ทนายเกิดผล แก้วเกิด ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เตรียมนำพระเครื่องที่เก็บสะสมไว้ มาเปิดประมูล เพื่อหาเงินตั้งมูลนิธิด้านกฎหมาย ช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ได้รับความเดือดร้อน หลังต้องแบกรายจ่ายหลายหมื่นบาทต่อเดือน ในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ขณะเดียวกันตนเองมีรายจ่ายในการรักษาโรคไตระยะสุดท้าย
ภายหลัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ออกมาโพสต์ถึงการหาทุนในการจัดตั้งมูลนิธิ ช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนด้านกฎหมาย มีผู้เข้ามากดถูกใจกว่า 4 พันคน ในเนื้อความระบุว่า ตามที่ผมเคยโพสต์ว่า ผมกำลังดำเนินการในการเตรียมจัดตั้งมูลนิธิด้านกฎหมาย มีวัตถุประสงค์ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ช่วยเหลือประชาชน และสังคม ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกรังแก ไร้หนทางต่อสู้ทางด้านกฎหมาย ตลอดจนการส่งเสริม และให้ความรู้กับประชาชนด้านกฎหมาย
ตอนนี้ผมกำลังระดมทุนหาเงิน เพื่อจัดตั้งมูลนิธิ โดยใช้เงินส่วนตัวของผมเอง แต่เนื่องจากผมป่วยหนัก เงินส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการใช้รักษาตัว และทำงานได้น้อยลง จึงต้องหาวิธีรวบรวมเงินใหม่ เพราะการก่อตั้งมูลนิธินั้น ตามระเบียบ กฎหมายให้มี ทุนเป็นเงินก่อตั้ง อย่างต่ำ 200,000 บาท โดยไม่รวมทรัพย์สินอื่น เช่น สำนักงาน, อุปกรณ์สำนักงาน, บุคลากร ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งผมเก็บได้บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ
...
จึงนำวัตถุมงคล เช่นพระเครื่องทองคำ (หลวงพ่อรวย, หลวงพ่อพัฒน์) เครื่องรางต่างๆ นำมาประมูล ระดมทุนในการจัดตั้งมูลนิธิ อาจไม่มาก แต่พอรวบรวมให้ความฝันผมสำเร็จได้เร็วขึ้น เราจะได้มีมูลนิธิกฎหมาย ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ให้เขาพ้นทุกข์
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ให้ข้อมูลว่า เดิมทีการช่วยเหลือผู้ยากไร้ในทางกฎหมาย จะช่วยด้วยตัวเอง โดยมีการออกทุนทรัพย์ส่วนตัว แต่ด้วยระยะหลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เลยต้องไปติวน้องๆ ที่เริ่มการว่าความ มาช่วยในการว่าความ ซึ่งช่วงที่เริ่มป่วยด้วยโรคไตอย่างหนัก มีความคิดว่าถ้ามัวแต่รอเก็บเงินเพื่อตั้งมูลนิธิ นานเข้าอาจสายเกินไป
“ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้เกรงใจ เลยอยากหาทุนในการจัดตั้งสมาคม เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้วยตัวเอง การตั้งเป็นมูลนิธิ มีความชัดเจนตรวจสอบได้ เป็นการช่วยเหลือให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ผมเองก็ป่วยจะตายวันตายพรุ่งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เลยอยากทำสิ่งนี้ เพื่อเป็นกุศลแก่ตนเองและผู้คนในสังคม”
ด้วยความที่แต่ละคดี ที่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ต้องใช้เวลา เฉลี่ยการช่วยเหลือด้านคดีต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ที่ผ่านมามีเคสที่ช่วยเหลือเดือนละ 2-3 ราย ส่วนใหญ่เป็นคดีอาญา เช่น ถูกกลั่นแกล้ง เจ้าหน้าที่ผู้มีอิทธิพลทำร้าย
“เบื้องต้นจะมีการประมูลพระเพื่อสมทบทุน โดยพระบางส่วนมีผู้ที่ร่วมนำมาให้ประมูล เพราะอยากช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน คาดว่าอีก 2-3 วัน จะนำพระโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อร่วมสมทบทุน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการให้ช่วยเหลือด้านกฎหมาย อยากให้รอจัดตั้งมูลนิธิ เนื่องจากสภาพร่างกายที่ป่วย เลยทำให้ทำงานไม่สะดวกเหมือนก่อน ขณะเดียวกันการตั้งเป็นมูลนิธิจะมีน้องๆ ทนายความจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือได้ครอบคลุมมากขึ้น”