สมาชิก

กุหลาบไร้หนาม

ตอนที่ 15

ผลการประกวด   ปรากฏว่านุชรีได้รับโหวตด้วยคะแนนสูงสุด ได้รับรางวัลเป็นแพ็กเกจทัวร์พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับสมุย 2 ที่ 3 วัน 2 คืน

เสียงปรบมือแสดงความยินดียาวนาน เสียงปรบมือยิ่งดังยิ่งยาวนานก็ยิ่งบาดใจนันทวดี เธอไม่ได้อยากได้แพ็กเกจทัวร์  แต่เจ็บใจที่แพ้นุชจนได้ จิกตามองนุชพึมพำอย่างสุดแค้น

"ก็ได้แค่ขวัญใจล่ะวะ ฉันนี่ล่ะจะได้คาวบอยให้ดู!"

ณ อีกมุมหนึ่ง นัดดากำลังวุ่นกับการพาสารัตถ์ที่เมาไม่ได้สติกลับไปที่ห้องพัก เมื่อกลับมาที่งานอีกครั้ง สีดาถามว่าหายไปไหนมา พอรู้ว่าพาสารัตถ์ที่เมาไม่รู้เรื่องกลับไปพัก สีดาก็เอะใจว่านันทวดีก็หายไปด้วยแต่ไม่ได้สนใจว่าจะไปไหนเป็นตายร้ายดีอย่างไร พอนัดดาถามถึงนุช สีดาก็ยิ้มแย้มชี้ให้ดู

"ทำหน้าที่ขวัญใจช่างภาพอยู่โน่นไงคะ"

นัดดามองไปเห็นนุชกำลังถูกถ่ายรูปวูบวาบด้วยแสงไฟ และมีบรรดาเพื่อนๆแย่งกันเข้าไปขอถ่ายรูปกันมากมาย นัดดาเห็นแล้วยิ้มปลื้ม สีดาเลยตีซี้สะกิดสะเกาให้คิดว่า

"มีเพชรอยู่ในมือแล้ว อย่าทำให้หลุดไปนะคะพี่นัด"

ooooooo

จนกลับมาที่หน้าห้องพัก สีดายังไม่หายตื่นเต้นบอกนุชว่าคืนนี้ตนต้องนอนหลับฝันดีแน่ๆเลย ในที่สุดนางฟ้าก็ชนะนางมารปีศาจ   ทำให้นุชเอะใจว่านันทวดีหายไปไหน สีดาพูดอย่างสะใจว่า

"จะหายไปไหน ก็อับอายหนีกลับมาเก็บตัวอยู่ที่ห้องน่ะสิ" พูดแล้วหัวเราะขำๆ เดินไปเคาะประตูห้องนันทวดี "หลับแล้วเหรอจ๊ะสุดสวย"

นัดดาที่เดินมาด้วยปรามสีดา เธอยิ่งแกล้งเคาะแล้วเอ่ยเยาะ "กู๊ดไนต์นะคะ"

ปรากฏว่าภายในห้องเงียบผิดปกติ นุชกับนัดดาเลยลองเคาะแล้วผลักประตูดู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อก ยิ่งแปลกใจเลยพากันเดินเข้าไป ไม่มีนันทวดีอยู่ในห้อง...

เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทุกคนพากันออกตามหานันทวดี ยิ่งไม่เจอก็ยิ่งตึงเครียด นุชกับสีดาก็ออกไปเที่ยวตามหาด้วย จนดึก นัดดาบอกให้นุชกับสีดากลับไปพักผ่อนเสีย เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของพวกผู้ชายและผู้ใหญ่

นัดดาถือไฟฉายส่องหาปากก็ร้องเรียกนันทวดีไป ตามทาง เขาเดินหาจนตัวเองหายไปในความมืด

ที่แท้ นันทวดีแอบอยู่หลังพุ่มไม้ คอยสังเกตว่านัดดาจะไปทางไหน พอเห็นเขาไปในทางที่ไม่มีใครไป เธอจึงตามไป ร้องเรียกเขา ปรากฏตัวให้เห็นในสภาพนั่งพับขาตัวเองอยู่ที่พื้น

นัดดาตกใจเข้าไปถามว่าเป็นอะไร เธอบอกว่าขาแพลง ทำท่าพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ไหว ในที่สุดนัดดาเลยอุ้มกลับห้องพัก

ooooooo

แต่พออุ้มเธอไปวางไว้ที่เตียง นันทวดีที่กอดซบอกนัดดามาตลอดทางกลับไม่ยอมปล่อยเขา อ้อนให้เขาอยู่เป็นเพื่อนก่อน นัดดาบอกอย่างไม่สบายใจว่าให้ปล่อยตนก่อน เธอกลับทำหน้าทะเล้นอ้อนว่า

"นันไม่ปล่อยค่ะ จะกอดเอาไว้ยังงี้แหละ"

ไม่พูดเปล่ายังดึงตัวเขาให้ล้มลงมาบนเตียงด้วย นัดดาพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ได้เพราะถูกกอดล็อกไว้แน่น

ทันใดนั้น มีมือมาสะกิดไหล่นันทวดี พอเธอหันไปมองก็โกรธจี๊ดเมื่อเห็นสีดายืนกอดอกอยู่

"อีบ้า...เข้ามาห้องฉันได้ไง!" นันทวดีแผดเสียงด่า นัดดาเลยรีบลุกจากเตียง สีดาโต้อย่างไม่ยี่หระว่า เธอเปิดประตูอ่อยไว้ใครจะเข้าออกก็ได้อยู่แล้ว ตนเอะใจเลยแอบอยู่ในห้องน้ำ นันทวดีเสียรู้ เสียหน้า ตวาดไล่ "แกออกไปจากห้องฉันเลยนะ"

"ฉันไป พี่นัดก็ต้องไปด้วย" สีดาพูดแล้วเดินไปจูงมือนัดดา "ไปค่ะพี่นัด ปล่อยให้มันอดอยากปากแห้งตายไปเลยค่ะ"

นันทวดีเจ็บใจจนบอกไม่ถูก จิกตามองตามสีดาไปอย่างแค้นใจที่ทำลายแผนการตนย่อยยับ

ooooooo

เมื่อออกมาถึงหน้าห้องพักนุชกับสีดา ทั้งคู่หยุดตรงหน้าห้อง   สีดาทั้งหยิกทั้งตีแขนนัดดาอย่างหมั่นไส้ ต่อว่าเขาว่า ถ้าตนไม่ไปอยู่ในห้องด้วยเขาคงยอมนันท-วดีไปแล้วใช่ไหม

"ฟังพี่ก่อนสิแขก พี่มีสติครบถ้วน ทำไมพี่จะสู้แรงผู้หญิงไม่ได้"

ไม่ว่านัดดาจะชี้แจงอย่างไร สีดาก็ยังไม่เชื่อ นัดดาปล่อยให้เธอทุบตี หยิกจนพอใจ จึงพูดอย่างผู้ใหญ่สุขุมเยือกเย็นว่า

