สนั่นโลกโซเชียล เมื่อเจ้าสำนักพราหมณ์รายหนึ่งใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อ้างตำราโบราณเยียวยาผู้คน ทำรูปปั้นอวัยวะเพศชาย-หญิง ให้คนกราบไหว้ พิธีกรรมปลดล็อกเจ้ากรรมนายเวร ทำให้หน่วยงานในพื้นที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ ขณะผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนา มองว่าเป็นการสร้างความเชื่อ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์
หน่วยงานปกครองในพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบ สำนักพราหมณ์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และพบเจ้าสำนักหญิงรายหนึ่ง โกนศีรษะ สวมเสื้อผ้าชุดไทย เรียกตนเองว่าแม่พราหมณ์ อ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญตำราโบราณ เพื่อรักษาเยียวยาจิตใจผู้หญิงที่ประสบทุกข์ เป็นความเชื่อเรื่องแก้กรรม จากการทำแท้งของผู้หญิง ที่เป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต หากินไม่ขึ้น ที่ผ่านมามีผู้มีจิตศรัทธา มาถือศีล อาบน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ เสียค่าทำพิธีคนละ 500 บาท
อัมรินทร์ สุขสมัย ผู้ศึกษาด้านพุทธศาสนา วิเคราะห์กรณีที่เกิดขึ้นว่า เดิมศาสนาพราหมณ์ฮินดู มีการกราบไหว้ โยนี และ ศิวลึงค์ มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดทุกสิ่งบนโลก แต่ลักษณะรูปปั้นแบบดั้งเดิม ไม่มีลักษณะชัดเจน เหมือนกับที่สำนักพราหมณ์แห่งนี้ทำขึ้นใหม่ให้มีลักษณะเหมือนจริง ทำให้อุจาดตา
...
“สมัยก่อนในอินเดียบางเมือง มีการวาดภาพอวัยวะเพศ ที่มีลักษณะเหมือนของจริงติดไว้บริเวณกำแพงบ้าน เพราะเชื่อว่าจะทำให้บ้านนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่ได้มองว่าเป็นของต่ำ พอความเชื่อเหล่านี้เข้ามาในไทย กลับถูกตีความให้เป็นเรื่องเพศ และเรื่องรักใคร่ ที่ผิดไปจากหลักความเชื่อเดิม และก็มีคนนำความเชื่อเหล่านี้ ไปแสวงหาผลประโยชน์”
ความเชื่อเป็นสิ่งที่เป็นรสนิยมของแต่ละบุคคล แต่กรณีที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการโฆษณาที่เกินจริง ทำให้เกิดความลุ่มหลง จนคนเกิดความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งที่เนื้อหาเดิมในการบูชาศิวลึงค์ ไม่ได้ต้องการให้เกิดกิเลส แต่มองไปถึงหลักปรัชญา
“การนำหลักคิดเดิมของศาสนาอื่นๆ มาดัดแปลงเป็นพิธีกรรม หรือกระตุ้นความอยากมี อยากได้ของคน เนื่องจากมีการโปรโมตถึงการมาไหว้สิ่งเหล่านี้จะร่ำรวย หรือสมหวังทางเพศ จึงเป็นการสร้างสิ่งยั่วยวน เพื่อให้เกิดกิเลสในเรื่องนั้น แล้วกลายมาเป็นจุดขาย ทั้งที่อาจไม่ได้ผลจริง เลยทำให้คนเกิดความลุ่มหลง แทนที่จะมองด้วยเหตุและผล”
ยิ่งการที่เจ้าสำนัก มีลักษณะคล้ายนักบวช เช่น การโกนผม ทำให้เกิดแรงเสียดทาน และมีการวิจารณ์จากสังคมที่รุนแรง โดยเฉพาะตัวเจ้าสำนักบอกว่าตนเองเป็นนักบวช ยิ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบ จนเกิดการด้อยค่าคนที่เชื่อ กรณีที่เกิดขึ้นมีการนำหลักของศาสนาพุทธ มารวมกับพิธีแบบพราหมณ์ เพื่อให้คนเข้าถึงง่าย
หากอ้างว่าเป็นพราหมณ์ ในอินเดียจะห้ามไม่ให้ผู้หญิงประกอบพิธีกรรม เพราะผู้ที่ประกอบพิธีกรรมได้จะเป็นผู้ชาย และต้องได้รับการแต่งตั้ง มีข้อปฏิบัติตามหลักอย่างชัดเจน แม้ผู้หญิงจะเกิดในวรรณะพราหมณ์ ก็ไม่มีสิทธิประกอบพิธีกรรม ขณะเดียวกัน การโกนหัวในพราหมณ์ จะไม่มี เพราะการโกนผมเป็นการออกจากวรรณะ
ลักษณะที่เกิดขึ้นมีการนำทั้งความเชื่อแบบพุทธและพราหมณ์ มาผสมรวมกันแบบบิดเบี้ยว ซึ่งมีผู้ที่มาแสวงผลประโยชน์ในลักษณะนี้จำนวนมาก เพราะถ้าคนนั้นไม่ใช่นักบวช สำนักพุทธก็ไม่สามารถลงโทษได้ เลยกลายเป็นช่องว่างในการหาผลประโยชน์ และสร้างความงมงายบิดเบือนในสังคมไทย
อยากเตือนประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเลือกเชื่ออะไร ไม่ควรหลุดไปจากหลักคิดของไตรสรณคมน์ ศาสนาพุทธไม่ปิดกั้นในความเชื่อ สามารถเชื่อในศาสนาพุทธ และกราบไหว้ในสิ่งอื่นได้ แต่ต้องอยู่ในหลักคิดที่เป็นเหตุผล ซึ่งกันและกัน.
...