ตอนที่ 11
ศยามกระซิบบอกวิชชุดาให้อดทนไว้ อีกเดี๋ยวคงได้พัก วิชชุดาได้โอกาสรีบขอบคุณที่มาช่วยเธอทันเวลา
“ถ้านายมาช่วยฉันไม่ทัน ฉันคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น ขอบใจมากนะเสือมืด”
“คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ผมขอแค่ให้คุณเชื่อใจผมก็พอ อย่าคิดทำอะไรโง่ๆอีก ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ผมคงไม่มีหน้าไปพบใครได้อีก”
“นายหมายความว่ายังไง”
“เออ ก็ ถ้าผมปกป้องตัวประกันของผมไม่ได้ ก็เสียชื่อเสือมืดหมด แล้วจะมีหน้าไปพบใครได้ นี่คุณดูเหนื่อยมากแล้ว ให้ผมอุ้มไปดีกว่านะ” ศยามจะรวบตัววิชชุดาขึ้นอุ้ม แต่วิชชุดาดันตัวศยามไว้บอกว่าจะเดินเอง
“ผมอุ้มดีกว่าน่า เดินเองอย่างนี้ แผลที่เท้าก็ไม่หายกันพอดี” ศยามยื้อยุดกับวิชชุดาอยู่
เสือสอนเดินเข้ามา ทั้งสองชะงักถอยห่างกัน เสือสอนมองทั้งคู่เอ่ยว่า “เราพ้นเขตปากน้ำโพแล้ว เราจะพักกันแถวนี้ก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ” เสือสอนขยับจะเดินออกไป แต่เปลี่ยนใจหันกลับมาจ้องศยามพร้อมยิงคำถามต่อ “เอ็งมีเรื่องโกหกข้าใช่ไหม เอ็งกับนังหนูไม่ใช่พี่น้องกัน”
“ฉันเป็นน้องสาวเสือมืดจริงๆ” วิชชุดายืนยัน แต่เสือสอนไม่เชื่อ ศยามจำใจโพล่งออกไป
“ใช่แล้ว พี่สอน ฉันกับวิชชุดาไม่ได้เป็นพี่น้องกัน เราเป็นผัวเมียกัน ฉันขอโทษจริงๆที่ต้องโกหกพี่ เมียฉันโกหกพี่ก่อน ฉันก็เลยต้องเลยตามเลยไป ฉันไม่ได้ตั้งใจโกหกพี่จริงๆ”
“แล้วทำไมนังหนูต้องโกหกด้วยล่ะ”
“มันกำลังโกรธฉันอยู่น่ะ ก็เลยทำงอนไม่ยอมรับว่า เป็นเมียฉัน ผู้หญิงก็ชอบทำตัวเรื่องมากอย่างนี้แหละ”
“เออ ดี ข้าจะช่วยให้เอ็งคืนดีกับเมียเอง” เสือสอนอมยิ้ม แล้วจัดที่ให้ศยามกับวิชชุดาเข้าไปพักในเพิงร้าง
ศยามกับวิชชุดารีบปฏิเสธ วิชชุดาอ้างว่า เพิงเล็กเกินไปจะไม่ยอมให้เสือมืดนอนด้วย
“นอนเบียดๆกันไป ทำเหมือนไม่ใช่ผัวเมียกันไปได้ กลางคืนมันหนาวนะโว้ย เอ็งก็รู้ อย่างอนนักเลย ข้าไม่รู้หรอกนะว่า เสือมืดทำผิดอะไรไว้ แต่มันรักเอ็งมาก ไม่งั้นมันคงไม่เสี่ยงอันตรายตามเอ็งมาหรอก แล้วเอ็งก็รักมันมากเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ว่าไงล่ะ เอ็งรักผัวของเอ็งไหม”
“ก็ ก็รัก” วิชชุดาอายหน้าแดง
“งั้นก็คุยกันให้รู้เรื่องซะ เอ็งอย่าได้ปล่อยให้เสือมืดหลุดมือไป เอ็งคงหาผัวดีๆอย่างเสือมืดไม่ได้อีกแล้วล่ะ นังหนู” เสือสอนเดินออกไป
วิชชุดากับศยามยืนมองกัน ทำอะไรไม่ถูกแล้วศยามก็ขยับตัวจะเดินออก วิชชุดาข้องใจถามว่า ทำไมต้องโกหกเสือสอนว่าเป็นผัวเมียกันด้วย
“แล้วจะให้ฉันบอกเสือสอนว่ายังไง ว่าเราเป็นตัวประกันของผมมีค่าตัวหกหมื่นบาท มีพี่ชายเป็นคนใหญ่คนโตงั้นเหรอ เราไม่ต้องกลัวว่าคุณโสรัตน์แฟนเราจะเข้าใจผิดไปหรอก”
“เขาไม่ใช่เป็นแฟนฉัน”
“ถ้าเขาไม่ใช่เป็นแฟนเรา ทำไมเขาถึงเป็นห่วงเรานักล่ะ เขาเป็นคนที่เสี่ยงตายเอาเงินค่าไถ่มาส่งให้กับฉันด้วยตัวเอง ฉันรับรองกับแฟนเราแล้วว่า จะส่งเราไปคืนเขาให้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าเสือสอนจะเข้าใจผิดยังไง ฉันก็เป็นได้แต่ไอ้เสือมืดของเรา ไม่มีวันเป็นอย่างอื่นไปได้หรอก” ศยามเดินออกไป
เสือสอนเห็นศยามเดินออกมาก็ถามว่าเมียหายโกรธหรือยัง ศยามส่ายหน้าแล้วเข้ามานั่งคุยด้วย และได้รู้สาเหตุว่าที่เสือสอนต้องมาเป็นโจรก็เพราะเขาถูกกำนันเติมโกงจนหมดตัวแถมยังฆ่าพ่อแม่ตาย
“พี่แก้แค้นไอ้กำนันเติมได้แล้ว ทำไมยังไม่หยุดปล้นล่ะ” ศยามซัก
“คนขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ง่ายๆหรอก ไอ้น้องชาย”
“แล้วพี่คิดจะเป็นเสือสอนอย่างนี้ไปจนวันตายเลยเหรอ”
“ข้าก็กำลังรอคนที่จะมาหยุดข้าได้อยู่นี่แหละ เอ็งกลับไปหาเมียได้แล้วไป เสือมืด” เสือสอนไล่ ศยามยอมเดินออกไปทั้งที่ยังคาใจ
ooooooo
คุณนายจินดามีเรื่องคาใจกับหลวงพิศาล เพราะสุมานโทร.มาทวงถามเรื่องบ้านกับหลวงพิศาล แถมยังประกาศตัวกับคุณนายว่า เธอยินดีเป็นมากกว่าเพื่อนเพราะผู้ชายพูดง่ายจ่ายคล่องแบบหลวงพิศาลหาไม่ได้ง่าย
“ต๊าย นังหญิงคนชั่ว แกคิดแย่งผัวคนอื่นหน้าด้านๆอย่างนี้เลยเหรอ เกิดมาฉันไม่เคยพบเคยเห็นผู้หญิงที่ต่ำทรามอย่างแกมาก่อน อย่ามายุ่งกับครอบครัวฉัน ถ้าแกติดต่อกับผัวฉันอีกล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่” คุณนายจินดาวางโทรศัพท์โครม
“คุณแม่คะ คุณแม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ ลองฟังคุณพ่ออธิบายก่อน” สุดถนอมเข้ามาไกล่เกลี่ย
“แม่จะไม่ฟังอะไรอีกต่อไปแล้ว พอกันที” คุณนายจินดาเดินปึงปังออกไป
สุดถนอมเร่งให้หลวงพิศาลตามไปปรับความเข้าใจ แต่คุณนายจินดาไม่รับฟังแถมยังไล่ตะเพิดจนคุณหลวงเข้าหน้าไม่ติด คุณหลวงกลับมาฟ้องสุดถนอมว่าคุณนายจินดาตีตนไปก่อนไข้
“คุณพ่อยังไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คุณพ่อกำลังจะทำใช่ไหมคะ ผู้หญิงที่โทรศัพท์มาเมื่อกี้นี้ เธอเป็นมากกว่าเพื่อนของคุณพ่อใช่ไหมคะ”
“โธ่ ลูกแหวว พ่อเป็นผู้ชาย บางทีมันก็ต้องมีเผลอใจไปบ้าง แต่พ่อสาบานได้เลยว่า แค่เผลอใจไปเท่านั้น ไม่ได้ มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น”
“คุณพ่ออย่าเอาความเป็นผู้ชายมาอ้างเลยนะคะ คุณพ่อเป็นคนมีครอบครัวแล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเผลอใจกับใครได้อีก ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกินเลยกันแค่คุณพ่อคิดถึงผู้หญิงอื่นไปทางชู้สาว ก็ผิดแล้วล่ะค่ะ คุณพ่อต้องตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นอย่างเร็วที่สุด อย่าให้เธอมาระรานคุณแม่ได้อีก คุณพ่อจะทำอะไรก็ให้เกียรติคุณแม่บ้าง แหววขอร้องล่ะค่ะ อย่าทำอะไรให้คุณแม่ต้องเสียใจอีก อย่าให้แหววหมดศรัทธา
ในตัวคุณพ่อมากกว่านี้เลย” สุดถนอมเดินออกไป
พิศาลมองตามอย่างรู้สึกผิด
ooooooo
ศยามกลับเข้ามาในเพิง เห็นวิชชุดานั่งร้องไห้ก็ตกใจร้องถามสาเหตุ
“ฉันคิดถึงพี่ใหญ่ คิดถึงพี่กลาง คิดถึงคุณป้า พี่สอางค์ พี่สวย นายเด๋อ ฉันคิดถึงทุกคนเลย ฉันจะมีโอกาสได้กลับไปเจอหน้าพวกเขาไหม ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครตามมาช่วยเราเลย เสือมืด นายคนเดียวจะสู้อะไรกับพวกมันได้ ฉันเองก็ยังเจ็บอยู่ ยังไงคงไม่มีทางจะหนีพวกมันไปได้แน่”
“คุณอย่าเพิ่งหมดหวังง่ายๆซิครับ เราจะต้องพยายามถึงที่สุด คุณเคยกล้าหาญกว่านี้นี่ครับ คุณวิชชุดา ผู้หญิงที่เข้มแข็งคนนั้นหายไปไหนซะแล้วล่ะครับ”
“ฉันเข้มแข็งต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ เสือมืด มองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออกเลย นายคิดว่าเราจะปิดบังความจริงกับเสือสอนไปได้อีกนานแค่ไหน ถ้าหากเสือสอนรู้ว่าฉันเป็นใคร ต้องฆ่าฉันทิ้งแน่ๆ”
“ผมจะไม่ให้ใครมาทำอะไรคุณได้” ศยามถอดสร้อยคอออกสวมใส่ให้ “สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่ผมใส่ติดตัวเสมอเวลาที่ผมไปทำงานที่เสี่ยงอันตราย มันไม่ใช่เครื่องรางของขลังอะไร แต่ใส่แล้วอุ่นใจ คุณใส่ไว้นะครับจะได้รู้สึกว่า คุณมีผมอยู่ใกล้ๆคอยปกป้องคุณอยู่”
“ถ้านายให้ฉันแล้ว นายก็ไม่มีอะไรคอยปกป้องคุ้มภัยให้น่ะซิ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ชีวิตคุณมีค่ามากกว่าชีวิตของผม”
“ไม่จริงหรอก ชีวิตของนายมีค่ามากสำหรับฉัน ถ้าจะต้องตายเราก็ต้องตายด้วยกัน ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายไป”
“คุณวิช” ศยามลืมตัวขยับเข้าไปใกล้วิชชุดา ทั้งสองมองกันนิ่ง ศยามก้มลงจะจูบวิชชุดา
“เสือมืด...” วิชชุดาเรียก
ศยามรู้สึกตัวรีบลุกหนีออกไป วิชชุดามองตามด้วยความสับสนในตัวเอง
เสือสอนเห็นศยามเดินวนไปเวียนมาอย่างวุ่นวายใจอยู่หน้าเพิงก็เข้ามาทัก ศยามอ้างว่าข้างในมันร้อนก็เลยออกมาเดินเล่น
“เอ็งร้อนตรงไหนล่ะ ร้อนกายหรือร้อนใจ ถ้าไม่รู้ว่าร้อนตรงไหนก็คงจะดับร้อนไม่ได้หรอกนะ”
“พี่พูดอะไร ฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ท่าทางเอ็งเหมือนยังตัดสินใจอะไรบางอย่างไม่ได้”
“อ้อ ฉันเคยคิดที่จะเลิกเป็นโจร แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ แล้วพี่ล่ะ เคยคิดจะเลิกบ้างหรือเปล่า” ศยามเปลี่ยนเรื่อง
“ข้าคิดอยู่ทุกวัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลา เสือมืด ถ้าเอ็งกำลังกลุ้มใจเรื่องที่เอ็งมาเข้าพวกกับข้า ก็ไม่ต้องกลุ้มใจไป ข้าให้โอกาสเอ็งไปจากข้าได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าเอ็งกลุ้มใจเรื่องอื่น ข้าคงจะช่วยอะไรไม่ได้”
“ฉันไม่ได้กลุ้มใจอะไรเลย เรื่องที่จะเลิกเป็นโจร ฉันก็พูดไปอย่างนั้นเอง ยังไงฉันก็ไม่ไปจากพี่แน่ๆ ฉันจะติดตามพี่ไปตลอดชีวิตเลย พี่สอน”
“เอ็งอยู่กับข้าไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกว่ะเสือมืด
ยังไงเอ็งก็ต้องมีชีวิตของเอ็ง ตอนนี้เอ็งควรคิดถึงอนาคตของเอ็งได้แล้ว เอ็งอยากจะใช้ชีวิตยังไงต่อไป แต่อย่าเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างข้า เอ็งโชคดีแล้วที่ได้เจอคนที่เอ็งรัก ไม่ว่าความรักครั้งนี้จะไปจบลงที่ไหน แต่มันก็คุ้มค่าที่ได้เจอ ใช่ไหมวะ” เสือสอนตบไหล่ศยาม ศยามนิ่งคิดตาม
เวลาเดียวกันนั้น วิชาติกับวีรชาติที่นั่งเฝ้าอยู่หน้ากองไฟก็ต้องสะดุ้ง เพราะจู่ๆโสรัตน์ลุกพรวดพราดละเมอ สั่งให้เสือสอนปล่อยตัววิชชุดา วิชาติเรียกให้โสรัตน์รู้สึกตัว โสรัตน์ สีหน้าไม่ดีบอกกับวิชาติว่าเขาฝันร้าย
“กันฝันว่า เราตามไปช่วยน้องวิชไม่ทัน นี่เป็นลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า”
วีรชาติกับวิชาติมองหน้ากันแล้วช่วยปลอบใจโสรัตน์ ว่ามีศยามตามไปกับวิชชุดาด้วย
“ขอให้เป็นอย่างที่แกพูดเถอะวะ นายใหญ่ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องวิช ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไงกันก็จะแต่งงานและจะขอรับผิดชอบดูแลน้องวิชตลอดไป” โสรัตน์ยืนยัน
“จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับยายวิชแน่ ไปนอนต่อ ไปนอนทั้งสองคนแหละ ไปๆ” วิชาติหันไปเขี่ยกองไฟกลบเกลื่อนความกังวลใจ
ooooooo
ในขณะที่เสือสอนยืนนิ่งคิดไตร่ตรองเรื่องการ กลับตัว กงกับลาดเดินเข้ามาหาลูกพี่อาสาอยู่ยามให้เอง เสือสอนจึงถามลูกน้องว่าเคยคิดจะลงหลักปักฐานที่ไหนซักแห่งบ้างไหม สองลูกน้องยืนยันว่าจะอยู่กับเสือสอนไปจนวันตาย
“โลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน พวกเอ็งควรจะเริ่มคิดได้แล้วว่า ถ้าไม่มีข้าแล้วเอ็งจะทำยังไงต่อไป” เสือสอนเดินออกไป กงกับลาดมองหน้ากันยิ่งงงหนัก
กลางดึกคืนนั้น วิชชุดาสะดุ้งตื่นเพราะกิ่งไม้หล่นใส่หลังคาเพิง เธอมองไปรอบๆไม่เห็นเสือมืดก็ร้องเรียก ศยามพรวดพราดเข้ามา วิชชุดาโวยวาย คิดว่าเขาหนีเธอไปแล้ว
“ฉันจะทิ้งเราไว้ที่นี่คนเดียวได้ยังไงล่ะ ฉันนอนเฝ้า อยู่ข้างนอก ไม่มีใครมาทำอะไรเราได้หรอก นอนซะเถอะ”
เสียงกิ่งไม้กระทบเพิงอีก วิชชุดาว่าเธอคงนอนไม่หลับแน่ ศยามจึงขออยู่เป็นเพื่อนพลางยื่นมือให้วิชชุดากอดแทนตุ๊กตาหมีเพื่อความอุ่นใจ วิชชุดาลังเลค่อยๆจับมือศยามไว้แล้วหลับไปได้ด้วยความสบายใจ ศยามแอบมองวิชชุดาพึมพำว่า “ผมไม่หนีไปไหนหรอกครับ คุณวิช ผมสัญญา”
