ตอนที่ 4
กะยอและภูผาไม่ยอมให้ตำรวจจับคินตามคำบอกเล่าของลุงจอนซึ่งทุกคนยืนยันว่าแกเป็นบ้าแล้วจะเชื่อถือได้ยังไง อีกทั้งภาพสเกตช์ฆาตกรในหนังสือพิมพ์ก็ไม่ค่อยเหมือนคิน ตำรวจจึงต้องปล่อยตัวคินไป
ลุงจอนเพ้อคลั่งวิ่งหนีไปทำให้พวกภูผาต้องตามจับตัวกลับหมู่บ้านผีเพราะกลัวแกจะไม่ปลอดภัย แต่ขณะไล่จับกันนั้น ลุงจอนลื่นล้มหัวฟาดพื้นอย่างแรงเลือดไหลซึม จันดีกับคินต้องรีบปฐมพยาบาลแล้วพาแกมาอยู่กระท่อมเดียวกับโยชิที่บาดแผลตามเนื้อตัวจากโดนทำร้ายเริ่มดีขึ้น ยกเว้นเสียงที่ยังแหบแห้งพูดแทบไม่ได้ยิน
ด้วยสายใยทางสายเลือดทำให้คินกับโยชิรู้สึกถูกชะตากัน ยิ่งเมื่อโยชิได้ยินคินพูดถึงหมู่บ้านเสอปาก็รู้สึกคุ้นชื่อนี้มากถึงขนาดนั่งพึมพำอยู่ไปมาหลังจากคินผละไปแล้ว
จันดีหนีพิธีบูชายัญโรนินมาจากเสอปา เวลานี้เธอจึงยังไม่กล้ากลับไปที่นั่นเพราะห่วงความปลอดภัยของตนเอง แต่คินกับกะยอต้องกลับไปหาพ่อแม่ สองหนุ่มรับปากจันดีว่าจะไม่บอกใครว่าเธออยู่ไหน ส่วนมดแดงที่แอบชอบกะยอ พอรู้ว่าเขาต้องจากไปก็รู้สึกอาวรณ์จนหนูหริ่งอดแซวไม่ได้
เมื่อคินกับกะยอกลับไปถึงหมู่บ้านเสอปา เป็นเวลาที่เฒ่าลิ้นดำกำลังสวดมนต์ทำพิธีคืนความหนุ่มให้ตาเผ่ที่ร่างกายทรุดโทรมราวคนชราอายุร้อยปี
ความจริงเฒ่าลิ้นดำและตาเผ่แก่ชรา แต่เพราะสองคนกินลูกลืมแก่ซึ่งเป็นผลไม้ประหลาดเรื่อยมาจึงยังคงความหนุ่มไว้จนปัจจุบัน หลายคนในหมู่บ้านสงสัยแต่ไม่มีใครกล้าซักไซ้ เพราะเกรงกลัวอำนาจในทางมนต์คาถาของทั้งคู่ อีกทั้งจอป่าหรือเฒ่าลิ้นดำก็มีองครักษ์หลายคนล้วนมีฝีมือ
พ่อแม่ของคินและกะยอต่างดีใจที่ลูกชายกลับบ้าน ขณะเดียวกันเฒ่าลิ้นดำกับตาเผ่พอรู้ข่าวก็หารือกันว่า
“ตอนนี้คินมันก็เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว เราอย่าเสียเวลารอกันอีกเลยท่านผู้เฒ่า”
“ไม่ได้ ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาก็จะไม่มีใครทำให้แผนที่บนหลังไอ้หนุ่มนั่นปรากฏขึ้นมาได้เป็นอันขาด”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะท่านผู้เฒ่า เรารอกันมา 20 กว่าปีแล้วนะ”
“แผนที่บนหลังถูกสร้างขึ้นมาด้วยมีดแสงจันทร์” พูดแล้วเฒ่าลิ้นดำนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีตตอนที่แอบเห็นเหมยลี่แม่ของโยชิใช้มีดแสงจันทร์ทำพิธีถ่ายทอดรอยแผนที่ไว้บนหลังทารกซึ่งเป็นหลานชาย
เหมยลี่หยิบมีดมาสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างให้ทำมุมตกกระทบกับแผ่นหลังของทารก ไม่นานนักพลังลึกลับจากมีดก็ทำให้เกิดร่องรอยแผนที่ปรากฏบนหลังทารก แล้วจากนั้นเหมยลี่ใช้สมุนไพรบังบดมาราดลงไป สักครู่แผนที่ก็ค่อยๆเลือนหาย
เฒ่าลิ้นดำแอบดูด้วยความตื่นตาตื่นใจและได้ยินเหมยลี่สำทับทิ้งท้ายว่า “แผนที่ขุมทองอยู่บนตัวลูกของเจ้าแล้วโยชิ เลี้ยงลูกให้ดี เขาคือสมบัติล้ำค่าของเจ้า”
ตาเผ่ฟังเรื่องเล่าของเฒ่าลิ้นดำด้วยความสนใจ
“นังเหมยลี่มันสักแผนที่เอาไว้บนหลังของผัวมัน แล้วใช้มีดแสงจันทร์สะท้อนภาพเก็บเอาไว้ด้วยเวทมนต์คาถา จนกระทั่งไอ้คินเกิดขึ้นมา นังเหมยลี่ก็เลยให้มีดแสงจันทร์สะท้อนภาพแผนที่กลับมาอยู่บนหลังของหลานมันอีกครั้ง”
“แล้วทำยังไงเราจะมองเห็นแผนที่บนหลังของมันได้”
“แผนที่เกิดจากเงาสะท้อนของดวงจันทร์ มันต้องแก้ด้วยเงาคราสของดวงอาทิตย์”
“เงาคราสของดวงอาทิตย์?”
