ตอนที่ 18
เมื่อคิดได้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมง เหมันต์ก็จะกลายเป็นปีศาจเหมือนตัวเอง อมรจึงโยนปืนไปตรงหน้าแก้วรุ้ง พูดอย่างสะใจก่อนจะจากไป "เอาไว้ฆ่าคนที่แกรัก ก่อนที่มันจะฆ่าแก..."
แก้วรุ้งสะอื้น โผกอดเหมันต์ร้องไห้ต่อชะตากรรมของเธอกับเขา...ในขณะที่กระถินกับต๋องพยุงกันเดินไปตามทางในป่าอันมืดสลัว เลือดต๋องไหลออกมาเรื่อยแต่กระถินไม่รู้จนกระทั่งมาเจอกับอาจารย์เพี้ยนและอู๊ด อารามดีใจเข้าไปซักถามว่าทุกคนปลอดภัยไหม ต๋องเริ่มวิงเวียนเพราะเสียเลือดมากล้มหน้าคว่ำลง กระถินตกใจมาก เพิ่งเห็นว่าด้านหลังต๋องเต็มไปด้วยเลือด
ลูกกบอุ้มขนุนตามเข้ามาในป่าหวังจะให้อาจารย์เพี้ยนรักษา ขนุนหายใจรวยริน เธอไม่ไหวแล้ว ลูกกบร้องไห้โฮ "อย่าพูดอย่างนั้น เธอบอกว่าไม่ให้ฉันทิ้งเธอ แล้วเธอจะมาทิ้งฉันง่ายๆอย่างนี้ได้ยังไง...ฉันคิดไว้ว่า ถ้ารอดตายคืนนี้ ฉันจะกลับไปหาเธอพร้อมแหวนวงนี้"
ลูกกบล้วงแหวนออกมาสวมให้ที่นิ้วนางซ้ายของขนุน "ฉันรักเธอ เราเป็นแฟนกันนะ"
"ฉันดีใจนะ ที่ได้รู้จักเธอแล้วก็ได้เป็นแฟนเธอ...ขอบใจมากนะ ที่ทำให้ฉันได้รู้ว่า ความรักเป็นยังไง" ขนุนเอื้อมมืออันสั่นเทาไปเช็ดน้ำตาให้ลูกกบก่อนจะกระตุก ขาดใจตายในอ้อมกอดของลูกกบ...
จากการบาดเจ็บสาหัสของต๋อง อาจารย์เพี้ยนไม่มีเครื่องมือจะรักษาพยาบาล กระถินจึงจะใช้พลังของเธอรักษาบาดแผลให้ แต่ต๋องไม่ยอม "ฉันไม่อยากให้เธอต้องมาเสียพลังเพราะฉัน เก็บแรงไว้ป้องกันตัวเองเถอะ"
"ฉันก็ปล่อยให้นายตายต่อหน้าฉันไม่ได้เหมือนกัน"
พลันอมรโผล่ออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ "ไม่ต้องเสียเวลารักษาหรอก ยังไงพวกแกทั้งหมดก็ตายอยู่แล้ว"
อาจารย์เพี้ยนปกป้องกระถิน แต่กระถินขอเป็นคนไปล่ออมร ต๋องไม่ยอมแต่เขากระดิกตัวไม่ได้เลย เพราะกระถินใช้จิตสะกดเขาไว้ "ขอโทษนะ นายจะขยับตัวไม่ได้สักระยะ"
อมรตาแดงก่ำตามใช้พลังฟาดใส่กระถิน...แก้วรุ้งประคองเหมันต์มาถึงหน้าผา เลือดเขาไหลออกมามาก แก้วรุ้งถามว่าทำไมไม่ใช้พลังรักษาตัวเอง เหมันต์ยื่นปืนให้เธอก่อนจะพูดว่า
"มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารักษาตัวเองหายแล้วต้องกลายเป็นปีศาจ จันทรคลาสคืนนี้เป็นเวลาเกิดของพี่...แก้วต้องยิงพี่ก่อนเวลานั้น ยิงพี่ซะ แก้ว ยิงพี่ให้ตาย"
