นายทุนจีนหันมาเทกโอเวอร์ มหาวิทยาลัยในไทยหลายแห่ง เพราะนโยบายเปิดประเทศ และรองรับนักศึกษาจีน ที่สอบไม่ติดในมหาวิทยาลัยรัฐ ถ้าวิเคราะห์ค่าเรียน การยอมรับในสังคมจีน บริษัทส่วนใหญ่ ให้เครดิตนักศึกษาที่จบในต่างประเทศมากกว่า เลยทำให้นักศึกษาจีนที่สอบไม่ติดมหาวิทยาลัยรัฐ หันมาเรียนในต่างประเทศ
ดร.กัญจน์นิตา สุเชาว์อินทร์ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติจีน รองผู้อำนวยการสถาบันจีนไทย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ด้วยจีนเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้นักธุรกิจจีน นิยมลงทุนด้านการศึกษา หันมาเทกโอเวอร์ มหาวิทยาลัยในไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม
มหาวิทยาลัยที่นายทุนจีนมาเทกโอเวอร์ มีลักษณะการเข้ามาจัดการด้วยตนเอง ทำให้ทิศทางในการจัดการศึกษาเปลี่ยนไป เช่น ให้ทุนนักเรียนไทยเรียนภาษาจีนมากขึ้น แต่บางมหาวิทยาลัย นายทุนจีนเข้าไปถือหุ้น แต่ทีมผู้บริหารยังเป็นคนไทย
“หลายมหาวิทยาลัยที่นายทุนจีนเข้ามาซื้อ ระบบการจัดการศึกษายังเป็นไปตามกฎกระทรวงอุดมศึกษา เพียงแต่ทิศทางในการจัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยเปลี่ยนไป เช่น มีการส่งเสริมการเรียนภาษาจีนมากขึ้น เป็นผลดีต่อนักศึกษาไทย”
...
มหาวิทยาลัยที่มีการเทกโอเวอร์ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล นักลงทุนจีนเน้นพื้นที่ภูมิศาสตร์ ในการที่เดินทางสะดวก นักศึกษาจีนสามารถใช้ชีวิตได้สบาย และถ้าในพื้นที่นั้นมีชุมชนชาวจีนอยู่ จะได้รับความสนใจจากนายทุนเป็นพิเศษ
นักลงทุนจีน เน้นเจาะกลุ่มนักศึกษาจีนให้เข้ามาเรียนในไทย เพราะชาวจีนให้ความสำคัญกับการศึกษา ไม่ว่าครอบครัวจะมีฐานะยากจน หรือเป็นชาวนา ต้องให้ลูกเรียนให้จบ แต่ด้วยการแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจีนที่สูง ทำให้มีนักศึกษาบางส่วนสอบไม่ติด ซึ่งกลุ่มนักศึกษาจีนส่วนนี้ เริ่มมองหาที่เรียนในต่างประเทศ
ค่าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หรือภาคพิเศษในจีน มีค่าใช้จ่ายสูงเทียบเท่ากับมาเรียนในไทย ขณะเดียวกันค่านิยมของผู้ประกอบการชาวจีน รับพนักงานที่จบจากต่างประเทศมากกว่าคนที่จบมหาวิทยาลัยในภาคพิเศษ
โดยบางเมืองของจีน มีการออกกฎว่า ถ้านักศึกษาจบในต่างประเทศ กลับมาทำงานในเมือง มีโอกาสได้รับการลดหย่อนภาษีซื้อบ้านและรถยนต์
“ช่วงหลังนักศึกษาจีนเข้ามาเรียนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย โดยเฉพาะไทย ได้รับความนิยมรองลงมาจากมาเลเซีย ขณะที่สิงคโปร์ แม้มีมาตรฐานการศึกษาสูง แต่การใช้ชีวิตของนักศึกษาจีนยังมีข้อจำกัด”
ตัวอย่างนักศึกษาจีนที่มาเรียนในมหาวิทยาลัยรังสิต มีประมาณ 1,200 คน ส่วนใหญ่เรียนในหลักสูตรอินเตอร์ โดยนักศึกษาจีนที่มาเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับกลาง แต่มาเรียนเพิ่มเติมในไทย โดยคณะที่นักศึกษาจีนนิยมเรียนคือ การออกแบบสร้างสรรค์ เพราะที่ผ่านมาชาวจีนนิยมเรียนในด้านธุรกิจ ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยในจีนส่วนใหญ่ เปิดคณะบริหารธุรกิจ ทำให้มีแรงงานล้นตลาด ซึ่งชาวจีนรุ่นใหม่เริ่มมีความคิดที่เปลี่ยนไป
หากเทียบค่าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนและภาคพิเศษของจีนอยู่ที่ 5-8 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกับการมาเรียนที่ไทย ทำให้นักศึกษาจีนเลือกมาเรียนในไทยมากกว่า ต่างจากนักศึกษาที่สอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยได้ มีค่าใช้จ่ายการเรียนที่น้อย เฉลี่ยปีละ 4 หมื่นบาท เพราะรัฐบาลมีเงินสนับสนุนด้านการเรียน
การเข้ามาเทกโอเวอร์มหาวิทยาลัยในไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลดี ทำให้สถานศึกษาในไทยยังอยู่ได้ ในสภาวะที่มีประชากรรุ่นใหม่น้อย ขณะเดียวกันก็นำนักศึกษาจีนเข้ามา ทำให้มีเม็ดเงินด้านเศรษฐกิจมากขึ้น แต่หลายคนมีความกังวลว่า คนจีนจะมาแย่งอาชีพในไทย ซึ่งเป็นไปได้น้อย เพราะต้องมีใบอนุญาตทำงาน ขณะเดียวกันนักศึกษาชาวจีนส่วนใหญ่ เมื่อเรียนจบแล้วจะกลับประเทศ มีบางส่วนที่ต้องเดินทางติดต่อค้าขายในไทยอยู่.
...