“ใช่ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันตะวันดับ ข้าจะทำพิธีเรียกแผนที่ในวันนั้น”
“ถ้างั้นทองกำลังจะเป็นของเราแล้วใช่ไหมท่านผู้เฒ่า”
“การรอคอยของพวกเรากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว หึๆๆ” เฒ่าลิ้นดำแสยะยิ้มหัวเราะในลำคอ ขณะที่ตาเผ่ดีใจเพ้อฝันว่าจะได้ทอง
ooooooo
หลังจากชนะชัยยัดเยียดความเป็นฆาตกรให้คินด้วยการลงข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ผ่านไปหลายวัน แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าจากตำรวจ พรานดำคาดเดาว่าข่าวดังขนาดนี้คินคงอยู่กรุงเทพฯไม่ได้ ต้องหนีกลับหมู่บ้านเสอปาไปแล้ว
“จริงสิ ฉันลืมเสียสนิท มันต้องหนีกลับไปที่นั่น แน่นอน”
“งั้นก็น่าจะไปตามล่าตัวมันที่นั่น”
โอลิเวียพูดด้วยท่าทีกระตือรือร้น จังหวะนั้นไรอัลเดินเข้ามาพอดี เขามาพร้อมข้อมูลบางอย่าง ชนะชัยสังเกตแล้วถามทันที
“มีอะไรเหรอไรอัล ท่าทางคุณดูตื่นเต้นนะ”
“เจ้าหน้าที่ของผมรายงานความเคลื่อนไหวของพวกไอ้ทาเคชิมา นี่ครับอยู่ในรายงานนี้”
ไรอัลยื่นรายงานให้ชนะชัย แต่ชนะชัยดูไม่เป็น ยอมรับว่าตนไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ จึงส่งต่อให้โอลิเวียช่วยเหลือ
“ได้ค่ะ...ในรายงานบันทึกเอาไว้ว่าสองสามวันมานี่ไอ้ทาเคชิกับพวกลูกน้องมันกำลังเตรียมตัวจะเดินทางไกลกัน”
“เดินทางไกล?” ชัยชนะทวนคำพลางครุ่นคิด
“สังเกตจากของที่พวกมันซื้อกันก็น่าจะเป็นการเดินป่าแน่นอน เพราะพวกมันซื้อเต็นท์นอน อุปกรณ์เดินป่า แล้วก็อาวุธ”
“ผมว่ามันต้องเจออะไรเด็ดๆแน่เลยครับ ไม่งั้นมันคงไม่เคลื่อนไหวแบบนี้”
“หรือว่ามันจะเจอแผนที่แล้ว”
“บางทีอาจจะยังไม่ใช่แผนที่หรอกค่ะ”
“ไม่ใช่แผนที่แล้วเป็นอะไร”
“ลูกสาวของโยชิที่ชื่อเคียวโกะ”
ข้อสันนิษฐานของแต่ละคนน่าสนใจ จนมาถึงประโยคสุดท้ายของไรอัลที่ว่าลูกสาวของโยชิชื่อเคียวโกะ เล่นเอาทุกคนนิ่งอึ้งคาดไม่ถึง โอลิเวียรีบเปิดรายงานหน้าสุดท้ายซึ่งเป็นภาพของเคียวโกะ ชนะชัยและพรานดำมองด้วยความสนใจ ก่อนที่ชนะชัยจะเปรยขึ้นอย่างเจ็บใจว่า
“ทาเคชิมันร้ายกาจมากที่คว้าตัวเคียวโกะมาเป็นพวกได้”
“ผมว่าเคียวโกะไม่ได้เป็นพวกทาเคชิหรอกครับ แต่เธอกำลังโดนหลอกมากกว่า”
“เคียวโกะแค่มาตามหาโยชิพ่อของเธอ โดยไม่รู้ว่าคนที่ทำให้พ่อของเธอหายตัวไปก็คือไอ้ทาเคชินี่เอง”
“พวกคุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง”
น้ำเสียงพรานดำแปร่งๆ เพ่งเล็งมาที่ไรอัลกับโอลิเวียอย่างรอคอยคำตอบ
