สมาชิก

เคหาสน์สีแดง

ตอนที่ 14

รุจ​วิ่ง​หา​พลาง​ตะโกน​เรียก​อา​ร​ยา​ท่ามกลางไฟ​ป่า​ที่​ลุกลาม​น่า​กลัว เขา​เชื่อ​ว่า​อา​ร​ยา​ต้อง​อยู่​บริเวณ​กอง​ไฟ​ตัดสินใจ​วิ่ง​ฝ่า​เข้าไป ได้ยิน​เสียง​อา​ร​ยา​คราง​เบาๆ เขา​พุ่ง​เข้าไป​ช้อน​ร่าง​เธอ​อุ้ม​วิ่ง​ออก​มา

อา​ร​ยา​ซบ​กับ​อก​เขา​อย่าง​หมด​แรง เพราะ​สำลัก​ควันไฟ ​หายใจ​ไม่​ออก พอ​รุจ​อุ้ม​วิ่ง​ออก​มา​พ้น​แนว​ไฟ เธอ​สูด​ลม​หายใจ​เฮือก​ใหญ่​บอก​เขา​ว่า “น้อย​สำลัก​ควัน​ไฟ​ค่ะ”

“มี​บาดเจ็บ​ตรง​ไหน​รึ​เปล่า” รุจ​ถาม​พลาง​ดู​ที่​แขน​ขา​พัลวัน​ด้วย​ความ​ห่วงใย อา​ร​ยา​มอง​อย่าง​ซึ้ง​ใจ จน​ครู่​หนึ่ง​เขา​บอก​รีบ​ไป​เถิด​อีก​ไม่​ไกล​แล้ว อา​ร​ยา​มอง​ไป​เห็น​จักรยาน​ของ​เขา​เค้เก้​อยู่​เลย​บอก​ว่า

“คุณ​รุจ​ขี่​รถไป น้อย​จะ​เดิน​ตาม​ไป”

รุ​จม​อง​ขวับ​ด้วย​สายตา​เป็น​ประกาย​ประหลาด เห็นเธอ​ หนาว​สั่น​จึง​ถอด​เสื้อ​ตัว​เอง​คลุม​ให้ อา​ร​ยา​ยกมือ​ไหว​้ขอบคุณ จาก​นั้น​รุจ​ให้​เธอ​ซ้อน​ท้าย​จักรยาน​แล้ว​ถีบ​ไป​อย่าง​เร่งรีบ

อา​ร​ยา​โอบ​กอด​เอว​รุจ​ไว้​ด้วย​ความรู้สึก​อบอุ่น ปลอดภัย

รุจ​ปั่น​จักรยาน​มา​จนถึง​ทาง​เข้า​บ้าน​ไร่​รวงผึ้ง ความมืด ​ทำให้​มอง​เห็น​เส้นทาง​ไม่​ถนัด จักรยาน​พุ่ง​ชน​หิน​ก้อนใหญ่​ ที่​ขวาง​ทาง​อยู่​จน​จักรยาน​ล้ม อา​ร​ยา​ร่วง​พลั่ก​ลง​ไป​กอง​กับพื้น ส่วน​รุจ​ล้ม​ทับ​จักรยาน พอ​ลุก​ขึ้น​ได้​เขา​ร้อง​เรียก​อา​ร​ยาถาม​ ว่า​เจ็บ​มาก​ไหม

“เจ็บ​มาก” อา​ร​ยา​เดิน​กะเผลก​เข้า​มา เธอ​พยายาม​จะ​ไป​พร้อม​เขา​แต่​เจ็บ​ขา​จน​เดิน​แทบ​ไม่​ไหว สุดท้าย​ตัดสินใจ​บอก​ให้​เขา​ไป​ก่อน ตน​จะ​ตาม​ไป​เอง

ooooooo

ภคินี​เป็น​ห่วง​พี่​ชาย​รํ่า​ร้อง​ให้​หมอ​ทินกร​ช่วย​ผ่า​ตัด​ให้ ทินกร​บอก​ว่า​ตน​เป็น​หมอ​ฝึก​หัดทำ​ไม่ได้ น้า​สังวาล​ย์​ปลอบ​ใจ​ว่า​เดี๋ยว​อา​ร​ยา​คง​มา​แล้ว

“ไม่​มา น้อง​รู้ อา​ร​ยา​โกรธ​น้อง เขา​ไม่​มา​หรอก หรือ ​ไม่​พระศัลย์​ฯโกรธ​แทน​ลูก​สาว...ไม่​มา”

“พระ​ศัลย์​ฯโกรธ​แทน​ลูก​สาว​เป็นไปได้ แต่​อา​ร​ยา​โกรธ​คุณ​น้อง​เป็น​ไป​ไม่ได้”   น้า​สังวาล​ย์​มั่นใจ ทำให้​ภคินี​โกรธ​น้า​สังวาล​ย์​หา​ว่า​เข้า​ข้าง​อา​ร​ยา ไ​ล่​ว่า​รัก​อา​ร​ยา​ก็​ไป​อยู่​กับ​อา​รยา ​เลย แล้ว​บอก​หมอ​ทินกร​ให้​พา​ตน​ไป​หา​พี่​ชาย สั่ง​ให้​อุ้ม​ไป​เดี๋ยวนี้​เลย

หมอ​ทินกร​ดู​อาการ​ของ​ภาคิ​นัย​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง​เกรง​ว่า​หมอ​จะ​มา​ไม่ทัน ยิ่ง​เมื่อ​น้า​สังวาล​ย์​บอก​ว่า​คง​ติด​ไฟไหม้​ ป่า​อยู่ ทินกร​ก็​ยิ่ง​กังวล​ถาม​ว่า​ใคร​จะ​ไป​ตาม​ได้​ไหม

“ไม่​ต้อง​ไป​ตาม​หรอก​ครับ” เสียง​รุจ​ดัง​เข้า​มา ทุกคน​ หัน​มอง​ต่าง​ดีใจ​เหมือน​ฟ้า​มา​โปรด

รุจ​ใน​สภาพ​มอมแมม​ที่​ขมับ​มี​บาดแผล​เลือด​ไหล​ย้อย น้า​สังวาล​ย์​ถาม​ถึง​อา​ร​ยา เขา​บอก​ว่า

“เรา​เกิด​อุบัติเหตุ​ตรง​ทาง​เข้า​ไร่ อา​ร​ยา​เจ็บ​ครับ เร่ง ​ให้​ผม​มา​ก่อน จะ​เดิน​ตาม​มา​ทีหลัง”

น้า​สังวาล​ย์​บอก​ว่า​เดี๋ยว​จะ​ออก​ไป​ดู​อา​ร​ยา​เอง ส่วนรุจ ​ก็​ถาม​ถึง​คน​เจ็บ​ว่า​เป็น​อย่างไร​บ้าง เมื่อ​ฟัง​ทินกร​เล่า​แล้ว สีหน้า ​เขา​เครียด​ขึ้น

พอดี​น้า​สังวาล​ย์​รับ​อา​ร​ยา​เข้า​มา ภคินี​เห็น​สภาพ​อา​ร​ยา​แล้ว​ถาม​อย่าง​เป็น​ห่วง​ว่า​ทำไม​เป็น​แบบ​นี้ พลาง​ก็​ชื่นชม​อา​ร​ยา​ว่า​ช่าง​ดี​เหลือเกิน​ที่​พา​หมอ​รุจ​มา​ได้

อา​ร​ยา​เล่า​ถึง​สภาพ​การ​เดินทาง​ที่​ต้อง​ฝ่า​ไฟ​ป่า​มา​อย่าง​ยาก​ลำบาก ทำให้​ภคินี​ยิ่ง​สะเทือนใจ ส่วน​รุจ​ขอ​ไป​ทำ ความสะอาด​ตัว​แล้ว​จะ​ไป​ตรวจ​ภาคิ​นัย

“เชิญ​ค่ะ อา​ร​ยา​ด้วย ไป​ทำ​ความ​สะอาด​ตัว​เอง​ซะ​ด้วย” น้า​สังวาล​ย์​บอก

ooooooo

รุจ​เข้าไป​ล้าง​หน้า​ล้างมือ​ใน​ห้อง​นํ้า อา​ร​ยายืน ​คอย​อยู่​หน้า​ห้อง เขา​ร้อง​ถาม​ว่า​มี​ปลาสเตอร์​ปิด​แผล​ไหม​ขอ​อัน​หนึ่ง เมื่อ​อา​ร​ยา​หา​มา​ให้​เขา​ปิด​แผล​เอง​ไม่​ถนัด เธอ​จึง​เข้าไป​ช่วย​ปิด​ให้ มอง​หน้า​กัน​ใน​ระยะ​ใกล้​ชิด​แล้ว​ต่าง​ก็​เมิน​ไป​ทาง​อื่น​เขินๆ

ที่​ห้อง​ภาคิ​นัย​ กลาย​เป็น​ห้อง​ผ่า​ตัด​ไป​ชั่วคราว รุ​จลง​มือ​ ตรวจ​อย่าง​เคร่งเครียด โดย​มี​ทินกร​คอย​เป็น​ผู้​ช่วย หลังจาก​ตรวจ​ชีพจร​เปิด​ม่านตา​ดู​แล้ว รุจ​พูด​กับ​ทินกร​สอง​สาม​คำ​ก่อน​เดิน​ออก​ไป

เขา​ไป​คุกเข่า​ตรง​หน้า​รถ​เข็น​ของ​ภคินี​บอก​เธอ​ว่า หมอ​ผู้​ช่วย​กำลัง​เตรียม​เครื่องมือ เล่า​ขั้น​ตอน​การ​ผ่า​ตัด​แล้ว​ปลอบ​ใจ​ภคินี​ว่า

“ภคินี​ไม่​ต้อง​ห่วง​นะ​ครับ หมอ​รับรอง​ว่า​จะ​ทำ​สุด​ฝีมือ” เธอ​ถาม​ว่า​พี่​ชาย​ไม่​ตาย​ใช่​ไหม “ไม่​ตาย หมอ​จะตายก่อน​ถ้า​คุณ​ภาคิ​นัย​ต้อง​ตาย”

ภคินี​ใจหาย​เอามืด​ปิด​ปา​กรุ​จ​ไว้​ไม่​ให้​พูด​ต่อ อา​ร​ยาเดิน ​มา​เห็น​พอดี เธอ​ชะงัก​หน้าเสีย​หัน​หลัง​เดิน​กลับ​ไป ส่วนภคินี​ขอร้อง​รุ​จอ​ย่า​พูด​อย่าง​นั้น​อีก​ตน​ไม่​อยาก​ฟัง รุจ​รับปาก​ว่า

“ไม่​พูด ต่อ​จาก​นี้​ไม่​มี​อะไร​ที่​ต้อง​พูด​แล้ว”

ooooooo

รุ​จล​ง​มือ​ผ่า​ตัด​เมื่อ​กลางดึก โดย​มี​ทินกร​เป็น​ผู้​ช่วย จนกระทั่ง​เช้า​ก็​ยัง​ไม่​ออก​มา

ที่​หน้าห้อง​นอ​นภา​คิ​นัย ภคินี​นั่ง​รถ​เข็น​คอย​ฟัง​ข่าวอยู่​ จน​หลับ​ไป​คา​รถ น้า​สังวาล​ย์​กับ​ฝ้ายคำ​ต้อง​ช่วย​กัน​พา​ไป​นอน​ที่​ห้อง​นอน ส่วน​น้อง​ฝาแฝด​ก็​หลับ​ไป​ที่​เก้าอี้​หน้า​ห้อง​นั่นเอง

จน​สว่าง รุ​จอ​อก​จาก​ห้อง​ผ่า​ตัด น้า​สังวาล​ย์​โผ​เข้าไป​ถาม​ว่า​เป็น​อย่างไร​บ้าง เขา​พยัก​หน้า​บอก​ว่า​เรียบร้อย น้ายิ้ม​ อย่าง​โล่ง​ใจ​​ ขอบคุณ​เขา​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ รุจ​เหลือบ​มอง​อา​รยา​ ที่​ฟัง​อยู่​อย่าง​ตั้งใจ พอ​รู้​ว่า​ภาคิ​นัย​ป​ลอดภัย เธอ​ถึง​กับ​นํ้า​ตา​คลอ รุจ​สะบัด​หน้า​ไป​อย่าง​ขุ่นใจ

“คุณ​หมอ​เทวดา เธอ​เป็น​หมอ​เทวดา​จริงๆ รอ​แต่ภคินี​ เท่านั้น ภคินี​หาย บ้าน​นี้​จะ​มี​ความ​สุข​ที่สุด” น้า​สังวาล​ย์ฝาก ​ความ​หวัง​ทั้งหมด​ไว้​กับ​รุจ

เมื่อ​รุจ​เข้าไป​ก้ม​กระซิบ​บอก​ภคินี​ว่า​พี่​ชาย​ปลอดภัย​แล้ว เธอ​ดีใจ​จน​ร้องไห้​กอด​คอ​รุจ​ไว้​อย่าง​ลืมตัว อา​ร​ยา​มอง​ภาพ​นั้น​ด้วย​สีหน้า​หม่นหมอง​อยู่​เงียบๆ

รุ​จบ​อก​น้า​สังวาล​ย์​ที่​เตือน​ให้​เขา​นอน​พัก​เสีย เพราะ​ไม่ได้​นอน​มา​ทั้ง​คืน​ว่า ตน​จะ​นอน​สัก 3 ชั่วโมง​แล้ว​ให้​ปลุก​เพราะ​ต้อง​รีบ​กลับ​ไป​ที่​โรงพยาบาล แต่​พอ​เขา​เอนตัว​นอนใน​ ห้อง​รับแขก​ก็ได้​ยิน​เสียง​อา​ร​ยา​เดิน​เข้า​มา เธอ​เอา​ผ้า​ห่ม​มา​ให้

อา​ร​ยา​คลี่​ผ้า​ห่ม​คลุม​ให้​แล้ว​จะ​ออก​ไป รุจ​จับ​มือเธอ ​ไว้​ถาม​ว่า​จะ​ไป​ไหน พลาง​ดึง​เข้า​ใกล้​จน​หน้า​เกือบ​สัมผัส​กัน อา​ร​ยา​พยายาม​ขืน​ตัว​ร้องขอ​ว่าอย่า  ทำให้​รุจ​ปล่อย​มือทันที​ จน​เธอ​เซ​ไป

“ไป​ซะ​อา​ร​ยา ไป​ให้​พ้น​หน้า​ฉัน” เห็น​อา​ร​ยา​ยังนิ่ง เขา​ลุก​พรวด​ขึ้น “ฉัน​บอก​ให้​เธอ​ออก​ไป ​อีก​ประเดี๋ยว​ฉัน​ก็​จะไป​เหมือน​กัน ไม่​ต้อง​กลัว​ว่า​ฉัน​จะ​อยู่​ขวาง​เธอ​กับ​ภาคิ​นัย”

“คุณ​รุจ​พูด​สิ่ง​ที่​คุณ​คิด​ตลอด​เวลา ไม่​รับ​รู้​เลย​ว่าจริง หรือ​ไม่​จริง”

“อา​ร​ยา...ไม่​มี​เรื่อง​ไหน​ไม่​จริง เรื่อง​จริง​คือ​ฉัน​รัก​เธอ เรื่อง​จริง​คือ​เธอ​ไม่ได้​รัก​ฉัน เธอ​รัก​ภาคิ​นัย ไหน...เธอ​บอก มา​สิ​ว่า​เรื่อง​ไหน​ไม่​จริง” พูด​แล้ว​จ้อง​หน้า​รอ​คำ​ตอบ เห็นอา​ร​ยา ​นิ่ง​ เขา​บอก​เธอ​ว่า​ไป​ได้​แล้ว เธอ​ยัง​นิ่ง​ เขา​เสียง​ดัง “ฉัน​บอกให้​ เธอ​ไป​จาก​ห้อง​นี้ หรือ​เธอ​จะ​ให้​ฉัน​เป็นคน​ไป​เสีย​เอง”

อา​ร​ยา​ลุก​ขึ้น​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​เสียใจ รุจ​จึง​นอน​ลงสีหน้า​ ขุ่นเคือง​ใจ

ooooooo

ก่อน​ที่​รุจ​จะ​กลับ​ไป​โรงพยาบาล อา​ร​ยา​ทำ​อาหารกลางวัน​ให้​เขา​ทาน เป็น​ของ​โปรด​ที่​เขา​ทาน​แล้วเอ่ยขอบใจ​อา​ร​ยา​ที่​ยัง​จำ​ได้ เธอ​พูด​อย่าง​จงใจให้​ เข้าถึง​หัวใจ​เขา​ว่า

“น้อย​จำ​ทุก​อย่าง​ของ​คุณรุจ​ได้”

รุ​จม​อง​เธอ​นิ่ง​ก่อน​บอก​ว่า​ตน​จะ​กลับ​แล้ว เมื่อ​ไป​ถึง​หน้า​บ้าน ​เขา​บอก​น้า​สังวาล​ย์​ว่าตน​จะ​มา​ดูภาคิ​นัย​อีกไม่น่า​ จะ​เกิน  3-4 วัน ขอโทษ​น้า​สังวาล​ย์ ที่​ต้อง​รีบ​ไป​เพราะ​ที่โรงพยาบาล​ มี​หมอ​ประพัฒน์​เพียง​คน​เดียว

นาย​เอิ้น​ยิ้ม​ให้​รุจ​รายงาน​ว่า​ตน​เปลี่ยน​แบ​ต​เรียบร้อย​แล้ว ระหว่าง​นั้น​หู​เขา​แว่ว​ได้ยิน​น้า​สังวาล​ย์​บอก​อา​ร​ยา​ว่า

“ชา​ลี​จะ​มา​จ้ะ​อา​ร​ยา ดีใจ​ไหม”

เสียง​บอก​ข่าว​ชา​ลี​ของ​น้า​สังวาล​ย์​รบกวน​ความรู้สึกรุจ แม้​จนถึง​โรงพยาบาล​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​สลัด​ทิ้ง​ได้ แต่​เมื่อ​เดิน​เข้าตัว​ตึก​ก็​ต้อง​ชะงัก เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​พยาบาลกำลัง​โต้เถียง​กับพระ​ศัลย์ฯ ​เสียง​ดัง

เหตุ​เพราะ​ก่อน​นี้ พระ​ศัลย์ฯ​ถูก​เจ้าหน้าที่ใน​โรงพยาบาล ไป​รุม​ต่อว่า​ตำหนิ​ที่​เป็น​หมอ แต่​ไม่​ไย​ดี​กับ​คนป่วย​ที่มารอรับ​การ​รักษา​มากมาย เมื่อ​เสา​ว​รส​ออก​มา​เถียง​แทนพ่อ​เลย​ถูกด่า พระศัลย์ฯทน​ไม่ได้​ยอม​ออกจาก​ห้องไป​ตรวจ​คนไข้ แต่​ทำอยู่​เพียง​ไม่กี่ชั่วโมง​ก็​จะ​กลับ เสา​ว​รส​อ้าง​ว่า​ไม่​ใช่​หน้าที่​และ​ด่า​พวก​พนักงาน​ว่าไม่​เห็นใจ​คน​แก่​บ้าง​รึ​ไง

รุจ​ยืน​ฟัง​อยู่​ทน​ไม่ได้ แหวก​วง​เข้าไป​บอก​พวกพนักงาน ว่า “ฉันมาแล้ว” พวกพนักงาน​พา​กัน​ดีใจ หมอ​ประพัฒน์เดิน​มาบอก​ว่า​เร็ว​เข้า​เถอะ รีบ​มา​ช่วย​กัน​เพราะ​คนไข้​มาก​เหลือเกิน

เสา​ว​รส​พูด​เย้ย​ว่า “ขอ​แสดง​ความ​ยินดี​ด้วย​กับ​ความ​ดี ผิด​มนุษย์​ที่​อุตส่าห์​ดั้น​ด้น​ไป​รักษา​คน​เจ็บ​แล้ว​ให้​เขา​แย่ง​คู่รัก​ตัว​เอง​ไป”

“เธอ​ไม่​มี​วัน​รู้จัก​ความ​ดี​อย่าง​นั้น​ใน​ชาติ​นี้” รุจ​พูด​ใส่หน้า พอดี​พระ​ศัลย์​ฯเดิน​ผ่าน​ไป รุจ​พูด​ให้​ได้ยิน​ว่า “ผม​คิด​ว่า​ไม่มี​ อะไร​จะ​พูด​กับ​ท่าน​อีก​แล้ว มี​แต่​ความ​เสียใจ​ให้”

“ฉัน​เสียใจ​ยิ่ง​กว่า​เธอ เชื่อ​เถอะ​หมอ​รุจ” พระ​ศัลย์ฯ​พูด​เสียง​แผ่ว​ด้วย​สีหน้า​อม​ทุกข์

“ยิ่ง​ท่าน​เสียใจ ผม​ยิ่ง​เสียใจ​ขึ้น​ไป​อีก​เป็น​เท่าตัว เพราะ​เท่ากับ​ท่าน​อ่อนแอ​ไม่​สม​เป็น​ข้าราชการ​ชั้น​ผู้ใหญ่ ไม่​สมเป็น​แพทย์​ที่​มี​มือ​ไว้​ช่วย​ชีวิต​คน ท่าน​ได้​ใช้​เงิน​ทุน​ของ​รัฐบาลร่ำเรียน​วิชา​ที่​ถือว่า​มี​เกียรติ​ที่สุด​ใน​ประเทศ​นี้ แต่​ท่าน​กลับ​ชดใช้​เงินของ​ประชาชน​ให้​กับ​ลูก​สาว​ของ​ท่าน​เพียง​คน​เดียว ลูก​สาว​ผู้​ไม่มี​ค่า​อะไร​เลย​ของ​ท่าน”

พระ​ศัลย์ฯ​ฟัง​แล้ว​อึ้ง เสา​ว​รส​ลาก​แขน​พ่อ​ไป​แต่​ปากโต้ตอบ​รุ​จอ​ย่าง​เผ็ดร้อน​ว่า

“พระ​ศัลยแพทย์ทำ​งาน​ให้​แผ่นดิน​มา​มาก​เพียงพอแล้ว หมอ​หนุ่มๆเพิ่ง​จะ​มา​ทำ​ไม่​เท่า​ไหร่ อย่า​ได้​บังอาจ​มา​พูดอะไร อย่าง​นี้ พ่อ​ฉัน​ตอบแทน​แผ่นดิน​เพียงพอ​แล้ว ที่​ให้​ทำ​ไปวัน​นี้​เป็น​ของ​แถม​เพราะ​มี​หมอ​โง่ๆคน​หนึ่ง​ทิ้ง​งาน​ไป​ทำ​อะไรโง่ๆนี่แหละ”

รุจ​นิ่ง​ไป​อย่าง​สมเพช​ความ​คิด​ของ​เสา​ว​รส จนหมอ ประพัฒน์​มา​ดึง​เร่ง​ให้​รีบ​ไป ​เขา​จึง​รู้ตัว

ส่วน​เสา​ว​รส​กับ​พระ​ศัลย์ฯ ผู้​เป็น​พ่อ เดิน​งุดๆออกจาก​โรงพยาบาล​ท่ามกลาง​สายตา​และ​เสียง​ซุบซิบ​อย่าง​สมเพชของ​พยาบาล​และ​เจ้าหน้าที่

ส่วน​ที่​บ้าน​ไร่​รวงผึ้ง...