รุ่งวันใหม่ ศยามตื่นขึ้นมาไม่พบวิชชุดาก็ออกตามหา วิชชุดาโผล่หน้าจากหลังโขดหินบอกว่าออกมาล้างหน้า
“นายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะหนีไปหรอกน่า ถ้าจะหนี ฉันก็จะต้องหนีไปกับนาย ตอนนี้เราเป็นเพื่อนตายกันแล้วนะ เสือมืด”
“เราคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับเราเพราะความจำเป็น ฉันรับเงินค่าไถ่จากคุณปลัดมาแล้ว ถ้าไม่พาตัวเราไปส่งคืนมีหวังทั้งคุณปลัดทั้งท่านรองฯวิชาติได้ไล่ล่าฉันไปตลอดชีวิตแน่ ไปกันได้แล้ว ไป” ศยามทำเข้มเดินนำไป
“ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่า นายจะเห็นฉันเป็นแค่ตัวประกันของนาย ฉันมีค่ามากกว่านั้นใช่ไหมเสือมืด”
“สำหรับฉันเราเป็นแค่ตัวประกันที่มีค่าตัวหกหมื่นบาท คนที่เห็นค่าของเราจริงๆก็คือ คู่รักของเราที่รออยู่ เรากลับไปหาคู่รักของเราได้เมื่อไหร่ ก็รีบแต่งงานซะนะ ผู้ชายดีๆไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ แล้วทางที่ดี ควรจะลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในป่านี้ซะ ฉันก็จะพยายามลืมมันเหมือนกัน” ศยามทิ้งห่างออกไป
วิชชุดาผิดหวังในคำพูดของชายหนุ่ม เธอจำใจเดิน ตามเขามา และเมื่อได้ยินกงกับลาดโห่แซวว่าเมื่อคืนยังนอนกกกันไม่พออีกหรือก็โกรธ
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเสือมืด”
เสือสอนเดินเข้ามาได้ยินพอดี เขายืนมองวิชชุดากับศยามแล้วเอ่ยถาม
“ตกลงเอ็งไม่ได้เป็นเมียเสือมืดงั้นเรอะ นังหนู”
“ใช่...ฉันไม่ได้เป็นเมียเสือมืด”
“อ้าว...อย่างนี้พวกเอ็งก็โกหกพี่สอนน่ะซิ” กงจะเข้ามาเอาเรื่อง
ศยามรีบเข้ามายืนปกป้องวิชชุดาไว้ “เราไม่ได้โกหก ฉันกับวิชชุดายังไม่ได้เป็นผัวเมียกัน แต่เราเป็นคู่รักกัน คือพ่อแม่ของวิชชุดาไม่อยากได้โจรอย่างฉันเป็นลูกเขย ฉันก็เลยไปฉุดมันมาพี่สอนน่าจะเข้าใจนะ ผู้หญิงยังไม่พร้อม ผู้ชายอย่างเราก็ไม่ควรจะไปบังคับขืนใจ”
เสือสอนมองศยามกับวิชชุดาอย่างตริตรองแล้วถามใหม่ว่า เธอไม่ต้องการจะอยู่กินกับเสือมืดหรือ วิชชุดาอึกอักอ้างว่าเสือมืดฉุดเธอมาไม่ถูกต้องตามประเพณี
“แต่เอ็งกับเสือมืดก็รักกันไม่ใช่เหรอ ใช่ไหม เอ็งรักเสือมืดหรือเปล่า เอ็งไม่เคยบอกรักเสือมืดได้เต็มปากเต็มคำเลย ไหนตอบมาให้ชัดๆซิว่า เอ็งรักเสือมืดหรือเปล่า” เสือสอนเอาจริง
ศยามพยักหน้าส่งสัญญาณให้วิชชุดาพูดดีๆ
“ฉันรักเสือมืด ในชีวิตนี้ฉันคงรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเสือมืดคนนี้” วิชชุดาบอกออกไป
เสือสอนพอใจหันมาถามศยามว่ารักวิชชุดาไหม
“ในโลกนี้ ผู้หญิงที่ฉันยอมตายแทนได้คือ ผู้หญิงที่ชื่อวิชชุดาคนนี้คนเดียว” ศยามตอบทันควัน
“ดี งั้นข้าจะจัดการแต่งงานให้พวกเอ็งเอง” เสือสอนสรุป แล้วสั่งให้ลูกน้องไปจัดเตรียมพิธีแต่งงาน
ไม่กี่อึดใจต่อมา เสือสอนก็รับเถาวัลย์จากลาดมาผูกข้อมือให้วิชชุดากับศยามพลางเอ่ยว่า “ตอนนี้เอ็งสองคนก็มาอยู่กับข้าแล้ว ข้าขอเป็นผู้ใหญ่จัดการทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี ขอให้เทวดาเจ้าป่าเจ้าเขาในที่นี้จงเป็นพยานนังหนู...งานแต่งงานไม่จำเป็นจะต้องมีพิธีการใหญ่โต แค่เอ็งตกลงปลงใจมอบชีวิตให้กับผู้ชายที่เอ็งรัก มันก็เพียงพอแล้ว ข้าผูกข้อมือให้เอ็งสองคนก็เหมือนข้าผูกหัวใจของเอ็ง
กับเสือมืดไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันข้างหน้าขอให้ความรักของเอ็งจงมั่นคงตลอดไป”
เสือสอนโยงเถาวัลย์จากข้อมือวิชชุดามาผูกข้อมือศยาม