“ผมกับ ดร.ฮิวโก้สืบเรื่องราวของไอ้ทาเคชิมานานจนรู้ว่ามันจับโยชิมาซ้อมเพื่อหาเบาะแสเรื่องทอง เมื่อโยชิหนีไปมันก็เลยเข้ามาตีสนิทกับเคียวโกะเอาไว้ เพราะอย่างน้อยถ้าพวกมันเจอกับโยชิอีกครั้ง จะได้เอาเคียวโกะไว้ต่อรองให้โยชิบอกแผนที่ไงครับ”
“พวกมันได้เบาะแสอะไรถึงได้เข้าป่ากันตอนนี้” ชนะชัยข้องใจ...แล้วพอฟังไรอัลวิเคราะห์ต่อไปก็รู้สึกวิตกกังวล
“หวังว่าคงไม่ใช่เบาะแสของไอ้หนุ่มที่ชื่อคินนะ”
ชนะชัยเกรงว่าทาเคชิกับพวกจะได้ตัวคินก่อนตน พูดโพล่งขึ้นทันทีว่า
“ไม่ได้นะ พวกเราต้องได้ตัวคินก่อนพวกมัน”
โอลิเวียเห็นด้วย บอกว่าคินคือจิ๊กซอว์ตัวสำคัญของเรื่องนี้ เราจะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้ พรานดำจึงวางแผนอย่างรวดเร็วว่า
“เราต้องแอบตามพวกทาเคชิไป อย่าให้มันรู้ตัว และถ้าเจอไอ้คิน เราก็จะลงมือชิงตัวมันมาเป็นของเรา”
“ถ้างั้นสิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ก็คือแอบใส่เครื่องส่งสัญญาณจีพีเอสให้คนที่เหมาะสมในขบวนของพวกมันพกติดเอาไว้”
ชนะชัยเบนสายตามาที่ไรอัล ถามว่าใครกันคือคนที่เหมาะสม
ไรอัลไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มบางๆแล้วหันไปมองโอลิเวียที่ส่งยิ้มกลับมาอย่างรู้กัน
ooooooo
เช้าวันเดินทาง เพียงมาศขนกระเป๋าสัมภาระใส่รถมาจำนวนหลายใบ โดยบอกเคียวโกะว่าคือสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินป่า แต่เคียวโกะตรวจดูแล้วส่วนใหญ่เป็นเครื่องประทินความงาม เลยแซวเพื่อนสาวว่าเป็นนักข่าวหรือดารานางแบบกันแน่
เพียงมาศยิ้มเขิน แต่ยังไม่วายแก้ตัวอีกว่าครั้งก่อนตนเคยมีประสบการณ์เข้าป่ามาแล้วก็เลยรู้ซึ้งว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ถึงมันจะเยอะหน่อยแต่จำเป็นทั้งนั้น เคียวโกะคร้านจะเถียงด้วย ถามว่าใครจะช่วยเธอขน
“ลูกน้องคุณทาเคชิมีตั้งหลายคน แล้วฉันได้ยินว่าเขาจะจ้างชาวบ้านมาเป็นลูกหาบด้วย แหม...กระเป๋าของฉันก็แค่ไม่กี่ใบเองเขาคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
“จะเอาไปให้ได้ว่างั้น”
เพียงมาศพยักหน้า เคียวโกะทิ้งค้อนแล้วเดินแบกเป้ของตัวเองไปนั่งเบาะหน้า ส่วนเพียงมาศทำหน้าที่คนขับเพื่อไปสมทบกับคณะของทาเคชิที่นัดไปเจอกันที่ลานหมู่บ้านชายป่า
ขณะขับรถกินลมชมวิวด้วยรถของตัวเองเรื่อยไป เพียงมาศชวนเคียวโกะคุยจ้อ แต่แล้วจู่ๆมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นปาดหน้าเกือบเฉี่ยวชน เพียงมาศและเคียวโกะหงุดหงิดโมโหลงไปเจรจากับหญิงสาวที่ขับมอเตอร์ไซค์คันนั้นโดยไม่รู้ว่าเธอคือโอลิเวีย ซึ่งตั้งใจปาดหน้าและชวนทะเลาะเพื่อเปิดโอกาสให้คนของตนแอบติดเครื่องสัญญาณจีพีเอสที่กระเป๋าเดินทางของเพียงมาศ
เมื่อเหลือบเห็นคนของตนยกมือให้สัญญาว่าเรียบร้อย โอลิเวียผละไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นส่วนลูกน้องหนีหายเข้าข้างทางอย่างรวดเร็วจนสองสาวไม่ทันสังเกต
ทันทีที่ไปถึงจุดนัดหมาย เคนตะจัดการให้คนนำรถของเพียงมาศไปฝากไว้ที่ผู้ใหญ่บ้านรวมกับของพวกชนะชัยที่ฝากไว้ก่อนหน้านี้ เสร็จแล้วทุกคนเตรียมเดินทาง จุดหมายคือหมู่บ้านเสอปาซึ่งเคนตะจ้างชาวบ้านแถวนี้นำทาง
ขณะที่ขบวนของทาเคชิเคลื่อนไป คณะของชนะชัยกำลังเพ่งจับสัญญาณจีพีเอสอย่างจดจ่อ เมื่อรู้เห็นทิศทางชนะชัยก็เร่งทุกคนติดตามจะได้ไม่ทิ้งห่างกันมากนัก แต่ไรอัลท้วงว่ารอสักครู่ดีกว่า เดี๋ยวพวกมันจับได้จะเสียแผนหมด พรานดำเห็นด้วยและว่าทิศทางที่พวกนั้นไปจุดหมายน่าจะอยู่ที่หมู่บ้านเสอปา เส้นทางนี้ตนรู้จักดี เราสามารถติดตามแบบคู่ขนานได้ ตนจะนำทางให้
ชนะชัยพยักหน้าและให้ความมั่นใจกับไรอัลและโอลิเวียว่าเรื่องป่าแถบนี้ต้องไว้ใจพรานดำ เขารู้จักเส้นทางดี
โอลิเวียเงยหน้าขึ้นดูท้องฟ้าเห็นสุริยคราสเริ่มปรากฏ เธออุทานอย่างนึกได้...รอยยิ้มชนะชัยผุดพราย บอกว่าวันนี้ถือเป็นฤกษ์ดี
ooooooo
ที่หมู่บ้านเสอปา เฒ่าลิ้นดำและบริวารกำลังทำพิธีต้อนรับสุริยคราส โดยมีชาวบ้านทุกคนมาร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง ในจำนวนนี้มีครอบครัวของคินและกะยอรวมอยู่ด้วย
เมื่อได้ยินเสียงตาเผ่บอกว่าตะวันดับแล้ว เสียงสวดมนต์หยุดลงทันใด ทุกคนคว้าไม้ไผ่มาเคาะให้เกิดเสียงเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
เสียงตีเกราะเคาะไม้ดังกระหึ่มได้ยินถึงขบวนของทาเคชิ ทุกคนหยุดชะงักด้วยความตกใจ เพียงมาศกระโดดมาซุกเคียวโกะอย่างหวาดกลัว กระซิบถามว่าเสียงอะไร?
“ฉันจะรู้ได้ไง แกระวังตัวไว้ก็แล้วกัน”
ทาเคชิชักปืนออกมามองตัวอย่างระแวดระวัง เคนตะเดินไปสอบถามชาวบ้านในขบวน สักครู่ก็เดินกลับมารายงาน
“ไม่ต้องกลัวครับ เป็นเสียงเคาะไม้ของพวกเสอปา วันนี้มีสุริยคราส ชาวบ้านเลยทำพิธีไล่ตะวันดับ”
เพียงมาศหายปอดแหกเป็นปลิดทิ้ง รีบทำฟอร์มผู้รู้อธิบายเรื่องทันที
“คืองี้ค่ะ สมัยโบราณเวลาเกิดสุริยคราสหรือจันทรคราส คนไทยสมัยก่อนเชื่อกันว่าถ้าตีเกราะเคาะไม้แล้วจะช่วยขับไล่เงาดำที่กำลังบดบังดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ได้ ยิ่งตอนเกิดคราสแล้วเอาไม้ไปเคาะต้นไม้ ก็จะช่วยให้ต้นไม้มีลูกดกขึ้นด้วยนะคะ ทุกคนไม่ต้องตกใจค่ะ ใจเย็นๆไม่ต้องตกใจ ไม่มีอะไรทั้งนั้น”
เพียงมาศตะโกนปลอบใจทุกคน เคียวโกะหมั่นไส้และขำเพื่อนที่ทำเป็นเก่ง ผิดจากเมื่อครู่ตกใจกลัวจนหน้าซีด...
