การสูญหายใต้ทะเลลึกของเรือดำน้ำ "ไททัน" (Titan) ระหว่างพานักท่องเที่ยว 5 ชีวิต ลงสำรวจซากเรือไททานิก กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ตอนนี้ทุกคนยังเฝ้ารอการค้นพบ เป็นเหมือนปริศนา ถึงผ่านเวลามายาวนาน แต่ใต้ท้องทะเลในความลึก 3,800 เมตร ยังเต็มไปด้วยการค้นพบใหม่ๆ แม้หลายชีวิตจะจมดิ่งไปพร้อมกับซากเรืออันหรูหรา

การสูญหายของเรือดำน้ำ "ไททัน" (Titan) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. 2566 สร้างความประหลาดใจให้กับทีมค้นหา เพราะเรือดำน้ำเอกชน สัญญาณขาดหายระหว่างพานักท่องเที่ยว ดำดิ่งชมซากเรือไททานิก กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ผู้ที่อยู่ในเรือดำน้ำอาจกำลังเหน็บหนาวไปพร้อมกับออกซิเจนในเรือดำน้ำ ค่อยๆ หมดลง อาจเป็นอีกประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเรือไททานิก ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ ทันสมัยของโลกในยุคนั้น จมดิ่งอย่างที่หลายคนไม่คาดคิด และยังเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ดำมืดใต้ทะเลลึกมาถึงปัจจุบัน

...

เรือไททานิก จมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติด เมื่อ 15 เม.ย. ค.ศ.1912 ระหว่างการเดินทางเที่ยวแรก หลังชนภูเขาน้ำแข็ง มีผู้เสียชีวิตถึง 1,514 ศพ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เพราะเด็กและผู้หญิงจะลงเรือเล็ก เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือก่อน แม้ไททานิกจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือที่ทันสมัยในยุคนั้น มีห้องอาหาร และคลับบาร์หรูหรา แต่เสื้อชูชีพบนเรือกลับมีไม่เพียงพอ เมื่อเกิดเหตุชนภูเขาน้ำแข็ง จึงมีผู้เสียชีวิตท่ามกลางมหาสมุทรอันเหน็บหนาวจำนวนมาก

หลังจากไททานิกจมลง มีการตั้งคำถามมากมายภายใต้ทะเลอันดูเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งอันตราย เพราะโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เกิดจากเรือไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ แม้ไม่ได้ชนเข้าอย่างจัง แต่รอยถากฉีกขาดบนตัวเรือ ทำให้ระบบทำงานใต้ท้องเรือเสียหาย ประกอบกับก่อนการเดินทางมีเหตุไฟไหม้จุดที่ใกล้ห้องเครื่อง ทำให้จุดนี้เป็นส่วนที่น้ำทะเลท่วมเข้ามาโดยง่าย จนทำให้เรือขนาดใหญ่ ที่มีคนให้ฉายาว่า "ไม่มีวันจม" กลับดำดิ่งหายไปพร้อมกับอีกหลายชีวิต

การสืบหาสาเหตุการจมเรือไททานิก กลายเป็นมหากาพย์เรื่องยาว เพราะลูกเรือบางคนก็เสียชีวิต แม้สวมเสื้อชูชีพ เนื่องจากอากาศที่หนาว การแช่น้ำทะเลที่มีอุณหภูมิติดลบเป็นเวลานาน ทำให้พบศพผู้เสียชีวิตลักษณะนี้จำนวนมาก หรือกระทั่งผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง ที่เป็นชายมีฐานะร่ำรวย ได้ลงเรือขนาดเล็กมา ทั้งที่ผู้ชายส่วนใหญ่จะเสียสละให้ผู้หญิงและเด็กลงเรือเล็กก่อน โดยชายดังกล่าวยืนยันว่า เขาลงเรือเล็กเป็นลำสุดท้าย ไม่ได้ปลอมเป็นผู้หญิง หรือใช้เส้นสายในการเอาตัวรอดอย่างที่หลายคนคิด

เช่นเดียวกับลักษณะการจมของเรือ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ด้วยความเสียหายของห้องเครื่องอย่างหนัก มีความเป็นไปได้ว่าเรือจะหักเป็นสองท่อน แล้วดำดิ่งลงใต้ทะเล แต่วันเวลาค่อยๆ คลายความสงสัย นำมาสู่การตั้งข้อสันนิษฐาน ที่หลายคนเชื่อว่า เรือไททานิก จมลงสู่ก้นทะเลทั้งลำ ไม่ได้หักเป็นสองท่อนอย่างที่หลายคนคิด

ศกนาฏกรรมไททานิก แม้ซากเรือจมลึกมาเป็นเวลานาน แต่มีการสำรวจค้นพบสิ่งของมีค่าของคนบนเรือจำนวนมาก นำมาสู่ความสงสัยของผู้คนทั่วโลก จนบริษัทเอกชนมีการพานักท่องเที่ยวดำดิ่งไปสำรวจด้วยเรือดำน้ำ เพื่อไปชมซากเรือดังกล่าว เช่นเดียวกับเรือดำน้ำไททัน ที่คนทั่วโลกยังภาวนาว่าจะเจอผู้สูญหาย และไม่อยากให้เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนไททานิก.

...