สรุปแนวทางการไว้อาลัยและมาตรการช่วงไว้ทุกข์ ข้าราชการลดธงครึ่งเสา-ไว้ทุกข์ 1 ปี ขณะที่ประชาชนขอความร่วมมือไว้ทุกข์ 90 วัน ปรับรูปแบบงานรื่นเริง
วันนี้ (25 ต.ค.69) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการประชุมนัดพิเศษ เพื่อหารือกรอบงานพระราชพิธีหลังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต ก่อนมีการเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และการให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางและมาตรการช่วงไว้ทุกข์ ดังนี้
1. ลดธงครึ่งเสา 30 วัน
ในสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
2. แต่งกายไว้ทุกข์ 1 ปี
สำหรับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
...
3. ขอความร่วมมือไว้ทุกข์ 90 วัน
สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้แต่งกายสีดำหรือโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด และพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม
“ในส่วนของพี่น้องประชาชนทั่วไปขอให้ท่านได้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมแต่เบื้องต้นจะขอความกรุณาว่าในฐานะที่เราเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันร่วมมือ ถ้าแต่งสีดำไม่ได้ ก็ขอให้เป็นโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด ถ้าแต่งได้ก็ขอให้ทำถวายท่านเป็นระยะเวลา 90 วัน
อันนี้เป็นการขอของนายกฯ ต่อพี่น้องประชาชน เพราะพระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศของเรา ต่อพวกเรามาตลอดระยะเวลา 70 กว่าปี ที่ทรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” นายกฯ อนุทิน กล่าว
4. ปรับรูปแบบกิจกรรมรื่นเริง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ขอความร่วมมือ ให้พี่น้องประชาชนและภาคเอกชน พิจารณาปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งความอาลัย โดยมิได้มีคำสั่งห้ามหรือมติให้ระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ
สำหรับกรณีที่มีการเตรียมการไปแล้ว ขอให้พิจารณาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับกาลเทศะและสมพระเกียรติ ส่วนในกรณียังไม่ได้ดำเนินการ ให้พิจารณาเลื่อนการจัดออกไปก่อน
ต่อมามีรายงานด้วยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือผู้จัดงานคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 24-26 ต.ค.68 ให้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรม ให้เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งการไว้อาลัย อาทิ การจัดกิจกรรมถวายความอาลัยก่อนเริ่มการแสดงด้วยการยืนสงบนิ่ง งดการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ลดการใช้แสง สี เสียง โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสม สำรวม และความเคารพต่อพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด