ชาติมหาอำนาจเป็นตัวละครใหม่ในสนามรบไทย-กัมพูชา ทหารจับสัญญาณสนทนา สั่งการ “โดรน” เข้ามาควบคุมการยุทธ์ ดร.สุรชาติ มอง กัมพูชากำลังเล่นบท “ลูกอีช่างฟ้อง” ส่วนไทยรับบทเป็น “ลูกอีช่างรับ” มองไทยถูกบีบให้ออกจากวง “ทวิภาคี” สู่ “พหุภาคี” ขอรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ สู้กลับได้ทุกกระบวนท่า


ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงและยุทธศาสตร์การทหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อเช้าที่ผ่านมา (30 ก.ค.) ถึงกรณีพบทหารรับจ้างสัญชาติรัสเซียโผล่ช่วยฮุน เซน รบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา


ดร.สุรชาติ มองว่า “รัสเซีย” เป็นตัวละครใหม่ในสนามรบ และเป็นตัวละครที่คิดไม่ถึง ก่อนหน้านี้มีทางสหรัฐอเมริกาและจีนเข้ามามีส่วน โดยหลังจากมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิง เริ่มมีข้อมูลออกมาจากทหารในสนามรบว่า สามารถดักจับสัญญาณการสนทนาระหว่างคนรัสเซีย 2 คน คนแรกพูดว่า “การเชื่อมต่อสัญญาณได้ยินไม่ชัดเจน เนื่องจากการเชื่อมต่อสัญญาณทั้งหมดมันไม่เต็ม ให้ต่อสัญญาณให้เต็ม” และพูดถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์สัญญาณบางอย่าง บอกว่าการทำแบบนี้ทำให้สัญญาณออกมาไม่ได้ และมีคำสั่งให้ไปแก้ไขด้วยการเช็กเสาอากาศให้ได้ อีกคนจึงตอบมาว่า “รับทราบ”


เมื่อเห็นข้อความแบบนี้แล้ว จึงตีความได้ง่ายว่า อาจเกี่ยวข้องกับการควบคุมโดรน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ต่างจากในยูเครนหรือเมียนมา เป็นสงครามโดรน แต่มีหลักฐานชิ้นส่วนบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์สงครามหรือไม่


โดยกำลังพลของไทยรู้สึกว่าฝั่งกัมพูชามีผู้ควบคุมการยุทธ์ มองว่า ในกรณีนี้ต้องติดตามว่า รัสเซียเข้ามาช่วย ทั้งรถถังรัสเซียที่ใช้เป็นปกติอยู่แล้ว อาจไม่สามารถระบุได้ว่ารัสเซียเข้ามาช่วย แต่กรณีที่มีตัวละครเข้ามาแบบนี้ ตัวละครใหม่ 3 ตัวเข้ามาครบ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย

...


ดร.สุรชาติ กล่าวไปถึง มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาว่า ได้ยกพื้นที่ท่าเรือทวายให้รัสเซีย ทำให้มี "กลุ่มแวกเนอร์" เข้ามาในสงครามในเมียนมา และมองว่าปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เราชอบพูด กำลังมาที่ชายแดนแล้ว


ดร.สุรชาติ กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่พื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ มีการจับชาวจีนได้ 3 คน ที่นำโดรนมาบินแล้วอ้างว่าเป็นนักข่าว มีการกล่าวอ้างแบบจีนเทาในกรุงเทพฯ เลยที่ระบุว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ ก่อนตรวจสอบพบทะเบียนและเอกสารปลอมทั้งหมด จึงตั้งคำถามว่า การซ้อมรบของจีนก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ชายแดน จีนได้ทิ้งอาวุธไว้มากน้อยเพียงใด แต่ที่ผ่านมามีการทิ้งอาวุธเอาไว้พอสมควร โดยมองว่าสายลับจีนก็เป็นอีกตัวละครที่สำคัญ


ผู้นำกัมพูชาเข้าไปสั่งสแกมเมอร์ให้เปลี่ยนภารกิจใหม่ ให้เป็น “นักรบไซเบอร์” ให้กับกัมพูชา ในสงคราม IO หรือสงครามข่าวสาร และอาจจะเป็นสแกมเมอร์จีนด้วยก็ได้ เห็นสงครามการทหารในพื้นที่แล้ว แต่ตอนนี้กัมพูชากำลังเล่นบท “ลูกอีช่างฟ้อง” ฟ้องโลกทุกเรื่อง ไม่สนว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม ขณะที่ไทยรับบทเป็น “ลูกอีช่างรับ” รับทุกเรื่อง


