สนามเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ กำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ โดยแบ่งเป็น การเลือกตั้งบัตร 1 ใบ เลือกเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) เพราะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีไปก่อนแล้ว และการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ คือ เลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับการเลือกตั้ง อบจ. ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีทั้งการเลือกตั้ง 1 ใบ และ 2 ใบคล้ายกัน แต่การปกครองทั้ง 2 รูปแบบ ยังมีความแตกต่างกันอยู่
สำหรับระดับของการปกครอง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ใน 1 จังหวัด จะมีเพียง 1 แห่งเท่านั้น แต่เทศบาล จะมีหลายแห่งได้ ไม่ว่าจะเป็น เทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล เรียงลำดับจากขนาดใหญ่มาสู่ขนาดเล็ก
ด้านโครงสร้างการบริหารนั้น มีฝ่ายบริหารที่มีตำแหน่งเป็น “นายก” เหมือนกัน และฝ่ายนิติบัญญัติ ที่เป็น “สมาชิกสภา” เหมือนกัน ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งนั้น ก็ต่างมาจากการเลือกตั้งด้วย และดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปีเท่ากัน
ส่วนขอบเขตอำนาจนั้น อบจ. จะมีหน้าที่วางแผนและพัฒนาท้องถิ่นระดับจังหวัด รวมทั้งสนับสนุนการศึกษา สาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ขณะที่เทศบาล ส่วนมากจะเป็นการให้บริการสาธารณะในพื้นที่ อาทิ การจัดการขยะ น้ำประปา ถนน และสวนสาธารณะ รวมทั้งพัฒนาชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น
...
โดย อบจ. หลายแห่ง มักจะมีความเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติมากกว่า ผู้สมัครในตำแหน่งนายก มักจะมีความเกี่ยวข้อง หรือได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง ดังที่จะเห็นได้จากการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2568 ที่ผ่านมา ส่วน เทศบาล ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง แม้จะมีบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น