"พี่ขอบคุณมากที่แขกช่วยแก้สถานการณ์ให้พี่ แต่พี่ยืนยัน ยังไงพี่ก็ไม่ทำเรื่องที่แขกกำลังระแวงพี่เด็ดขาด"

"แขกจะเชื่อคำพูดของพี่นัดได้ยังไง"

"พี่ไม่ได้โง่นะ แขกเป็นน้องยังดูเขาออกเลย ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะทำพฤติกรรมแบบนั้น" พอสีดาเถียงไม่ออก นัดดาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "แขก ตอนนี้พี่เจอผู้หญิงที่ดีพร้อมสำหรับพี่แล้วนะ สำคัญที่สุดคือ พี่รักเขามากด้วย พี่อยากมีชีวิตครอบครัวกับนุชนะแขก

ตอนนี้นุชเขานอนหลับอยู่ห้องข้างๆ แล้วแขกคิดว่าพี่จะทำเรื่องหน้าไม่อายแบบนั้นได้ลงหรือ"

"ถ้านุชนอนอยู่กรุงเทพฯก็ไปอย่างใช่ไหมล่ะ" สีดาไม่วายดักคอ จนนัดดาเหนื่อยใจบอกว่าไม่คุยด้วยแล้ว สีดาเลยรีบบอกว่าเชื่อแล้วไม่ต้องงอน นัดดาถอนใจมองหน้าน้องพูดจริงจัง "เข้าใจพี่ก็ดี แขกไปนอนเถอะ ฝากบอกนุชด้วยแล้วกันว่า คืนนี้เขาสวยมาก พี่ยังไม่มีจังหวะได้ชมเขาเลย"

"งั้นบอกกับเจ้าตัวเองแล้วกัน" สีดาฉวยโอกาสผลักประตูเข้าไป เจอนุชยืนน้ำตาคลอแอบฟังอยู่หลังประตูนั่นเอง นุชรีบซับน้ำตาพัลวัน นัดดาเห็นแล้วยืนอึ้ง สีดาเลยแซวเพื่อนว่า "นึกว่าได้ยินเสียงนางไม้ที่ไหนมาร้องไห้กระซิก...กระซิกอยู่หลังประตู ที่แท้ก็เธอนี่เอง"

นุชค้อนเพื่อนทั้งเขินทั้งอาย สีดารุกต่อหันไปลุ้นนัดดาว่า

"ไหนๆก็ได้ยินความในใจกันหมดแล้ว คุกเข่าขอแต่งงานเลยพี่นัด"

"บ้า...แขกนี่" นุชเขินมากเดินหนีเข้าห้องน้ำไปเลย นัดดายิ้มมีความสุข ยกมือวางไว้บนหัวสีดาชมว่าวันนี้เธอทำได้ดีมากกลับไปจะให้รางวัลแล้วไล่ให้ไปนอนเสีย สีดาปิดประตูห้องคล้องแขนนัดดา "แขกไปส่งที่ห้องค่ะ ผู้ชายยังไงก็ประมาทไม่ได้หรอก"

ขณะเดินผ่านห้องนันทวดีนั่นเอง เจ้าตัวแอบดูอยู่ เห็นสีดาคุมตัวนัดดาไปส่งห้องก็ยิ่งเจ็บใจมุ่งมั่นจะต้องเอาชนะให้ได้

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น นัดดากับนุชพากันไปเดินชมวิว ยามเช้า ทั้งคู่เดินคุยกันเบาๆ นุชรู้สึกเขินๆหลังจากรับรู้ ความรู้สึกของนัดดาที่มีต่อตน นัดดาเสนอว่า เราแวะเที่ยวที่ไหนกันก่อนกลับดีไหม

"อย่าเลยค่ะ กว่าจะออกเดินทาง กว่าจะแวะทานกลางวัน แวะซื้อของฝาก แค่นี้ก็ถึงบ้านเกือบเย็นแล้ว นุชห่วงร้านน่ะค่ะ" นุชตอบเขินๆไม่กล้าสบตาเขา

"ก็ตามใจครับ"

"เดินกันมาไกลแล้ว เดี๋ยวเรากลับไปทานอาหารเช้า กันดีกว่า ป่านนี้แขกบ่นตายแล้วค่ะ"

นัดดาพยักหน้า นุชจึงพาเดินกลับ แอบสูดลมหายใจลึกๆอย่างโล่งใจ ไม่ทันสังเกตสีหน้านัดดาที่มองตามเธอไปอย่างครุ่นคิด แต่แล้วจู่ๆเขาก็ตัดสินใจพูดทั้งที่รู้สึกประหม่า

"ถ้าพี่อยากขอหมั้นนุชไว้ก่อน นุชจะปฏิเสธพี่ไหม"

นุชชะงักกึกค่อยๆหันมองหน้าเขา แต่ในใจนั้นคิดถึงอดีตเมื่อครั้งที่สารัตถ์ขอแต่งงานหลังจากที่เธอเรียนจบ เวลานั้นเธอปลื้มจนน้ำตาคลอ สารัตถ์ยิ้มอย่างมีความหวังถามว่า

"นุชไม่ปฏิเสธพี่ใช่ไหมจ๊ะ"

คิดถึงตอนนั้นแล้ว นุชตัดสินใจตอบนัดดาทั้งที่น้ำตารื้นขึ้นมาว่า

"รอก่อนดีกว่าค่ะพี่นัด นุชดีใจมากนะคะที่พี่นัดต้องการจริงจังกับนุช แต่นุชว่าการหมั้นกันไว้ก่อนหรือไม่   มันไม่ได้ การันตีว่าเราจะได้แต่งงานกันแน่ๆ  ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ"

นัดดาจึงเสนอใหม่ว่า "แต่ถ้าหมั้นเช้าแต่งเย็นคงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้หรอกนะนุช" ฟังแล้วนุชเลี่ยงไปว่าถ้าเป็นตอนนี้ก็ยังเร็วไป นุชว่า...เธอกำลังจะพูดต่อ นัดดารีบขัดขึ้น

"โอเคครับ พี่รอได้ ถ้าถึงเวลาที่พี่ต้องไปประจำที่ต่างประเทศพี่จะถามนุชอีกครั้ง หวังว่าจะได้รับคำตอบที่ทำให้พี่ยิ้มออกนะครับ"

"ค่ะ ถ้าถึงเวลานั้น พี่นัดยังเลือกนุชอยู่" เธอยิ้มบางๆให้ก่อนเดินนำกลับไป

นัดดาแอบยิ้มด้วยความรู้สึกที่ใจชื้นขึ้นเป็นกอง...

ooooooo

เมื่อใครๆพากันกลับแล้วแต่สารัตถ์ยังไม่ตื่น นันทวดีไปทุบประตูปลุกอย่างอารมณ์เสีย สารัตถ์งัวเงียขึ้นมาถามว่ากี่โมงแล้ว นันทวดีแว้ดใส่ทันทีว่าจะกี่โมงก็ช่างแต่ตนจะกลับตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เมื่อเขาบอกว่ายังไม่ได้อาบน้ำของก็ยังไม่เก็บ เธอยื่นคำขาดว่า

"นันจะไปรอที่รถ นันให้เวลา 15 นาที ถ้าคุณรัตถ์ไม่ถึงที่รถ หาทางกลับกรุงเทพฯเองก็แล้วกัน เอากุญแจรถมา!"

สารัตถ์ลุกขึ้นมางงๆ ขอให้รอเดี๋ยว เมื่อเอากุญแจรถให้แล้วนันทวดีจ้ำอ้าวออกไปทันที

เมื่อขับรถกลับมาส่งนันทวดีที่บ้านสร้อยสอางค์ สารัตถ์ ถามอย่างติดใจสงสัยว่า เธออยากไปเขาใหญ่กับตนจริงๆหรือแค่อยากใช้ตนเป็?นเครื่องมือทำอะไรสักอย่าง

"เมาค้างเหรอคะ" นันทวดีแกล้งหัวเราะขำแล้วทำเป็?นไม่รู้ไม่ชี้ลงจากรถ ไปเปิ?ดประตูหลังเอาข้าวของของตัวเอง สารัตถ์ตามลงมาขอคำตอบ นันทวดีจ้องหน้าถามว่า "อยากฟังให้เสียใจรึไงคะ"

สารัตถ์หน้าจ๋อยในคำถามที่เป็?นคำตอบในที แต่ยังห่วงใยเข้าไปจะช่วยถือของ เลยถูกตวาด

"ไม่ต้อง รีบกลับไปเลย อยากโดนแม่กับยายนันด่าเหรอ เซ้าซี้น่ารำคาญเสียจริง!"

พูดแล้วนันทวดีสะบัดไปกดกริ่งหน้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย สารัตถ์เดินคอตกหน้าจ๋อยกลับไปที่รถตัวเองด้วยความรู้สึกน้อยใจ

ooooooo

เอาของตัวเองเก็บไว้ในรถที่จอดอยู่บ้านแม่แล้ว นันทวดีเดินเข้าไปในบ้านทิ้งตัวนั่งเซ็งๆที่โซฟา เหลือบ เห็นการ์ดแต่งงานวางอยู่ที่โต๊ะกลางเลยหยิบมาดู เป็?นการ์ดที่ออกแบบพิเศษดูแล้วสะดุดตา พอดูการ์ดแล้วแทนที่จะยินดีกับเจ้าของงาน กลับด่าใส่การ์ดที่โยนไว้บนโต๊ะ

"อยากจะเกทับฉันล่ะสิว่าได้ผัวรวย"

สร้อยสอางค์เดินลงมาจากข้างบนพอดีถามว่าใครมาส่ง นันทวดีย้อนถามว่าแม่เห็นหรือเปล่า พอรู้ว่าไม่เห็นก็พูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำว่า "งั้นก็แล้วไป ไม่ต้องรู้หรอก"

สร้อยสอางค์ฟังขัดหูถามว่าไปกินรังแตนมาจากไหนแล้วเข้าไปนั่งเบียดทำหน้ายิ้มๆ ถามว่าตกลงสารัตถ์เป็?นไง นันทวดีตอบอย่างหงุดหงิดว่าหลับเป็?นตาย แล้วนึกขึ้นได้บอกแม่ให้หายานั่นมาให้ใหม่ด้วย คราวนี้รับรองไม่พลาดแน่

"จะเอาก็จ่ายมา ของไม่ใช่ถูกๆนะโว้ย" สร้อยสอางค์ แบมือไปตรงหน้า นันทวดีก้มค้นกระเป๋าจะหาเงิน พวงสร้อยแถออกมาจากครัวดักคอทันทีว่าแจกเงินหรือ ฝนตกไม่ทั่วฟ้าแบบนี้ตนแช่งจริงๆด้วย

"โอ๊ย...แม่กับยายนี่จะไถฉันไปถึงไหน" นันทวดีปิ?ดกระเป๋าฉับมองแม่กับยายตาขวาง เลยโดนยายทวงบุญคุณว่ายายกับแม่เลี้ยงมากว่าจะโตเสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ กลับถูกย้อน เอาว่านั่นมันเงินพ่อทั้งนั้นแล้วลุกไปเลย

"ดูลูกมึงพูดกับกูสิอีสร้อย" พวงสร้อยโกรธขึ้นมาจริงๆ สร้อยสอางค์ปลอบแม่ว่าอย่าไปถือสาเลยมันกำลังอารมณ์ไม่ดี พวงสร้อยยังบ่นกะปอดกะแปดว่า "รู้งี้กูยกให้อีคุณนายวารีแลกกับเงินก้อนซะแต่แรกก็ดี ป่านนี้สบายไปแล้ว เงินไม่ใช่น้อยๆ"

บ่นหลานแล้วหันมาแขวะลูกสาวต่อ "เป็?นไงล่ะ ได้คืบจะเอาศอก หวังจะเอาลูกต่อรองได้เป็?นสะใภ้บ้านอีคุณนาย ถุย... เกือบต้องเป็?นคุณตัว เพราะความโลภของมึงแท้ๆเลยอีสร้อย ถึงต้องลำบากกันยันแก่ยังงี้"

เลยกลายเป็?นแม่ลูกทะเลาะกัน สร้อยสอางค์ถามแม่ว่าจะขุดคุ้ยให้ได้อะไรขึ้นมาเงินก็ได้มาตั้ง 30 ล้านบาทแล้ว เลยถูกพวงสร้อยถามว่าแล้วมันตกถึงเรากี่บาทล่ะ! บ่นนันทวดีว่า เก็บเงียบอยู่คนเดียวใช้สบายใจเฉิบโยนเศษๆให้เรากินเท่านั้น

พวงสร้อยยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บใจ ตอนนี้หวยก็ไม่ถูก เงินก็ ไม่ได้ถามว่าแล้วจะเอาอะไรกินกัน

ทีแรกสร้อยสอางค์ก็ปกป้องลูก แต่พอฟังแม่บ่นหนักเข้าก็ชักคล้อยตามเหมือนกัน

oooooo

ส่วนนุช พอกลับถึงบ้านก็ได้ยินนวลใจเล่าเรื่องที่ผู้ใหญ่สองฝ่ายคุยกันตอนที่เธอไม่อยู่ บอกลูกตรงๆว่าอาใหญ่กับอาเล็กชอบนุชมากแถมจะมารวบรัดขอให้นัดดาหน้าตาเฉยเลย

"แล้วคุณแม่ตอบไปว่ายังไงคะ" นุชถาม สีหน้ากังวลเล็กน้อย

เช่นเดียวกัน นัดดาก็ได้ฟังอาเล็กเล่าเรื่องเดียวกันนี้ อาเล็กบอกว่าพอทาบทามขอนุช  นวลใจก็ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าขอให้อยู่ที่การตัดสินใจของนุชเอง

"แม่ลูกเขาคงรู้ใจกันดีนะครับ" นัดดาพึมพำ แต่พออาเล็กบอกว่าวารีปลื้มเขามาก นัดดาก็ยิ้มดีใจ "ได้ยินแบบนี้ ค่อยมีกำลังใจหน่อย ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนุชเขาล่ะครับ"

อาเล็กฝากความหวังให้กำลังใจนัดดาว่า เชื่อว่าเขาต้องเอาชนะใจนุชได้ อาจะคอยเป็?นกำลังใจให้

พอดีอาใหญ่ถือจดหมายหลายฉบับเข้ามาให้นัดดา เขารับมาดู มีการ์ดแต่งงานอยู่ด้วย เป็?นการ์ดแบบเดียวกับที่นันทวดีได้รับ ดูแล้วเขาวางไว้บนโต๊ะ บอกอาทั้งสองว่า

"เพื่อนผมทิ้งไปแต่งงานอีกคนแล้ว สงสัยจะเหลือผมคนสุดท้าย"

oooooo

เย็นแล้ว สารัตถ์เพิ่งขับรถไปถึงบ้าน งามพิศเหมือนจะคอยอยู่รีบเดินมาหาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ส่วนรุจิรากับสวีก็เดินออกมาจากบ้านด้วยสีหน้าบึ้งตึง รุจิราขอสามีว่าให้ค่อยๆพูดกับลูก สวีไม่ตอบแต่เดินตรงดิ่งไปหาลูกชาย

งามพิศทำเป็?นช่วยสารัตถ์ถือของแต่ที่แท้แอบมากระซิบบอกให้สารัตถ์รู้สถานการณ์และให้ระวังตัวตั้งสติให้ดี พอสารัตถ์เห็นพ่อกับแม่เดินมาก็ยกมือไหว้ตามปกติ

สวีเปิ?ดฉากด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวถามว่าไปเที่ยวเขาใหญ่ กับใคร สารัตถ์ตอบกำกวมว่ากับเพื่อน รุจิรากลัวเรื่องจะไปกันใหญ่จึงบอกลูกว่าไปกับใครให้พูดความจริงกับคุณพ่อเสีย สารัตถ์จึงบอกว่าไปกับนันทวดี

เป็นเรื่องทันที! สวีถามว่าเดี๋ยวนี้กล้าขัดคำสั่งพ่อแล้วใช่ไหม สารัตถ์ยอมรับว่าตนยังรักและเชื่อฟังคุณพ่อเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมคือ "ผมรักคุณนันด้วย" ทำให้สวียิ่งโกรธ

รุจิราเห็นสวีโกรธมาก จึงเอาน้ำเย็นเข้าลูบบอกให้ ใจเย็นๆ แล้วหว่านล้อมสารัตถ์ให้ตัดใจจากนันทวดีเสียเพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีพอที่จะมาเป็?นคู่ชีวิตของเขาและเข้ากับครอบครัวเราก็ไม่ได้ทั้งที่เราให้โอกาสเขาแล้ว เตือนลูกชายว่า "อย่าปล่อยให้ความรักความหลงมันครอบงำแบบนี้สิลูก"

"คุณแม่ไม่คิดว่าเราจะช่วยดึงเขาขึ้นมาให้กลับเนื้อ กลับตัวได้เหรอครับ ผมอยากเปลี่ยนแปลงเขาให้ได้"

ดูท่าทีจริงจังของลูกชายแล้ว รุจิราถามว่าจะไปคาดหวังอะไรกับ...พูดไม่ทันจบก็ถูกสวีตัดบทว่าป่วยการพูด เมื่อพูดกันดีๆไม่เข้าใจก็ต้องใช้วิธีเดิมๆ พูดแล้วมองหน้ารุจิราอย่างรู้ กันก่อนบอกสารัตถ์ว่า "แล้วอย่าหาว่าพ่อกับแม่เป็?นพวกเผด็จการก็แล้วกัน!"

เมื่อสวีกับรุจิราเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างหงุดหงิดแล้ว งามพิศเข้าไปติงสารัตถ์ว่าทำไมพูดกับคุณพ่ออย่างนั้น เขาบอกว่าตนไม่อยากโกหก ครั้นงามพิศบ่นว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีนักหนา ตนไม่เข้าใจเลยจริงๆ บ่นแล้วส่ายหน้าหนักใจ แต่พอฟังสารัตถ์แล้วเธอถึงกับอึ้ง เมื่อเขาพูดอย่างปักใจมั่นว่า

"เขาก็ไม่ได้มีอะไรดีนักหนาหรอกครับ แต่ผมรักเขา พูดไปพี่งามก็ไม่เข้าใจหรอกครับ" พูดเสร็จสารัตถ์เดินเข้าบ้านไปอีกคน งามพิศมองตามพึมพำด้วยสีหน้าเป็?นห่วง

"จะโดนทำเสน่ห์รึเปล่าเนี่ย"

ooooooo

ค่ำวันต่อมา นันทวดีนัดพบกับหาญพงศ์ที่คอน-โดฯเดิม หาญพงศ์เอาเงินค่ากำไรทองมาให้ถามว่าจะลงทุนต่อไหม ลงทุนเพิ่มหรือเปล่า

นันทวดีดีใจมากที่ได้กำไรงามรีบบอกว่าจะลงทุนต่อแต่ตอนนี้ขอแบ่งกำไรไปช็อปแก้เซ็งก่อน

หาญพงศ์แสดงตัวเลขให้ดูแฟร์ๆว่าซื้อทองเท่าไรขายได้ เท่าไร เขาเอากำไรเฉพาะค่ากำเหน็จไว้เลี้ยงลูกน้องเท่านั้น ทำให้ นันทวดีตัดสินใจจะเก็บเงินไว้ใช้สักล้านสองล้านก็พอ ที่เหลือจะเอามาลงทุนให้หมด

"คิดถูกต้องแล้วครับ จากนี้ไปแค่เอากำไรมาใช้ก็เหลือแหล่" หาญพงศ์เชียร์เต็มที่

"ถือว่านันช่วยแบ่งเบา จ่ายเงินเดือนพนักงานคุณให้ก็แล้วกัน"

"ขอบคุณครับ" หาญพงศ์หอมแก้มฟอดใหญ่ นันทวดียิ้มแก้มแทบปริดูเช็คแล้วยิ่งปลื้มที่รายได้งามอย่างไม่น่าเชื่อ

ooooooo

นวลใจยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็?นพี่ชายของนุชรี คืออนุธวัช เขาไปเรียนที่ญี่ปุ่นหลายปี? เวลานี้ปิ?ดเทอม และพรุ่งนี้ก็จะกลับเมืองไทย

ห้องของอนุธวัช คือห้องที่นันทวดีอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้น วารีจึงให้สาวใช้ไปย้ายของของนันทวดีให้ไปอยู่ห้องรับรองแขกเพื่อคืนห้องให้อนุธวัชหรือหนึ่งเจ้าของห้องตัวจริง

นันทวดีไม่ยอมย้าย   พูดอย่างยโสว่าใครจะให้ย้ายก็

ให้มาบอกเอง เพราะตนก็มีศักดิ์เป็นพี่สาวของอนุธวัชเหมือนกันจะมาไล่ข้ามหัวกันอย่างนี้มันเกินไป

พอไล่สาวใช้ออกจากห้องไปแล้ว นันทวดีก็คิดวางแผนจะรับมือกับอนุธวัชอย่างไรดี

แต่เพราะวางแผนไว้หลายแผนและหมายตาไว้หลายทางหลายคน ดังนั้น บ่ายนี้นันทวดีจึงซื้อของสดจะไปทำอาหารที่บ้านนัดดา แต่คราวนี้ทั้งอาใหญ่และอาเล็กไม่ได้ กระตือรือร้นเหมือนเคยแล้ว ต้อนรับตามมารยาทเท่านั้น

ระหว่างนั่งคุยกันที่ห้องรับแขก นันทวดีฉอเลาะชวนอาใหญ่ไปทำอาหารกันเลยดีไหม จะได้เสร็จทันอาหารเย็นให้นัดดาช่วยชิมด้วย

พอดีนัดดาเข้ามาถามอาเล็กว่าสูทที่เขาถือมานี้ส่งซักแล้วหรือยัง นันทวดีถามทันทีว่าเตรียมสูทออกงานหรือ พอรู้ว่าจะไปงานเดียวกับที่ตัวเองได้รับการ์ดเชิญ นันทวดีชวนไปพร้อมกันเลย นัดดาไม่มีทางเลี่ยง ขณะที่เขากำลังอึ้งๆอยู่นั่นเอง นันทวดีก็รีบรวบรัดว่า

"งั้นนันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า เดี๋ยวเจอกันนะคะ" ว่าแล้วรีบร้อนจะออกไป อาใหญ่ถามว่าไม่เรียนทำกับข้าวแล้วหรือ เธอตอบหน้าตาเฉยว่า "วันนี้คงไม่ทันแล้วค่ะคุณอา" พูดแล้วออกไปเลย

อาเล็กกับนัดดาสบตาในอารมณ์เดียวกัน

ooooooo

หนึ่งหรืออนุธวัชกลับมาแล้ว วารีพาหลานและสะใภ้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารไทยฉลองและต้อนรับหลานชายก่อนกลับบ้าน

แน่นอนว่าทุกคนต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องของนันทวดี หนึ่งฟังเพลินๆไม่เครียดพอฟังจบก็พูดแบบสนุกปากว่า

"ให้ผมแกล้งจับปล้ำดีไหมครับ เขาจะได้ไม่กล้าอยู่ บ้านเราต่อ" พูดเองแล้วหัวเราะขำเอง

นวลใจทำเสียงปรามอย่างหมั่นไส้ปนเอ็นดูลูกชายว่าพูดจาน่าเกลียด เขาเป็นพี่สาวเรานะ ถูกวารีสวนไปทันทีว่า

"ให้ลูกไปนับญาติกับมันทำไมนวล" แล้วกำชับหลานชาย "อย่าไปเรียกมันว่าพี่เชียวนะหนึ่ง แก่กว่ากี่เดือนกันเชียว เดี๋ยวมันจะคิดว่าหงอให้มัน"

"พี่หนึ่งน่ะ เรื่องคุยตั้งเยอะแยะ กร่อยเลยไหมล่ะ" นุชค้อนพี่ชายอย่างน่ารัก หนึ่งเลยบอกวารีว่าตนแค่พูดเล่นๆเอง วารีค้อนพูดงอนๆว่า

"ย่าไม่เล่นด้วยหรอก ย่าเกลียดมัน กินไม่ลงแล้ว" วารีรวบช้อนอิ่มทันที ทำเอาหนึ่งจ๋อยแหยไปทันตาเห็นที่อารมณ์ขันของตัวเองไปสะกิดปมเครียดของย่าเข้าอย่างจัง

ooooooo

พอรู้ว่าหนึ่งกลับมา นันทวดีก็แจ้นไปหาสร้อยสอางค์ที่บ้านทันที เร่งให้หายาตัวนั้นมาให้เร็วๆจนสร้อยสอางค์ถามว่าทำไมรีบร้อนนัก

"โอกาสมันมาพอดีแม่" นันทวดีพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ พอสร้อยสอางค์แบมือให้จ่ายมาก่อน คราวนี้เธอไม่เกี่ยงถามว่าเท่าไหร่ พอแม่บอกว่าหมื่นนึงก็บ่น "ยาอะไรจะแพงขนาดนั้น"

"ผัวน่ะจะเอาไหม เร็วๆเดี๋ยวยายเอ็งตื่นขึ้นมาจะไม่เสียแค่หมื่นเดียว"

"หน้าเลือดจริงๆเลย เอาไป" ปากบ่นแต่มือหยิบเงินออกมาแต่ยังจับเงินไว้แน่นจนต้องยื่นหมูยื่นแมวกัน พอได้ยามานันทวดีก็รีบเดินออกไปทันที สร้อยสอางค์รีบนับเงินแล้ววิ่งไปโวยที่รั้ว

"นังนัน ขาดไปสามพัน" แต่นันทวดีไปแล้ว เลยมองเงินในมือบ่นอย่างหงุดหงิด "อีนี่แสบจริงๆ เอาวะกำขี้ดีกว่า

กำตด" ว่าแล้วรีบยัดเงินใส่เสื้อชั้นในกลัวพวงสร้อยมาเห็นเดี๋ยวจะโดนแบ่ง

ooooooo

แต่ไหนแต่ไรสวีไม่เคยชวนเพื่อนมาสังสรรค์ หรือทานอาหารกันที่บ้านเลย แต่แล้วจู่ๆเย็นนี้เขาก็ชวนเพื่อนๆและครอบครัวมาทานข้าวที่บ้าน

งานนี้มีเพื่อนสนิทพาภรรยาและลูกสาวกำลังรุ่นชื่อ "ตาล" มาด้วย แม่ของตาลจงใจพาตาลไปแนะนำกับสารัตถ์ ตาลยกมือไหว้เขินๆจนผิดสังเกต สารัตถ์รับไหว้ยิ้มตามมารยาท ก่อนหันไปมองพ่อกับแม่อย่างเอะใจ

เมื่อไปพบกันที่ห้องทำงานของสวีในบ้าน สารัตถ์ถามแม่ว่า นี่มันเรื่องอะไรกัน รุจิราทำไขสือถามว่าอะไรหรือ

"พ่อกับแม่พยายามทำอะไรครับ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นชวนเพื่อนมาทานข้าวบ้าน"

รุจิราชักสีหน้าเล็กน้อยแล้วโยนกลองให้ถามพ่อดูเอาเอง สวีตามมาพอดี บอกโดยไม่ต้องถามว่า

"แกอยากรู้มากเรอะนายรัตถ์ เคยได้ยินที่เขาพูดว่า คลุมถุงชนไหม มันกำลังจะเกิดขึ้นกับแก" พอเห็นสารัตถ์อึ้งไป สวีตัดบท "ออกไปรับแขกได้แล้ว หายมานานๆแบบนี้น่าเกลียด" พูดแล้วเดินนำออกไป

"คราวนี้คุณพ่อทำจริงนะรัตถ์" รุจิรากระซิบบอกอย่างไม่สบายใจ

"จะให้ผมแต่งงานกับเขาได้ยังไง ผมไม่ได้ชอบเขานะแม่"

"ก็มีทางเดียว คืนดีกับนุชรีให้ได้ อย่างน้อยหนูนุชก็เป็นผู้หญิงที่แกเคยรักมาก ก่อนจะมาตาบอดหลงผิด" รุจิราไล่ต้อนลูกชายให้ไปตามทางที่ตนกับสวีวางแผนกันไว้ ทำเป็นค้อนเคืองๆแล้วออกไป

สารัตถ์ถอนใจเฮือก อึดอัดใจมากที่ถูกพ่อกับแม่บีบให้เดินไปตามเส้นที่ขีดไว้ให้

ooooooo

นันทวดีให้นัดดารอตนไปแต่งตัวเพื่อไปงานแต่งงานของเพื่อนด้วยกัน ครู่หนึ่งเธอกรีดกรายเข้ามาที่ห้องโถง แต่งสวยเซ็กซี่จนอาใหญ่หยอกแกมหยิกว่า

"ระวังจะสวยเกินหน้าเจ้าสาวนะหนูนัน"

"อันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะคะคุณอา" เธอยิ้มอย่างมั่นใจแล้วหันไปชวน "เราไปกันเลยไหมคะคุณนัด"

"ไปเลยจ้ะ อาเสร็จพอดีเลย" เสียงอาเล็กแทรกเข้ามาก่อนตัว นันทวดีชะงักหันไปมองเห็นอาเล็กแต่งชุดสวยแบบไม่ยอมใครเดินลงบันไดมา นัดดากระเซ้าว่างานนี้แม่เจ้าสาวมีเคืองแน่ๆ ส่วนนันทวดีหน้าเจื่อนฝืนยิ้มทักว่าไม่ยักรู้ว่าอาเล็กจะไปด้วย อาเล็กเลยตีขลุมว่า

"เพื่อนของนัด อารู้จักทุกคนล่ะจ้ะ ดีนะที่อาใหญ่เมื่อยขา ไม่งั้นก็ต้องไปด้วย" พูดแล้วหันไปแซวนัดดา "นัดได้ควงสาวสวยทีเดียวสามคนรวดเลย"

นันทวดีเซ็งจนพูดไม่ออก อาใหญ่เร่งให้รีบไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา นันทวดีหันหลังเดินอ้าวไปเลย อาเล็กกระซิบบอกนัดดาว่า

"ต่อไป อาปล่อยไม่ได้แล้ว ต้องตามคุมเข้ม" พูดแล้วจับมือนัดดามาควงแขนเดินออกไปกัน

อาใหญ่มองตามแล้วได้แต่ยิ้มๆส่ายหน้ากับการแผลงฤทธิ์ของน้องสาว

ooooooo

นันทวดีเดินอ้าวออกมาคุยโทรศัพท์ที่หน้าบ้าน พออาเล็กควงแขนนัดดาออกมา เธอก็เดินปรี่เข้าหานัดดาบอกว่าสงสัยไปพร้อมกับเขาไม่ได้แล้ว เพราะพอดีเพื่อนขอติดรถไปด้วย เพื่อนกำลังท้องตนเลยต้องไปรับที่บ้าน

อาเล็กทำหน้าผิดหวัง นันทวดีตัดบทว่าเดี๋ยวไปเจอกันที่งานก็แล้วกัน พอนันทวดีขับรถออกไป นัดดาก็หันบอกอาเล็กว่าแบบนี้อาคงไม่ต้องไปแล้ว อาเล็กถอนใจโล่งอกบอกว่าค่อยยังชั่วนึกว่าจะต้องแขม่วท้องทั้งคืนเสียแล้ว ว่าแล้วย้ำกับนัดดาว่า

"อาว่านัดเอาซองไปให้แล้วรีบกลับเลยดีกว่านะ เจอคนโน้นคนนี้เดี๋ยวเรื่องจะถึงหูหนูนุชเข้าจนได้" พอนัดดาบอกว่าตนก็กะเอาซองไปไห้ ถ่ายรูปด้วยกันแล้วกลับเลย อาเล็กรีบเห็นด้วยว่า

"ดีแล้วนัด รีบไปเถอะ อาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ ร้อนจะแย่อยู่แล้ว คันด้วย" ว่าแล้วอาเล็กหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน ส่วนนัดดายิ้มขำๆแล้วขึ้นรถขับออกไป

หารู้ไม่ว่า นันทวดีมาดักรออยู่กลางซอย ทำเป็น

รถเสียแล้วขออาศัยไปกับนัดดาหน้าตาเฉยเลย เธอทำรวดเร็วรวบรัดจนนัดดาตั้งหลักไม่ทัน จะไล่ลงก็ใช่ที่เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

ooooooo

เมื่อไปถึงโรงแรมที่จัดงาน นัดดาเดินนำลิ่วเข้าไป นันทวดียกกระโปรงวิ่งไล่ตามร้องให้รอด้วย เขาหันมองเมื่อเธอตามมาคล้องแขนควงหน้าตาเฉย บอกเธอว่า

"ต่างคนต่างเดินดีกว่าครับ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด" นันทวดีลอยหน้าพูดว่าเราห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้หรอก นัดดาเลยค่อยๆดึงแขนออก บอกเธอขรึมๆว่า "งั้นเราก็อย่าทำให้คนเขาคิดผิดๆสิครับ" พูดแล้วเดินนำอ้าวไปเลย นันทวดีไม่ยอมแพ้ก้าวตามไปติดๆ

จนเข้าห้องจัดงาน เจ้าบ่าวที่เป็นเพื่อนนัดดาปรี่เข้ามาตบบ่าทักทายเพื่อนด้วยความยินดี   ส่วนเจ้าสาวก็ทักนันทวดีว่านึกว่าเธอจะไม่มาเสียแล้ว

"ทำไมฉันจะต้องไม่มาด้วยล่ะจ๊ะ เพื่อนจะอวดว่าได้ สามีรวยทั้งที"

เจ้าสาวยิ้มเจื่อนไปนิดหนึ่งถามว่ามาคนเดียวหรือ นันทวดีมองไปทางนัดดาพูดเต็มปากเต็มคำว่ามากับแฟนว่าจะพามาเปิดตัวงานนี้แหละ เจ้าสาวมองไปที่นัดดาถามอย่างแปลกใจว่า

"เธอไปรู้จักคุณนัดตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันเป็นแฟนคุณจุ๊ยังแทบไม่เคยเจอคุณนัดเลย"

"บุพเพไงจ๊ะ" นันทวดียิ้มกริ่ม

พอดีเจ้าบ่าวเรียกเจ้าสาวไปถ่ายรูปกัน นันทวดียกมือไหว้เจ้าบ่าวแล้วเร่เข้าไปยืนข้างๆนัดดา เจ้าบ่าวถามเพื่อนว่ามาด้วยกันหรือ นันทวดียิ้มหวานชิงตอบว่า "ค่ะ"

กลายเป็นถ่ายรูปกันสองคู่ เพื่อนๆนัดดาที่เคยไปทานข้าวฝีมืออาใหญ่ที่บ้านพากันงงถามกันเบาๆว่าทำไมนัดดาไม่มากับนุช บางคนก็เดาว่าคงเลิกกันไปแล้ว

พอถ่ายรูปเสร็จ นัดดากระซิบบอกเจ้าบ่าวว่า "เรากลับเลยนะไม่ค่อยสบาย" บอกแล้วเดินลิ่วไปทันที นันทวดีขยับจะตามถูกเจ้าสาวคว้าแขนไว้ชวนถ่ายรูปกับเพื่อนๆก่อน เธอเลยจำต้องฝืนใจไปถ่ายรูป แต่ก็ไม่วายชะเง้อมองตามนัดดาไปตลอดเวลา

ถ่ายรูปเสร็จ นันทวดีรีบวิ่งตามมาทันกันที่ลิฟต์ ประตูลิฟต์ปิดพริบตาเดียวก็เปิด นัดดาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นนันทวดียืนรอเข้าลิฟต์อยู่ตรงหน้า

พอ เข้าไปในลิฟต์ เธออ้อนเขาว่า "มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิคะ จะมาทิ้งนันไว้คนเดียวได้ไง" พูดแล้วเห็นนัดดายืนเซ็งอยู่ เธอเอ่ยปากชวน "เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันก่อนนะคะ นันฮิ้ว...หิว.."

นัดดาไม่ อาจทำใจร้ายกับคนหิวได้ เลยพานันทวดีไปนั่งร้านอาหารข้างทาง เขาถอดสูทแล้วเหลือแต่เชิ้ตตัวใน เดินนำนันทวดีเข้าไปนั่งที่โต๊ะ นันทวดียังแต่งสวยเลิศเต็มยศ ถามทีเล่นทีจริงว่า

"ทำไมเลือกมาทานร้านแบบนี้ล่ะคะ จะทดสอบอะไรนันเหรอ"

"ก็คุณนันอยากทานอะไรอร่อยๆไม่ใช่เหรอครับ ร้านนี้

อร่อยมาก ผมมาซื้อให้คุณอาประจำ"

นันท วดีมองหน้าเขาพูดยิ้มๆ แบบรู้ทันว่า "นันเคยโดนแฟนเก่าตั้งหลายคนทดสอบด้วยมุกเชยๆแบบนี้มาแล้วล่ะค่ะ นันสบายมาก นันกินร้านข้างถนนแบบนี้มาตั้งแต่เกิด"

"ผมไม่ได้อยากทดสอบอะไร แค่อยากทานในที่เปิดเผย จะได้อธิบายนุชเขาได้ว่า เราเจอกันโดยบังเอิญ ไม่ได้ลักลอบไปทำลับตาที่ไหน"

เป็น คำพูดเรียบๆที่เชือดเฉือนอย่างเจ็บแสบ เขาขอตัวลุกไปสั่งอาหารก่อน  ระหว่างนั้นเด็กเอาน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ นันทวดีเหล่มองที่แก้วน้ำ บอกให้วางไว้เดี๋ยวตนจัดการเอง พอเด็กวางขวดน้ำกับแก้วสองใบไว้แล้ว นันทวดีมองแก้วน้ำสีหน้าเจ้าเล่ห์ พึมพำอย่างสะใจล่วงหน้า

"เดี๋ยวได้น่ารักกับฉันแน่"

มองซ้ายมองขวาเห็นปลอดสายตาคนแล้ว เธอล้วงในกระเป๋าถือหยิบซองยาที่เพิ่งไปเอามาจากสร้อยสอางค์ มองอีกรอบก่อนยกแก้วน้ำหลบมุมโต๊ะ...

ooooooo

ทาน อาหารในร้านอาหารไทยเสร็จแล้ว วารี นวล-ใจ นุชรี และอนุธวัช ก็พากันเดินทางกลับบ้าน อนุธวัชหรือหนึ่ง มองดูบ้านอย่างชื่นใจมีความสุขที่จะได้กลับมานอนบ้านหลังจากห่างไปหลายปี

สาว ใช้สองคนเดินลงมาช่วยยกกระเป๋า ต่างแอบเกี่ยงกันที่จะรายงานวารี จนนวลใจเห็นถามว่ามีอะไรหรือเปล่า สาวใช้ ทั้งสองรีบคุกเข่าลง คนหนึ่งรายงานว่า

"คุณนันไม่ยอมให้หนูย้ายของออกจากห้องคุณหนึ่งค่ะ"

วารี ฉุนขาดทันทีถามว่าบอกหรือเปล่าว่าตนเป็นคนสั่ง สาวใช้รายงานเสียงประหม่าว่าบอก แต่นันทวดีไม่ยอมย้ายบอกว่าฉุกละหุกเกินไปย้ายไม่ทัน


"หน้าด้านจริงๆ เจ้าของห้องเขามาแล้วยังจะยึดห้องนอนเขาอีก"

นุช ถามว่านันทวดีอยู่บนห้องหรือเปล่า สาวใช้คนเดิมบอกว่าออกไปแล้ว วารีตัดสินใจบอกให้ขึ้นไปขนของออกจากห้องมากองที่หน้าบ้านเดี๋ยวนี้เลย

"อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยค่ะคุณแม่ เดี๋ยวก็มีปากเสียงกันอีก" นวลใจรีบท้วงติง

"เอา งี้แล้วกัน ผมนอนห้องพักแขกไปก่อนก็ได้ครับคุณย่า ผมเพิ่งกลับมาถึง อย่าให้มีเรื่องทะเลาะกันในบ้านเพราะผมเป็นต้นเหตุเลยนะครับ" หนึ่งจับมือย่าอย่างขอร้อง

แม้วารีจะไม่เต็มใจแต่ก็ยอม นวลใจยิ้มให้ลูกชายอย่างชื่นชม

ooooooo

ระหว่างรอสาวใช้ขนของเข้าไปในห้องพักแขกนั้น หนึ่งไปนั่งคุยเล่นกับนุชที่ห้องนอน ปรารภว่า

"ฟังที่คุณย่าเล่า เหมือนพี่นันนี่ร้ายกาจมากเลยนะ คุณย่าคงบวกอคติเข้าไปจมเลย"

"พี่หนึ่งอย่าเพิ่งตัดสินเขาจากคำบอกเล่าของใครเลยค่ะ สัมผัสกับตัวเองจะดีกว่า"

"แต่ เท่าที่ฟังดูทั้งคุณย่า คุณแม่ ทั้งนุช ไม่เห็นมีใครพูดถึงเขาในแง่ดี หรือแก้ต่างอะไรให้เขาเลยนะ" พูดแล้วเห็นน้องสาวแค่ยิ้มๆ เลยพูดต่อ "ที่จริงเขาก็ได้มรดกไปหมดแล้ว จะอยู่บ้านเราต่อไปทำไมกัน"

"นุชก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่หนึ่ง  บ้านตัวก็มี  เงินก็มีแล้ว ความสัมพันธ์กับคนในบ้านเราก็ใช่จะดี นุชก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"

"เมื่อ ทุกคนอึดอัดใจนัก พี่จะหาทางบีบให้เขาออกไปจากบ้านเราเอง" หนึ่งท่าทางมุ่งมั่น นุชถามว่าจะทำยังไง สีหน้าหนึ่งมีแผนพูดอย่างมั่นใจยิ้มทะเล้นนิดๆว่า "เริ่มจากซอฟต์ๆก่อนก็แล้วกัน"

ooooooo

หลังจากทานอาหารร้าน ข้างถนนเสร็จ นัดดาขับรถพานันทวดีจะไปส่งบ้าน แต่นั่งขับไปได้ครู่เดียวเขาก็มีอาการง่วง...หนักหัว พยายามเบิ่งตา จนนันทวดีที่จับสังเกตอยู่ถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า เขาบอกว่ามึนหัวจังเลย เธอฉวยโอกาสแสดงความห่วงใยขอขับแทน ตื๊อจนเขาต้องยอม

พอขึ้นนั่งที่ คนขับ นันทวดียิ้มอย่างสมใจ ขับรถพานัดดาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง พาไปที่ลิฟต์ นัดดาในสภาพสายตาพร่ามัวถามงงๆว่าที่นี่ที่ไหน

"บ้านตัวเองยังจำไม่ได้อีกเหรอคะ" นันทวดีทำเสียงขำๆ พอเขาถามว่าใช่เหรอ เธอก็แกล้งร้องเรียก "อาเล็ก ช่วยเปิดประตูด้วยค่ะ"

นัดดาเลยไม่ได้สนใจเพราะปวดและมึนหัวมาก

จน นันทวดีพาเขาเข้าห้องในโรงแรมสำเร็จ เธอฮัมเพลงอย่างมีความสุขมาก หลังจากพานัดดาไปนอนบนเตียงแล้ว เธอเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะจำขั้นตอนที่สร้อยสอางค์สอนไว้ขึ้นใจว่า

"เอ็งไม่ต้องรีบร้อนล่ะ ปล่อยมันนอนไปก่อน ต้องให้มันหายมึนนิดๆ เดี๋ยวจะคึกเอง แล้วอย่าทะลึ่งใส่หมดซองเหมือนคราวก่อนล่ะ"

ฉะนั้น พอเข้าห้องน้ำ นันทวดีจึงอาบน้ำอย่างใจเย็น เสร็จแล้วก็ฉีดพรมน้ำหอมไปทั่วตัว เอี้ยวซ้ายเอียงขวามองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ พูดกับตัวเองในกระจกอย่างสะใจว่า

"เสียใจด้วยนะนุช สงสัยวิวาห์เธอจะล่มอีกแล้วล่ะ...ฮิๆ ปีชงของเธอยังไม่พ้นหรอกจ้ะ...อีกน้าน..."

เช็ก ความพร้อมของตัวเองอย่างดีแล้ว นันทวดีกรีดกรายออกจากห้องน้ำหอมฟุ้งไปทั้งตัว แต่พอมองปราดไปที่เตียงก็ต้องตาค้าง ไม่มีนัดดาอยู่ตรงนั้นแล้ว

"หายไปไหนวะ..." นันทวดีบ่นเดินหาไปทั่วห้อง ทั้งแปลกใจ ตกใจ และเจ็บใจ

ooooooo

ที่แท้...ระหว่าง ที่นันทวดีเข้าห้องน้ำนั้น นัดดารู้สึกตัวขึ้นมา เขาเอะใจรู้สึกไม่ชอบมาพากลจึงพยายามพยุงตัวออกจากห้อง ลงไปจนถึงชั้นล่างแล้วเรียกแท็กซี่ให้พาไปส่งบ้าน

เมื่อกลับถึงบ้าน สภาพเขาดีขึ้นแล้ว แต่ยังมึนๆงงๆ อยู่บ้าง อาเล็กเป็นคนประคองเขาเข้าไปในบ้าน เขาแก้ตัวกับอาเล็กว่า เพื่อนชวนดื่ม ตนไม่อยากขัดใจเลยดื่มมากไปหน่อย

"อาไม่เชื่อหรอกนัด คนอย่างนัดไม่มีวันเมา ไม่มีทางขาดสติเป็นอันขาด อารู้จักหลานชายของอาดี" พูดแล้วจ้องตานัดดา เขาหลบอย่างมีพิรุธ "ยังไงอาก็ไม่เชื่อว่านัดเมา เล่าความจริงให้อาฟังให้หมดเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น"

หลังจากฟังหลานชายเล่าแล้ว อาเล็กเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า

"อา เตือนนัดด้วยความหวังดีนะ คนเราน่ะน้ำใจมีได้ ขี้เกรงใจก็มีได้ แต่ก็อย่าถึงขั้นยอมให้ตัวเองต้องเดือดร้อน นัดต้องหัดปฏิเสธมั่งนะลูก คนที่ไม่เข้าใจนัดเหมือนอาจะคิดว่านัดไม่ทันคน"

"ผมมองเขาด้วยความ สงสารนะครับอาเล็ก เฮ้อ...เขาคิดว่า สิ่งที่เขาทำมันเหนือชั้นใครก็ตามไม่ทัน จริงๆไม่ใช่ คุณนวลกับนุชเขาก็อ่านออก แต่ทุกคนไม่อยากเอาความเอง อะไรยอมได้ก็ยอมไป เพราะสงสารความที่เขาเป็นคนมีปมด้อย มีแต่คุณวารีคนเดียวที่แรงใส่เพราะไม่ชอบเสียเปรียบใคร"


"ก็ เพราะความสงสารของนัด หนูนุช แล้วก็คุณนวลนี่แหละ ที่เป็นจุดอ่อนให้คนเห็นแก่ได้มันฉวยประโยชน์เอา เห็นเราขี้สงสาร ขี้เกรงใจ ก็ยิ่งเอาใหญ่" เห็นนัดดาเงียบ อาเล็กเตือนอีก "นัดต้องหัดใจแข็งให้มากขึ้นนะลูก ถ้านัดทำได้ รับรองว่าชีวิตนัดจะหมดเรื่องวุ่นวายเพราะผู้หญิงคนนี้ ทันที"

"ผมจะพยายามปรับปรุงนิสัยตรงนี้ครับอาเล็ก"

"ดีแล้วนัด อาไม่อยากให้มีเรื่องอะไรที่สายเกินแก้ เดี๋ยวจะต้องมานั่งเสียใจภายหลังมันไม่คุ้ม"

"ครับอาเล็ก" นัดดายิ้มอย่างให้สัญญา แต่ก็อดหนักใจไม่ได้เมื่อนึกถึงความจริง

ooooooo

กุหลาบไร้หนาม

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด