พาไปย้อนดูเส้นทางการเมืองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของ "พรรคสีส้ม" ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล มาจนถึงพรรคประชาชน เจเนอเรชันที่ 3 ในปัจจุบัน ที่มี สส.นับสิบราย เลือกโหวตสวนมติพรรค หรือตัดสินใจแยกทางสลับไปขั้วตรงข้าม จนถูกเรียกว่าเป็น “งูเห่า” แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกปลายปากกาของประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง ไม่มีใครเคยได้กลับมานั่งในสภาฯ เลยแม้แต่คนเดียว และส่วนใหญ่คะแนนเลือกตั้งในนามพรรคอื่นก็อยู่แค่หลักร้อย-พันเท่านั้น น้อยคนมากที่จะไปถึงหมื่น แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้ไปอยู่ดี

นายคารม พลพรกลาง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถูกขับออกจากพรรคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 หลังจากโหวตสวนไว้วางใจรัฐบาลขณะนั้น เขาถูกพรรคดองเอาไว้เป็นเวลานาน ไม่ขับพ้นพรรค ก่อนจะย้ายไปอยู่ ”พรรคภูมิใจไทย“ และมาลงสมัคร สส.ในระบบแบ่งเขตที่ จ.ร้อยเอ็ด เขต 6 ก่อนสุดท้ายจะได้อันดับที่ 2 16,306 คะแนน พ่ายแพ้ให้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยไปขาดลอย

...

แต่ปัจจุบัน นายคารม นับว่ามีเส้นทางการเมืองที่สดใสที่สุดคนหนึ่งในบรรดางูเห่าสีส้ม เพราะแม้ว่าจะสอบตกในการเลือกตั้ง แต่ก็ยังได้รับการไว้วางใจให้เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในโควตาของพรรคภูมิใจไทยด้วย

นางศรีนวล บุญลือ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ที่หลายคนจำได้จากการอู้เมืองหรือภาษาเหนือในสภา และยังเป็นผู้ที่เสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2562 แข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกด้วย แต่หลังจากโหวตสวนมติพรรค จึงถูกขับไปอยู่กับ ”พรรคภูมิใจไทย” และในการเลือกตั้งปี 2566 เขาลงชิงเก้าอี้เช่นเคย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เขต 9 แต่กลับพ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิง ได้เพียงอันดับที่ 4 12,847 คะแนน

น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ อดีต สส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกลงโทษจากประชาชน เพราะหลังจากที่ถูกขับออกจากพรรคเพราะโหวตสวนมติแล้วมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ จากเดิมที่ได้คะแนนในพื้นที่เมื่อปี 2562 ไปกว่า 31,247 เสียง แต่เมื่อกลับมาลงสมัครอีกครั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ คะแนนนั้นหายไปกว่า 95% เหลือเพียงแค่ 807 คะแนนเท่านั้น สะท้อนความนิยมต่อพรรค ไม่ใช่กับตัวผู้สมัครเองเลย

นายขวัญเลิศ พานิชมาท อีกหนึ่งคนจาก จ.ชลบุรี อดีต สส.อนาคตใหม่ ที่ถูกขับไปอยู่กับ ”พรรคภูมิใจไทย“ ยังหวนลงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เขต 6 แต่ได้ไปเพียง 4,538 คะแนน พ่ายแพ้ให้กับ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ทิ้งห่างคะแนนเกือบ 10 เท่า แต่คนชลบุรีต้องอกหักซ้ำอีกครั้ง เพราะ น.ส.กฤษฎิ์ เอง เป็นรายล่าสุดที่เพิ่งประกาศตัวขอย้ายออกจากพรรคประชาชน

นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ และนายพีรเดช คำสมุทร 2 งูเห่าจาก จ.เชียงราย ที่ถูกขับไปอยู่กับ “พรรคภูมิใจไทย” พาเหรดกันสอบตกในบ้านเกิด ได้อันดับที่ 3 เหมือนกัน โดยเขต 1 ได้ 15,508 เสียง และเขต 6 ได้ 15,914 เสียง ตามลำดับ และยังเป็น สส.พรรคส้มทั้งคู่ที่ชนะเลือกตั้งในเขตนี้อีกด้วย

นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ย้ายมาลงสมัคร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ในนามพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 แต่ปรากฏว่า อันดับหลุดรุ่ยที่สุดคนหนึ่ง เพราะเขาได้ไปเพียง 1,223 เสียง และอยู่ถึงอันดับที่ 7 สิ้นลายแชมป์เก่าแบบหมดท่า

นายฐิตินันท์ แสงนาค เป็นอีกคนที่ย้ายค่ายมาอยู่กับ “พรรคภูมิใจไทย” และลงสมัครชิงเก้าอี้ สส.สมัยที่ 2 ของพื้นที่ จ.ขอนแก่น เขต 1 ตัวเมืองที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคส้ม และผลการเลือกตั้งก็ไม่ผิดคาด เพราะนายฐิตินันท์ ได้รับไปเพียง 904 เสียง หล่นไปอยู่อันดับที่ 7 ไกลลิบ

ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย และนายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี อีก 2 สส. ที่ใช้โปรย้ายค่ายมาอยู่กับ “พรรคภูมิใจไทย” อีกเช่นเคย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งคู่กลับมาลงสมัครในเขต 22 และ 26 ตามลำดับ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครจากต้นสังกัดเก่า โดยได้ 7,283 เสียง และ 2,282 เสียงตามลำดับ โดยพื้นที่ของนายโชติพัฒน์ เป็น “สส.ปูอัด ไชยามพวาน“ คว้าชัยไปแทน ก่อนจะถูกขับออกจากพรรค เนื่องจากมีคดีฉาว

นายอนาวิล รัตยสถาพร ทอดทิ้งพรรคส้มมาอยู่กับ ”พรรคภูมิใจไทย“ ลงชิง สส.ปทุมธานี เขต 3 อีกสมัย แม้จะได้ไปถึง 15,570 เสียง แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ที่กวาดไปถึง 43,096 เสียง

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา และนายจารึก ศรีอ่อน ย้ายมาอยู่กับ ”พรรครวมไทยสร้างชาติ“ แบบแพ็กคู่ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี แต่ปรากฏว่า สอบตกแบบแพ็กคู่เช่นกัน ชวดกลับเข้าสภาฯ เป็นสมัยที่ 2

นายเอกการ ซื่อทรงธรรม และนายกฤติเดช สันติวชิระกุล คนจังหวัดแพร่ อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ตัดสินใจย้ายมาอยู่ ”พรรคภูมิใจไทย“ เป็นอีกคู่ที่ลงสมัคร สส. เมื่อปี 2566 แต่ปรากฏว่า พ่ายแพ้แบบจบอันดับที่ 4 ทั้งคู่ โดยเขต 2 ได้ไป 3,354 เสียง และเขต 3 ได้ 9,717 เสียง ตามลำดับ

...

และล่าสุดสำหรับกรณีของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ เป็นงูเห่าสีส้มในยุคพรรคประชาชนคนแรก หลังจากย้ายพรรคจากอดีตพรรคก้าวไกลกันมาเกือบ 10 เดือน โดยประกาศขอย้ายออกจากพรรคประชาชน โดยให้เหตุผลว่า มีอุดมการณ์ที่ไม่ตรงกัน ขณะที่ในโลกโซเชียลได้มีการขุดคลิปในสมัยที่หาเสียง ที่เจ้าตัวยืนยันรับปากกับพี่น้องประชาชนว่า จะไม่มีทางย้ายพรรคไปไหนเด็ดขาด