เด้ง 2 อธิบดีฯ สายสีน้ำเงิน ส่องประวัติสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ จับตาเพื่อไทย กระชับอำนาจ ล้างบางมหาดไทย เขย่าเก้าอี้ข้าราชการ
ภารกิจแรก ในการเข้ารับตำแหน่ง ของนายภูมิธรรม เวชยชัย หรือ "มท.อ้วน" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งประกาศในห้องประชุมวันแรก ว่า ยุคตัวเอง ทุกคนต้องสู้กันด้วยผลงาน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก โดยเฉพาะ ต้องไม่มี "สิงห์" สีต่างๆ และผลงานต้องเป็นที่ประจักษ์ ใน 3 เดือน
ล่าสุดมีข่าวร้อนว่า กระทรวงมหาดไทย ในยุค "มท.อ้วน" เตรียมเสนอ ครม. แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 4 ตำแหน่ง คือ 1.นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 2.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 3.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง และ4. ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
...
ถ้าย้อนประวัติ ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พื้นเพเติบโตในพื้นที่อีสานใต้ เคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนขยับขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี 2565 และได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมการปกครองในเวลาต่อมา
ส่วน นฤชา โฆษาศิวิไลซ์ มีเส้นทางราชการเชื่อมโยงกับฐานอำนาจเดียวกัน เคยเป็นปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ รองผู้ว่าฯ บึงกาฬ ก่อนขึ้นเป็นผู้ว่าฯ บึงกาฬ และย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ช่วงปี 2567 แต่ก็เป็นได้ไม่นานก็ถูกเรียกให้มารับตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในที่สุด
ทั้งคู่เติบโตในสายการเมืองในยุคที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น รมว.มหาดไทย และได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งอธิบดีเกรดเอของกระทรวงมหาดไทย ทั้งกรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทำให้ถูกมองว่าเป็นเครือข่ายใกล้ชิด "ครูใหญ่บุรีรัมย์" และกลายเป็น "สิงห์"สีน้ำเงินของพรรคภูมิใจไทยเต็มตัว
ท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่านายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืนมาไว้ในอำนาจตั้งแต่สมัยนายอนุทิน นั่ง รมว.มหาดไทย และมีข่าวมาตั้งแต่ก่อนปรับ ครม. "แพทองธาร 2" เพราะนายอนุทิน เคยประกาศ ว่า หากไม่ได้กระทรวงมหาดไทยก็จะลาออก ทำให้มีการจับตาดูกันมาตลอด จน "มท.อ้วน" สายอำนาจของพรรคเพื่อไทย มานั่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก็เกิดการโยกย้ายตำแหน่งสำคัญของกระทรวงมหาดไทยทันที ซึ่งไม่รู้ว่า บังเอิญหรือตั้งใจ?
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การย้ายทั้ง 2 คน เพื่อปรับสมดุลอำนาจ หรือลดบทบาทสายราชการเก่า หรือไม่ เพราะการโยกย้าย "นายไชยวัฒน์" และ "นายนฤชา" ออกจากตำแหน่งอธิบดี แม้ไม่ได้ลดชั้นตำแหน่ง แต่เป็นสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ว่า "สายราชการเก่า" ที่ไม่มีสายป่านยาวพออาจอยู่ต่อไม่ได้
การสลับให้นายนิรัตน์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการปกครอง เท่ากับควบคุมอำนาจบังคับบัญชาผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ขณะที่ "ร.ต.ท.ภพชนก" จากผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ขึ้นเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณไปยัง อปท. การเปิดโอกาสให้ 2 คนนี้ คือการสร้างเครือข่ายของเพื่อไทย
ที่สำคัญการปรับทัพในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะใน 2 กรมหลักอย่าง "ปกครอง" และ "ท้องถิ่น"เหมือนจะสะท้อนยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการสร้างความต่อเนื่องทางการเมืองด้วยการหา"ข้าราชการที่ไว้ใจได้" มาเป็นกำลังสำคัญ
ท้ายที่สุดการขยับเก้าอี้ครั้งนี้เป็นการปัดกวาดล้างบ้านตัวเอง เพื่อเอาสิ่งไม่ถูกไม่ควรออกไปเพื่อสร้างความสามัคคีเป็นปึกแผ่นในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือ เป็นการล้างบาง "สิงห์น้ำเงิน" ภูมิใจไทย ออกจากเส้นทางการเมืองที่จะนำไปสู่การบริหารแบบควบรวมให้พรรคเพื่อไทยสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้
...