ยังเป็นประเด็นต่อเนื่อง สำหรับ “เสี่ยท็อป” ที่ถูกตั้งฉายาเป็น “เสี่ยกำมะลอ” ที่จัดงานแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง จากนั้นได้เลิกรากันอย่างปัจจุบันทันด่วน และถูกกล่าวหาว่าทิ้งหนี้ให้ฝ่ายหญิงต้องรับผิดชอบ

ล่าสุด มีการยืนยันจาก “สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” ว่า “เสี่ยท็อป” เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นก็มีผู้อ้างตัวเป็น “เสี่ยท็อป” คุยกับผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ด้วยเหตุนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ทักไลน์ไปเปิดใจพูดคุย

ผู้ที่อ้างตัวเป็น “เสี่ยท็อป” พูดคุยกับผู้สื่อข่าว ผ่านแอปฯ ไลน์ ยอมรับว่า ตอนนี้เขาอยู่ฮ่องกง ที่เดินทางมาที่ฮ่องกงครั้งนี้เพื่อมาประชุมธุรกิจ และก็เชื้อเชิญนักลงทุนพ่อค้าใหม่ๆ ให้เข้าไปลงทุนในประเทศไทย

...

เสี่ยท็อป ระบุว่า “เอาจริงๆ นะสงสารประเทศไทยที่ต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะกับแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ถูกสร้างกระแสบิดเบือนข่าวเชื่อมโยงข่าวเท็จ เอาเรื่องจริงมาเป็นเรื่องเท็จ เอาเรื่องเท็จมาเป็นเรื่องจริง จนไปมีผลกระทบต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประเทศชาติ”

เมื่อถามว่าจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ มีแผนไปไหนต่อ เสี่ยท็อป ระบุว่า ยังครับมีกำหนดการเดินทางอีก 2 ประเทศถึงจะกลับไทย แต่บอกได้เลยครับว่าจะน่าอยู่สิงคโปร์เพราะว่านัดทีมฝ่ายกฎหมายไปประชุมกันที่นั่น อันนี้ต้องดูก่อนครับอยู่ที่ฝ่ายกฎหมาย

“จริงๆ ผมไม่อยากจะไประราน หรือราวีใครหรอกครับผมชอบอยู่ของผมเงียบๆ สบายๆ จะขี่ซาเล้งก็ไม่มีใครมาสนใจ เดี๋ยวนี้ขี่ซาเล้งคนก็สนใจ 555” ผู้ที่อ้างตัวเสี่ยท็อป กล่าว

ตอบปม บัตรคณะทำงาน พาสปอร์ตที่ใช้

เมื่อทีมข่าวฯ ถามถึง กระแสข่าวบัตรคณะทำงานในรัฐบาลยุค นายทักษิณ ชินวัตร ผู้อ้างเป็น "เสี่ยท็อป" ตอบอ้อมๆ ว่า ตามบัตรประจำตัวก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าสังกัดท่านใด ตรวจสอบแล้ว บัตรของจริงไม่ใช่หรือครับ ไม่ได้มีการแอบอ้างใดๆ 

ส่วนเรื่องพาสปอร์ตที่ใช้เดินทาง ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นสีน้ำเงิน ผู้อ้างตัวเป็นเสี่ยท็อป ตอบติดตลก ก่อนจะบอกว่า เป็นพาสปอร์ตที่คนทั่วไปปกติใช้ 

แต่งงาน 6 ครั้ง ปัดลวงวิวาห์หาตังค์ ระบุเป็น "สายเป"

เมื่อทีมข่าวสอบถามเรื่องความรัก ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ผู้ที่อ้างตัวเป็น นายท็อป ตอบว่า “เดินหน้าต่อไป..เจอมาเยอะเจ็บมาเยอะ555 ถ้าเจอผู้หญิงที่ดีและคู่ควรและเขารักเราก็แต่งอีก ผู้หญิงที่ดีมีอีกเยอะถ้าเขาเลือกเรานะ555”

แสดงว่าแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง.. “ถ้าใช้ชีวิตจริงจังก็น่าจะประมาณ 6 ครั้งครับ ถ้าเป็นแค่แฟนหรือคู่ควงเยอะมาก แต่ทีละคนนะ แต่บอกไว้ก่อนนะครับอยากจริงจังกับทุกคนแหละ ไม่ได้อยากเปลี่ยนบ่อย ผมไม่เคยคบซ้อนนะ ผมคบทีละคน เพราะเวลาผมมีแฟนผมจะอยู่ด้วยเกือบ 24 ชั่วโมง"

...

แล้วสาเหตุที่เลิกกันส่วนใหญ่เพราะอะไร และเร็วสุดนี่นานขนาดไหน ผู้อ้างตัวเป็น “เสี่ยท็อป” ระบุว่า แล้วแต่สาเหตุครับ ไม่เหมือนกัน คุณดารินนี่ล่ะมั้ง

...

