ญาติคาใจ กรณีลุงวัย 64 ชาวสิงห์บุรี เสียชีวิต หลังเข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นโรคตับแข็ง หมอวินิจฉัยให้ถอนฟัน 12 ซี่ แต่เลือดไหลไม่หยุด หมอผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ ต้นเหตุต้องถอนฟันมาจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะอาการฟันผุ ที่กระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้
กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา คุณลุงได้เข้าทำการรักษาด้วยโรคตับแข็ง และโรงพยาบาลแจ้งว่าติดเชื้อ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ วันที่ 23 พ.ค. ทางโรงพยาบาลแจ้งว่ามีฟันพุ 12 ซี่ ต้องไปถอนฟัน โดยถอนฟันรอบแรก 7 ซี่ รอบสอง 5 ซี่ รวมเป็น 12 ซี่ ต่อมาคนไข้มีอาการเลือดไหลไม่หยุด จนเสียชีวิต ทำให้ญาติมีข้อสงสัยในการรักษา ขณะนี้กรณีดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิเคราะห์กรณีนี้ว่า การรักษาผู้ป่วยบางโรคมีความจำเป็นต้องถอนฟันออกมากขนาดนี้ สาเหตุการเสียชีวิตของคนไข้รายนี้ ตามประวัติเป็นโรคตับแข็ง ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้มีสภาวะเลือดไหลไม่หยุด
“การถอนฟันผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ปัญหาคือ ถอนฟันแล้วเลือดไหลไม่หยุด มีโอกาสเสียชีวิตจากภาวะช็อกจากการเสียเลือดมาก ดังนั้น ต้องมีการตรวจสอบการดำเนินการในการห้ามเลือด ว่ามีการทำที่ถูกต้องเหมาะสม ต่อสภาวะอาการป่วยของคนไข้หรือไม่”
โรคตับแข็งมีผลทำให้คนไข้มีภูมิคุ้มกันต่ำ และเกิดโรคแทรกซ้อนตามมา ดังนั้น การเสียเลือดจำนวนมาก เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการทำงานของอวัยวะผิดปกติ จนคนไข้เสียชีวิตได้ แต่สิ่งสำคัญเมื่อคนไข้เข้ามายังโรงพยาบาลแล้ว หน้าที่การสังเกตความผิดปกติของคนไข้ เป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ กรณีนี้เป็นการถอนฟันเพื่อเตรียมรักษา คนไข้ต้องอยู่โรงพยาบาลรอการรักษา ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ ต้องมีไหวพริบ ดูความผิดปกติของคนไข้ หากคนไข้มีความเสี่ยง เกิดอันตราย ควรดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด
...
สำหรับผู้ป่วยที่ต้องทำการถอนฟันในการรักษา มีด้วยกันดังนี้
- ผู้ป่วยมีฟันผุหลายซี่ มีส่วนเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตในกรณีนี้ แต่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยโรคตับแข็ง ที่อาจมีผลทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง จากบริเวณช่องปากมาสู่อวัยวะภายใน จนทำให้ต้องถอนฟัน แต่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยพบอาการเหล่านี้ จึงต้องรอผลชันสูตรของแพทย์ ว่ามีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องถอนฟันคนป่วย
- ผู้ป่วยมะเร็งบริเวณใบหน้า ลำคอ ศีรษะ หากคนไข้มีความจำเป็นต้องฉายแสง แพทย์จะตรวจสอบฟัน เพราะถ้าฉายแสงไปแล้วมาถอนฟันภายหลัง มีโอกาสเกิดการติดเชื้อ จนมีภาวะลุกลามไปถึงสมอง กลายเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของคนไข้ โดยเฉพาะคนไข้ที่มีอาการฟันผุ จำเป็นต้องถอนออก บางรายต้องถอนฟันออกหมดทั้งปาก เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อที่ตามมา แต่การถอนฟันมากขนาดนี้ หมอจะมีการนัดถอนวันละ 2-3 ซี่ บางรายเร่งด่วนต้องถอนครั้งละ 20 ซี่ ส่วนใหญ่หมอทำการถอนฟัน ก่อนไปฉายแสงประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้แผลในปากหายสนิทก่อน
- คนไข้กลุ่มที่ต้องผ่าตัด เช่น โรคหัวใจ ผ่าตัดลิ้นหัวใจเทียม มีโอกาสเกิดการติดเชื้อจากช่องปากลงมาถึงลิ้นหัวใจได้ ดังนั้น ถ้าผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน จำเป็นต้องถอนออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