“เสือมืด ขอให้เอ็งดูแลผู้หญิงของเอ็งคนนี้ด้วยชีวิต จะไม่มีสิ่งใดที่พรากผู้หญิงคนนี้จากเอ็งได้ นอกจากตัวเอ็งเอง จงเชื่อในความรู้สึกของตัวเองจงเชื่อมั่นในความรัก แล้วทุกอย่างจะจบด้วยดีเอง” ศยามกับวิชชุดามองตากันเคลิ้มๆเหมือนแต่งงานกันจริงๆ
ooooooo
ในขณะที่เสือสอนหยุดทำพิธีวิวาห์ให้ศยามกับวิชชุดา วิชาติ วีรชาติ และโสรัตน์ก็พบเปลือกกล้วยที่ศยามจงใจทิ้งไว้เพื่อบอกทิศทางให้ตาม
“เรามาถูกทางแล้ว และพวกมันก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เปลือกกล้วยนี่ยังสดๆอยู่เลย” วิชาติมั่นใจ
“นายมืดจะต้องถ่วงเวลาให้เราตามไปได้ทันแน่ รีบไปกันเถอะครับ” วีรชาติชวน สองพี่น้องเดินนำออกไป
“น้องวิช เข้มแข็งไว้นะครับ พวกเราจะไปช่วยน้องวิชแล้ว” โสรัตน์รีบตามไปอย่างตื่นเต้นระทึกใจ
ทางด้านวิชชุดา กงนึกรำคาญศยามกับวิชชุดาที่ดูเหมือนจงใจเดินช้า เพื่อถ่วงเวลาจึงหันมาดุ
“เอ็ง เอ็งก็อย่าเร่งนักเลย เราหนีมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าตำรวจจะตามมาเลย ปล่อยให้คู่ข้าวใหม่ปลามันมีความสุขไปเถอะวะ” ลาดออกรับแทน
“ทุกทีเห็นเอ็งเร่งให้หนีไม่เคยยอมพัก ตอนนี้ทำมาเป็นใจเย็นได้นะ เอ็งหนีมาตั้งสองวัน เพิ่งได้พ้นปากน้ำโพ ถ้าไม่มีไอ้มืดกับเมีย เราคงหาที่กบดานกันได้แล้ว” กงพาลต่อ
เสือสอนที่ยืนดูทิศทางของดวงอาทิตย์ หันมาบอกกง “ไม่ต้องร้อนใจไป ไอ้กง ออกทางซ้ายนี่ก็จะถึงอุทัยธานีแล้ว เราเข้าอุทัยฯแล้วไปออกชัยนาทเลย เพราะเราจะไปกบดานที่นั่น ท่าทางเสือมืดมันคงอยากจะเข้าหอเต็มทนแล้ว” เสือสอนอมยิ้ม มองศยามกับวิชชุดา
ส่วนวิชชุดาก็ยังงอนศยามไม่หาย เธอสั่งให้เขาตัดเถาวัลย์ที่ผูกข้อมือออก แต่ศยามไม่ยอมเพราะกลัวเสือสอนสงสัย วิชชุดาทำกระฟัดกระเฟียดใส่
“เราจะโกรธไปทำไม มันก็เป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น เอง แล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก แฟนเราไม่มีวันรู้เรื่องนี้แน่ๆ”
“นายก็เตือนตัวเองด้วยล่ะ อย่าได้หลุดปากเล่าเรื่องนี้ ให้แฟนนายรู้ แต่ฉันคงไม่ต้องเตือนนายล่ะมั้ง นายเล่นละครเก่ง อยู่แล้ว บอกหน่อยได้ไหมว่า ตั้งแต่ที่เราพบกันวันแรกจนถึงวันนี้ นายเคยพูดความจริงอะไรบ้าง” วิชชุดาสะบัดหน้าหนี
“ไม่มี” ศยามฝืนใจตอบพลางดึงมีดออกมาตัดเถาวัลย์ที่ผูกทั้งสองคนไว้ด้วยกันออก
วิชชุดาเสียใจเมินหน้าหนี ศยามตัดใจเดินออกมาแล้วพึมพำกับตัวเอง
“ผู้หญิงที่ผมยอมตายแทนได้คือ...คุณ...”
ooooooo
คุณนายจินดาชวนสุดถนอมไปบ้านเช่าที่สาทร เพราะอยากรู้ว่า คนเช่าคนใหม่เป็นใคร สุดถนอมถามหาหลวงพิศาล
จ้อยรีบรายงาน “คุณหลวงท่านออกไปข้างนอกแต่เช้าแล้วล่ะครับ เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญต้องรีบไปจัดการ วันนี้ ท่านแต่งตัวหล่อใส่น้ำหอมซะหอมฟุ้งเหมือนวันที่มีนัดสำคัญเมื่อวันก่อนเลยครับ”
คุณนายจินดาตาวาว นึกสังหรณ์ใจรีบชวนสุดถนอมไป บ้านเช่าทันที แล้วสองแม่ลูกก็พบรถหลวงพิศาลจอดอยู่หน้าบ้านเช่า สุดถนอมมองโลกในแง่ดีชวนคุณนายกลับ เพราะหลวงพิศาลมาดูแลคนเช่ารายใหม่แล้ว แต่คุณนายจินดายืนยันจะเข้าไปข้างใน
เป็นเวลาเดียวกับที่หลวงพิศาลพาสุมานเดินชมห้องต่างๆในบ้านอยู่ สุมานใส่จริตออดอ้อน จนหลวงพิศาลออกปากว่าจะไม่เก็บค่าเช่าจากเธอ สุมานเข้ากอดหลวงพิศาลอย่างดีใจมาก แล้วทำซึ้งขอเริ่มต้นชีวิตใหม่กับหลวงพิศาล
“ผมยินดีที่จะเป็นที่พักพิงให้คุณครับ คุณสุมาน” พิศาลก้มลงหอมหน้าผากสุมานก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาจะจูบปาก
“คุณหลวง/คุณพ่อ” คุณนายจินดากับสุดถนอมเข้ามาเห็นพอดี
หลวงพิศาลตกใจรีบผละจากสุมาน
“นังนี่เองเหรอคะ เมียน้อยของคุณหลวง” คุณนายจินดาท่าทางเอาเรื่อง