เมื่อไม่มีอะไรแล้วทาเคชิให้เดินทางต่อ ต้องเข้าใกล้หมู่บ้านให้มากที่สุด ขณะเดียวกันขบวนของชนะชัยก็กำลังรีบเร่ง ไรอัลปีนต้นไม้ส่องกล้องทางไกลไปยังลานหมู่บ้านแล้วมารายงานว่าพวกเสอปากำลังทำพิธีไล่ตะวันดับ
โอลิเวียรู้จักพิธีนี้ อธิบายว่าคนไทยบางท้องถิ่นเรียกว่ากบกินเดือน ชนะชัยฟังแล้วทึ่ง ถามหญิงสาวว่ารู้ได้ยังไง โดยเฉพาะเรื่องกบกินเดือนตนยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ฉันศึกษาประเพณีวัฒนธรรมของไทยมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ อย่าลืมสิว่าฉันได้รับมอบภารกิจเรื่องขุมทองมาจากปู่ของฉัน โทมัส เบิร์นเนอร์ พยานปากเอกที่เคยเห็นขุมทองมาซากิ”
“ผมดีใจนะที่ได้ร่วมงานกับคนที่มุ่งมั่นจริงจังแบบคุณ”
ไรอัลดูจีพีเอสแล้วแจ้งว่าเป้าหมายของเรากำลังเคลื่อนที่ไปไกล เรารีบเดินทางกันต่อดีกว่า
ooooooo
พิธีกรรมของชาวเสอปายังคงดำเนินต่อไป เฒ่าลิ้นดำท่าทางเหมือนสื่อสารกับใครบางคนที่มองไม่เห็นตัวตน จากนั้นก็ลุกขึ้นมารับไม้เท้าจากองครักษ์แล้วบอกว่าเทพราหูสื่อสารกับตนแล้ว
ตาเผ่ตื่นตะลึง ชาวบ้านฮือฮาเริ่มวิตกเมื่อได้ยินเฒ่าลิ้นดำกล่าวต่อไปว่า ราหูต้องการเลือดของชายหนุ่มเซ่นสังเวย แล้วเจาะจงเลือกคินออกมา ซอซอแม่ของคินไม่สบายใจบอกนายพลลีสามีว่าตนเป็นห่วงลูก นายพลลีปลอบเธอว่าคงไม่มีอะไรมาก ตนจะตามไปดูใกล้ๆด้วยตัวเอง
ด้านขบวนของทาเคชิที่ใกล้หมู่บ้านเข้ามาทุกที เคนตะเริ่มวางแผนแอบเข้าไปที่ลานพิธีเพื่อถ่ายรูปผู้ชายที่เป็นเป้าหมายทุกคน โดยทาเคชิให้เพียงมาศไปกับเคียวโกะ เขาไปกับเคนตะ เสร็จแล้วเขาสองคนทบทวนความเข้าใจอีกครั้งว่าเรามาที่นี่เพื่อตามหาพี่ชายของเคียวโกะ ซึ่งอาจถูกนำมาเลี้ยงในหมู่บ้านจนกลายเป็นคนพื้นเมืองไปแล้ว อายุตอนนี้น่าจะประมาณ 25 ปี ลักษณะหน้าตาผิวพรรณน่าจะดูแตกต่างจากพวกชาวบ้านไม่มากก็น้อย
เมื่อผู้ถูกวางตัวแยกไป คนที่เหลือก็ทำหน้าที่ตั้งแคมป์ค้างแรม เพียงมาศกับเคียวโกะลัดเลาะตามเสียงตีเกราะเคาะไม้เรื่อยไปจนใกล้ลานพิธี อีกด้านทาเคชิกับเคนตะทำเช่นเดียวกัน ทุกคนเห็นพิธีกรรมชัดแต่ไม่รู้ว่าชายที่ถูกปิดตานั่งบนแท่นคือคิน
ฝ่ายขบวนชนะชัยที่มาใกล้แล้วเช่นกัน พรานดำถือปืนเตรียมพร้อมรับคำสั่ง ขณะที่คนอื่นๆส่องกล้องดูเหตุการณ์แล้วเห็นผู้ชายถอดเสื้อถูกปิดตานั่งบนแท่นท่าทางคล้ายคินชายหนุ่มที่กำลังตามหา
เมื่อช่วยกันพิจารณาจนแน่ใจว่าใช่คิน ชนะชัยบอกว่าเราจะช้าไม่ได้ ต้องรีบชิงตัวไอ้หนุ่มคนนั้นมาเป็นของเรา ไม่งั้นเสร็จทาเคชิแน่
ทุกคนเตรียมพร้อม กระชับปืนในมือเตรียมบุกเข้าชิงตัว...อีกมุมหนึ่งเพียงมาศและเคียวโกะกำลังซุ่มถ่ายรูป เคียวโกะมองไปที่แท่นพิธีแล้วรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา แต่เพียงมาศเห็นกะยอชัดแจ๋ว ชี้ชวนให้เพื่อนดูก่อนลงความเห็นตรงกันว่าเขาเป็นเพื่อนของไกด์ที่เราเจอครั้งที่แล้ว แสดงว่าผู้ชายที่ปิดตาต้องเป็น...