ถามจริงๆ ว่าแต่งงานทั้ง 6 ครั้ง มาจากความรักใช่ไหม หรือว่าต้องการหลอกลวง ใช่ไหม นายท็อป กล่าวว่า ความรักล้วนๆ ครับ ไม่เคยคบคนแบบไม่รัก รักทุกคนที่ผ่านมาในเวลานั้นๆ เวลารัก รักหมดใจครับ

มีข่าวว่าเคยคบกับดารา ผู้อ้างตัวเป็น “เสี่ยท็อป” บอกว่า “ไม่ขอตอบได้ไหมครับ แต่ถ้าจะปฏิเสธคือ น้องๆ ดารา 3 ท่านที่มีคนเอามากล่าวอ้าง อันนี้ขอปฏิเสธ เพราะมีการเอ่ยนามน้องๆ เขาเสียหาย ผู้ชายถึงจะเคยมีหรือไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนก็ไม่ควรเอามาพูด ถูกไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง

ห้ามปากคนไม่ได้ เรียก "เสี่ยกำมะลอ"

เมื่อถามว่า ถูกตั้งฉายา “เสี่ยกำมะลอ” รู้สึกยังไง เจ้าตัวตอบสวนเลยว่า “ห้ามพระอาทิตย์ ห้ามปากคน ห้ามไม่ได้หรอกครับ เรารู้ตัวเราว่าเราเป็นอะไรแค่นั้นพอ”

แล้วสรุปว่ารวยจริงๆ ไหม นายท็อป ถ้าคนไม่รู้จักคำว่าพอเพียง มีเป็นหมื่นล้านแสนล้าน มันก็ไม่ได้เรียกว่ารวย ปกติแล้วไม่มีใครเขามานั่งบอกหรือเปิดเผยหรอกครับ มีคนที่เขามีมากมายกว่าผมเยอะแยะที่เขาไม่ได้ถูกเปิดเผย ผมแค่คนธรรมดาๆ เสี่ยขายเห็ด ขี่ซาเล้ง 555 คนมีตังค์ คนมีทรัพย์สินเยอะแยะมากมายในโลกนี้ที่ไม่ถูกเปิดเผยมีเยอะ เหมือนคนจีนที่ตอนนั้นรัฐบาลจีนไปเจอ มีทอง มีอะไร มีเงินเป็นแสนล้าน

“เอาเป็นว่าผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ธรรมดามากๆ แต่พวกคุณตั้งฉายา พวกคุณเอาข้อมูลส่วนตัวออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ผมไม่เคยอวด หรือพูดว่าผมรวย”

“สุชาติ” ไม่รู้จัก “เสี่ยท็อป” ไม่รู้ ส.ส.คนไหนฝาก รับไม่มีการตรวจสอบประวัติคณะทำงาน

ด้าน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.หลายสมัย ได้กล่าวถึงกรณีมีชื่อ “เสี่ยท็อป” อยู่ในบัตรคณะทำงานและเข้าออกทำเนียบ และมีลายเซ็นของตัวเองอยู่ในบัตรว่า ตอนที่เป็นรองเลขานายกฯ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เป็นเลขาฯ ท่านเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งดูหลายกระทรวง ตั้งแต่กระทรวงแรงงาน มหาดไทย และก็กรมตำรวจ ส่วนตัวผมไม่รู้จัก “ท็อป” ไม่รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน ผมเป็นผู้แทนมาตั้งแต่ไทยรักไทย เป็น ส.ส.ไทยรักไทยมา ก็มีเพื่อน ส.ส.หลายจังหวัด ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยท็อปมาจากใคร (ส.ส.คนไหน) แล้วใครมาฝากเป็นคณะทำงาน การเป็นคณะทำงาน อำนาจในการแต่งตั้งก็คือผม

...

“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าได้เซ็นไปหรือเปล่า เพราะเขาบอกเขามีเอกสาร (ที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อ) แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ลงนาม พอไม่ได้ลงนามก็ไม่รู้ว่าเอกสารทำปลอมขึ้นมาหรือเปล่า นี่คือประเด็นที่ 1 แต่ถ้าที่ได้เซ็นและเอาไปใช้ ก็คือเขาเอาไปแอบอ้างเท่านั้นเอง”

ที่บอกว่าไม่ได้เซ็น คือ มีการเสนอขึ้นมาแต่ไม่ได้เซ็น? นายสุชาติ ตอบว่า ใช่ เพราะยังไม่มีลายเซ็น ตอนนี้เอกสารเขาเอามาเปิดแล้วว่าเป็นคณะทำงาน และมีบัตรทำเนียบของ ร.3 บัตรก็ไม่ใช่อำนาจในการออกของตน จะมีฝ่ายดูแลความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลออกบัตรให้ ก็คือออกบัตรเข้าออก ตนเป็นเลขาฯ ก็ต้องมีบัตร มีบัตรติดรถ บัตรประจำตัวเข้าออกทำเนียบ