“คุณกำลังจะเข้าใจผิดแล้ว คุณจินดา ไม่ใช่นะลูก มันไม่ได้เป็นอย่างที่ลูกคิด คุณสุมานเป็นคนเช่าคนใหม่ของเราเท่านั้น” หลวงพิศาลปฏิเสธ
คุณนายจินดาไม่รับฟังเธอด่าสามีด้วยสำนวนแบบผู้ดี สุมานเสนอหน้าเข้ามา แถมยังเรียกคุณนายว่าป้า จึงโดนด่าไปหนึ่งชุดใหญ่ เพราะคุณนายดูออกว่าสุมานเป็นผู้หญิงหิวเงิน
“คุณป้าก็อย่าหึงหวงไปเลยนะคะ เห็นใจคุณพิศาลบ้างเถอะค่ะ ท่านต้อง ต้องอยู่กับผู้หญิงแก่ๆหนังเหี่ยวมา
เป็นสิบปีแล้วก็น่าจะปล่อยให้ท่านได้ทำอะไรให้มันชุ่มชื่นหัวใจบ้าง” สุมานยังไม่สำนึก
“งั้นก็เชิญคุณอยู่กับนังนี่ให้ชุ่มชื่นหัวใจให้พอ ไม่ต้องกลับไปเหยียบที่บ้านอีก วันนี้เราขาดกัน” คุณนายจินดาเดินปึงปังออกไป หลวงพิศาลรีบตามไปง้อ
สุดถนอมยืนมองสุมานนิ่งก่อนเอ่ยว่า เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมศยามถึงได้เลิกกับสุมาน สุมานหน้าเสียขอร้องสุดถนอมอย่าบอกเรื่องนี้กับศยาม
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันต้องรักษาเกียรติของครอบครัว คนที่ไม่มีเกียรติอะไรเหลืออยู่อย่างคุณ คงจะไม่เข้าใจ” สุดถนอมส่งยิ้มเย็นยะเยือกแล้วเดินออกไป
ooooooo
ด้านเสือสอนเดินนำขบวนมาเห็นที่เหมาะ มีต้นไม้ล้อมรอบพอจะพักได้ก็หันมาสั่งกงกับลาดให้พักก่อน
“งั้นฉันกับไอ้ลาดไปหาเสบียงก่อนนะพี่” กงกับลาดเดินออกไป
“ฉันไปด้วย” ศยามที่เดินมากับวิชชุดารีบบอก
“เอ็งอยู่กับเมียที่นี่แหละ แล้วตัดเถาวัลย์ขาดจากกันทำไม ข้าบอกแล้วว่าข้าจะถอดให้ตอนส่งเข้าห้องหอคืนนี้” เสือสอนดุ
“มันเดินไม่สะดวกน่ะ ฉันไปหาเสบียงอีกแรงดีกว่า ถ้าปล่อยสองคนนั่นไปเดี๋ยวก็ได้แต่กล้วยกลับมาเหมือนเดิม”
“เออดี ไปหาอะไรอร่อยๆ มาให้เมียกิน ไป เอ็งนี่มันช่างเอาใจเมียจริงๆ” เสือสอนหัวเราะร่วน
วิชชุดามองเสือสอนอย่างไม่ชอบใจ ศยามเดินเฉียดไปหาวิชชุดาบอกว่า จะรีบไปรีบกลับ วิชชุดามองตาม
ศยามวิ่งตามกงกับลาดไปพลางมองไปรอบๆ ดูว่ามีวี่แววของใครตามมาหรือไม่ แล้วตะโกนบอกทั้งคู่ว่า จะแยกไปหานํ้าทางด้านโน้น ลาดสั่งให้ตกปลามาเผื่อด้วย กงไม่ชอบใจลากลาดเดินไปอีกทาง
ศยามเดินลุยป่ามาอีกทางเขามองซ้ายขวาอย่างระวังแล้วฉีกผ้าพันแผลที่ไหล่มาผูกกิ่งไม้ทำเป็นเครื่องหมายไว้ เสียงกิ่งไม้ถูกเหยียบเสียงดัง ศยามชะงักรีบดึงผ้าพันแผลเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ดึงปืนออกมาเตรียมตัวพร้อม ค่อยๆเดินย่องไปตามเสียงที่ได้ยิน ก็พบโสรัตน์ยืนก้มๆเงยๆ มองหารอยเท้าที่พื้น
“พี่โสรัตน์” ศยามร้อง โสรัตน์หันมาตามกับวิชาติและวีรชาติที่ถือปืนกรูกันเข้ามาจากอีกทาง
ศยามมองทุกคนอย่างโล่งใจที่ตามมาทันจนได้ เขาเริ่มวางแผนช่วยวิชชุดาออกมาจากเสือสอนแล้วให้โสรัตน์เข้าไปชิงตัวตามแผนเดิมที่วางกัน วีรชาติไม่เห็นด้วยนักเพราะกลัววิชชุดาจะมีอันตราย แต่ศยามขอร้องให้ทำตามแผนเดิมเพราะอยากช่วยโสรัตน์
“ช่วยยายวิชออกมาให้ได้ก่อน แล้วเราค่อยบุกเข้าไปจับเสือสอน” วิชาติสรุป
“แผนการของเราจะเป็นอย่างนี้นะครับ เราต้องเป็นฝ่ายบุกก่อนไม่ให้เสือสอนได้รู้ตัว เราต้องไล่ถล่มพวกมันบีบบังคับให้พวกมันแตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทาง” ศยามคุยแผนการ กับวิชาติ โสรัตน์ และวีรชาติอย่างเคร่งเครียด
ooooooo
ในระหว่างที่ศยามซักซ้อมแผนการอยู่กับสามหนุ่ม เสือสอนก็เข้ามาคุยกับวิชชุดาเรื่องเสือมืดเพราะอยากให้ทั้งคู่ยอมเปิดใจ วิชชุดาฟ้องว่าเสือมืดไม่มีความจริงใจ เพราะไม่เคยพูดความจริงกับเธอ
“คนที่ตายแทนเอ็งได้ ยังเรียกว่าไม่มีความจริงใจอีกเหรอ คนเราทุกคนไม่สามารถพูดความจริงที่อยู่ในใจได้ทุกอย่างหรอก นังหนูบางทีคำพูดมันก็ไม่สำคัญเท่าการกระทำ มันเสี่ยงตายมาช่วยเอ็ง มันแบกเอ็งบนหลังเดินเป็นกิโลๆมันรับกระสุนแทนเอ็ง แล้วมันจะต้องทำอะไรอีกเอ็งถึงจะเชื่อว่า มันรักและเป็นห่วงเอ็งจริงๆ” เสือสอนพูดจบก็เดินออกไปก่อไฟ ทิ้งให้วิชชุดานั่งอึ้งคิดหนัก
สักพักกงกับลาดก็เดินยืดเข้ามาแล้วโยนถุงผ้าที่ใส่หัวมันเต็มถุงลงพื้น
“วันนี้ไม่ต้องกินกล้วยแล้ว พี่สอน ฉันได้หัวมันมาตั้งเยอะแยะ วันนี้เราจะได้กินมันเผาร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร” กงโม้แล้วอึ้งเมื่อเห็นศยามเดินถือปลาตัวใหญ่เบิ้มเข้ามา
“พี่ พี่มืดตกได้ปลามา โอ้โหตัวเบ้อเริ่มเลย พี่มืดนี่
ฝีมือเยี่ยมยอดจริงๆ” ลาดชื่นชม กงไม่พอใจพาลหาเรื่องลาด
“เฮ้ย หยุดกัดกัน จะทำอะไรก็รีบทำซะ กินเสร็จจะได้เดินทางต่อ” เสือสอนดุ
“มีอะไรเหรอพี่สอน ทำไมอยู่ๆรีบร้อนจะเดินทางต่อ” กงแปลกใจ
“ไม่รู้ว่ะ ข้ารู้สึกอยากไปจากที่นี่เร็วๆเท่านั้น” เสือสอนเปรย
ศยามแอบมองเสือสอนกลัวว่าจะไหวตัวทัน
วิชชุดาจับตามองศยาม แล้วเดินมาหลบอยู่มุมที่ห่างไกลจากกลุ่มเสือสอน
ศยามย่างปลาสุกแล้วก็เดินมาส่งให้วิชชุดา สาวเจ้ารับปลาย่างมากินอย่างไม่เรื่องมากดังแต่ก่อน
“ฉันไม่ต้องการคำตอบจากนายแล้ว ฉันควรพยายามที่จะเข้าใจนายมากกว่า นายคงมีความจำเป็นที่ไม่สามารถพูดความจริงกับฉันได้ทั้งหมด ฉันจะให้สิ่งที่นายขอจากฉัน ฉันจะเชื่อใจนาย”
“ขอบคุณครับ”
“ฉันต่างหากที่จะต้องขอบคุณนาย ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ขอบคุณที่ทำให้ฉันเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ หลังจากนี้นายคงจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ฉันลืมไม่ได้หรอกนะ ฉันจะลืมสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉันและสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉันได้ยังไง”
“ผมบอกว่า ผมจะพยายามลืมต่างหากล่ะครับ ผมไม่มี สิทธิ์จดจำคุณไว้ไม่ว่าจะเป็นฐานะอะไรก็ตาม แต่ผมจะจำช่วงเวลานี้ไว้นะครับ ในโลกนี้ไม่ว่าจะภาษาใด มีคำที่งดงามที่สุดอยู่สองคำ คำแรกคือ คำขอบคุณที่มาจากหัวใจ ที่ผมได้รับ จากคุณในวันนี้”
“แล้วอีกคำนึงล่ะ คือคำว่าอะไร”
“อีกคำนึงเหรอครับ ซักวันนึงคงจะมีคนบอกคำนี้กับคุณเอง” ศยามสบตากับวิชชุดานิ่งและนาน
อีกมุมหนึ่งไม่ไกลจากนั้น วิชาติ วีรชาติ และโสรัตน์ก็กำลังเตรียมพร้อมรอสัญญาณบุกจากศยาม
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้ว ศยามก็พาวิชชุดาเดินมาหาเสือสอนที่ยืนมองไปรอบๆอย่างระวังตัว ในขณะที่กงกับลาดช่วยกันกลบเศษหัวมัน
“เราจะออกเดินทางกันต่อเลยเหรอ พี่สอน” ศยามถาม
“เดี๋ยวเราหลุดจากป่านี่ไปก็จะเจอถนนใหญ่แล้ว เราจะต้องแยกกันไป ข้าคงจะไปถึงในเมืองก่อนพวกเอ็ง ข้าจะ จัดการหาที่พักไว้ให้ เอ็งไปถามหาพี่สิงห์ที่ร้านข้าวแกงป้าเล็ก” เสือสอนหันมาตอบ
“ก็ดีเหมือนกัน เราก็ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงของพวกพี่” ศยามว่า แล้วหันไปรับน้ำจากลาดมาเทดับกองไฟ
ควันจากกองไฟพุ่งขึ้นเป็นสัญญาณ เสียงปืนยิงกระหน่ำเข้ามา ทุกคนแตกฮือหาที่กำบัง ศยามดึงวิชชุดาแยกห่างออกมา เสือสอนตะโกนสั่งให้เสือมืดพาเมียหลบออกไปก่อน ศยามพา วิชชุดาออกไปทันที เสียงปืนยังดังไม่หยุด วิชาติกับวีรชาติที่ กำลังยิงใส่กลุ่มเสือสอนอยู่เห็นศยามพาวิชชุดาหลบออกไปแล้วก็สั่งน้องชายให้ถล่มเสือสอนทันทีหวังล้างอาย สองพี่ช่วย กันกระหน่ำยิงใส่กลุ่มเสือสอน
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนใส่กันไม่ยั้ง ศยามก็พาวิชชุดาหลบมาที่จุดนัดเพื่อให้โสรัตน์แสดงบทพระเอก
“แกหนีไปไหนไม่รอดหรอก ไอ้เสือมืด” โสรัตน์ยืนจังก้าโพสท่าเท่อยู่
