“อิ๊งค์” นำทัพ ยกเครื่องเพื่อไทย-เปิดผู้สมัคร สส.เซ็ตแรก “นักวิชาการ” มองเป็นผู้นำจิตวิญญาณพรรค เลือกตั้งครั้งหน้าคาดไม่เสียคะแนนนิยมมากกว่านี้ แนะเร่งเปิดตัวแคนดิเดต เสนอสิ่งใหม่ต่อสังคม

วันนี้ (7 ตุลาคม 2568) พรรคเพื่อไทย จัดงานใหญ่ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” แสดงความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้หลังการยุบสภา พร้อมเปิดผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากทั่วประเทศลอตแรกจำนวน 193 คน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาในช่วงหนึ่งว่า การกลับมายืนบนเวทีใหญ่ในรอบเดือนเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมาย วันนี้ได้กลับมามองหน้ากันด้วยใจถึงใจอีกครั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายทางการเมือง


หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คือนโยบายที่ทำได้จริงเพื่อประชาชน เชื่อมั่นว่าการทำเพื่อประชาชน การเอานโยบายที่ดีให้ถึงประชาชน จะทำให้ชีวิตของประชาชนกินดีอยู่ดี และปลดปล่อยศักยภาพของประชาชนให้ออกไปอย่างตื่นเต้น เชื่อว่าการผลักดันนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ ประชาชนทุกคนในราชการและเอกชนต้องร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ซึ่งตนเองพร้อม และพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสู้ ประเทศไทยยังคงต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ ต้องการการเมืองที่เป็นความหวังของประชาชน และต้องการความร่วมมือของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อประสานงานปรับนโยบายต่างๆ

...

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์ว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาปรับภาพลักษณ์องค์กรในตอนนี้ จะไม่เป็นการเสียแต้มต่อ แต่พรรคควรต้องมีสิ่งใหม่มานำเสนอกับสังคม ไม่เพียงเฉพาะแค่การเปิดตัวผู้สมัครเท่านั้น

พรรคเพื่อไทย จะต้องนำเสนอสิ่งใหม่หลายมิติ อาทิ การเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ นโยบายทางการเมือง หรือการปฏิรูปโครงสร้างพรรคและการสานต่อนโยบายในเชิงการแก้ปัญหาและเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งการรื้อผลงานต่างๆ ที่ทาง คสช. ฝากไว้ตั้งแต่ปี 2557 รวมถึงต้องมีนวัตกรรมทางการเมืองใหม่ๆ อาทิ สภานโยบายพรรค ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ควรมีเพิ่มเติมจากที่นำเสนอไว้ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ จะเป็นผลดีกับการเลือกตั้งในครั้งต่อไป แต่หากวันนี้ยังคงเสนอแต่นโยบายเศรษฐกิจเช่นเดิม อาจไม่ตอบโจทย์กับยุคสมัยในปัจจุบัน

รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า แม้นางสาวแพทองธารอาจไม่ได้มีชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกฯ แต่ยังคงมีความสำคัญกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากยังคงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และเป็นสัญลักษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงทำให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นองค์กรการเมืองขนาดใหญ่ไม่เกิดความแตกแยก เพราะหากวันนี้ไม่มีบทบาทของนายทักษิณ มองว่าอาจเกิดการแตกแยกในแต่ละกลุ่มการเมืองในพรรค 

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย


ส่วนการเลือกตั้งในครั้งหน้า คาดไม่เสียคะแนนนิยมไปมากกว่านี้ หากได้แคนดิเดตเร็วเท่าไหร่ ยิ่งทำให้พรรคมีฐานเสียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ส่วนฐานเสียงเก่ายังเชื่อว่ารักษาได้ ซึ่งแคนดิเดตอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในตระกูลชินวัตรก็ได้ แต่ต้องสามารถดึงคะแนนเสียงมาให้พรรคได้มากขึ้น และต้องทำให้พรรคแข็งแกร่ง เพื่อให้การตัดสินใจของพรรคสามารถลงลึกได้ถึงมวลชนมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่เพียงเฉพาะแกนนำ

ท้ายสุด สิ่งที่ต้องจัดการคือโครงสร้างภายใน และการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพื่อนำมาสร้างเป็นนโยบาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ควรเริ่มต้นก่อน หลังจากนั้นหากต้องการปรับภาพลักษณ์องค์กร ต้องมีภาพที่ฉายให้สังคมเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างและการเปิดตัวผู้สมัครในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของพรรคเพื่อไทยในการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ขณะที่หลายฝ่ายยังคงจับตาดูว่า พรรคจะสามารถพัฒนานโยบายและทิศทางทางการเมืองให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม และความคาดหวังของประชาชนในยุคปัจจุบันได้มากน้อยเพียงใด