17 ต.ค. 66 ราหูโคจร จากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน ทำให้ผู้ที่เกิดในราศีกันย์และราศีมีน มีเกณฑ์จะได้รับผลร้าย ในทางโหราศาสตร์โบราณ การย้ายของราหู มีเคล็ดลับการไหว้ที่ไม่สลับซับซ้อน เป็นวิธีในการสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงการพกเครื่องลางเช่น กะลาตาเดียว หรือยันต์ ที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน

อัมรินทร์ สุขสมัย ผู้ศึกษาด้านโหราศาสตร์และไสยเวท กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ว่า ตามตำราโบราณการย้ายของราหู ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ขึ้นกับดวงชะตาของรายบุคคลที่ต้องมีการตรวจสอบว่าใครได้รับผลกระทบ เพราะการย้ายของราหูมีทั้งผลดีและเสีย ดังนั้น คนสมัยก่อนมักไม่ค่อยตื่นตัวกับการไปไหว้พระราหู

“การไหว้ราหู ที่มีการบอกว่าต้องไหว้ด้วยของดำ 8 อย่าง และไหว้วันพุธ ช่วงกลางคืน เป็นพิธีกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นในพักหลัง แต่ในอดีตไม่มี ความเชื่อเรื่องไหว้ของดำ มีประเทศไทยแห่งเดียว แต่การไหว้ก็เหมือนการไหว้เทพอย่างหนึ่งตามความเชื่อ”

...

การไหว้ราหูตามตำราโบราณของภาคกลาง มีการตั้งโต๊ะไหว้ โดยใช้มะพร้าว กล้วย อ้อย นำมาวางให้เป็นรูปร่างของคน ซึ่งกล้วยนำมาวางเรียงเป็นแขนและขา อ้อยมาแทนส่วนลำตัว กะลามะพร้าวมาแทนส่วนศีรษะ ตามหลักของไสยศาสตร์ใช้กะลาตาเดียว ที่เป็นตัวแทนของการเกิดคราสของราหู เพราะเมื่อมองผ่านลอดกะลาตาเดียว มีลักษณะจันทระและสุริยะกำลังถูกกลืนกินด้วยราหู

บนโต๊ะมีเครื่องเซ่นไหว้อื่นที่หาได้จากท้องถิ่น และมีบทสวดตามแบบโบราณ ที่ใช้ในการรับ-ส่งราหู เพื่อนำเคราะห์ทั้งหมดลงไปในเครื่องสังเวย ที่จำลองเป็นรูปคน หลังจากเสร็จพิธี เอาเครื่องสังเวยไปวางบนทางแยกหรือลอยน้ำ ซึ่งเป็นพิธีกรรมส่งเคราะห์

การทำพิธีกรรมโบราณ จะทำเฉพาะคน ไม่ใช่การนำของเซ่นไหว้มาสวดรวมกันอย่างที่กระทำกันอยู่ ที่สำคัญบทสวดที่ใช้ไม่ใช่บทสุริยะประภา จันทรประภา อย่างที่แพร่หลายปัจจุบัน เพราะบทสวดเหล่านี้เมื่อแปลเป็นภาษาไทย ความหมายของบทสวดจะเป็นคนละแบบกับตำราโบราณ

คนโบราณทำการบูชาราหู เมื่อเกิดปรากฏการณ์สุริยคราส ที่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น ถ้ามีราหูอมจันทร์ที่เชียงใหม่ ต้องทำในพื้นที่นั้น ถ้าไม่เกิดก็ไม่สามารถทำได้ แต่อย่างครั้งนี้สุริยคราส ไปเกิดในพื้นที่อีกซีกโลก ตามตำราโบราณจะไม่มีการทำพิธี

การแก้เคล็ดตามตำราโบราณ หากราหูเคลื่อนเข้ามาสู่ดวงชะตา ให้ทำบุญหรือสังฆทาน ไถ่ชีวิตสัตว์ อุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรและพระราหู
ขณะเดียวกันในหมู่นักไสยเวทโบราณ ใช้ยาจินดามณี ในการกิน หรือพกติดตัว ส่วนคนทั่วไปพกเครื่องลาง เช่น กะลาตาเดียว เพราะเชื่อว่ากะลาตาเดียวเป็นตัวแทนของราหู เมื่อมีติดตัวแล้ว จะช่วยป้องกัน รวมถึงพกยันต์โสฬส ยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ทั่วไปที่หลายคนมองข้าม

ทั้งนี้ ยันต์ในยุคสมัยนี้ หลายสำนักรุ่นใหม่ มักนำยันต์หลายอันมารวมกันไว้ในที่เดียว ซึ่งตำราโบราณถือเป็นข้อห้าม เพราะยันต์บางชนิดเน้นเมตตา แต่อยู่รวมกับยันต์มหาอุด ซึ่งให้พุทธคุณขัดแย้งกัน

ดังนั้น การไหว้ขอพรราหู คนที่ต้องการไหว้สามารถไหว้ได้ แต่ต้องคำนึงถึงศักยภาพกำลังทรัพย์ตนเอง ไม่ควรใช้เงินจนเกินตัวในการซื้อของเซ่นไหว้ เพราะอาจถูกหลอกลวงจากผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์จากพิธีกรรมนี้.