แม้​ภคินี​จะ​มี​ความรู้สึก​ดีๆกับ​อา​ร​ยา​มาก​ขึ้น​เมื่อ​เธอไป​ตาม​หมอ​รุจ​มา​ผ่า​ตัด​ภาคิ​นัย แต่​ภคินี​ก็​ยัง​มี​เรื่อง​รุจ​ค้าง​คา​ใจอยู่ จน​วัน​นี้​ถาม​อา​ร​ยา​ว่า​ชอบ​หมอ​รุจ​ไหม​ อา​ร​ยาตั้ง​ตัว​ไม่ทัน แต่​ก็​ตอบ​อย่าง​นิ่มนวล​ว่า

“ชอบ​สิ​คะ ท่าน​เป็น​หมอ​ที่​เก่ง​มาก ที่​สำคัญท่านจะ​ทำให้​คุณ​น้อง​หาย ไม่​มี​อะไร​ทำให้​ดิฉัน​ดีใจ​เท่า”

“ดี​มาก อย่า​ลืม​ว่า​ฉัน​ก็​ชอบ​หมอ​รุจ​มาก​เหมือนกัน” ภคินี​กันท่า

ooooooo

ชา​ลี​เรียน​จบ​แล้ว คืน​แรก​ที่​กลับ​บ้าน​เขา​ก็​บอก​แม่​ว่า​จะ​ขึ้น​เชียงใหม่​มา​หา​อา​ร​ยา​และ​เยี่ยมเยียน​ภคินี บอก​แล้ว​ก็​เตรียม​กระเป๋า​เดินทาง​มา​วาง​ไว้ จน​ทั้ง​แม่และ

พี่​สาว​มอง​อย่าง​เป็น​ห่วง

แล้ว​วัน​ต่อ​มา​เขา​ก็​มา​ถึง​บ้าน​ไร่​รวงผึ้ง อา​ร​ยา​ตกใจไม่​นึก​ว่า​เขา​จะ​มา​เร็ว​อย่าง​นี้ ชา​ลี​อ้อน​ว่าเพราะ​คิดถึง​เธอ​พอสอบ​เสร็จ​ก็​เก็บ​กระเป๋า​มา​เลย อ้อน​ถาม​ว่า​แล้ว​เธอ​คิดถึง​ตน​บ้าง​หรือ​เปล่า

“ไป​หา​คุณ​ภาคิ​นัย​เลย​นะ​ชา​ลี” อา​ร​ยา​ตัดบท​เลี่ยง​ไม่​ตอบ​คำ​ถาม แล้ว​พา​ชา​ลี​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ภาคิ​นัย

ภาพ​ที่​เห็น​ตรง​หน้า​ทำให้​ทั้ง​อา​ร​ยา​และ​ชา​ลี​ใจสลด​วูบ เพราะ​ภาคิ​นัย​นอน​นิ่ง​คอตก​ท่าทาง​น่า​สงสาร เขา​ร้อง​ทัก​ชาลี​เสียง​แผ่ว ชา​ลี​รีบ​เข้าไป​หาบ​อก​ว่า​อา​ร​ยา​เพิ่ง​บอก​เรื่อง​ที่​พี่ถูกยิง เป็น​อย่างไร​บ้าง​แล้ว

“พี่​ปลอดภัย​แล้ว ขอบใจ​ชา​ลี​ที่​ส่ง​อา​ร​ยามา​ให้”

“ผม​ดีใจ แต่​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​ส่ง​คน​ไม่​ผิด อา​ร​ยา​จะ​ทำให้ ทุกคน​มี​ความ​สุข”

“ใช่ อา​ร​ยา​ทำให้​ทุก​คน​ที่​ไร่​รวงผึ้ง​มี​ความ​สุข​ที่สุด”

ชา​ลี​ฟัง​ภาคิ​นัย​พูด​แล้ว เขา​รู้สึก​ถึง​ส่วน​ลึก​ใน​ใจจาก​คำ​พูด​นั้น

ออก​จาก​ห้อง​ภาคิ​นัย อา​ร​ยา​พา​ชา​ลี​ไป​เยี่ยม​ภคินี เขาโผ​เข้า​กุม​มือ​น้อง​ไว้​อย่าง​อ่อนโยน ภคินี​ดีใจ​จน​น้ำตา​รื้​นบ​อกข่าว​ดี​ว่า​หมอ​รุจ​จะ​มา​ผ่า​ตัด​ให้​อีก 3 เดือน​ข้าง​หน้า​  หมอ​รับรองว่า​น้อง​ต้อง​เดิน​ได้

ทั้ง​สอง​คุย​กัน​ด้วย​ความ​รัก​ความ​คิดถึง​และ​ห่วงใย​กัน​อย่าง​มาก ชา​ลี​หัน​บอก​อา​ร​ยา​ว่า

“ภคินี​เป็น​น้อง​น้อย​ของ​ทุก​คน”

อา​ร​ยา​ยิ้ม​ให้ อด​แอบ​สะเทือนใจ​กับ​ภาพ​ตรง​หน้าไม่ได้

ooooooo

ชา​ลี​มี​ความ​สุขมาก เยี่ยม​ภาคิ​นัย​และ​ภคินี​แล้ว ก็​ชวน​อา​ร​ยา​ปั่น​จักรยาน​ไป​ตาม​ท้อง​ถนน​กัน​อย่าง​ร่า​เริง​โลดโผน ชวนชม​ทิวทัศน์ เข้า​วัด​ไหว้​พระ จนมา​ถึง​วัด​ที่​อา​ร​ยา​กับ​รุจ​มา​ไหว้​พระ​กัน​วัน​ก่อน เขาถาม​ว่า​เคย​มา​ไหม พอ​อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​เคย​มา ชา​ลี​ถาม​อย่าง​ระแวง​ว่า​มา​กับ​ใคร

เป็น​คำ​ถาม​ที่​อา​ร​ยา​เดา​ใจ​เขา​ออก เลย​ปด​ว่า​มา​กับ​ป้า​บัว​บาน​ที่​กำลัง​กวาด​ลาน​โบสถ์​อยู่ ป้า​บัว​บาน​รู้จัก​อา​ร​ยา​อยู่​แล้ว​จึง​ทัก​ทาย​กัน​อย่าง​คุ้นเคย เลย​เป็น​ข้ออ้าง​ที่​ทำให้​ชา​ลี​เชื่อ​สนิท​ใจ แต่​บอก​ว่า

“ต่อ​ไป​นี้​ชา​ลี​จะ​มา​กับ​คุณ​น้อย​เอง...นะ...ได้​ไหม  ชา​ลี​ ตาม​คุณ​น้อย​มา​ไกล​แสน​ไกล​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​คุณ​น้อย​มา​กับ​ใคร​อีก คุณ​น้อย​ต้อง​มา​กับ​ชา​ลี​คน​เดียว”

ชา​ลี​พูด​โดย​ไม่​รู้​ว่ารุจ​ยืน​มอง​อยู่​ใน​จุด​ที่​ไม่​มี​ใคร​เห็น เขา​เห็น​และ​ได้ยิน​คำ​พูด​ของ​ชา​ลี​ทั้งหมด เมื่อ​ชา​ลี​กับ​อา​ร​ยา​เดิน​ผ่าน​ไป เขา​ได้​แต่​มอง​ตาม​ตา​ปรอยๆ

รุจ​ขับ​รถ​ของ​โรงพยาบาล​ไป​ที่​บ้าน​ไร่​รวงผึ้ง เขา​ต้อง​นั่ง​ทำใจ​อยู่​ครู่​ใหญ่ จึง​ลง​จาก​รถ​ไป​ที่​ห้อง​ภาคิ​นัย​เพื่อ​ตัดไหม​ให้ รุจ​เจอ​ภคินี​อยู่​กับ​ภาคิ​นัย เขา​ถาม​หยอก​เธอ​ว่า

“ผม​มา​ตัด​ไหม​ให้​คุณ​ภาคิ​นัย  แล้ว​ต่อ​จาก​นั้น  ภคินี​จะ​พา​หมอ​ไป​เที่ยว​ลำธาร​ที่​เคย​บอก​หมอ​ว่า​สวย​ที่สุด​ใน​ไร่​แห่ง​นี้​ได้​ไหม”

“พา​ไป​แล้ว​หมอ​ต้อง​เห็น​ว่า​สวย​จริงๆค่ะ” ภคินี​ยิ้ม​หวาน​ทั้งที่​น้ำตา​เพิ่ง​แห้ง

เมื่อ​ภคินี​พา​รุจ​ไป​ชม​ลำธาร​แห่ง​นั้น รุจ​ชม​ว่า​สวย​จริงๆ ชม​ลำธาร​แล้ว​ชม​ภคินี​ว่า

“ภคินี​มีนัยน์ตา​พิเศษ​ที่​เห็น​ความ​งาม​ของ​ธรรมชาติ​มาก​กว่า​ใคร”

เธอ​ถาม​ว่า อย่าง​เขา​ถ้า​ให้​มา​อยู่​กับ​ต้นไม้​ใบ​หญ้า​จะ​มา​ไหม   รุ​จบ​อก​ว่า​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​ขอ​ย้าย​มา​อยู่​ที่​นี่   อยู่​ประจำ​ที่​โรงพยาบาล​อำเภอ   เป็น​ความ​ตั้งใจ​จริง​แต่​ไม่​ทราบ​ว่า​จะ​สามารถ​ย้าย​ได้​หรือ​ไม่

ภคินี​ดีใจ​มาก บอก​ว่าต้อง​ได้​เพราะ​หมอ​ขอ​ไป​เอง แต่​ รุจ​ยัง​ไม่​แน่ใจ​ว่า​หน่วย​งาน​จะ​อนุมัติ​หรือ​ไม่ ภคินี​ถาม​อย่าง​ข้องใจ​ว่า​ทำไม​เขา​ถึง​จะ​ไม่​อนุมัติ

“เพราะ​เขา​ไม่​คิด​ว่า​คน​ต่าง​จังหวัด​จะ​เจ็บป่วย​เท่า​คนใน​เมือง หรือ​ถ้า​เจ็บป่วย​ก็​ไม่​ต้อง​รักษา​มากมาย​เหมือน​คนใน​เมือง มี​ความ​เหลื่อมล้ำ​ระหว่าง​คน​รวย​กับ​คน​จน​อย่างนี้​ ใน​อีก​หลาย​แห่ง​ใน​โลก​นี้”

