จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ได้จัดงาน “HACK เงินประกันสังคม 2025” แกะงบประมาณประกันสังคม และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. พรรคประชาชน ได้โพสต์สรุปประเด็น ซึ่งหนึ่งในนั้นคืองบจัดทำปฏิทินประกันสังคมปี 2567 สำหรับแจกผู้ประกันตน งบประมาณ 55 ล้านบาท โดยงบประมาณในการจัดทำปฏิทิน 8 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท (อ่าน: “รักชนก” กางงบประกันสังคม รายจ่ายเพิ่ม บินเฟิร์สคลาส ค่าตอบแทนประจำปี 100 ล้าน)

ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความจำเป็นและความคุ้มค่า ผู้ประกันตนหลายคนตั้งคำถามว่าไม่เคยได้รับ หรือเห็นวางขายในช่องทางออนไลน์ 

ต่อมาเมื่อเดือน 1-30 เม.ย. 2568 ทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีการจัดทำประชาพิจารณ์ สำรวจความเห็นถึงการยกเลิกการจัดทำปฏิทิน ผลออกมาพบว่า ผู้ประกันตน 62% และนายจ้าง 66% ต้องการยกเลิกการทำปฏิทิน

...

อย่างไรก็ดี สปส.ยังเดินหน้าทำปฏิทินปี 2569 ต่อไป โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2568 มีการเผยแพร่เอกสารจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ ระบุว่า “ใช้ในราชการสำนักงานประกันสังคมเท่านั้น” โดยชี้แจงถึงเหตุผลที่ยังต้องมีการจัดทำปฏิทินแจก ว่า

ความต้องการปฏิทินในภาพรวมมีสัดส่วนถึง 37.58% หากยกเลิกการจัดทำปฏิทินในทันที อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้ที่เห็นถึงประโยชน์ของปฏิทิน จึงเห็นว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำปฏิทินปี 2569 ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2568 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีเหตุผลความจำเป็น ดังนี้

1. ปฏิทินเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่สามารถให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนได้ครบทุกมาตรา สามารถใช้เรียนรู้สิทธิประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นการแจ้งช่องทางการติดต่ออื่นๆ ของสำนักงานประกันสังคม อาทิ เบอร์สายด่วน เว็บไซต์ ที่สามารถใช้ในการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้

2. ปฏิทินใช้เป็นสื่อประกอบกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทั้งในและนอกสถานที่ รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมของเครือข่าย เช่น การออกหน่วยเคลื่อนที่ การอบรมให้ความรู้งานประกันสังคมผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่าย

3. ปฏิทินช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสิทธิประโยชน์ของ สปส. ผ่านทางสื่อดิจิทัล (Digital Gap) เนื่องจากยังมีผู้ประกันตนจำนวนมาก ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านระบบดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ Social media ต่างๆ ได้

ทั้งนี้ สปส.จะกระจายปฏิทินให้ทั่วถึง และนำผลสำรวจความคิดเห็น เสนอเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณางบประมาณประจำปี 2569 สำหรับปฏิทินปี 2570 ต่อไป

ซึ่งจากการตัดสินใจดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมและนักการเมืองอีกครั้ง เช่น น.ส.รักชนก สส.พรรคประชาชน ได้โพสต์วิจารณ์ว่า

“ให้มันได้แบบนี้สิประเทศไทย นายจ้างเกินครึ่งไม่เอาปฏิทิน ผู้ประกันตนเกินครึ่งไม่เอาปฏิทิน แต่ข้าราชการจะเอา สุดท้ายพยายามทุกทางจะต้องทำปฏิทินให้ได้ มันเป็นอะไรกันหนักหนากับปฏิทินหรอ?”

ล่าสุด 26 พ.ค. 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ว่าการจัดทำปฏิทินต้องวางแผนล่วงหน้า 1 ปี ดังนั้นการทำประชาพิจารณ์จะเป็นการทำเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการทำปฏิทินปี 2570

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกันตนมาตรา 40 กว่า 12 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบ และแรงงานอิสระ ที่ไม่ได้กระจุกอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ โดยตนไม่เถียงว่า การทำประชาพิจารณ์แล้วผลออกมาว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการกว่า 60% แต่ต้องนึกถึงคนส่วนน้อยอีก 30% ด้วย พร้อมถามกลับ เขาไม่มีสิทธิที่จะดูรายละเอียดสิทธิประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับหรือ?

“คุณจะเอาคนจำนวนกว่า 60 คน มาบังคับคนอีกกว่า 30 คน เป็นผม ผมก็ไม่ยอม เพราะผมก็ถือว่ามีสิทธิของผม 1 สิทธิเท่ากันกับทุกคน ดังนั้น ควรเคารพสิทธิของคนอื่นด้วย อย่าเอาคนหมู่มากมารังแกคนหมู่น้อย” นายพิพัฒน์ กล่าว