กฎเหล็กวงการบันเทิงยุค 90 “เรื่องห้ามมีแฟน” เป็นเรื่องจริงหรือไม่? นักแสดงวัยรุ่นในยุคนั้นต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากความคาดหวัง และความหวงแหนอันมากล้นของเหล่าแฟนคลับ จนสุ่มเสี่ยงต่อการเสียสุขภาพจิตจริงหรือไม่ และความลับของซุปตาร์ยุค 90 เมื่อเวลาผันเปลี่ยนมาถึงปี 2566 ยังมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด วันนี้ “เรา” ไปร่วมรับฟังทัศนะจาก "พชร์ อานนท์" นักปั้นมือทองแห่งยุค 90 ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักแสดงวัยรุ่นในระดับตำนานของประเทศไทยหลายต่อหลายคน และเป็นผู้ที่ทำให้ “บันไดหน้าสยาม” กลายเป็นสถานที่สำคัญ สำหรับการแสดงความเฉิดฉายของเหล่าวัยทีน เพื่อเรียกร้องความสนใจจากบรรดาผู้คนในวงการบันเทิงไทย
“ขึ้นชื่อว่าเป็นดารา และเป็นดาราที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในความเห็นพี่คิดว่าไม่ว่าจะเป็นยุค 90 หรือ ยุคไหน ก็ต้องเผชิญหน้ากับความกดดันในแง่มุมต่างๆ เหมือนๆ กันนะ โดยเฉพาะเรื่องการมีครอบครัว” พชร์ อานนท์ เริ่มต้นการสนทนากับ “ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์”
ดารากับการมีครอบครัว :
“ไม่ว่าจะเป็นสมัยก่อนหรือสมัยนี้ สำหรับวงการบันเทิงไทย เมื่อไหร่ก็ตามที่ดาราเปิดเผยว่ามีครอบครัวแล้ว หากสังเกตดูดีๆ ส่วนใหญ่ชื่อเสียงก็มักจะค่อยๆ ซาลง งานก็ค่อยๆ น้อยลง ไม่เหมือนกับตอนที่ยังไม่ประกาศว่ามีครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะเป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย”
ครอบครัว ความประพฤติ ชื่อเสียง :
แม้การประกาศว่ามีครอบครัวอาจทำให้ชื่อเสียงลดน้อยลงบ้าง แต่หัวใจสำคัญที่จะทำให้ใครคนไหนสามารถยืนระยะต่อในวงการได้ มันก็มีอยู่หลายๆ ปัจจัย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ว่านี้ก็คือ “การประพฤติปฏิบัติตัวของนักแสดงด้วยเช่นกัน”
...
“ยกตัวอย่างเช่น นักแสดงวัยรุ่นที่อายุยังน้อยๆ เมื่อต้นสังกัดแนะนำว่า ยังไม่ควรมีจะมีครอบครัว ในมุมของพี่คิดว่า...มันก็เป็นเรื่องที่ควรจะรับฟังอยู่บ้างเหมือนกันนะ เพราะหากไม่เชื่อฟังข้อแนะนำกันบ้างเลย มันก็อาจส่งผลกระทบในด้านใดด้านหนึ่งได้เหมือนกัน มันก็เป็นเรื่องที่ควรใจเขาใจเรากันไว้บ้างเหมือนกัน
และแน่นอนหากนักแสดงคนนั้นไม่รับฟังข้อแนะนำ ที่สุดแล้วมันก็ต้องแยกทางกันไป ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการจะอยู่ในวงการบันเทิงได้ มันก็ต้องมีกฎมีเกณฑ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติตัวไปในทางที่ถูกที่ควร ไม่อย่างนั้นใครนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ แบบนั้นมันไม่ได้”
นักแสดงวัยรุ่น กับ การมีลูก :
ประเด็นหนึ่งที่นักแสดงวัยรุ่นมักจะเกิดปัญหา คือ “เรื่องการมีแฟน” แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไร เพียงแต่...ในอีกด้านของการทำงานจะบอกว่าไม่มีผลกระทบอะไรเลย มันก็คงไม่ใช่ทั้งหมดเช่นกัน
“พี่อยากให้มองอกเขาอกเรา หากสมมติเราเป็นเจ้าของบริษัทบันเทิงสักแห่ง มีดารานักแสดงวัยรุ่นในสังกัด มีการลงทุนมีวางแผนทิศทางการทำงานที่จะมุ่งไปเรื่องการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับวัยรุ่น แต่แล้วจู่ๆ นักแสดงวัยรุ่นที่เราวางแผนการทำงานอะไรต่างๆ เอาไว้ เกิดไปพลาดมีลูกขึ้นมา คำถามของเรื่องนี้ คือ นักแสดงคนนั้นจะสามารถทำงานตามแผนเพื่อขายกลุ่มวัยรุ่น ตามที่วางไว้ก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่า เพราะในความเป็นจริง...จากประสบการณ์ที่พี่ทำงานในวงการมานานหลายสิบปี บอกได้เลยว่า มันยากทั้งในแง่ของการขายและการโปรโมต เพราะในโลกจริงเขาเป็นคนที่มีลูกมีครอบครัวแล้ว จะให้ไปรับบทขายวัยรุ่น มันก็คงลำบากเหมือนกัน
อยากเป็นดารา หรืออยากจะมีลูก :
...
“สำหรับพี่จะพูดกับน้องๆ ในสังกัดอย่างชัดเจนว่า อยากจะทำงาน หรืออยากจะมีลูก หากคุณอยากจะทำงาน ก็ต้องระมัดระวังต้องรู้จักเซฟตัวเองให้ดีเพราะแฟนคลับคุณส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่คุณอยากจะมีลูก คุณก็คงต้องออกจากวงการ คือ พี่จะไม่ห้ามเรื่องการมีแฟน เพียงแต่ต้องรู้จักดูแลตัวเองและป้องกันตัวเองให้ดี”
ความดื้อรั้น กับ การแยกทาง :
“ของพี่นี่ จะมีกฎเหล็กเลย คือ หากสั่งห้ามอะไรไว้แล้วยังดื้อ ฝืนจะทำต่อไป พี่ก็จะตัดเลย ฉะนั้น กับบรรดาค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ในบ้านเราก็คงมีกฎเหล็กในลักษณะนี้เหมือนๆ กัน”
นักแสดงวัยรุ่นกับการมีแฟน :
“เอาล่ะ...พี่ไม่เถียงว่า การมีลูกไม่ใช่เรื่องแปลกและเป็นเรื่องธรรมชาติ หากแต่ในอีกด้านหนึ่ง อายุ วุฒิภาวะ สิ่งแวดล้อม และความเป็นปัจจุบันของคนเราในเรื่องของความพร้อมสำหรับการมีครอบครัว ย่อมมีความแตกต่างกัน ถูกต้องไหม
นอกจากนี้ จากประสบการณ์เท่าที่พี่ได้คลุกคลีมา นักแสดงวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้ชายส่วนใหญ่ หากมีแฟนเมื่อไหร่...งานมักจะเสีย อย่าพูดว่าไม่เสียไม่อะไร ส่วนใหญ่เสียแน่นอน มาทำงานสายบ้าง บางทีเบี้ยวไม่มาเลยก็มีเหมือนกัน
ส่วนการที่คนสมัยนี้มักจะพูดว่า มีแฟนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับพี่ ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ได้ เพราะคุณไม่ใช่คนที่จะเอาเขามาทำงาน”
...
ความหวงนักแสดงวัยรุ่นของเหล่าแฟนคลับ :
“ไม่ว่าจะเป็นยุค 90 ก่อนหน้านั้น หรือในปัจจุบัน ความรักของแฟนคลับที่มีต่อนักแสดงย่อมไม่แตกต่างกัน เรื่องแบบนี้มันมีมาทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่เรื่องการเข้าไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของนักแสดงแล้วเกิดปัญหาขึ้นมา มันจะเป็นข่าวตอนไหนก็แค่นั้นเอง”
เมื่อนักแสดงวัยรุ่นถึงคราวตกต่ำ :
“วงการบันเทิงมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ต้องตกลงมาแล้วเดือดร้อน มาขอความช่วยเหลือ พี่ก็ช่วยนะ...เพียงแต่พี่จะเลือกคนที่จะช่วย ช่วยใครได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ไม่ช่วย เพราะเราคงไม่จำเป็นต้องช่วยใครทั้งโลก หรือช่วยเหลือคนทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือจากเรา เราเลือกคนที่เราอยากจะช่วยเหลือได้ ซึ่งโดยหลักในเรื่องจะช่วยเหลือใครสำหรับพี่ พี่จะดูว่าคนนี้เป็นคนจริงใจไหม กะล่อนไหม ซึ่งพี่จะดูออกเพราะเราไม่ใช่เด็กๆ แล้ว นอกจากนี้อย่างบางคนตอนที่เขาดีๆ เขาก็ยังไม่เคยจะคิดถึงเราเลย พอตอนไม่ดีเขาจะมาคิดถึงเรามันก็คงไม่ถูกต้อง”
ฝากไว้ให้คิด :
“สิ่งที่พี่อยากจะฝากถึงนักแสดงวัยรุ่นในยุคนี้ คือ เอาล่ะ! มันเป็นสัจธรรมของทุกคนในเรื่องการมีครอบครัว แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อน คือ คุณมีความพร้อมมากแค่ไหน มีทุกสิ่งทุกอย่างแล้วใช่ไหม ถึงอยากจะเลี้ยงชีวิตคนทั้งคนที่คุณจะต้องเป็นคนที่เลี้ยงเขาไปตลอดชีวิตถ้าหากคุณเกิดมีลูกขึ้นมา
หากคุณคิดแล้วว่า....คุณยังไม่มีความพร้อมอย่างที่พี่ว่าไปนี้มากพอ เวลาคุณไปมีอะไรกับใคร คุณก็ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง รู้จักเซฟตัวเอง เพราะหากคุณเกิดไปมีลูกแล้ว คุณเอาตัวเองไม่รอด เด็กที่เกิดมาก็ต้องรับกรรม วงการบันเทิงไม่ได้ห้ามเรื่องการมีเมียมีลูก แต่หากคุณมีแล้วเอาตัวไม่รอด ก็อย่าเพิ่งมีเลยจะดีกว่าไหม ง่ายๆ แค่นี้เอง”
...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
น้องดอม หมูป่าฯ ที่อ่อนโยน ชีวิต ความฝัน และเส้นทางที่ขอเลือกเอง
สอยร่วงวัตถุบินปริศนา กับข้อสังเกต ตื่นข่าว UFO และมนุษย์ต่างดาว
วันแห่งความรัก เซ็กซ์ และ HIV การรักษาก้าวหน้า ทัศนคติล้าหลัง
หาว่าบ้า ลาออกหนุ่มแบงก์ เป็นเกษตรอินทรีย์ ขายข้าวตันละ 9 หมื่น-มีรายได้ทุกวัน