แสดงว่า ท็อป อาจจะมาจากกลุ่ม ส.ส.ที่รู้จักกัน? นายสุชาติ ตอบทันควันว่า “ถูกต้อง ใครๆ ก็ฝากได้”

สุชาติ ลายน้ำเงิน
สุชาติ ลายน้ำเงิน

ใครมีตำแหน่งทางการเมืองก็เอาลูกน้องมาฝากมาเป็นคณะทำงาน เขาได้บัตรไป ได้อะไรไป เอาไปทำอะไรเราไม่รู้หรอก เมื่อ 7 ปีที่แล้วเขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ 7 ปีให้หลังเขาไปทำอะไร ตนก็ไม่รู้

สำหรับเรื่องการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ นายสุชาติ กล่าวว่า การไปดูงานที่เมืองจีน มันเป็นเรื่องส่วนตัวเขา ไม่เกี่ยวกับทำเนียบรัฐบาลเลย พอมีบัตรเขาก็ไปประสานกันเอง ติดต่อกันเอง รัฐบาลจีนก็บอกว่า “ในเมื่อเป็นคนไทยมีชื่อเป็นคณะทำงาน เขาก็ให้เข้าไปเที่ยวบ้านเขา ไปเยือนเมืองเขา” แต่ในการไปราชการจะยาก ราชการจะต้องมีรัฐมนตรีอนุมัติ สมมติว่าพี่เป็นเลขาฯ จะไปเยือนจีน ต้องมีหนังสือของรัฐมนตรีจากประเทศไทยไป และเขาตอบรับ ถึงจะเดินทางได้

ได้มีการตรวจสอบประวัติคณะทำงานก่อนไหม อดีต ส.ส.หลายสมัย ระบุว่า ส่วนมากก็ไม่ค่อยจะตรวจสอบกันเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่โต มันมีคณะทำงานหลายด้าน สมมติว่าท่านเฉลิมดูกระทรวงแรงงานด้วย ตนอาจจะเป็นคณะทำงานคอยประสานงานกับกระทรวงแรงงาน ระหว่างรองนายกฯ ไปถึงกระทรวงแรงงาน ไม่มีเงินเดือน ไม่มีอะไร พวกที่ขอก็เอาไปโชว์ เอาไปเบ่ง

ปมรูปคู่ “ทักษิณ” สุชาติ โต้เดือด เป็นคนไทยมาขอถ่ายรูป ใครๆ ก็ทำได้

เคยเจอกันไหม นายสุชาติ ตอบว่า “ไม่เคยเจอจริงๆ ไม่รู้จัก เห็นจากข่าวเท่านั้นเอง”

อยากบอกอะไรกับสังคม เกี่ยวกับเรื่อง “ท็อป” นายสุชาติ ตอบอย่างจริงจังว่า ฝากเรียนพี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ติดตามข่าวนี้อยู่ ในฐานะที่เราเป็นอดีตนักการเมือง แล้วเคยเป็นอดีตผู้แทนราษฎรมา 3 สมัย เป็นรองเลขาธิการนายกฯ เลขาฯ มหาดไทย เลขาฯ คมนาคม ในสังคมเขารู้จักตนกับท่านเฉลิมอย่างดี ก็เกรงว่าชื่อเสียงอาจจะเสียหาย เขาไปหลอกลวงใครตนไม่ว่า ก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ส่วนตัวเลยตนกับท่านเฉลิมก็ดี ท่านนายกฯ ทักษิณก็ดี

“กรณีไปถ่ายรูปกับท่านนายกฯ ทักษิณ ก็ขอพูดแทนท่าน เพราะท่านไม่มีสิทธิมาโต้ตอบ นายกฯ ทักษิณท่านอยู่ต่างประเทศ คนไทยจะเจอแล้วขอถ่ายรูปท่านก็ให้ถ่ายหมด ไม่ได้เช็กประวัติว่าเป็นคนของใคร ทำธุรกิจอะไร ท่านเห็นคนไทยในต่างประเทศท่านก็ดีใจแล้ว นี่คือความเป็นจริง ขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยที่ติดตามข่าวนี้อยู่ คดีนี้มันเป็นแค่คดีที่เขาไปหลอกลวงคนอื่นเท่านั้นเอง ก็ขอให้คนที่ถูกหลอกลวงไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้สังคมไม่มีคนแบบนี้อยู่”

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่น่าสนใจ

"แฟรงก์ อบาเนล" ต้นฉบับนักต้มตุ๋นขั้นเทพ "เป็นใครก็ได้ที่อยากเป็น"

ตำนาน "โจ๊กเกอร์" ตัวละครอาถรรพณ์ ใครหลอนสุดจนต้องยกนิ้วให้

โลกสีเทา "เบียร์ 0%" ดีต่อสุขภาพ จุดสตาร์ตเพิ่มดีกรี ปั้นนักดื่มหน้าใหม่

3 นาทีคดีดัง : เส้นทางชีวิต สุสานช้างป่า น้ำตกเหวนรก (คลิป)