ไซยาไนด์ สารอันตราย มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ กรณีดาราสาวมีการสั่งซื้อ โดยอ้างว่านำไปกำจัดสัตว์เลื้อยคลาน แต่จะส่งผลกระทบทำให้มีอันตรายกับคนได้ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า เป็นแนวความคิดที่ผิด อันตรายต่อผู้อยู่อาศัย เพื่อนบ้าน จึงแนะนำการป้องกันสัตว์อันตรายที่เข้ามาในบ้านอย่างถูกวิธี
จ.ส.ต.ภิญโญ พุกภิญโญ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญการ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การใช้ไซยาไนด์ เพื่อกำจัดสัตว์มีพิษถือเป็นเรื่องที่อันตราย และไม่มีใครทำ เสี่ยงที่คนในบ้านและสัตว์เลี้ยงได้รับสารพิษ ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านจะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากไซยาไนด์ มีพิษจากการสัมผัส สูดดม หากสารพิษผสมลงไปในแหล่งน้ำ ท่อระบายน้ำ ส่งผลต่อมนุษย์ และสัตว์ในธรรมชาติ
“สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาคือ มนุษย์ต้องพยายามปรับตัว เนื่องจากบ้านอาจไปอยู่ในพื้นที่ สัตว์เหล่านี้ผ่านประจำ หรือภายในบ้านมีสัตว์เลี้ยง เป็นตัวนำทำให้สัตว์มีพิษเข้ามา ดังนั้น คนที่ต้องการจะซื้อบ้านในฝันที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องยอมรับให้ได้ว่ามีความเสี่ยงจากสัตว์มีพิษ หากยอมรับความเสี่ยงนี้ไม่ได้ ควรย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองให้มากขึ้น หรือย้ายไปอยู่ในคอนโดฯ แทน”

...
สำหรับการป้องกันไม่ให้สัตว์มีพิษเข้าบ้าน ต้องมีการแก้ไขที่ตัวบ้านเป็นอันดับแรก โดยอุดรู หรือโพรงต่างๆ ของบ้าน ไม่ให้สัตว์มีพิษเข้าไปทำรัง โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นคอนกรีตของบ้านกับฐานราก เพราะบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ ไปสร้างในพื้นที่ธรรมชาติเดิม พออยู่ไปสักพักพื้นจะทรุด กลายเป็นแหล่งที่พักอาศัยของสัตว์มีพิษ
หากในบ้านมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว จะนำพาให้สัตว์มีพิษต่างๆ บุกเข้ามาในบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังๆ มีงูเหลือมบุกเข้าไปกินสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก ดังนั้นเจ้าของบ้านต้องทำการเลี้ยงสัตว์แบบระบบปิด เช่นในพื้นที่มีมุ้งลวดล้อมรอบ หรือวางกับดักในพื้นที่ก่อนจะเข้าไปถึงพื้นที่สัตว์เลี้ยง

สิ่งสำคัญในการลดประชากรสัตว์มีพิษ ตัวอย่างเช่นพื้นที่รามอินทรา เดิมมีงูเข้าบ้านจำนวนมาก แต่ช่วงหลังลดลง เพราะการเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ให้แจ้งเหตุ หากมีงูเข้าไปในบ้าน และให้ทีมงานไปจับงูอย่างถูกต้อง ทำให้ช่วงหลังๆ ประชากรงูเริ่มลดปริมาณลง
“อุปนิสัยของงู จะอยู่ในพื้นที่เดิม การที่มนุษย์เข้าไปตั้งบ้านจัดสรรทับที่ของงู ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ดังนั้นการแก้ปัญหาในเชิงรุกคือ เรียกเจ้าหน้าที่มาจับงูออกไปนอกพื้นที่ทุกครั้ง ขณะเดียวกันคนในชุมชนมีส่วนสำคัญ ช่วยกันสอดส่องจุดล่อแหลม ปิดกั้นจุดที่เป็นแหล่งอาศัยสัตว์มีพิษ ก่อนเข้ามาในบ้านคน”
จากประสบการณ์การจับงูในบ้านส่วนใหญ่ จะเก็บสะสมสิ่งของภายในบ้านจำนวนมาก ทำให้มีหนูเข้ามาอาศัยจำนวนมาก เพราะหนูเป็นอาหารของสัตว์มีพิษ ผิดจากบ้านที่ไม่รก จะมีงูเข้ามาในบ้านน้อย ดังนั้น การทำบ้านไม่ให้รกถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ด้านตัวเงินตัวทองเข้าบ้าน ส่วนใหญ่เป็นการพลัดหลงเข้าไปในที่พักอาศัย หรือหาอาหาร ตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ที่กลัวคน และไม่ชอบอยู่ในสถานที่มีการเคลื่อนไหวของผู้คน ยิ่งในบ้านมีการเลี้ยงสัตว์ มีตัวเงินตัวทองเข้าไปน้อยมาก ดังนั้นการแก้ปัญหา ต้องมีการปิดกั้นช่องว่างบริเวณรั้ว หรือโพรงใต้พื้นบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย
หากคนที่ซื้อบ้านอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่มนุษย์ต้องปรับตัว อยู่กับมันให้ได้ หรือต้องมีการสำรวจพื้นที่โดยรอบบ้าน จากการถามคนในพื้นที่ว่ามีสัตว์มีพิษจำนวนมากหรือไม่ แต่ถ้าซื้อบ้านแล้ว ทนกับสัตว์เหล่านั้นไม่ได้ ต้องขายหรือย้ายออก
ต่อให้โรยกำมะถันและปูนขาว ตามความเชื่อของหลายคนว่า ก็ไม่สามารถป้องกันสัตว์มีพิษเข้ามาในพื้นที่ได้ แต่ในความเป็นจริงงูยังเข้าไปในบ้านได้ และในทางกลับกัน เจ้าของบ้านจะได้รับสารเคมีในปริมาณสะสม เป็นผลร้ายต่อสุขภาพอีกด้วย.
...