“ช่วงหลังกัมพูชาจับมือกับสหรัฐฯ มากกว่าที่เราคิดเยอะมากลึกด้วย กัมพูชาติดหนี้จีนเยอะมากในทางเศรษฐกิจ จนอาจเข้าสู่กับดักหนี้ของจีน จีนอาจเรียกร้องขอสัมปทานพื้นที่ จนอาจกลายเป็นฐานทัพได้ เหมือนกับศรีลังกา” ดร.สุรชาติ กล่าว




ดร.สุรชาติ เผยอีกว่า นักวิชาการตะวันตกพูดมานานแล้วว่า จีนกำลังร้อยสร้อยไข่มุกในพื้นที่แถบนี้ ตัวละครทั้งทหารรัสเซียที่ยังมีข้อมูลไม่มาก ฝากไปยังกำลังพลในสนามช่วยเก็บข้อมูลมารวบรวม และเข้มงวดกับชาวต่างชาติที่อาจเป็นสายลับได้ ขณะที่บทบาทของสแกมเมอร์ในรูปแบบสงครามข่าวสารค่อนข้างใหญ่ จนตั้งรับไม่ทัน


ดร.สุรชาติ ตั้งคำถามว่า ในเวทีโลกไทยจะทำอย่างไร เพราะเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่กลับกัน ข่าวในเวทีโลกเราเป็นฝ่ายเปิดก่อนทั้งหมดเลย พันธมิตรที่เคยอยู่กับเราก็เชื่อข้อมูลจากกัมพูชา จึงกลายเป็นจุดอ่อนของเรา พร้อมขอเรียกร้องให้คณะกรรมการควบคุมการหยุดยิงเข้ามาทำหน้าที่อย่างจริงจัง เดิมภายใน 24 ชม. แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ค.) มีรายงานช่วง 2 ทุ่มว่าอีกฝ่ายเริ่มตรึงกำลังแล้ว


วันนี้กัมพูชากำลังบีบให้เราออกจากเวทีทวิภาคี และเข้าสู่เวทีพหุภาคี และมีตัวละครที่ 3 โผล่มาแล้ว เมื่อต้องเป็นพหุภาคีจะเป็นจุดใหญ่ เพราะโจทย์ยกระดับไปแล้ว จึงต้องคิดถึงการรับทุกกระบวนท่าให้ได้ เพราะสนามรบในเชิงพื้นที่ไม่ได้มีที่เราเป็นในเชิงภูมิศาสตร์อย่างเดียวแล้ว เปลี่ยนจากลูกอีช่างรับเป็นอะไรได้บ้าง ข้อมูลในไทยตอนนี้ จะถูกแปลงเป็นอีกอย่างหนึ่งจากฝั่งกัมพูชาที่ต้องการขับเคลื่อนกระแสชาตินิยม


“โจทย์สนามรบไม่ได้น่ากลัว แต่เราเริ่มเห็นตัวละครใหม่ ปฏิบัติการสงครามโดรนกำลังเริ่มขึ้น การสื่อสารและวางพิกัดเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก การส่งข่าวสารเป็นเรื่องที่กังวลว่าอาจจะทำไม่ได้เลยในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้ เพราะจะเป็นเป้าหมายของโดรนทันที” ดร.สุรชาติ กล่าว


ช่วงท้าย ดร.สุรชาติ กล่าวว่า อยากเห็นรัฐบาลเข้มแข็ง และความเป็นเอกภาพในการทำงาน ส่วนฝั่งเขาสบายอยู่แล้ว การเตรียมการฝั่งกัมพูชาเป็นขั้นตอนครบทุกอย่าง รบครบทุกกระบวนท่า ตั้งคำถามว่า ฝั่งไทยจะสู้ได้มากขึ้นหรือไม่ ? 

...


ล่าสุดมีรายงานว่า แหล่งข่าวจากทางทหาร ยืนยันสัญญาณเสียงชาวรัสเซียที่พบ เป็นสัญญาณมาจากประเทศลาว ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปะทะครั้งนี้