนคาสิโนและนำเงินเข้าธนาคาร หลังจากนั้นจะเริ่มกระจายเงินไปตามแหล่งต่างๆ อาทิ การปล่อยสินเชื่อให้ลงทุน หรือซื้อทรัพย์สินเก็บไว้ 

เฉิน จื้อ มีหน้าที่ดูแลกิจการทั้งหมดในเรื่องของการเงินและการลงทุนในกัมพูชา รวมถึงการโยกย้ายสินทรัพย์ในกัมพูชาออกมาสู่ประเทศที่คิดว่าเหมาะสมในการลงทุน รวมถึงประเทศไทย หรือแม้กระทั่งการแปลงจากสินทรัพย์มาเป็นทองคำ สังเกตได้ว่าในระยะหลังจะมีทองคำเข้าไปในกัมพูชามากขึ้น  

 นายหวัน ค็อกคอย บิ๊กบอสแก๊ง 14K
นายหวัน ค็อกคอย บิ๊กบอสแก๊ง 14K

แก๊ง 14K เบื้องหลังเครือข่ายสแกมเมอร์

แก๊ง 14K เติบโตมาจากขบวนการยาเสพติด การค้ามนุษย์ โสเภณี คาสิโนออนไลน์ โดยเริ่มจากในฮ่องกงและมาเก๊า  แต่เมื่อ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ประกาศปราบปรามอาชญากรทั้งประเทศตั้งแต่ปี  2013 ทำให้พวกเขาต้องหนีออกมา

“พวกที่หนีออกมาจากแก๊ง 14 K ทุกคนล้วนเป็นอาชญากรทั้งหมด แต่จะแฝงตัวมาในรูปแบบของนักลงทุนในบริษัทต่างๆ โดยจุดแรกที่มาตั้งฐานขนาดใหญ่คือสีหนุวิลล์ ตั้งแต่ปี 2013 - 2019 และต้นปี 2020 ฮุนเซน จำใจต้องปราบ เนื่องจากเป็นคำขอร้องจาก สี จิ้นผิง” 

เมื่อมีการปราบปราม หลายคนก็หลบหนีไปที่อื่นๆ รวมถึงประเทศไทย อย่าง “ตู้ฮ่าว” ที่ถูบจับกุมเมื่อปี 2022 ก็เป็น 1 ในแก๊ง 14K เช่นกัน แต่ปัจจุบัน ศาลอาญาได้พิพากษายกฟ้อง 

ทรงฤทธิ์ โพนเงิน ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง
ทรงฤทธิ์ โพนเงิน ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง

...

คว่ำบาตร “เฉิน จื้อ” สะเทือน “ตระกูลฮุน”

ทรงฤทธิ์ เผยว่า การที่เฉิน จื้อ ถูกยึดทรัพย์จากทางสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายสแกมเมอร์ในกัมพูชาแน่นอน เนื่องจาก Prince Bank ถูกคว่ำบาตร ตอนนี้ธุรกิจหลายอย่างขาดสภาพคล่อง และตระกูลฮุนก็ได้รับผลกระทบไปตามกัน เพราะหลังจากนี้การทำสแกมเมอร์ในกัมพูชาจะยากขึ้น โดยเฉพาะตอนนี้ถูกกดดันให้ต้องร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อปราบปราม 

“ตระกูลฮุน หากินกับสแกมเมอร์มาตั้งแต่ปี 2013 ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ โดยรับส่วนแบ่งจากรายได้ 19% ถ้าอิงตามข้อมูลจากธนาคารกลางของจีนที่เขาติดตามเงินหยวนที่โอนจากจีนมาที่กัมพูชาที่เดียวตั้งแต่ปี 2013 - 2019 คิดเป็นเงิน 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.1 ล้านล้านบาท)  คิดดูว่าฮุนเซนได้ 19% มันคือเงินเท่าไหร่”

หลังจากนี้คาดว่า เราจะเห็นการจับกุมสแกมเมอร์เพิ่มขึ้นทุกวัน วันละหลายรอบ แต่จะได้แค่ตัวเลขจำนวนคนที่โดนจับเท่านั้น แต่ไม่สามารถจับระดับหัวโจกได้แน่นอน เพราะมีการแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้หลบหนีได้ทัน อย่างภาพที่ได้เห็นจากสีหนุวิลล์ว่ามีการเคลื่อนย้านคนจากพื้นทที่ที่ถูกปราบ  

“ตอนนี้ฮุนเซนไม่สามารถดำเนินธุรกิจที่เป็นสแกมเมอร์ได้อีกต่อไป แต่สิ่งที่เขาต้องการทำตอนนี้คือพยายามที่จะบอกให้โลกรู้ว่าเขาและวงศ์ตระกูลไม่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์”