เป็น​คำ​ตอบ​ที่​ทำให้​ภคินี​มอง​หน้า​รุจ​นิ่ง​อย่าง​เลื่อมใส​ความ​คิด​ของ​เขา

ooooooo

รุจ​เข็น​รถ​พา​ภคินี​กลับ​เข้า​บ้าน เจอ​ชา​ลี​กับ

อา​ร​ยาก​ลับ​จาก​ขี่​จักรยาน​เล่น​พอดี ชา​ลี​เข้าไป​ทักทาย​รุจ ส่วน​อา​ร​ยา​เลี่ยง​ไป​หลัง​บ้าน ชา​ลี​ขอบคุณ​รุจ​ที่​ช่วย​พี่​ชาย​ตน​ถือว่าเป็น​ผู้​มี​บุญคุณ​กับ​ครอบครัว​พวก​ตน​มาก ถาม​ว่า​ต่อ​ไป​คือ​ความ​หวัง​ของ​ภคินี​ใช่​ไหม จะ​เป็น​ความ​จริง​ใช่​​ไหม

“หมอ​รับรอง แต่​ถ้า​ชา​ลี​ไม่​แน่ใจ​ก็​คอย​ดู​ต่อ​ไป” รุจ​ตอบ​เรียบๆ ชา​ลีรีบบ​อก​ว่า​แน่ใจ​ที่สุด รุ​จบ​อก​ภคินี​ว่า​วัน​นี้​จะ​ลาก​ลับ​แล้ว ภคินี​หน้า​สลด​ลง​ถาม​ว่า​ทำไม​กลับ​เร็ว

“ลืม​ไป​แล้ว​หรือ​ว่า​หมอ​ควร​จะ​กลับ​ไป​ตั้งแต่​สาม​วัน​ที่​แล้ว คอย​หมอ​อีก 3 เดือน​นะ จะ​กลับ​มา​รับ​ภคินี​ไป​ผ่า​ตัด”

“ค่ะ ภคินี​จะ​คอย คอย​ทุก​ลม​หายใจ” ภคินี​ยกมือ​ไหว้ มอง​อย่าง​อาวรณ์

ชา​ลี​มอง​สีหน้า​แวว​ตา​ของ​ภคินี​อย่าง​สังเกต...

ooooooo

เมื่อ​ชา​ลี​ไป​นั่ง​ที่​มุม​บ้าน รุจ​เดิน​เข้าไป​ขอบใจ​เขา​ที่​ทำให้​ได้​มา​พบ​อา​ร​ยา  ชา​ลี​ตอบ​ตรงๆว่าถ้า​ไม่​ใช่​ อยาก​ให้​มา​รักษา​ภคินี​ตน​ก็​คง​ไม่​บอก   ซึ่ง​รุจ​ก็​ตอบ​อย่าง​เข้าใจ​ความ​คิด​ของ​ชา​ลี​ว่า

“ก็​เป็น​ธรรมดา ชา​ลี​รู้​ว่า​อา​ร​ยา​ออก​จาก​รุจิ​โรจน์​เพราะ​ไม่​ชอบ​ฉัน จึง​ไม่​สมควร​จะ​บอก​ฉัน​ว่า​เขา​หนี​ไป​ไหน ไม่​เป็นไร ทุก​คน​ต้อง​ยอม​รับ​ความ​จริง”

“ครับ” ชา​ลี​ยกมือ​ไหว้ “ผม​ฝาก​ให้​หมอ​ช่วย​ไป​ดู​

คุณ​แม่​และ​พี่​หนู​นา​ด้วย บ้าน​นั้น​ไม่​มี​ผู้ชาย”

“รับรอง​ จะ​ไม่​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ที่​นั่น ผม​ดีใจ​กับ​คุณ​ด้วย​ที่มา​พบ​อา​ร​ยา คุณ​คง​คิดถึง​เขา​มาก” เมื่อ​ชา​ลีบ​อก​ว่า​ตน​คิดถึง​มาก​ที่สุด รุ​จบ​อก​เขา​ก่อน​ลุก​ไป​ว่า “ผม​มี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​อา​ร​ยา​นิดหน่อย​ก่อน​กลับ ขอตัว​นะ​ชา​ลี”

ชา​ลี​มอง​ตาม​รุจ​ไป​อย่าง​ไม่สบาย​ใจ​นัก

รุจ​เดิน​ไป​หา​อา​ร​ยา​ที่​อยู่​อีก​มุม​หนึ่ง​นอก​บ้าน เขา​ไป​ยืน​เผชิญหน้า​เธอ ต่าง​มอง​กัน​ด้วย​สายตา​ที่​หวั่นไหว ก่อน​ที่​รุจ​จะ​สลัด​ความรู้สึก​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ตาม​แบบฉบับ​ของ​ตัว​เอง​ว่า

“อา​ร​ยา ฉัน​รู้​ว่า​พูด​ไป​คง​ได้​คำ​ตอบ​อย่าง​เดิม แต่​ฉัน​ก็​จะ​พูด ฉัน​ไม่​มี​ศักดิ์ศรี ไม่​มี​ถือตัว มี​แต่...มี​แต่​ความรู้สึก มี​แต่​หัวใจ...อา​ร​ยา กลับ​รุจิ​โรจน์​ของ​เรา​เถอะ​นะ” พูด​แล้ว​มอง​หน้า​เธอ​คอย​คำ​ตอบ

“คุณ​รุจ​คะ รุจิ​โรจน์ เป็น​ที่​ที่​อยู่​ใน​ความ​คิด​ของ​น้อย​ทั้ง​หลับ​ทั้ง​ตื่น ถึง​ไม่​กลับ​ไป ใจน้อย​ก็​อยู่​ที่​รุจิ​โรจน์​ตลอด​เวลา...แต่​น้อย​จะ​ไม่​มี​วัน​ทำให้​คุณ​รุจ​มัวหมอง อดีต​ของ​น้อย​จะ​ทำให้​คุณ​รุจ​เสื่อมเสีย ใคร​ไม่​รู้​ แต่​น้อย​รู้”

“ถึง​ใคร​รู้​ฉัน​ก็​ไม่​แคร์ อา​ร​ยา...ฉัน​รัก​เธอ เธอ​ไม่​เห็น​ว่าความ​รัก​ของ​ฉัน​จะ​ล้ม​ลง​ทุก​อย่าง​หรือ”

“ต่อ​ไป​ใน​เวลา​ข้าง​หน้า   คุณ​รุจ​จะ​ไม่​คิด​อย่าง​นี้   คุณ​รุ​จม​อง​หน้า​น้อย​ทุก​วัน​ทุก​คืน คุณ​รุจ​จะ​เห็น​ลูก​แม่​อัม​พา แม่เลี้ยง​ของ​คุณ ภรรยา​ของ​ท่าน​นาย​พล​ผู้​มี​เกียรติ​สูง​ยิ่ง แต่​มี​ประวัติ​ที่​น่า​บัดสี”

น้ำเสียง​อา​ร​ยาก​ล้ำ​กลืน ขมขื่น​จน​รุจ​ฟัง​แล้ว​อึ้ง เธอ​ไหว้​ลา รุจ​จับ​มือ​เธอ​ที่​พนม​อยู่ ต่าง​มอง​ตา​กัน​นิ่ง ก่อน​ที่​รุจ​จะ​หัน​หลัง​เดิน​จาก​ไป

อา​ร​ยา​ขยับ​จะ​เดิน​ตาม แต่​ต้อง​หยุด​ยับยั้ง​ความ​คิด​นั้น ได้​แต่​ยืน​น้ำตา​รื้​นอ​ยู่​ตรง​นั้น...

เมื่อ​ไป​ส่ง​รุจ​ที่​หน้า​เรือน  เธอ​วิ่ง​ตาม​รถ​รุจ​ไป​บอก​เขา​ว่า

“น้อย​คิดถึง​ป้าๆทุก​คน โปรด​บอก​ด้วย​ว่า​น้อย​คิดถึง​ที่สุด”

“รุจิ​โรจน์​มี​ทุก​อย่าง​ที่​เธอ​คิดถึง แต่​เธอ​ไม่​กลับ​ไป   เป็น​เพราะ​เธอ​อาลัยอาวรณ์​ที่​นี่​มาก​กว่า...ใคร​กัน​หรือ​อา​ร​ยา... ใคร? ภาคิ​นัย​ หรือ​ชา​ลี”

อา​ร​ยา​งงงัน ยืน​อึ้ง​กับ​คำ​ถาม​ของ​เขา จน​รถ​แล่น​ไป​เธอ​ก็​ยัง​ยืน​มึน​อยู่​อย่าง​เดียวดาย...

ooooooo

เมื่อ​รุ​จก​ลับ​ไป​ถึง​บ้าน​รุจิ​โรจน์ พวก​แม่ๆพา​กัน​วิ่ง​มา​รับ​ด้วย​ความ​ดีใจ ตื้นตันใจ​โผ​เข้า​กอด​รุจ​น้ำ​หู​น้ำตา​ไหล แม่​พิน​เป็น​คน​ถาม​ขึ้น​ว่า

“คุณ​หนู​ขา...คุณ​น้อย​ล่ะ​คะ ไม่ได้​กลับ​มา​ด้วย​หรือ​คะ”

ขณะ​เดิน​เข้า​บ้าน​นั้น แม่ๆที่​เดิน​ล้อม​หน้า​ล้อม​หลัง ยัง​ถามไถ่​กัน​ให้​แซด จน​รุจ​ถาม​ว่า​พวก​แม่ๆรู้​หรือ​ว่า​ตนไป​พบ​อา​ร​ยา​ ตนไม่ได้​บอก​ใคร​สัก​คน แม่​ละม่อม​บอก​ว่าคุณนาย​พนา​เว​สบ​อก​เพราะ​เห็น​พวก​ตน​ร้อน​ใจ​ที่​เขา​หาย​ไป แม่​พร้อม​ลอยหน้า​เข้าไป​บอก​อ้อนๆว่า

“กิน​ไม่ได้​นอน​ไม่​หลับ​ผอม​ล้ง...​ผอม​ลง​ทุก​วัน”

แม่​ละม่อม​กับ​แม่​พิน​เหล่​แม่​พร้อม​อย่าง​หมั่นไส้ รุ​จม​อง​ทั้ง​สาม​แม่​ถาม​ขำๆว่า​ใคร​หรือ​ที่​ผอม​ลง​ แม่​พร้อม​บอกว่า​ตน​เอง

“ผอม​ลง​น่ะ​สมควร​แล้ว น้ำหนัก​ตัว​มาก​จะ​เป็นอันตราย​กับ​กระดูก แม่​ม่​อม​เริ่ม​ปวด​เข่า​แล้ว​ใช่​ไหม​จ๊ะ แม่​พิณ​ปวด​คอ​อาจจะ​ก้มหน้า​เย็บ​ผ้า​มาก​ไป แม่​พร้อม​ก็​เจ็บ​ข้อ​มือ​ข้าง​ขวา​นี่​บ่อยๆเพราะ​ควง​ตะหลิว​ทำ​กับข้าว ก็​แสดง​ว่า​กระดูก​มี​ปัญหา”

รุจ​จาระไน​อาการ​ของ​แม่​แต่ละ​คน​อย่าง​ละเอียด​จน​แม่ๆทั้ง​สาม​ร้อง​พร้อม​กัน​ว่า

“โถ...​คุณ​หนู ห่วง​แต่​แม่ๆ” แม่​ละม่อม​มอง​ทำ​ตา ละห้อย​ถาม​ว่าแล้ว​ตัว​เอง​ล่ะ รุจ​ถาม​ว่า​ตน​เป็น​อะไร แม่​พิณ​ตอบ​หน้าตาย​ว่า

“กระดูก​ไม่​เป็นไร แต่​หัวใจ​ไม่​ดี”

“ทำไม​ไม่​รับ​คุณ​น้อย​กลับ​มา​ด้วย” แม่​พร้อม​ถาม​ต่อ รุจ​อึ้ง​ไป​นิดหนึ่ง​ก่อนจะ​ยิ้ม​อ่อนโยน​ตอบ​เสียง​มั่นคง​ว่า

“อา​ร​ยา​สบาย​ดี มี​งาน​ดูแล​คน​เจ็บ​ที่รักและ​ดี​ต่อ​อา​ร​ยา มาก แม่ๆไม่​ต้อง​ห่วง เขา​ปลอดภัย​ใน​ที่​ที่ดี​ที่สุด”

สายๆ วัฒนา​ก็​มา​ที่​บ้าน​รุจิ​โรจน์ คุย​กับ​รุจ​ที่​ท่า​น้ำ ฟัง​เรื่องราว​จาก​เขา​แล้ว​ถาม​ว่า​ทำไม​ไม่​บอก​อา​ร​ยา​ว่า​เขา​รัก​เธอ รุ​จม​อง​ขวับ​อย่าง​แปลก​ใจ วัฒนา​ยืนยัน​ว่า​ตน​รู้ ย้ำ​ถาม​ว่า​บอก​หรือ​เปล่า

“บอก​ไม่​รู้​กี่​หน ผม​ยัง​แปลก​ใจ​ใน​ความ​อดทน​ของผม ผม​บอก​และ​ขอ​ให้​เขา​กลับ​มา​กับ​ผม​จน​วินาที​สุดท้าย” วัฒนา​ทำ​หน้า​แปลก​ใจ ถาม​ว่า​ทำไม​อา​ร​ยา​ไม่​กลับ​ก็​เธอ​รัก​เขา รุจ ​ตอบ​เสียง​ขื่นๆว่า “ไม่​จริง​หรอก​หนู​นา เขา​รัก​ใคร​ผม​ไม่​รู้ แต่​ไม่​ใช่​ผม”

“ฟัง​นะ​คุณ​รุจ ตื่น​จาก​หลับ​เสียที น้อย​ไม่ได้​รัก​ชา​ลี ฉัน​ไม่​รู้​ว่า​พี่​ภาคิ​นัย​จะ​ชอบ​น้อย​หรือ​เปล่า ถึง​ชอบ ​น้อย​ก็​ไม่​ ชอบ​พี่​ภาคิ​นัย น้อย​รัก​คุณ​ค่ะ ป​ริ้น​ซ์​มัมมี่ รัก​มา​นาน​แล้วด้วย”

รุจ​ฝืน​หัวเราะ​บอก​วัฒนา​ว่า​จนกว่า​ตน​จะ​ได้ยิน​จาก​ปาก​อา​ร​ยา​เอง​ถึง​จะ​เชื่อ

“รัก​น้อย​จริงๆแล้วกัน​คุณ​รุจ แล้ว​ความ​รัก​จะ​ทำงาน​ ของ​มัน​เอง...เชื่อ​ฉัน”

รุ​จม​อง​หน้า​วัฒนา​นิ่ง​ก่อน​เอ่ย​พร้อม​รอย​ยิ้ม​บางๆ “ขอบคุณ”

ooooooo

บริเวณ​น้ำตก​ที่​เชียงใหม่ ชา​ลี​กับ​อา​ร​ยา​ยัง​คง​พา​กันท่องเที่ยว​อย่าง​สนุกสนาน​เหมือน​ตอน​เด็กๆ แต่​วัน​นี้​ความรู้สึก​ของ​ชา​ลี​ไม่​ใช่​เด็ก​แล้ว เขา​บอก​รัก​อา​ร​ยา เธอ​ยืน​นิ่ง​เหมือน​ไม่ได้​ยิน จน​เขา​ถาม​ว่า​ได้ยิน​ไหม

“ได้ยิน...ได้ยิน​ว่า ชา​ลีบ​อก​ว่า​ชา​ลี​รัก​คุณ​น้อย”

ชา​ลี​โล่ง​ใจ ยิ้ม​สดชื่น​ถาม​ว่า “แล้ว...คุณ​น้อย​จะตอบ​ชา​ลี​ว่า​ไง”

“ตอบ​ว่า น้อย​ก็​รัก​ชา​ลี​เหมือน​กัน” ชา​ลี​ยิ้ม​ดีใจ​ถาม​ว่า​จริง​นะ แต่​แล้ว​ก็​หน้า​ถอดสี​เมื่อ​อา​ร​ยา​ตอบ​อย่าง​สุขุม​เยือกเย็น​ว่า “จริง​สิ เรา​เป็น​เพื่อน​กัน​มา​ตั้งแต่​เด็กๆ ถ้า​ใคร​ถาม​น้อย​ว่า​ใคร​คือ​เพื่อน​สนิท​ที่​น้อย​รัก​มากที่สุด น้อย​ตอบได้​ ทันที​ว่า​คือ​ชา​ลี”

“คุณ​น้อย...ชา​ลีบ​อก​ว่า​ชา​ลี​รัก​คุณ​น้อย​แบบ​คู่รัก​นะ แบบ​ที่​จะ​แต่งงาน​อยู่​ด้วย​กัน​ไป​ตลอด​ชีวิต”

“ชา​ลี​จ๋า...ลอง​แยกแยะ​ให้​ชัดๆนะ เรา​เป็น​เพื่อน​กัน ชา​ลี​นึก​ภาพ​ออก​ใช่​ไหม เพราะ​เรา​เห็น​กัน​มา​นาน​เหลือเกิน​เกือบ​เท่า​อายุ​เรา แต่​ถ้า​จะ​นึก​ว่า​เรา​คือ​สามี​ภรรยา​กัน น้อย​บอก​ตรงๆว่า​น้อย​นึก​ไม่​ออก ชา​ลี​นึกออก​หรือ”

ชา​ลี​หัน​ข้าง​ให้​อา​ร​ยา​อย่าง​ไม่​อยาก​ให้​เห็น​น้ำตา​ตัว​เอง แต่​พอ​อา​ร​ยา​พูด​จบ​เขา​หัน​มา อา​ร​ยา​คราง​เบาๆว่า​อย่า​ทำ​อย่าง​นี้ ชา​ลีก​ลั้น​น้ำตา​บอก​ว่า​ตน​ก็​ไม่​อยาก​ร้องไห้​เลย แต่...ขอ​วัน​เดียว ขอ​แค่​วัน​เดียว พรุ่งนี้​ตน​จะ​เหมือน​เดิม อา​ร​ยา​สะเทือนใจ​จน​น้ำตา​คลอ​ไป​ด้วย

ชา​ลี​หัวเราะ​ประชด​ตัว​เอง บอก​ว่า​ไม่ได้​คาด​ว่า​เธอ​จะ​ตอบ​เป็น​อย่าง​อื่น แต่​ก็​ตัดสินใจ​ทำใจ​แข็ง​บอก​ว่า​มัน​ก็​คง​ต้อง​ถึง​จุด​นี้​เข้า​สัก​วัน อา​ร​ยาบ​อก​ชา​ลี​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความปรารถนา​ดี​ว่า

“ชา​ลี...​ชา​ลี​จะ​เป็น​เพื่อน​รัก​น้อย​จน​ตาย”

ทั้ง​สอง​จับ​มือ​กัน​มั่น​เหมือน​สัญญา​ใจ

เมื่อ​ชา​ลี​เล่า​เรื่อง​นี้​ให้​ภคินี​ฟัง เธอ​ถาม​ว่า​อา​ร​ยา​ไม่​รัก​เขา​แล้ว​รัก​ใคร ชา​ลี​เอง​ก็​ไม่​ทราบ ภคินี​ระแวง​ว่า​จะ​เป็น​รุจ​แต่​ไม่​พูด หัน​มา​ปลอบ​ใจ​ชา​ลี​ว่า​คน​อย่าง​เขา​มี​ผู้หญิง​อีก​มากมาย​อาจจะ​สวย อาจจะ​ดี​กว่า​อา​ร​ยา​ด้วย ชา​ลี​ถาม​ยิ้มๆว่า​ถ้า​ไม่​มี​จะ​ให้​ทำ​ยัง​ไง

“มี​ค่ะ​มี” ภคินี​ยืนยัน แต่​ก็​ไม่​อาจ​บอก​ได้​ว่า​เป็น​ใคร อยู่​ที่ไหน  และ​จะ​พบ​กัน​เมื่อ​ไร สอง​พี่น้อง​เลย​หัวเราะ​กัน​ขำๆ

ooooooo

เมื่อ​เสา​ว​รส​ไม่​เหลือ​ใคร​แล้ว เธอ​บากหน้า​ไปหา ​ภาคิ​นัย​อีก​ครั้ง แต่​ก็​ยัง​ไม่​วาย​แสดง​ความ​ร้ายกาจ

น้า​สังวาล​ย์​ไม่​ให้​ขึ้น​ไป​หา​ภาคิ​นัย เพราะ​เขา​กำลัง​พักผ่อน​ก็​ไม่​ฟัง เดิน​ผ่าน​อา​ร​ยา​ก็​ด่า​ว่า​ซ้ำ​ยัง​ตบ​หน้า​ฉาด​ใหญ่ อา​ร​ยา​ไม่​ตบ​ตอบ แต่​บอก​ว่า​ถ้า​โดน​ตบ​อีก​ที ​เธอ​ไม่​อยู่​เฉย​แน่  เสา​ว​รส​จ้อง​จิก​อา​ร​ยา​แล้ว​เดิน​ฉับๆขึ้น​ไป

ภาคิ​นัย​มอง​เสา​ว​รส​อย่าง​เหยียด​หยัน บอก​ว่า​ตน​ตาบอด​ถึง​ได้​รัก​เธอ เขา​รู้​ว่า​เธอ​เป็น​คน​ปอง​ร้าย​ตน เสา​ว​รส​ไม่​โต้ตอบ​แต่​หัวเราะ​เยาะ​ว่า ผู้ชาย​สาม​คน​รุม​ทึ้ง​ผู้หญิง​คน​เดียว​น่า​สมเพช​มาก

ภาคิ​นัย​สุด​จะ​ทน​ให้​เสา​ว​รส​มา​พูด​เยาะ​หยัน​เขาบอก​ให้​ใคร​ที่​อยู่​ข้าง​นอก​มา​จับ​เสา​ว​รส​โยน​ออก​ไป​ที แล้ว​นึก​ได้​ตะโกน​เรียก​ชา​ลี ชา​ลี​พุ่ง​เข้า​มา​แต่​แล้ว​ก็​ชะงัก​อย่าง​รังเกียจ ภาคิ​นัย​เลย​บอก​ชา​ลี​ให้​เรียก​เมือง​คำ​มา​ก็ได้ ให้​มา​ช่วย​กัน​ลาก​เสา​ว​รส​โยน​ออก​ไป​ที

อา​ร​ยา​กับ​น้อง​ฝาแฝด​อยู่​หน้า​บ้าน เห็น​เสา​ว​รส​ถูก​คน​งาน​ลาก​ถูลู่ถูกัง​ออก​มา อา​ร​ยา​มอง​หน้า​เศร้า ชา​ลี​ถาม​ว่า​สงสาร​เขา​หรือ

“แม่​สอน​ว่า​คน​ล้ม​อย่า​ข้าม เขา​ล้ม​เขา​ก็​เจ็บ​อยู่​แล้ว” อา​ร​ยา​ตอบ​เสียง​แผ่ว

ooooooo

แม้​จะ​ยอม​รับ​การ​ตัดสินใจ​ของ​อา​ร​ยา แต่​รุจ​ก็​ทำใจไม่ได้ ยิ่ง​เมื่อ​นึกถึง​เหตุผล​ที่​เธอ​บอก​ว่า เพราะ​ประวัติของ​แม่​เธอ​จึง​ไม่​ต้องการ​สร้าง​ความ​อับอาย​ให้​เขา​อีก ทำให้​รุจ​พุ่ง​ความ​ไม่​พอใจ​ไป​ที่​อัม​พา

เมื่อ​เดิน​มา​เห็น​รูป​อัม​พา​ที่​แขวน​อยู่ เขา​ทน​ใจ​ตัว​เอง​ไม่ได้ เข้า​จับ​รูป​กระชาก​ลง​มา​แล้ว​เหวี่ยง​สุด​แรง​ไป​ตก​ที่​เก้าอี้​นวม​ใหญ่ แรง​กระแทก​ทำให้​มุม​รูป​เปิด​อ้า​ออก มี​ของ​บาง​อย่าง​หลุด​กระเด็นออก​มา

รุจ​จ้อง​เขม็ง​ห่อ​ของ​ที่​กระเด็น​ออก​มา พอ​เปิด​ออก​ดู​เขา ตะลึง​งัน มัน​คือ​ห่อ​เครื่อง​เพชร​และ​เครื่อง​ทอง​ทั้งหมด​ของ ตระกูล​ที่​หาย​ไป ทั้ง​ยัง​มี​จดหมาย​ลายมือ​อัม​พา​ฉบับ​หนึ่ง​ด้วย

รุจ​เรียก​แม่ๆทั้ง​สาม​และ​ท่าน​ขุนฯ​มา​พบ​กัน​ที่​ห้อง แปด​เหลี่ยม เอา​เครื่อง​เพชร เครื่อง​ทอง​ทั้งหมด​มา​วาง​เรียง​กัน​ต่อหน้า แล้ว​เขา​ก็​อ่าน​จดหมาย​ของ​อัม​พา​ให้​ทุก​คน​ฟัง...

“อาภรณ์​มี​ค่า​ทั้งหมด​นี้​เป็น​ของ​ประจำ​ตระกูล​รุจิ​โรจน์ จง​ทำใจ​ให้​เข้มแข็ง อย่า​ให้​ความ​โลภ​อยู่​เหนือ​กว่า นำ​ไป​คืนให้​คุณ​รุจทันที​ที่​ลูก​พบ แม่​เอา​มา​เก็บ​ไว้​ตรง​ที่​ลูก​พบ​นี้ เพราะ​มี​เหตุ​จำเป็น มิ​ฉะนั้น​มัน​จะ​ต้อง​ถูก​รีด​ไถ​จน​วอดวาย​ดัง​เช่น​สมบัติ​ของ​แม่​ที่​ลูก​ควร​จะ​ได้​เมื่อ​แม่​ไม่​อยู่​แล้ว แต่​แม่​ใช้​มัน​เพื่อ​ล้าง​ความ​อาย​ให้​ลูก​น้อยของ​แม่ แต่​สมบัติ​พวก​นี้​แม่​จะ​ไม่​ยอม​ให้​ใคร​ไป เพราะ​จะ​ทำให้​เราเป็น​หนี้​กรรม​กับ​ทายาท​รุจิ​โรจน์ เมื่อ​แม่​ตาย​ไป​เขา​คง​คืน​รูป​แม่ให้​ลูก​ไป อย่า​เห็น​กับ​ความ​ยั่วยวน​ของ​แสง​เพชร จง​ถือ​ความ​สัตย์​ซื่อให้​แม่​ด้วย​การ​คืน​เจ้าของ​และ​ความ​เจ็บแค้น​ทั้งหลาย​ก็​จะ​สิ้นสุด​ไป”

พอ​รุจ​อ่าน​จดหมาย​จบ แม่ๆทั้ง​สาม​ก็​คราง​ออก​มา อย่าง​แสน​สงสาร​อัม​พา ท่าน​ขุนฯ​ถาม​ว่า​อัม​พา​มี​เรื่อง​อะไร แต่​หน​หลัง​ที่​ต้อง​อับอาย แม่​พิ​นบ​อก​ว่า​นาย​ชิด​ที่มา​เอา​ของ​ของอัม​พาไป​จน​หมด​นั่นแหละ

แม่​ละม่อม​สงสัย​ว่า​อัม​พา​เป็น​เมีย​นาย​ชิด​ได้​อย่างไร แม่​พร้อม​บอก​ว่า​รู้​แต่​เพียง​ว่า​อัม​พา​ไม่​เต็มใจ ​ส่วน​รุจ​ยัง​ทำใจ​ไม่ได้​กับ​ความ​จริง​ที่​เพิ่ง​รู้ เขา​ไป​ยืน​ที่​หน้าต่าง มอง​ไป​ข้าง​นอก​ก่อนหัน​มา​บอก​ทุก​คน​ว่า

“ฉัน​ผิด​คน​เดียว ผิด​ตั้งแต่​ต้น เพราะ​อคติ เพราะ​เข้าใจ​ผิด เพราะ​ความ​โกรธ​แค้นที่​ไร้​เหตุผล สมน้ำหน้า​ตัว​เอง” รุจ​หัวเราะ​เยาะหยันตัว​เอง​อย่าง​ขมขื่น ท่าน​ขุนฯ​ขอ​ให้​รุจ​ไป​บอก​อา​ร​ยา ย้ำ​ว่า​อา​ร​ยารัก​เขา

“อีก 3 เดือน​ฉัน​จะ​พบ​อา​ร​ยา​อีก ถ้า​อา​ร​ยา​รัก​คน​อื่น​ไป​แล้ว หรือ​ถ้า​เขา​ยัง​ยึด​มั่น​เหตุผล​ว่า ​เรื่อง​อดีต​ของ​แม่​จะ​ทำให้​ ฉัน​อับอาย​ขายหน้า ฉัน​คง​จะ​อยู่​เหมือน​คน​ตาย​ไป​ตลอด​ชีวิต”

แม่ๆ และ​ท่าน​ขุนฯ​ต่าง​สะเทือนใจ​กับ​ความ​จริงที่​เพิ่ง​เปิดเผย ส่วน​รุจ ทั้ง​เสียใจ เศร้า ​และ​เครียด...

ooooooo

เสาว​รส​กลับ​พระนคร พา​พระ​ศัลย์ฯ​หิ้ว​กระเป๋า กลับ​เข้า​บ้าน พระ​ศัลย์ฯ​ถาม​ว่า​ทำไม​กลับ​มา​บ้าน​นี้​อีก ไม่​กลัว​หรือ ​เพราะ​เสี่ย​ขู่​ถึง​ตาย​นะ

เสา​ว​รส​ตวาด​ว่า​เรา​ไม่​มี​ที่​ไป​ และ​เมื่อ​เสี่ย​มา​หลาย​ครั้ง​แล้ว​ไม่​พบ​ก็​คง​ไม่​มา​อีก กระนั้น​พระ​ศัลย์ฯ​ก็​ยัง​กลัว เพราะ​นอกจาก​เสี่ยแล้ว​ยัง​มี​คดี​ของ​อิน​ตา​อีก   กลัว​อิน​ตา​ถูก​จับ​แล้ว​ซัดทอด

เสา​ว​รส​ตวาด​ว่า​ถ้า​พ่อ​กลัว​ขนาด​นี้​ก็​อย่า​เป็น​พ่อ​ลูก​กัน​เลย แล้ว​ก้าว​ฉับๆเข้า​บ้าน พระ​ศัลย์ฯ​เลย​เงียบ ยืน​คอตก

ooooooo

3 เดือน​ต่อ​มา รุ​จก​ลับ​มา​ผ่า​ตัด​ภคินี จาก​นั้น​ช่วย​ดูแล​การ​ทำ​กายภาพบำบัด​ประคอง​เธอ​หัด​เดิน​ทั้ง​ภาคิ​นัย​และ​ภคินี​ต่าง​ดีใจ​เป็น​ล้นพ้น​รู้สึก​เหมือน​ตาย​แล้ว​เกิด​ใหม่ ได้​ชีวิต​ใหม่​เพราะ​มือ​หมอ​รุจ​แท้ๆ

วัฒนา​ตาม​มา​ที่​เชียงใหม่​ด้วย​ความ​ตั้งใจ​ที่​จะ​มา​เกลี้ยกล่อม​อา​ร​ยา​ให้​กลับ​ไป​บ้าน​รุจิ​โรจน์ ​กระทั่ง​บอก​อา​ร​ยา​ตรงๆว่า รุจ​รัก​เธอ​พูด​ย้ำ​หมาย​ให้​อา​ร​ยา​ตัดสินใจ​ว่า

“ตอน​นี้​มัน​สามเส้า​สี่​เส้า​กัน​อยู่ ตัดสินใจ​เสีย คน​อื่นๆ เขา​จะ​ได้​จัดการ​ชีวิต​เขา​มั่ง มัน​พันพัว​กัน​ไป​หมด​แล้ว”

คุย​กับ​อา​ร​ยา​แล้ว​วัฒนา​ลุก​เดิน​ไป เห็น​รุจ​ยืน​มอง​อยู่ เธอ​มอง​บอก​เขา​ด้วย​สายตา​ว่า​คุย​ให้​แล้ว​ จาก​นั้น​รุจ​ก็​เดิน​เข้า​มา​หา​อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​มี​เรื่อง​สำคัญ​จะ​พูด​กับ​เธอ แต่​ขอ​ให้​ไป​ใน​ที่​ที่​สวย​งาม​กว่า​นี้​ได้​ไหม ​อา​ร​ยา​จึง​บอก​ให้​ตาม​ตน​ไป

เมื่อ​ถึง​มุม​สวย​ใน​ไร่​รวงผึ้ง รุจ​เอา​จดหมาย​ของ​อัม​พา​ให้​เธอ​อ่าน พ​ออ่าน​จดหมาย​ของ​แม่​จบ​ อา​ร​ยา​ร้องไห้​น้ำตา​ทะลัก​ทลาย​ออก​มา​สะอื้น​จน​แทบ​ขาดใจ​ด้วย​ความ​สงสาร​แม่ คร่ำครวญ​เมื่อ​นึกถึง​แม่ว่า

“แม่​เป็น​ทุก​ข์มา​นาน​แค่​ไหน​ก็​ไม่​รู้ ตลอด​มา​แม่​คง​กลัว กลัว​คุณ​ลุง กลัว​คุณ​รุจ​จะ​อับอาย​ขายหน้า มิน่า​น้อย​เห็น​แม่​นั่ง​ร้องไห้​คน​เดียว บาง​ครั้ง​แม่​สะดุ้ง​สุด​ตัว​เหมือน​กลัว​อะไร​บาง​อย่าง คุณ​รุจ ​น้อย​สงสาร​แม่ แม่​มี​ทุกข์​จน​ตาย...”

แต่​อา​ร​ยา​ก็​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​แม่​จึง​ไป​เกี่ยวข้อง​กับ​นาย​ชิด​ที่​เป็น​นักเลง​หัวไม้​เหี้ยมโหด​คน​นี้​ได้ เธอ​ร้องไห้​อย่าง​หนัก สะอื้น​เฮือกๆ รุจ​สงสาร​จน​ทน​ไม่ได้​โอบ​ร่าง​เธอ​ไว้​แนบ​อก​อย่าง​ปลอบโยน ใน​ยาม​นี้ อาร​ยา​ซุก​ตัว​ใน​อ้อม​แขน​เขา​อย่าง​รู้สึก​อบอุ่น​เป็น​ที่พึ่ง

ooooooo

จน​เมื่อ​อา​ร​ยา​ค่อย​คลาย​โศก ทั้ง​สอง​เดิน​มา​ด้วย​กัน รุจ​เอ่ย​ขอโทษ​ที่​ตน​ทำ​ไม่​ดี พูด​ไม่​ดี กิริยา​ไม่​ดี​กับ​เธอ​ตลอด​มา อา​ร​ยา​เอง​ก็​ขอโทษ​เขา​ที่​ชอบ​เถียง​ทำ​ไม่​ดี​พูด​ไม่​ดี​คิด​ไม่​ดี​กับ​เขา​เหมือน​กัน สุดท้าย​ต่าง​พูด​อย่าง​ใจ​ตรง​กัน​ว่า “หายกัน”

แต่​พอ​รุจ​ชวน​กลับ​รุจิ​โรจน์​พร้อม​กัน เธอ​กลับ​ปฏิเสธ แต่​ยืนยัน​ว่า​ไม่​ใช่​เพราะ​ชา​ลี​และ​ไม่​ใช่​เพราะ​ภาคิ​นัย ทั้ง​ยัง​มอง​เขา​ด้วย​ความ​รัก จน​รุจ​เต็ม​ตื้น​ขึ้น​ใน​หัวใจ ต่าง​มอง​กัน​อย่าง​เปิดเผย​ความรู้สึก​ แล้ว​อา​ร​ยา​ก็​เดิน​เข้า​สู่​อ้อม​กอด​ของ​เขา

รุจ​ถาม​ถึง​เหตุผล​ที่​เธอ​ยัง​ไม่​ยอม​กลับ​รุจิ​โรจน์ ​เธอ​บอก​ว่า​เพราะ​เรื่อง​ของ​แม่​ยัง​ไม่​หมด แม่​ยัง​ถูก​ตราหน้า​ว่า​มีชู้ แม้​รุจ​จะ​บอก​ว่า​เขา​ไม่​แคร์ แต่​อา​ร​ยา​แคร์​ความรู้สึก​ของ​คน​รอบ​ข้าง สุดท้าย​รุ​จบ​อก​ว่า​เขา​จะ​ย้าย​มา​อยู่​เชียงใหม่ เธอ​ก็​จะ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​อื่น​อีก

“เธอ​หนี​ฉัน​ไม่​พ้น​หรอก​อา​ร​ยา เธอ​ต้อง​เป็น​ของ​ฉัน​คน​เดียว” รุจ​พูด​อย่าง​มั่นใจ​ว่าความ​รัก​จะ​ทำให้​อา​ร​ยาใจ​อ่อน​ลง​ได้

ooooooo

แต่​ใน​ที่สุด เรื่อง​ทั้งหมด​ก็​คลี่คลาย เมื่อ​นาย​ชิด​ที่​ป่วย​ใกล้​ตาย​สำนึก​บาป​จะ​ขอ​อโหสิ​กับ​รุจ​และ​อา​ร​ยา ยายจ้​วน​ยอม​ประสาน​งาน​ให้ จน​นาย​ชิด​ไป​ที่​เชียงใหม่​จาก​การ​ช่วยเหลือ​ของ​หมอ​ประพัฒน์​จึง​ได้​พบ​กับ​ทั้ง​สอง​คน​ที่​เรือน​พัก​ของ​โรงพยาบาล

นาย​ชิด​มา​สารภาพ​บาป​และ​ขอ​อโหสิ​เล่า​ความหลัง​ทั้งหมด​ให้​ฟัง​ว่า...

“เรื่อง​มัน​เกิด​ขึ้น​ที่​เมือง​เหนือ​นี่แหละ อัม​พา​ยัง​เด็ก​อยู่​แท้ๆ แค่ 16 ปี มา​พัก​ตากอากาศ ฉัน​ทำ​งาน​เป็น​กุลี​เห็น​เข้า ก็​อยาก​ได้​เขา​เหลือเกิน เขา​สวย​จริงๆ...”

นาย​ชิด​เล่า​ว่า​ ตก​กลางคืน​เขา​สุม​ไฟ​รม​ยา​เข้าไป​ใน​ห้อง​พัก​จน​ทุก​คน​หมด​สติ​แล้ว​อุ้ม​อัม​พา​ไป​จน 9 เดือน ผ่าน​ไป​อัม​พา​ท้อง​แก่ และ​เมื่อ​คลอด​เธอ​ก็​หิ้ว​กระเป๋า​ออก​จาก​บ้านพัก​ของ​ป้า โดย​ทิ้ง​ชาญ​ลูก​ชาย​ที่​เพิ่ง​คลอด​ไว้

ต่อ​มา​คุณหญิง​เจ้าของ​บ้าน​ก็​อุ้ม​ชาญ​มา​ให้​ ชิด​รับ​ลูก​กอด​ไว้​ใน​อ้อมอก​แล้ว​คิด​ใน​ใจ​ว่า ​แม่​มัน​ใจร้ายทิ้ง​ลูก​ได้​ลงคอ ชิด​นิ่ง​ไป​นิดหนึ่ง​จึง​เล่า​ต่อว่า...

“คุณหญิง​ให้​ฉัน​สาบาน ว่า​จะ​ไม่​ยุ่ง​เกี่ยว​อะไร​กับ​แม่​อัม​พา​อีก แต่​ฉัน​กลับ​สาบาน​กับ​ตัว​เอง​ใน​วัน​นั้น​ด้วย​ว่า ฉัน​จะ​จอง​ล้าง​จอง​ผลาญ​อัม​พา​ไม่​ให้​มี​วัน​จบ​สิ้น ฉัน​ตาม​หา​จน​รู้​ว่า อัม​พา​มา​เป็น​เมีย​นาย​พล  ต่อ​จาก​นั้น ​ฉัน​ก็​เริ่ม​รีด​ไถ ขู่​เข็ญ บีบ​เขา​จน​แทบ​จะ​ตาย​คา​มือ”

แล้ว​นาย​ชิด​ก็​สรุป​อย่าง​สำนึก​บาป​ว่า

“อัม​พา​หมดตัว​เพราะ​ฉัน แต่​ฉัน​ไม่​ใช่​ชู้ หมอ​รุ​จอ​ย่า​เกลียด​อัม​พา​ต่อ​ไป​เลย  แล้ว​หัน​ไป​พูด​กับ​อา​ร​ยา​ว่า  ​แม่​ของ​เธอ​เป็น​คน​ประเสริฐ​สุด เขา​รัก​เธอ​ยิ่ง​ชีวิต ฉัน​จะ​ตาย​ใน​ไม่​ช้า ขอ​อโหสิ​กับ​คุณ​ทั้ง​สอง​คน ยก​โทษ​ให้​ฉัน​ด้วย ฉัน​รับ​กรรม​ของ​ฉัน​แล้ว” ชิด​ยกมือ​ไหว้​ทั้ง​รุจ​และ​อา​ร​ยา เอ่ย​ขอโทษ​ก่อน​จะ​เดิน​ลาก​สังขาร​ที่​ทรุดโทรม​จาก​ไป

ooooooo

กลับ​จาก​โรงพยาบาล​มา​ถึง​บ้าน​ไร่​รวงผึ้ง รุ​จ

บ​อก​อา​ร​ยา​ว่าความ​จริง​ปรากฏ​ดังนี้​แล้ว​เธอ​ก็​ควร​กลับ​บ้าน​รุจิ​โรจน์​พร้อม​ตน​ได้​แล้ว​ใช่​ไหม อา​ร​ยา​ยัง​สับสน​กับ​เรื่องราว​ที่​เพิ่ง​รับ​รู้​นั่ง​นิ่ง​อยู่ รุ​จบ​อก​ว่า​จะ​เข้าไป​ลา​พวก​ภาคิ​นัย ถาม​อีก​ครั้ง​ว่า​เธอ​เปลี่ยน​ความ​ตั้งใจ​เดิม​แล้ว​หรือ​ยัง อา​ร​ยา​ยัง​สับสน​อยู่

รุจ​ใจร้อน​ผ่าว​เข้าใจ​ว่า​เธอ​ยัง​ยืนกราน​ความ​ตั้งใจ​เดิม พูด​อย่าง​มี​อารมณ์​ว่า​เป็นอัน​ว่า​จบ​กัน​เสียที พลาง​หยิบ​ซอง​เงินเดือน​ให้​เธอ​ทั้งหมด 3 เดือน บอก​ว่า​ต่อ​ไป​ก็​จะ​ไม่​บัง​คับให้​เธอ​รับ​เงิน​พินัยกรรม​อีก

“รับ​เงิน​ของ​เธอ​ไป แล้ว​ขอ​ให้​มี​ความ​สุข​กับ...คน​ที่​เธอ​เลือก”

อา​ร​ยา​มอง​อย่าง​ตัดพ้อ แล้ว​จึง​เดิน​ตาม​เขา​ไป โดย​รุจ​ไป​ลา​ภคินี​ซึ่ง​เธอ​ถัก​เสื้อ​ไหม​พรม​ไว้​ให้​เขา​เพื่อ​เตือนใจ​ให้​คิดถึง​คนไข้​คน​นี้ แล้ว​หัน​ไป​ลา​ภาคิ​นัย เขา​เชิญ​มา​ที่​นี่​อีก​ถ้า​มี​เวลา เพราะ​ทุก​คน​คิดถึง​และ​ยินดี​ต้อนรับ​เสมอ

“ขอบคุณ​นะ​ครับ...ผม​ฝาก​อา​ร​ยา​ด้วย” รุจ​แข็ง​ใจ​พูด เมื่อ​ภาคิ​นัย​ยินดี​รับรอง​ว่า​จะ​ดูแล​อย่าง​ดี​ที่สุด รุจ​หัน​ไป​ถาม​อา​ร​ยา​ว่า “มี​อะไร​จะ​สั่ง​ถึง​แม่​ทั้ง​สาม​คน​บ้าง หรือ​ท่าน​ขุนฯ...” เมื่อ​อา​ร​ยา​นิ่ง​อยู่​เขา​ตัดบท “ไม่​มี...แน่​ละ รุจิ​โรจน์​ย่อม​ไม่​อยู่​ใน​ความรู้สึก​ของ​เธอ​นาน​แล้ว ฉัน​ควร​จะ​รู้​ดี ลา​ก่อน​อา​ร​ยา เรา​จะ​จาก​กัน​ตลอด​ไป”

พูด​แล้ว​รุจ​เดิน​ผ่าน​เธอ​ไป ภคินี​สะอื้น​ออก​มา​ดังๆ ภาคิ​นัย​เดิน​ไป​โอบ​กอด​น้อง​แล้ว​เข็น​รถ​น้อง​เข้า​ห้อง ชา​ลี​ยัง​มอง​อา​ร​ยา​นิ่ง​อยู่ เห็น​เธอ​หน้าซีด​เผือด​เขา​เดิน​ไป​แตะ​แขน​รุน​เบาๆ กระซิบ​บอก “ไป”

อา​ร​ยา​วิ่ง​ออก​มา​ดู​รุจ​ที่​กำลัง​จะ​ขับ​รถ​ออก​ไป เธอ​วิ่ง​ย้อน​กลับ​เข้า​บ้าน​ไป​อย่าง​เร็ว รุ​จม​อง​ตามอย่าง​สิ้น​หวัง...

ooooooo

อา​ร​ยา​เข้าไป​เก็บ​ของ​แล้ว​รีบ​มาลา​ภคินี​ขอ​กลับ​ไป​รุจิ​โรจน์ ภคินี​ถาม​อย่าง​เจ็บปวด​ว่า​กลับ​ไป​ทำไม ภาคิ​นัย​ถาม​ว่า​รุจ​กับ​เธอ​มี​เรื่อง​รัก​ใคร่​กัน​อย่าง​ที่​เสา​ว​รส​เล่า​ให้​ฟัง​ใช่​ไหม อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​ตน​จาก​มาเพราะ​ไม่​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ของ​ผู้ใหญ่ สัก​วัน​พวก​ภาคิ​นัย​ก็​จะ​รู้​ทุก​อย่าง เธอ​ขอโทษ​ภาคิ​นัย​ที่​รักษา​สัญญา​ไว้​ไม่ได้ ภคินี​ทน​ไม่ได้​ถาม​โพล่ง​ออก​ไป​ว่า​เธอ​รัก​หมอ​รุจ​หรือ

อา​ร​ยาย​อม​รับ​เต็มปาก​เต็ม​คำ​ว่า​ตน​รัก​รุจ​และ​ขอโทษ​ที่​ตอน​แรก​ทำ​เป็น​ไม่​รู้จัก​กัน ภคินี​โกรธ​จน​น้ำตา​ไหล ชา​ลี​รีบ​เข้า​มา​โอบอา​ร​ยาบ​อก​เบาๆให้​รีบ​ไป​เสีย​เดี๋ยว​ทาง​นี้​ตน​จะ​พูด​ให้

“ชา​ลี...​เพื่อน​รัก​คน​ดี​ของ​น้อย...ขอบใจ​เหลือเกิน” พูด​จบ​หัน​ไหว้​ภาคิ​นัย​แล้ว​รีบ​ไป

อา​ร​ยา​ต้อง​วิ่ง​ไป​ไกล​จน​เหนื่อย​จึง​เห็น​รถ​ของ​รุจ ซึ่ง​เขา​มอง​จาก​กระจก​หลัง​เห็น​เธอ​วิ่ง​มา​จึง​ชะลอ​รถ​คอย เมื่อ​เธอ​วิ่ง​ไป​ถึง​ปรากฏ​ว่า​เขา​เปิด​ประตู​รถ​รอ​อยู่​แล้ว เธอ​ก้าว​ขึ้น​นั่ง​อย่าง​เร็ว​เขา​จึง​ขับ​พุ่ง​ไป​ราวกับ​จะ​พา​ให้​ไกล​จาก​ที่​นี่​ให้​เร็ว​ที่สุด

ooooooo

ภคินี​ร้องไห้​อย่าง​หนัก​จน​ชา​ลี​ถาม​ว่า​ทำไม​ถึง​รัก​รุจ​มากมาย​อย่าง​นี้​เขา​ก็​แค่​เป็น​หมอ​รักษา ภคินี​รำพึง​รำพัน​ถึง​ความ​เอาใจใส่​ของ​รุจ ชา​ลีบ​อก​เธอ​ว่า​หมอ​ก็​ต้อง​ดูแล​เอาใจใส่​คนไข้​อย่าง​นี้​เป็น​ธรรมดา​อยู่​แล้ว ​ทำให้​ภคินี​โกรธ​ไล่​ชา​ลี​ออก​จาก​ห้อง ก่อน​ออก​ไป​ชา​ลี​เตือนสติ​เธอ​ว่า

“เลิก​คิด​เลิก​ฝัน​ถึง​หมอ​รุจ เขา​รัก​อา​ร​ยา​และ​อา​ร​ยา​ก็​รัก​เขา ตัดใจ​เสีย​วัน​นี้ แล้ว​น้อง​จะ​ไม่​เสียใจ​มาก​ไป​กว่า​นี้” เห็น​ภคินี​ชะงัก เขา​เดิน​เข้าไป​หา​ เธอ​เงย​หน้า​มอง ชา​ลี​ดีใจ หยอก​ให้​ยิ้ม​ว่า “ร้องไห้​เสร็จ​แล้ว เดิน​ให้​พี่​ดู​หน่อย อยาก​รู้​ว่า​จะ​เดิน​เก่ง​เหมือน​ร้องไห้​ไหม” ภคินี​เลย​ยิ้ม​ออก​มา​ทั้ง​น้ำตา

ส่วน​ฉลวย​ที่​หลง​รัก​รุจ​มา​นาน สุดท้าย​รัก​ก็​ลงตัว​เมื่อ​หมอ​กิจจา​พูด​หยอก​แกม​หยิก​ว่า รัก​คน​ที่​เขา​รัก​เรา​ดี​กว่า ทำให้​ฉลวย​ได้คิด มอง​หมอ​กิจจา​อย่าง​ขอบคุณ​บอก​ว่า

“ฉลาด​ที่สุด​ก็​คือ​รัก​คน​ที่​เขา​รัก​เรา​ดี​กว่า”

“ไชโย...ผล​ของ​ความ​พยายาม​ของ​ผม คน​เรา​ทำ​อะไร​ไว้​มัน​ก็​ต้อง​ได้​อย่าง​นั้น” หมอ​กิจจา​ดีใจ​มาก​พูด​อย่าง​ผู้​ชนะ​ว่า “เห็น​ไหม​ความ​ดี​ตอบ​สนอง​ผม​แล้ว”

ส่วน​เสา​ว​รส ถูก​อิน​ตา​ซัดทอด​ว่า​เป็น​คน​จ้าง​วาน​ให้​ทำร้าย​ภาคิ​นัย ตำรวจ​ตาม​มา​จะ​จับ​ตัว พระ​ศัลย์ฯ​ทน​เห็น​ลูก​ถูก​ตำรวจ​จับ​ไม่ได้ ออกรับ​แทน​ว่า​ตน​เป็น​คน​จ้าง​วาน​อิน​ตา​เอง​เสา​ว​รส​ไม่​เกี่ยว​ยัดเยียด​ตัว​เอง​ให้​ตำรวจ​จับ​ตน ความ​เสียสละ​ของ​พระ​ศัลย์​ฯทำให้​เสา​ว​รส​สะเทือนใจ​มาก พระ​ศัลย์ฯ​กำชับ​ลูก​ก่อน​ไป​กับ​ตำรวจ​ว่า

“อย่า​ดิ้นรน​อีก​เลย​นะ​ลูก หยุด​เถอะ​นะ ดูแล​ตัว​เอง​ให้​ดี ต่อ​ไป​นี้​อยู่​คน​เดียว ไม่​มี​พ่อ​แล้ว​นะ​เสา​ว​รส” พระ​ศัลย์ฯ​ขอ​ตำรวจ​ไม่​ต้อง​ใส่​กุญแจมือ​แล้ว​เดิน​ตาม​ตำรวจ​ไป ยัง​อด​หัน​มา​บอก​เสา​ว​รส​ไม่ได้​ว่า “เสา​ว​รส เข้ม​แข็ง​อย่าง​ที่​เคย​เป็น พ่อ​จะ​ได้​ไม่​เป็น​ห่วง” พอ​หัน​กลับ​น้ำตา​ก็​ท้น​เต็มตา...

ooooooo

รุจ​พา​อา​ร​ยาก​ลับ​มา​ถึง​บ้าน​รุจิ​โรจน์ ท่ามกลาง​ความ​ดีใจ​ของ​แม่ๆทั้ง​สาม​และ​ขุน​ประ​จญ​คดีที่​จะ​ได้​ปิด​คดี​นี้​ได้เสีย​ที ท่าน​หมาย​ถึง​ทำ​ตาม​พินัยกรรม​ที่​ระบุ​ว่า​ให้​รุจ​แต่งงาน​กับ​อา​ร​ยา

พิธี​แต่งงาน​จัด​ขึ้น​ที่​บ้าน​รุจิ​โรจน์​นั่นเอง แม่ๆทั้ง​สาม​แม้​จะ​เรี่ยวแรง​ร่อยหรอ​ไป​ตาม​วัย แต่​ทุก​คน​ก็​ช่วย​กัน​เตรียม​งาน​อย่าง​เต็มที่​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​มี​ความ​สุข​หลังจาก​ทุกข์​ใจ​กัน​มา​นาน

รุจ​กับ​อา​ร​ยา​ใน​ชุด​สวย​พา​กัน​ไป​นั่ง​ที่​มุม​ร่มรื่น​ใกล้​ท่า​น้ำ รุจ​ถาม​อา​ร​ยา​ว่า​เธอ​กับ​ชา​ลี​เรียก​ตน​ลับหลัง​ว่า​อย่างไร อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​เรียก​ป​ริ๊น​ซ์​มัมมี่ แต่​ชา​ลี​เป็น​คน​ตั้ง​ไม่​ใช่​ตน

ต่าง​เคลียร์​ใจ​กัน ​รุจ​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​ชอบ​ผู้ชาย​ทุก​คน​ที่​สนิท​และ​หัวเราะ​ร่าเริง​กับ​เธอ อา​ร​ยา​ก็​ยอม​รับ​ว่า​ตน​ก็​ไม่​ชอบ​เสา​ว​รส​เหมือน​กัน รุจ​ถาม​ดักคอ​ว่า​ทำไม​เธอ​ไม่​รัก​ชา​ลี​กับ​ภาคิ​นัย อา​ร​ยา​ตอบ​โดย​ไม่​กล้า​สบตา​เขา​ว่า

“ถ้า​ไม่​มี​เงา​ของ​คนใน​เคหาสน์​สี​แดง​อยู่​ใน​ใจ​ของ​น้อย บางที...อาจจะ...”

รุจ​จ้อง​หน้า​ถาม​ว่า​เงา​นั้น​คือ​ตนตลอด​เวลา​หรือ​เปล่า อา​ร​ยา​ตอบ​รับ​เขินๆ เขา​ถอน​ใจ​ยาว

เฮ้อ​...​ใน​ที่สุด มัมมี่​ก็​ฟื้น​คืนชีพ...” พูด​แล้ว​ดึง​ร่าง​บอบบาง​นั้น​ซบ​ใน​อ้อมอก กอด​ไว้​อย่าง​รัก​ใคร่​หวงแหน ให้​สม​กับ​ที่​ปรารถนา​มา​นาน​แสน​นาน...

ooooooo

–อวสาน­­–

เคหาสน์สีแดง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด