ฮุนเซน ตลอดระยะเวลาปะทะไทย-กัมพูชา แทบไม่ห่างจากโทรศัพท์ ยืนยันชัดเจนว่าเป็นตัวการสำคัญ สั่งการโจมตีผู้บริสุทธิ์ในไทย ผู้เสียชีวิตบางส่วนเป็นเด็ก ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นี่จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า คำสั่งการ “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” เข้าข่ายอาชญากรสงคราม แต่ต้องจับตาว่ารัฐบาลไทยจะเอาจริงในการยื่นเรื่องต่อศาลระดับนานาชาติแค่ไหน
เมื่อกระสุนไม่รู้จักพรมแดน เมื่อจรวดไม่แยกแยะเป้าหมาย ผู้บริสุทธิ์จึงต้องสังเวย การกระทำ เหล่านี้ถูกเรียกว่า อาชญากรสงคราม ได้หรือไม่
หลังคำสั่งหยุดยิงระหว่างไทย – กัมพูชา โลกจับตาการเจรจาสันติ แต่ก่อนหน้านั้น ความรุนแรงปะทุซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันคือ "อุบัติเหตุทางการทหาร" หรือเป็นเจตนาที่มีคนจงใจให้เกิด หลักฐานหลายอย่างชี้ไปยัง ฮุนเซน และ ฮุนมาเนต เขาควรถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “ผู้นำประเทศ” หรือถึงเวลาแล้วที่โลกต้องเรียกชื่อเขาให้ตรงกับสิ่งที่เขา “อาชญากรสงคราม” หรือไม่
...
วันที่ 1 ส.ค. 2568 รัฐบาลไทยนำคณะผู้แทนทางการทูตจาก 23 ประเทศ เดินทางลงพื้นที่ “แนวชายแดน จุดที่เพิ่งเกิดการปะทะรุนแรงกับกัมพูชา หนึ่งในสถานที่คือ ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนคนไทยเสียชีวิต 8 คน
หนึ่งในสถานที่ที่ควร “ปลอดภัยที่สุด” ในยามสงครามกลับกลายเป็น “เป้าหมายโจมตี” จรวดถล่มใส่โรงพยาบาลอย่างไร้ความปรานี ข้อตกลงระหว่างประเทศถูกเหยียบย่ำต่อหน้าต่อตา และคณะทูตจากหลายประเทศก็เห็นพฤติกรรมอำมหิตเหล่านี้ด้วยสายตาของพวกเขาเอง
BM-21 คือระบบยิงจรวดที่ใช้เพื่อถล่ม “พื้นที่กว้าง” มันไม่มีระบบนำวิถี ไม่มีการควบคุมเป้าหมายเฉพาะจุด และหากถูกยิงใส่พลเรือน...มันจะกลายเป็นหลักฐานแห่งอาชญากรสงคราม
ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮุนเซนไม่เคยยอมให้ใครขัดขวางเส้นทางของเขา ใครเห็นต่าง…ถูกอุ้มหาย ใครท้าทาย…ถูกยิงกลางถนน ใครเปิดปาก…ต้องลี้ภัยข้ามประเทศ เสียงหนึ่งจากเงามืดของผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาที่เคยอยู่ในระบอบฮุนเซน
ตลอดช่วงเวลาการปะทะ จนกระทั่งหยุดยิง ชี้ชัดว่าฮุนเซน กำลังจงใจจุดไฟสงคราม จากการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ทำให้ทหารไทยต้องสูญเสียขาไปถึง 3 นาย สู่การปล่อยข่าวปลอมว่าไทยเตรียมรุกราน เพื่อเร่งเร้าไฟชาตินิยม ก่อนจะส่ง “โดรนสอดแนม” เข้าพื้นที่ไทย โดยละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และที่เลวร้ายที่สุด ฮุนเซน เพิกเฉยต่อศพทหารของตัวเองที่ล้มตาย ปฏิเสธว่า “ไม่ใช่คนของเขา”
ด้วยหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งคำสั่งยิงใส่พลเรือน การไม่เคารพสิทธิมนุษยชน และการปฏิเสธรับผิดชอบต่อความสูญเสีย...“ชื่อของฮุนเซน ควรถูกยื่นเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา…ฮุนเซน อาจถูกจดจำว่าเป็น "ผู้นำ" แต่เบื้องหลังคำว่าผู้นำ คือประวัติศาสตร์ของความรุนแรง การล้างบาง และการใช้อำนาจอย่างไร้มนุษยธรรม ฮุนเซน…ไม่ควรถูกจดจำในฐานะ "ผู้นำประเทศ" แต่ควรถูกเรียกตามสิ่งที่เขาทำว่า “อาชญากรสงคราม” ได้หรือไม่
ติดตาม #ข่าวแสบเฉพาะกิจ รายการวาไรตี้ข่าวสุดแสบ จะพิสูจน์ ตรวจสอบ พร้อมลงทุกพื้นที่ ขยี้ทุกความจริง ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.
...