“คุณโสรัตน์ คุณมาที่นี่ได้ยังไง” วิชชุดามองโสรัตน์อย่างคาดไม่ถึง
“ผมมาช่วยน้องวิชครับ ไอ้เสือมืดปล่อยน้องวิชเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ปล่อยโว้ย ฉันต้องการเงินค่าไถ่เพิ่มอีก อีกสองหมื่น”
“แก ไอ้โจรโลภมาก แกได้เงินไปตั้งสี่หมื่นแล้ว แกยังต้องการอะไรอีก” โสรัตน์พลาด
ศยามอ้าปากพะงาบทำปาก “หกหมื่น” วิชชุดายืนมองศยามกับโสรัตน์อย่างรู้สึกแปลกๆ
“หก หกหมื่น แกได้เงินแล้วตั้งหกหมื่น เราจะไม่ยอมเสียเงินให้แกอีกแม้แต่บาทเดียว ฉันขอเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยน้องวิชเดี๋ยวนี้”
“เอาเงินมาก่อนซิวะ ฉันถึงจะปล่อย” ศยามพูดจบ ก็ถูก โสรัตน์ยิงเฉียดหูไป เขารีบปล่อยมือวิชชุดา แต่วิชชุดายังไม่ยอมหนีไปเพราะเป็นห่วง ศยามจึงต้องถอยหลังออกห่างเสียเอง
โสรัตน์ดึงวิชชุดาให้หลบหลังไว้ แล้วยิงใส่ศยามไม่หยุด จนกระทั่งนัดสุดท้าย ศยามก็หงายหลังล้มกลิ้งลงไปตามเนินชันและหายเข้าไปในพุ่มไม้ วิชชุดาร้องลั่น
“มันตายแล้วล่ะครับ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่เสือสอนจะตามมา” โสรัตน์ลากวิชชุดาออกไป
วิชชุดามองหาศยามด้วยความเป็นห่วง
ooooooo
กงกับลาดยิงตอบโต้กับวิชาติและวีรชาติจนกระสุนหมดจึงวิ่งกลับมาหาเสือสอนชวนหนี แต่เสือสอนยืนยันจะสู้ต่อ ศยามลัดเลาะหลบเข้ามาหาเสือสอน หลอกว่าตำรวจมาเป็นกองทัพเลยให้รีบหนี
“เอ็งกลับมาทำไมวะ แล้วเมียเอ็งล่ะ” เสือสอนนึกห่วง
“ถูกพวกตำรวจมันชิงตัวไปแล้ว เราถอยไปตั้งหลักกันก่อนดีกว่า” ศยามชวน
เสือสอนนิ่งคิดแล้วยอมทำตาม กงกับลาดขยับจะตามเสือสอนไปด้วย แต่ศยามห้ามไว้ เขาขอให้กงหนีไปกับลาดส่วนเขาจะไปกับเสือสอนเอง สองสมุนทำท่าจะไม่ยอม
“ไอ้กง ไอ้ลาด พวกเอ็งหนีไป ตำรวจหมายหัวข้าอยู่ ขืนไปกับข้า พวกเอ็งจะหนีลำบาก ไปเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง
ข้าจะยิงคุ้มกันให้” เสือสอนโผล่พรวดออกไปยิงกระหน่ำ กงกับลาดวิ่งหนีหลบกระสุนไป เสือสอนยิงต่อไม่หยุดพลางถอยหนีไปอีกทางเรื่อยๆ
วิชาติกับวีรชาติบุกเข้ามายิงโต้ตอบกับเสือสอน วิชาติ เห็นศยามโผล่มาด้านหลังเสือสอนและมีโอกาสจะยิงเสือสอนได้ แต่ไม่ทำ ก็ชะงักมองศยาม เสือสอนสบโอกาสยิงเข้าที่ขาวิชาติ ทำให้วิชาติทรุดฮวบ เสือสอนรีบถอยไป
“พี่ใหญ่ๆพี่ใหญ่เป็นยังไงบ้าง” วีรชาติเข้ามาดูพี่ชายพลางมองตามเสือสอนอย่างละล้าละลัง ด้านศยามก็ถอยหนีตามเสือสอนไป
เสียงปืนเงียบลง วีรชาติประคองวิชาติพาเดินออกมาก็พบโสรัตน์ที่พาตัววิชชุดามาพอดี
“พี่ใหญ่ พี่กลาง” วิชชุดาโผเข้ากอดพี่ชาย
“นายใหญ่นี่แกถูกยิงหรือ” โสรัตน์เห็นขาวิชาติเลือดโชกก็หน้าซีด
“แค่ถากๆน่า ไกลหัวใจ” วิชาติยังยิ้มได้
“วิชขอโทษนะคะ วิชขอโทษจริงๆที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน” วิชชุดารู้สึกผิด
“พวกพี่ต่างหากที่จะต้องขอโทษเธอ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย” วีรชาติหลุดปากเหมือนจะสารภาพบาป
“เราออกไปจากที่นี่ดีกว่า ไป” วิชาติตัดบท
วีรชาติประคองวิชชุดาออกไป วิชชุดามองไปด้านหลังเพราะเป็นห่วงเสือมืด วิชาติคุยถึงความกล้าหาญของเพื่อนรักที่บุกเข้าไปช่วยวิชชุดาหวังให้น้องสาวชื่นชม แต่วิชชุดาไม่ฟัง เธอบอกกับพี่ชายว่า จะขอกลับไปที่กระท่อมเผื่อเสือมืดจะกลับมา
“เสือมืดมันตายไปแล้วครับ น้องวิช ผมยิงเข้าที่
ขั้วหัวใจของมัน ยังไงมันก็ไม่มีทางรอดแน่ น้องวิชสบายใจได้ผมแก้แค้นให้น้องวิชแล้ว” โสรัตน์คุย
วิชชุดาหน้าเสียรำพึงกับตัวเอง “เสือมืด นายต้องมาตายเพราะฉันแท้ๆฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” วิชชุดาน้ำตาไหลพราก เข้าใจว่าเสือมืดถูกยิงตายไปแล้วจริงๆ
ooooooo










