บอสเตย ปริศนาบัญชีลับวัดไร่ขิง จากห้องเช่าข้างวัด สู่ธุรกิจ 100 ล้าน ตร.แกะรอยเส้นเงิน พบเงินบริจาคไม่เข้ามูลนิธิโรงพยาบาล
คดีวัดไร่ขิง หลังจับกุมอดีตเจ้าอาวาสและสาวคนสนิทที่มีเส้นเงินเชื่อมโยงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีได้พยายามสืบหาเบาะแสจนพบตัวละครลับอย่างบอสเตย ที่เป็นตัวขับเคลื่อนทางการเงินสำคัญภายในวัด และพบเงินของวัดไหลเวียนมายังบัญชีของเธอ
โดยเฉพาะเงินทำบุญภายในวัดไร่ขิง ที่มีตู้ทำบุญทั่วบริเวณวัดกว่า 185 ตู้ เฉลี่ยมีเงินทำบุญไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท/วัน ซึ่งเงินทำบุญเหล่านี้มีการไหลเวียนไปยังบอสเตย เบื้องต้นตำรวจพยายามตามหาบอสเตยและสามี แต่ยังเก็บตัวเงียบ ตัดการติดต่อกับคนรอบข้างทุกช่องทาง โดยพบว่าทั้งคู่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ในความครอบครองจำนวน 23 คัน จำนวนนี้มีรถยนต์หรู จำพวก Mercedes Benz, BMW, Mini Cooper, Hyundai จำนวน 6 คัน
มีที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง รีสอร์ท คาเฟ่ร้านกาแฟอีกหลายแห่งในพื้นที่มุกดาหาร, เชียงใหม่ และสุโขทัย รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และมีธุรกิจค่ายเพลง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าทรัพย์ทั้งหมดที่หมอเตยและสามีครอบครอง มีที่ไปที่มาอย่างไร เกี่ยวข้องกับเงินวัดไร่ขิงที่ถูกนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสยักยอกหรือไม่
...
ข้อมูลจากการตรวจสอบประวัติบอสเตย พบว่าเดิมทีเช่าห้องพักอาศัยอยู่ข้างวัด จนต่อมาปี 2551 ทิดแย้มถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง บอสเตยจึงเริ่มเข้าไปตีสนิท กระทั่งกลายเป็นคนที่ทิดแย้มไว้วางใจ ให้ทำหน้าที่คอยช่วยเป็นหูเป็นตาภายในวัด หลังจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งคู่เริ่มมีฐานะร่ำรวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังได้รับแจ้งข้อมูลจากคนใกล้ชิดของบอสเตย และสามี
หลังจากที่คดียักยอกเงินวัดไร่ขิงถูกขุดคุ้ยตีแผ่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ นั้น ทั้งคู่ก็เริ่มเก็บตัวเงียบ รวมถึงตัดขาดการติดต่อกับคนใกล้ชิดทุกช่องทางมาประมาณ 2-3 วัน อีกด้วย
ตู้รับบริจาค รพ.เมตตาประชารักษ์
มีรายงานว่าในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์เคยได้รับเงินสนับสนุนเงินผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ ทั้งด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564-2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี ทางโรงพยาบาลได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม ที่มีนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสเป็นประธานมูลนิธิ และผู้มีอำนาจเบิกถอน จึงได้ขออนุญาตจากคณะกรรมการวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ เพื่อรับเงิน
โดยทางโรงพยาบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินจากตู้บริจาคเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิฯ และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน ส่วนการตรวจสอบบัญชีอื่นของวัด พบว่ามีบัญชีธนาคารที่ถูกเปิดในชื่อบัญชีพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเพิ่มเติมอีกหลายบัญชี นอกเหนือจาก 3 บัญชีที่ใช้กล่าวหาไปก่อนหน้านี้ พบเงินคงเหลือในบัญชีรวมกันแล้วกว่า 1 ล้านบาท มีการโอนเงินเข้าออกบัญชีหลายรายการที่เป็นที่สงสัย