“สม รังสี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา จี้รัฐบาลพนมเปญใช้ข้อตกลงสันติภาพปารีสแก้ปัญหาชายแดน จัดให้มีการประชุมฉุกเฉินโดยทันที ชี้ต้องใช้กรอบทำงานสากลป้องกันความเสียหายต่อชีวิตประชาชน ลั่นชาวบ้านทั้ง 2 ประเทศไม่ต้องการสงคราม
วันนี้ (27 มิ.ย. 2568) สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปสู่การเสียเลือดเนื้อ โดยการยื่นเรื่องให้ประธานร่วมของข้อตกลงสันติภาพปารีส เรียกประชุมฉุกเฉินที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมระบุว่า ประชาชนทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยไม่ต้องการสงคราม แต่ต้องการความสงบ ความมั่นคง และมั่งคั่ง
“ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการแก่ประธานร่วมของข้อตกลงสันติภาพปารีส เพื่อให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินที่ปารีสอย่างเร่งด่วน เราต้องกลับไปใช้กรอบการทำงานสากลที่เคยนำพาสันติสุขมาสู่ประเทศของเรา และใช้กลไกเดียวกันนี้ในการป้องกันความขัดแย้งที่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนนับล้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งชายแดน
เราต้องไม่ลืมว่า มีชาวกัมพูชาเกือบ 2 ล้านคนทำงานอยู่ในประเทศไทย พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ พวกเขาทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว หาเงินมาชำระหนี้ และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ตนเอง พวกเขาเหล่านี้ควรได้รับการปกป้องไม่ใช่การเสี่ยงภัย พวกเขาต้องการสันติสุขไม่ใช่เกมการเมือง
นี่คือเวลาของการเป็นผู้นำ เวลาแห่งความเห็นอกเห็นใจ และเวลาสำหรับการลงมือทำ
ดังนั้นในนามของสันติภาพ ประชาชน และจิตวิญญาณของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในภูมิภาค ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลพนมเปญยื่นเรื่องให้มีการจัดการประชุมปารีสฉุกเฉินโดยทันที เพื่อให้ความขัดแย้งนี้ได้รับการแก้ไขอย่างสันติ ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามเจตจำนงของชาวกัมพูชาและชาวไทย”
...
ทั้งนี้ ข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เป็นข้อตกลงสำคัญในการนำสันติภาพมาสู่กัมพูชา ยุติสงครามกลางเมืองและการต่อสู้ของฝ่ายต่างๆ โดยมีประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมลงนามด้วย และในนั้นมีประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในกัมพูชา และประธานร่วมของข้อตกลงฉบับนี้คือ ฝรั่งเศส และอินโดนีเซีย ที่เคยมีบทบาทในการจัดกระบวนการเจรจา เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้งกันในกัมพูชาและประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง