พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงที่เน้นย้ำการนำเสนอนโยบายที่มีจุดเด่นเรื่องการเข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ แต่ในเวลานี้อีกเรื่องหนึ่งที่พูดเหมือนกับหลายพรรคการเมือง คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน และความเหลื่อมล้ำ ที่เป็นโจทย์หลักของรัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศหลังเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างแน่นอน

พิธา มองว่าการเมืองหลังเลือกตั้ง มี 2 ปัจจัย สำคัญคือ ผลเลือกตั้งที่ต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม และรัฐธรรมนูญใหม่ที่ต้องมาจากประชาชน เพื่อปลดล็อกประเทศไทยไปในด้านที่ดี เพราะถ้าผลการเลือกตั้งกลับมาเป็นแบบเดิม อยู่ในรัฐธรรมนูญเดิมประเทศไทย ก็จะถอยหลังแน่นอน

สำหรับนักการเมืองหน้าใหม่ หากได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ พิธาบอกว่ามี 3 อย่างที่จะทำทันทีภายใน 100 วันแรก คือ 
1.การเยียวยาน้ำท่วมให้พี่น้องเกษตรกร
2.ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีฟื้น
3.อาศัยจังหวะค่าเงินบาทอ่อน เร่งฟื้นการ ท่องเที่ยว เน้นกระจายรายได้ท่องเที่ยวไปในเมืองรอง ไม่ให้กระจุกตัวเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดหลัก

นอกจากนี้การบริหารประเทศ นักการเมืองที่เข้ามาต้องกล้ารื้อระบบการจัดทำงบประมาณ เน้นการใช้งบเพื่อการสร้างคน รวมไปถึงนโยบายซอฟต์เพาเวอร์

อีกเรื่องที่สำคัญหากนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ สามารถแก้ไขได้จะทำให้คนขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไกล คือความเหลื่อมล้ำ ซึ่งพิธา อธิบายสภาพปัญหาได้อย่างเห็นภาพว่า ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นมีหลายชั้น และยังมีความเหลื่อมล้ำใหม่ที่เกิดขึ้น คือ ความเหลื่อมล้ำข้ามรุ่น ไปสู่รุ่นลูก

ปัญหานี้เสนอว่า ต้องมีรัฐสวัสดิการ เช่นการดูแลผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้รุ่นลูกมีกำลังที่จะออกไปเสี่ยง สร้างเศรษฐกิจใหม่ กล้าลองผิดลองถูก แต่ถ้าระบบรัฐสวัสดิการไม่มีในประเทศไทย คนก็จะไม่กล้าที่จะทำอะไร บางคนขอเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศที่ปลอดภัย ไม่กล้าที่จะคิด ไม่กล้าที่จะฝัน ไม่กล้าที่จะเสี่ยงอะไรทั้งสิ้น

...

ติดตามความเห็นจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพิ่มเติมได้จากเวทีสัมมนา ตื่นฟื้นฝัน ไทยรัฐ ฟอรั่ม 2022 (Thairath Forum 2022) วันที่ 19 ต.ค. นี้ เวลา 14.00 น. ผ่านช่องทาง Facebook และ Youtube ไทยรัฐออนไลน์