“นายคนนั้น” เพียงมาศโพล่งออกมา แล้วถามเคียวโกะว่าเขาชื่ออะไร
“จำไม่ได้ เอ๊ะ แต่เธอเคยรู้จักเขามาก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ เธอน่าจะรู้สิ”
เพียงมาศยิ้มแหะๆ สารภาพว่าไม่เคยถามชื่อของเขาเลย
ooooooo
“ตะวันดับแล้ว” เสียงเฒ่าลิ้นดำตะโกนก้อง พร้อมๆกับภาพที่แผ่นหลังของคินค่อยๆปรากฏแผนที่ขึ้นมาซึ่งเป็นระยะเวลาสั้นๆ ครู่เดียวก็เลือนหายไป
เฒ่าลิ้นดำเบิกตาโพลงตื่นเต้น แต่คนอื่นๆมองไม่เห็นเพราะเร็วมาก แม้แต่ตาเผ่ก็ยืนยันว่าไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ
“เลือด...เทพราหูต้องการเลือดเป็นของแลกเปลี่ยน แล้วความจริงจะปรากฏ”
เฒ่าลิ้นดำไม่รอช้า หยิบมีดขึ้นมาแล้วตรงเข้าไปเงื้อจะแทงคิน...ซอซอร้องกรี๊ดตกใจถลาจะเข้าไปช่วยลูกชาย นายพลลีรีบเข้ามาหาเมีย
มีดของเฒ่าลิ้นดำกำลังจะถึงร่างคินที่นั่งปิดตา แต่ทันใดเสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับมีดในมือของเฒ่าลิ้นดำถูกยิงกระเด็นไป ชาวบ้านพากันตกใจ แล้วจากนั้นก็มีเสียงปืนดังรัวขึ้นท้องฟ้าเป็นชุด ทุกคนหลบลี้หนีตายโกลาหล...
เพียงมาศและเคียวโกะตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงปืนยังคงดังรัวลั่นสนั่นป่า ขณะที่ชาวบ้านเสอปาพากันวิ่งหนีวุ่นวาย
เฒ่าลิ้นดำและบริวารหันซ้ายขวาหาที่มาของเสียงปืน ตาเผ่เห็นท่าไม่ดีให้ผู้เป็นนายหลบเข้ากระท่อมโดยเร็ว จังหวะนี้เองกะยอจึงเข้ามาช่วยแก้มัดให้คิน
และเปิดผ้าปิดตาพากันวิ่งปะปนหายไปกับกลุ่มชาวบ้าน
ทาเคชิและเคนตะพากันมาหลบอยู่มุมหนึ่ง พอเห็นไรอัลถือปืนเดินออกมายิงขึ้นฟ้า ตามมาด้วยพรานดำ และชนะชัย เคนตะไม่รอช้าระดมยิงเข้าใส่อีกฝ่ายเพราะจำได้ว่าไรอัลคือคนที่มาขโมยข้อมูลไป
เสียงปืนจากการปะทะกันทำให้ชาวบ้านยิ่งตกใจวิ่งหนีกระจัดกระจาย นายพลลีประคองซอซอห่างออกมา แต่ซอซอละล้าละลังเป็นห่วงคิน ถามสามีว่าลูกเราอยู่ไหน?
“กะยอมันไปช่วยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงมันเป็นผู้ชาย”
“เฒ่าลิ้นดำกำลังจะเอาลูกไปแล้วใช่ไหม ถึงเวลาแล้วใช่ไหม”
“ใจเย็นๆซอซอ อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย คินมาโน่นแล้ว ฉันไม่อยากให้ลูกได้ยินเรื่องนี้”
เมื่อคินวิ่งมาถึง ซอซอโผไปกอดลูกและพร่ำพูด
ว่าแม่รักลูก แม่จะไม่ยอมให้ใครเอาตัวคินของแม่ไป นายพลลีเกรงเมียจะหลุดความลับจึงแทรกขึ้นตัดบทและกำชับทุกคนอย่าออกไปไหน ตนจะออกไปดูเหตุการณ์
นายพลลีคว้าปืนวิ่งออกไปทางกระท่อมของเฒ่าลิ้นดำซึ่งมีผู้คนหลบอยู่จำนวนมาก เขาถามตาเผ่ว่าพวกที่ยิงปืนเป็นใคร
“เป็นพวกฝรั่งกับคนญี่ปุ่น”
“งั้นเดี๋ยวข้าจะไปจัดการพวกมันเอง”
“ไม่ต้อง ถ้ามันจะยิงกันเองก็ปล่อยพวกมัน อย่าเข้าไปยุ่ง”
“ทำไมล่ะ”
เฒ่าลิ้นดำไม่ตอบแต่ให้นายพลลีตามตนเข้ามาในกระท่อม โดยคนอื่นๆอยู่ด้านนอก ยกเว้นตาเผ่และองครักษ์ทั้งสี่ที่เข้ามาได้
“ข้ารู้ว่าไอ้พวกฝรั่งกับญี่ปุ่นมันจะมาเอาตัวไอ้คินไปจากเรา”
“แสดงว่ามันรู้เรื่องแผนที่แล้วน่ะสิ”
“ใช่ พวกมันต้องรู้เรื่องแผนที่บนตัวของไอ้คินแล้วมันถึงบุกเข้ามาแบบนี้”
“แต่ไอ้คินต้องเป็นของพวกเรา มันเป็นทรัพย์สินของชาวเสอปา”
นายพลลีฟังตั้งแต่แรก ค้านว่าคินไม่ใช่ทรัพย์สินของใคร เขาเป็นคนมีชีวิตจิตใจ เฒ่าลิ้นดำหันขวับมาจ้องนายพลลีตาขวาง
“ข้าฝากเด็กน้อยเอาไว้ให้เจ้าเลี้ยง บัดนี้มันโตเป็นหนุ่ม ถึงเวลาแล้วที่มันจะมาเป็นคนของข้า”
“ข้ารู้ว่าคินเป็นสิทธิ์ของท่านผู้เฒ่า แต่ข้ากับเมียเลี้ยงมันมาเหมือนลูก ข้ารักมันเหมือนเป็นสายเลือดของข้าเอง”
“นี่เอ็งจะขัดคำสั่งข้ารึ”
“ข้าไม่ได้ขัดคำสั่ง ข้ายินดีที่จะมอบคินให้ท่านผู้เฒ่าดูแล เพียงแต่อยากจะขอร้องท่านอย่าบอกความจริงเรื่องเขาเป็นใคร ข้าอยากให้คินรักข้ากับซอซอเหมือนพ่อกับแม่เช่นเดิม”
“ก็ได้”
“แล้วถ้าท่านได้แผนที่แล้ว โปรดไว้ชีวิตมันด้วย อย่าฆ่ามัน ปล่อยให้มันอยู่เป็นชาวเสอปาต่อไปกับครอบครัวของข้า”
“ตกลงตามนั้น”
ทันใดนั้นเอง สมุนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาร้องบอกตาเผ่ว่าพวกญี่ปุ่นกับฝรั่งยิงกันกำลังหนีมาทางนี้
“พวกท่านอยู่ในกระท่อม เดี๋ยวข้าออกไปจัดการพวกมันเอง”
นายพลลีและชาวบ้านรีบออกไปสกัดพวกพรานดำที่ไล่ยิงกลุ่มทาเคชิซึ่งวิ่งเตลิดห่างออกไป นายพลลีตะโกนถามอย่างไม่พอใจว่า
“พวกคุณมาทำอะไรกัน”
ไรอัลบอกว่ามาเที่ยว แต่พอดีเจอกับคู่ปรับเก่าเสียก่อน นายพลลีไม่ต้องการให้คนนอกพื้นที่มามีเรื่องในหมู่บ้านของตนจึงไล่พวกเขาไปมีเรื่องกันที่อื่น
นายพลลีกระชับปืนในมือ เช่นเดียวกับชาวเสอปาทุกคนที่กระชับปืนกันเพื่อข่มขู่...ไรอัล พรานดำ ชนะชัยเห็นท่าไม่ดีจึงล่าถอยไปทั้งที่ไม่ชอบใจ
ooooooo
อีกด้านหนึ่ง โอลิเวียถือวิสาสะถือปืนเข้าไปตรวจค้นดูตามทางที่ผ่านมาเพื่อค้นหาคิน ท่ามกลางชาวบ้านหญิงที่พากันหวาดกลัว กะยอและคินกำลังจะเดินมาทางนี้ แต่กะยอตาไวเห็นโอลิเวียก่อน จึงรีบหลบมุมแล้วดึงคินให้หลบตาม
“มันต้องมาตามจับตัวเอ็งไปส่งตำรวจแน่ๆ”
“ทำไงกันดี”
“จะทำไง ก็หนีสิวะ ไปเร็ว” กะยอดึงคินหลบหนีออกไป โอลิเวียหันมาพอดี รีบวิ่งตามสองหนุ่มไม่ลดละ แต่ดันโผล่ไปเจอเพียงมาศกับเคียวโกะ สองสาวเห็นโอลิเวียก็จำได้ทันทีว่าคือคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ปาดหน้ารถแล้วมีเรื่องทะเลาะกัน
สองฝ่ายมีปากเสียงกันอีกครั้ง ก่อนจะกลายเป็นลงไม้ลงมือ กะยอกับคินแอบดูและหาจังหวะเข้าช่วยเหลือเคียวโกะที่โดนโอลิเวียทำร้ายจนได้เลือดและพาไป
หลบซ่อนตัวแถวป่าทึบ แต่โอลิเวียยังไล่บี้ไม่เลิก เพียงมาศเลยต้องเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการวิ่งออกไปท้าทาย
ได้ผล! โอลิเวียเปลี่ยนทิศไปตามเพียงมาศ คินเห็นดังนั้นบอกกะยอให้ดูแลเคียวโกะ ส่วนตัวเองวิ่งตามไปช่วยเพียงมาศรอดพ้นจากเงื้อมมือโอลิเวียสำเร็จ
เคียวโกะถูกแทงที่ไหล่เสียเลือดทำให้เธออ่อนแรงเดินแทบไม่ไหว กะยอเฝ้าดูอย่างห่วงใย แต่ไม่คาดคิดว่าพวกพรานดำจะโผล่มาเจอแล้วจับเคียวโกะไป โดยซ้อมกะยอจนสลบอยู่ตรงนั้น เมื่อคินกับเพียงมาศย้อนกลับมาเจอก็ช่วยกันปฐมพยาบาลกะยอและซักถามจนรู้ว่าเคียวโกะถูกพวกชนะชัยจับตัวไป ทั้งหมดจึงช่วยกันแกะรอยเรื่อย
เวลานั้นเคียวโกะถูกพรานดำนำมามัดไว้กับต้นไม้ เอาผ้ามัดปากไว้ป้องกันเธอส่งเสียง ส่วนไรอัลจัดการทำแหตาข่ายดักจับโดยเอาเคียวโกะเป็นตัวล่อ ตั้งใจว่าต้องได้ตัวคิน แต่กลายเป็นเพียงมาศต่างหากที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไปด้วยความดีใจที่เจอเพื่อน
ร่างของเธอถูกแหคลุมจนดิ้นไม่หลุด เคียวโกะตกใจร้องลั่น กะยอใช้มีดตัดแหก่อนพาเพียงมาศและเคียวโกะหนีไป ส่วนคินต่อสู้กับไรอัลที่พยายามจะจับตัว แต่แล้วคินพลาดหล่นลงไปในหลุมพราง ฝ่ายชนะชัย
โอลิเวีย และพรานดำกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มของทาเคชิ
ฝ่ายชนะชัยเป็นรองถูกพวกทาเคชิใช้ปืนจ่อและออกคำสั่งให้ทุกคนยกมือขึ้น จากนั้นไม่นานเสียงปืนดังเปรี้ยง กะยอ เพียงมาศ และเคียวโกะสะดุ้งโหยง
ก่อนจะรีบพยุงกันและกันเดินต่อ แต่ไปได้ไม่ไกลก็มีชายกลุ่มหนึ่งมาพาสองสาวกลับที่พัก ส่วนกะยอย้อน
กลับมาเจอคินที่ได้รับความช่วยเหลือจากทาเคชิขึ้นมาจากหลุมพราง หลังจากพวกชนะชัยหนีไปได้ไม่นาน
“เฮ้ย...แกเป็นไงบ้าง ได้ยินเสียงปืนนึกว่าโดนซะแล้ว”
“ยังไม่ตายหรอกน่ะ แล้วพวกผู้หญิงล่ะ”
“มีคนช่วยพากลับไปที่พักแล้ว”
“ใคร?”
ทาเคชิสบตาเคนตะก่อนตอบคำถามนั้นว่า “ลูกน้อง ของผมเอง ไม่ต้องเป็นห่วง เราพวกเดียวกัน ไปดูพวกผู้หญิงกันเถอะ”
ทาเคชิเดินนำออกไป คินกับกะยอก้าวตาม โดยมีเคนตะรั้งท้ายคอยระแวดระวัง
ooooooo