"ไม่! แก้วไม่ยิง" แก้วรุ้งส่ายหน้าร้องไห้
เหมันต์ตัดสินใจยกปืนขึ้นจ่อศีรษะตัวเอง แก้วรุ้งตกใจแย่งปืนในมือแล้วตบหน้าเขาฉาดต่อว่าที่เขาไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นบ้าง "...ถ้าไม่มีพี่ ชีวิตแก้วก็ไม่มีความหมายเหมือนกัน"
ทั้งสองจ้องหน้ากันทั้งรักทั้งเจ็บปวดใจแล้วโผกอดกันร้องไห้...แก้วรุ้งประคองเหมันต์มาริมหน้าผา มองลงไปเห็นทะเลซัดซาดอย่างบ้าคลั่ง "ถ้าจะตาย เราก็ตายด้วยกัน"
ดวงจันทร์บนท้องฟ้ามีเงาดำทาบทับเข้ามาเสี้ยวหนึ่ง เหมันต์มองแก้วรุ้งด้วยความรักลึกซึ้ง เขาก้มลงจูบหน้าผากเธอแล้วกอดเธอเหมือนรู้ว่าเวลาเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว เงาดำทาบทับดวงจันทร์เข้ามาครึ่งดวง เหมันต์คลายอ้อมกอดจากแก้วรุ้ง ทั้งสองจับมือกันเตรียมโดดไปพร้อมกัน แก้วรุ้งเริ่มนับ หนึ่ง...สอง...แต่พอจะนับสาม เหมันต์ก็ผลักเธอล้มไปอีกทาง เขาหันมายิ้มให้เธอก่อนจะปล่อยตัวเองหงายหลังลงหน้าผาไป ดวงจันทร์ถูกเงาดำทับจนมิด
"พี่เหมันต์!!" แก้วรุ้งร้องลั่นวิ่งมาทรุดลงร้องไห้ "ทำไมทำแบบนี้ ทำไม ฮือๆๆ"
เจษฎากับตำรวจวิ่งเข้ามาร้องเรียกแก้วรุ้ง เขาดึงลูกสาวเข้ามากอดด้วยความดีใจ แก้วรุ้งร้องไห้โฮ "คุณพ่อ...พี่เหมันต์ ทิ้งแก้วไปแล้ว พี่เหมันต์ตายแล้ว..."
ooooooo
การไล่ล่าของอมรเป็นไปอย่างดุเดือด กระถินเลือดอาบวิ่งหนีเข้ามาในโรงไม้ร้าง อมรปรากฏตัวเป็นเงาดำร่างใหญ่โตน่าสะพรึงกลัว หัวเราะกึกก้อง บอกให้ กระถินเปลี่ยนใจมาเป็นเมียเขา จะได้ไม่กลายเป็นศพ ต๋องพุ่งทะลุหน้าต่างเข้ามาถีบลังไม้ใส่อมรอย่างแรง
กระถินตกใจที่ต๋องมาได้อย่างไรทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัส อมรโกรธจ้องไปที่หีบเหล็กให้ลอยมาหล่นใส่ ต๋องกระโดดหลบอย่างเฉียดฉิว แล้วโต้กลับไปด้วยพลังเหนือมนุษย์ของเขาแต่ก็ไม่สามารถล้มอมรลงได้ ต๋องซึ่งบาดเจ็บอยู่แล้วถึงกับกระอักเลือด กระถินเห็นเกิดพลังสายรุ้งขึ้นบนศีรษะ เธอคว้าขวานพุ่งตัวไปในอากาศยกขึ้นฟาดใส่อมร แต่ขวานกลับหักเป็นเสี่ยง อมรใช้นิ้วจิ้มหน้าผากกระถิน เธอถึงกับกระเด็นไปชนลังไม้ทรุดลงไปกอง อาจารย์เพี้ยนโดดขี่คออมรแล้วใช้มือปิดตาเขาไว้ บอกให้ทุกคนหนีไป "ไป รีบหนีไป..."
อมรสลัดอาจารย์เพี้ยนอย่างแรง ร่างกระเด็นไปชนเสากระอักเลือด อู๊ดถลาเข้าไปประคอง "อาจารย์ อย่าเป็นอะไรนะ อาจารย์"
"ไม่เอาไหนซักคน น้ำหน้าอย่างพวกแก ไม่มีทางทำอะไรฉันได้" อมรหัวเราะเยาะ
ทั้งต๋องและกระถินโดนพลังของอมรซัดจนร่างแทบแตกเป็นเสี่ยง ทันใด กินรีปรากฏตัวขึ้นมา เธอเหวี่ยงสร้อยพระนาคปรกไปคล้องคออมร เขาถึงกับผงะผละออกจากต๋องและกระถิน
"กินรี! แก แกเอาพระนาคปรกมาได้ยังไง..."
"ใครจะโง่เอาพระของจริงให้แกเก็บไว้ ฉันเก็บซ่อนไว้อย่างดีในที่ที่แกไม่มีทางนึกถึง"
กินรีเก็บพระนาคปรกไว้ในที่เก็บกระดูกของเอมอร เธอเจ็บปวดใจที่ทั้งรักและให้อมรได้ทั้งชีวิต แต่เขากลับเหยียบย่ำ หัวใจเธอ "มันถึงเวลาที่ฉันต้องทวงความรักของฉันคืน..."
กินรีใช้ปืนยิงใส่อมรหลายนัด แต่เขาหลบได้หมด และเอาลูกกรงเหล็กแหลมพุ่งใส่เธอ เหล็กแหลมแทงอกทะลุหลัง กินรีทรุดฮวบเลือดไหลนอง อมรหัวเราะสะใจ "นังโง่...พระทำให้พลังฉันลดลงก็จริง แต่พระฆ่าฉันไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
อู๊ดตกตะลึง เขย่าปลุกอารมณ์เพี้ยนขอของที่สามารถทำร้ายอมรได้ อาจารย์เพี้ยนพยายามพูดว่า "...เอมอร...ความรัก ชนะทุกอย่าง..."
ต๋องพยุงร่างเข้ามาหากระถินซึ่งบอบช้ำพอกัน เขาให้เธอหนีไปแต่กระถินไม่ไปกลับบอกว่า ถ้าจะตายก็ขอตายด้วยกัน ต๋องดึงกระถินเข้ามากอดรับรู้ถึงความรักที่มีต่อกัน อมรย่างก้าวเข้ามาอย่างดุดัน "พระเจ้าที่ไหนก็ช่วยพวกแกไม่ได้"
กระถินกับต๋องหลับตาลง จิตรวมกันเป็นหนึ่ง เกิดคลื่นพลังแสงสีนวลพุ่งขึ้นมาจากศีรษะทั้งสองคน พุ่งเข้าปะทะกับพลังของอมรทำให้อมรเหมือนโดนชนด้วยรถสิบล้อกระเด็นลอยไป กินรียันกายลุกขึ้นหันหลังรอรับร่างอมรที่ลอยมา เสียบเข้ากับเหล็กแหลมที่ทะลุหลังเธอแล้วถอยหลังกระแทกกำแพงให้ทะลุร่างอมรอีกที อมรตาเหลือกพร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความสะใจของกินรี ทั้งสองขาดใจตายไปพร้อมกัน เจษฎานำกำลังตำรวจและแก้วรุ้งวิ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี แทบไม่อยากเชื่อ ร่างอมรกับกินรีเกิดเป็นเปลวไฟลุกพรึ่บเผาร่างทั้งสองมลายเป็นผุยผงปลิวกระจายไป...
ooooooo
ทุกอย่างผ่านไป ทุกคนอาการดีขึ้น กระถินได้รับคลิปจากอู๊ด เป็นภาพต๋องโคม่าเจียนตาย อู๊ดบอกให้กระถินมาดูหน้าต๋องเป็นครั้งสุดท้าย กระถินตกใจมาก ยายบัวบอกให้กระถินรีบไปเธอจะไปด้วย แต่แป๊ะเล้งกับสำลีร้องห้ามพร้อมกัน "ไม่ได้!!"
ยายบัวตกใจ สำลีรีบแก้ว่า ยายบัวเพิ่งหายเจ็บอย่าไปเลย ปล่อยให้กระถินไปคนเดียวดีกว่า...พอกระถินมาถึงโรงพยาบาล พบต๋องหน้าตาบอบช้ำ เธอตกใจ "ต๋อง...ทำไมเป็น แบบนี้ ฉันใช้พลังรักษานายจนหายแล้วนี่ นายมาป่วยอีกได้ไง"
ต๋องครางว่าหนาว กระถินจะกดออดเรียกพยาบาล แต่ต๋องดึงเธอมากอด กระถินแปลกใจจึงถามว่าเขาเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่พอต๋องตอบว่า "ขาดความอบอุ่น..."
"อ๋อ งั้นเหรอ..." กระถินเริ่มรู้แกว
"ถ้าคนไข้ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรัก อาการโรคนี้ก็จะกำเริบ แล้วก็อาจจะถึงตายได้ ถ้าไม่ถูกบอกรัก...จะบอกว่ารักได้หรือยัง อะ...กระซิบก็ได้..." ต๋องเอียงหูให้
กระถินหยิกต๋องจนร้องลั่น ฐานหลอกเธอเป็นเด็กไปได้ แล้วเรียกอู๊ดให้ออกมาได้แล้ว อู๊ดบ่นว่าทำไมไม่เหมือนในละครเลย กระถินโกรธจึงแกล้งสะกดจิตอู๊ดให้เข้าไปกอดจูบต๋อง
"ถ้าอยากฟังนักก็ให้อู๊ดบอกแทนแล้วกันนะจ๊ะ ฉันมีธุระต้องไปทำล่ะ บ๊ายบาย..."
ทุกอย่างคลี่คลาย เจษฎาต้องสรุปปิดคดีว่า อมรเป็นพวกลัทธิพิสดารผิดมนุษย์ ทำให้ผู้เข้าร่วมฆ่าตัวตาย รวมทั้งตัวอมรและสาวๆทั้งหมด นักข่าวถามถึงคดีที่อาจารย์เพี้ยนฆ่าด็อกเตอร์ชาติ อาจารย์เพี้ยนเดินเข้ามาในลุคใหม่ดูภูมิฐานสมกับเป็นนักวิทยาศาสตร์
"ผมจะฆ่าตัวเองไปทำไมล่ะครับ...ครับ อาจารย์เพี้ยนกับผมคือคนคนเดียวกัน เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะ ด็อกเตอร์อมรต้องการใส่ความผม..."
หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ ชาติกับเจษฎาก็มาคุยกัน เจษฎาบอกชาติว่า เขาค้นพบซีดีที่อมรฆ่านักศึกษาจำนวนมาก จึงเป็นหลักฐานอย่างดี และคดีแบบนี้คนคงยอมรับลำบาก เขาจึงปิดคดีไปแบบนั้น "ใครจะเชื่อว่าปีศาจมีจริง ถ้าผมไม่เห็นกับตา ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน"
"การต่อสู้ที่แสนยาวนานของผมได้จบลงแล้ว"
"ผมดีใจกับคุณด้วยนะครับ ในที่สุดคุณก็พ้นมลทิน"
"ยังไงมันก็ไม่เท่าที่ผมจะได้ลูกสาวของผมกลับคืนมาหรอกครับ" ชาติยิ้มอย่างมีความหวังที่จะบอกให้กระถินรู้ว่าเขาเป็นพ่อ...
ชาติมาเคารพศพเอมอร เขาวางช่อดอกไม้แล้วคุยว่า "เอม...เวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันทรมานเหลือเกิน แต่ทุกครั้งเวลาที่ท้อ ผมก็จะนึกถึงคุณ แล้วก็ลูกของเรา...อินทุกา ที่ตอนนี้ผมติดเรียกว่ากระถินแล้ว..."
พลันกระถินซึ่งเดินรำพึงว่าความรักเอาชนะปีศาจได้ จริงๆ และสิ่งที่อยู่เหนือมนุษย์ขึ้นไปนั้นไม่ใช่อำนาจฤทธิ์เดชอะไรทั้งนั้น หากแต่คือคุณงามความดีนั่นเอง เธออยากมาบอกเอมอรว่าเธอจะเป็นคนดีต่อไปเพื่อแม่และพ่อ ทั้งที่เธอไม่เคย เห็นหน้าเลยสักครั้ง...แต่พอมาถึง กระถินได้ยินคำพูดของชาติทั้งหมด ถึงกับน้ำตาคลอ เธอนึกย้อนถึงอาจารย์เพี้ยนที่ดีต่อเธอทุกอย่าง รวมถึงตัวการ์ตูนเพนกวินที่มาปลอบใจเธอ จนถึงชายนิรนามที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด
เสียงชาติรำพึงรำพัน "ที่แย่ที่สุด พ่อรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหน เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้าย พ่อไม่ดีพอที่จะเป็นพ่อใครได้เลย พ่อขอโทษ...ขอโทษจริงๆ"
"หนูไม่รับคำขอโทษ! เพราะหนูไม่เคยโกรธพ่อเลย" กระถินน้ำตาร่วงเผาะตะโกนก้อง
ชาติตกใจหันมาเจอ "กระถิน!!"
กระถินโผเข้ากอดชาติร้องไห้โฮ ชาติตะลึงกอดลูกสาวอย่างไม่คาดคิด...สองพ่อลูกเข้าใจกันด้วยดี ชาติกลับมาทำอาหารให้กระถินที่บ้านยายบัว ต๋องกับพวกมาร่วมวงด้วย กระถินเคืองที่ทุกคนรู้เรื่องชาติเป็นพ่อเธอกันหมดแต่ไม่มีใครบอกเธอ แม้กระทั่งต๋อง จึงเดินงอนออกมาหน้าบ้าน พบลูกกบนั่งเศร้าคิดถึงขนุน จึงปลอบว่า
"มีพบก็ต้องมีจาก มันเป็นสัจธรรมนะลูกกบ ถึงเวลาที่นายกับขนุนอยู่ด้วยกันมันจะสั้น แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากที่สุดไม่ใช่เหรอ...ถ้าขนุนมองนายอยู่ตอนนี้เขาคงอยากให้นายเก็บความรู้สึกดีๆนั้นไว้สู้ชีวิตต่อไป มากกว่ามานั่งหมดอาลัยตายอยากอย่างนี้"
ลูกกบปาดน้ำตารู้สึกดีขึ้น เขาจะเข้มแข็งเพื่อขนุน กระถินเตือนอย่าลืมไปงานศพเหมันต์
ooooooo
ปลายสะพานที่ยื่นออกไปในทะเล เป็นที่ที่แก้วรุ้ง และทุกๆคนมาโปรยดอกไม้ไว้อาลัยให้กับเหมันต์ แก้วรุ้งสุดจะเสียใจ "แก้วไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พี่กับแก้ว ได้มาพบกัน...และก็ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกันที่ทำให้เราต้องพรากจากกัน แต่สิ่งเดียวที่แก้วรู้ ก็คือ...แก้วจะรักพี่เหมันต์ตลอดไป...หลับให้สบายนะคะ สุดที่รักของแก้ว"
กระถินกอดแก้วรุ้งอย่างเห็นใจ ทุกคนปลอบใจแก้วรุ้ง ให้สู้ๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ แก้วรุ้งซึ้งใจ "ขอบใจทุกคนมากเลยนะ แก้วไม่เป็นไรแล้วล่ะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
พอพ้นคนอื่นๆมาได้ แก้วรุ้งก็ปล่อยโฮ ร้องไห้สะอึกสะอื้น ต๋องเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นก็เข้ามาปลอบ "คุณแก้ว...อย่าร้องไห้เลยนะครับ ทำใจบ้างนะ"
"แก้วไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่เหมันต์จะจากไปจริงๆ ช่วยบอกหน่อยสิต๋องว่าแก้วฝันไป ทุกอย่างเป็นความฝันใช่มั้ย" แก้วรุ้งมองต๋องอย่างมีความหวัง
"การหลอกตัวเองมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา...เหมันต์ จากไปแค่ตัว แต่สิ่งดีๆที่เขาทำก็ยังอยู่ในใจเราเสมอนะครับ"
แก้วรุ้งปล่อยโฮอีกครั้งโผกอดต๋อง กระถินเดินตามมาเห็น ได้ยินแก้วรุ้งพร่ำพูดว่าเธอไม่เหลือใครแล้ว ต๋องตบไหล่แก้วรุ้งเบาๆ "พูดอะไรอย่างนั้น อย่างน้อยผมก็คนหนึ่งล่ะ จะอยู่ข้างๆคุณแก้ว นิ่งซะนะครับ ทำใจให้สบายก่อน"
กระถินน้ำตาคลอน้อยใจที่ต๋องยังมีเยื่อใยกับแก้วรุ้งจึงหันหลังวิ่งหนีไปจึงไม่ได้ยินต๋องพูดกับแก้วรุ้งอีกว่า "จริงๆแล้ว ผมว่าเพื่อนทุกคนนั่นแหละ ไม่มีใครทิ้งคุณแก้วหรอก ยิ่งกระถินด้วยนะเขายิ่งแคร์ความรู้สึกคุณแก้วมากกว่าใครเลยนะครับ"
กระถินมาร้องไห้สะอื้นอยู่มุมหนึ่ง เผอิญได้ยินเจษฎา ปลอบจีรนุชซึ่งหน้ามืดมานั่งพัก จีรนุชร้องไห้สงสารแก้วรุ้ง ใครจะช่วยให้ตัดใจได้บ้าง กระถินได้ยินแล้วตัดสินใจบางอย่าง ...เธอกลับมาบอกยายบัวกับชาติว่า เธอจะไปเรียนต่อเมืองนอก ทั้งชาติและยายบัวรวมทั้งลูกกบตกใจ ทำไมมันปุบปับ ลูกกบเชื่อว่าเพราะกระถินอกหัก กระถินหลบมาร้องไห้ในห้อง เธอมั่นใจว่า ต๋องเท่านั้นที่จะช่วยแก้วรุ้งได้ เธอขอให้ทั้งสองคนมีความสุข
วันต่อมา จีรนุชกับแก้วรุ้งมาทำบุญที่วัด ต๋องวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา แก้วรุ้งแปลกใจว่ามาทำไม จีรนุชรีบบอกว่า "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกลูก แม่เห็นหนูอุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว แม่ก็อยากให้หนูไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แม่ก็เลยวานต๋องเขามารับหนูไปเที่ยว"
"ให้หนูไปกับต๋อง!"
"คร้าบผม...ณ จุดนี้ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ของเรา" ต๋องหยิบกระดาษออกมาสะบัดเป็นแผ่นยาวเหมือนรายการสถานที่ต่างๆ
จีรนุชทำหน้างงๆ ว่าจะเที่ยวหมดหรือ ต๋องหัวเราะ "แฮะๆหยิบผิดน่ะครับ นี่รายชื่อกรรมการทอดผ้าป่า จริงๆแล้วก็มีอยู่ที่เดียวล่ะครับที่ผมอยากพาคุณแก้วไป รับรองว่าต้องประทับใจแน่"
ต๋องมั่นใจ...เขาพาแก้วรุ้งมาที่ชายหาดบนเกาะที่แก้วรุ้งกับเหมันต์เคยติด อยู่ด้วยกัน ต๋องชวนคุย "อากาศดีนะครับ น้ำทะเลก็ใส ทรายก็สวย"
"ต๋องรู้จักที่นี่ได้ยังไง" แก้วรุ้งหน้าเศร้า
ต๋องถามว่าเธอเคยมาหรือ แก้วรุ้งน้ำตาคลอ คิดถึงความหลังที่มีกับเหมันต์ที่นี่ ต๋องคิดว่าแก้วรุ้งจะไม่สบายจึงเอามืออังที่หน้าผาก แก้วรุ้งปัดมือต๋องออกแล้ววิ่งหนีไปร้องไห้อย่างร้าวรานใจ ภาพในอดีตผุดขึ้นมาตอกย้ำให้เธอเสียใจมากขึ้น พลัน...มีเสียงแซกโซโฟนดังมา แก้วรุ้งตกใจเหลียวมองหา วิ่งไปตามต้นเสียง เธอน้ำตาไหลพรากวิ่งหาที่มาของ
เสียงอย่างมีความหวัง แล้วเธอก็ได้เห็นบนผืนทรายมีข้อความว่า...เหมันต์รักแก้วรุ้ง
แก้วรุ้งยิ่งสะอื้นฮักๆทั้งรักทั้งคิดถึง เหมันต์เดินเป่าแซกโซโฟนออกมาเสียงแซกดังขึ้นเรื่อยๆ แก้วรุ้งหันไปมอง เห็นเหมันต์อยู่ในชุดขาวหล่อมองมาที่เธอเหมือนถ่ายทอดความรู้สึกรักมาสู่ เธอ...แก้วรุ้งตะลึงวิ่งเข้าไปกอด เหมันต์อ้าแขนรอรับ ทั้งสองโผกอดกันด้วยความดีใจ
บนชายหาดขาวเนียน เหมันต์กับแก้วรุ้งเดินจูงมือคุยกัน วิ่งไล่จับกันอย่างมีความสุข จนเหนื่อยเหมันต์ลงนอนหลับตาหนุนแขนตัวเอง แก้วรุ้งหวั่นใจก้มลงเอามืออังที่จมูก เหมันต์จุ๊บมือเธอ แก้วรุ้งสะดุ้งดึงมือกลับ เขาจึงดึงเธอไปกอด "แกล้งคนหลับ ต้องทำโทษ..."
"อย่านะ แก้วไม่ได้ทำอะไร แก้วแค่อยากรู้ว่านี่เป็นความจริงหรือว่าความฝัน"
"นึกว่าจะไม่ถามแล้ว" เหมันต์ยิ้มๆ
"ก็มันมัวแต่ดีใจนี่คะ พี่เป็นพี่เหมันต์จริงๆไม่ใช่ ภาพลวงตานะคะ"
"อย่างที่แก้วรู้ จริงๆพี่ก็ควรจะตายไปแล้ว" เหมันต์เล่าเรื่องที่ผ่านมา ขณะที่เขาตกหน้าผาลงมา และมาสลบอยู่ที่บนชายหาดแห่งหนึ่ง ชาติกับต๋องใช้เครื่องมือจับสัญญาณพลังงานตามหาเขาจนเจอแล้วพาไปรักษา
"ไม่เห็นมีใครบอกแก้วสักคำ ปล่อยให้แก้วร้องไห้เกือบตาย"
"อย่าไปโทษคนอื่นเลย พี่เป็นคนห้ามต๋องกับอาจารย์ ไม่ให้บอกแก้วเอง"
"ทำไมล่ะคะ?"
พอดีต๋องถือลูกมะพร้าวมายื่นให้ "มะพร้าวน้ำหอมครับ ห้อม หอม"
เหมันต์รับมาดื่มอย่างชื่นใจ แก้วรุ้งแปลกใจ "พี่เหมันต์ กินน้ำมะพร้าวได้จริงๆเหรอ"
"เอ้า คุณแก้ว ตกอกตกใจทำไมเนี่ย เหมันต์มันไม่ใช่ปีศาจกินเลือดซักหน่อย เป็นคนต้องกินน้ำมะพร้าวได้ซี้"
"ฮึ นี่หมายความว่า พี่ไม่ได้เป็นปีศาจแล้ว"
"ใช่...สิ่งที่ตายไปจากพี่ ไม่ใช่ความเป็นมนุษย์ แต่มันคือความเป็นปีศาจ ขณะที่พี่กำลังจะกลายเป็นปีศาจ ลมหายใจของพี่ก็ขาดพอดีกับที่เกิดจันทรคราส ทำให้เกิดสิ่งที่อาจารย์เรียกว่าปาฏิหาริย์ทางจิตวิญญาณ ที่ธรรมชาติเลือกทำลายความเป็นปีศาจ แล้วคืนลมหายใจแห่งความเป็นมนุษย์ให้พี่แทน..."
"แต่ฉันว่าเป็นปาฏิหาริย์แห่งความรักมากกว่า เพราะถ้าแกไม่รักแก้วรุ้งจริงๆ คืนนั้นแกคงไม่ตัดสินใจโดดหน้าผาอย่างนั้นหรอก"
"ก็คงเหมือนที่นายกับกระถินมีรักแท้ต่อกัน ถึงเอาชนะจอมปีศาจอย่างไอ้อมรได้"
"ว้า เล่นย้อนกันแบบนี้ ร่างกายขาดรุ่งริ่งเลยเรา" ต๋องเขินจนแก้วรุ้งกับเหมันต์หัวเราะ
ต๋องโวย "แน่ะ ไม่ต้องมาขำเลย ที่ฉันช่วยเนี่ย ไม่ใช่ ฟรีนะ มันต้องสมนาคุณคืนกำไรสู่ผู้บริโภคบ้างแล้วล่ะ"
แก้วรุ้งรับปาก สิ่งที่ต๋องอยากให้ช่วยคือ ปราบพยศ ของกระถิน...
ooooooo
วันรุ่งขึ้น กระถินจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เห็นต๋องซื้อผลไม้มากับแก้วรุ้ง ทั้งสองนั่งป้อนผลไม้ให้กัน ชาติเดินออกมา ต๋องรีบบอกว่าเขาซื้อผลไม้มาฝาก ชาติทัก "แก้วรุ้งดูสดใสขึ้นนะ ไปได้ยาดีที่ไหนล่ะ"
"ก็ไม่มียาอะไรหรอกค่ะ คือต๋องเขาคอยมาคุยเป็นเพื่อนแก้ว แล้วเขาก็ชอบทำอะไรต๊องๆตลกๆให้แก้วขำ จนรู้สึกสบายใจขึ้น...แก้วไม่รู้จะขอบใจต๋องยังไงดี ต๋องเนี่ยเป็นคนดีที่สุดในโลกเลย"
ต๋องเห็นกระถินเมินหน้าจึงแกล้งเอาไหล่ชนไหล่แก้วรุ้งให้ดูใกล้ชิด ปากก็พูดว่า "คุณแก้วอย่ามาชม เดี๋ยวผมก็ลอย เข้าไปวิ่งเล่นในหัวใจคุณหรอกครับ"
กระถินลืมตัวกระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะ "ขอโทษนะ กระเป๋ามันหนักจะเอาไปทิ้ง"
แก้วรุ้งกับต๋องมองหน้ากันยิ้มๆรู้ว่ากระถินหึง ชาติพลอยยกนิ้วขยิบตาทำนองได้ผล...กระถินมาร้องไห้สะอึกสะอื้นในครัว "คนบ้า คนใจร้าย ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย"
"ใครมาเชือดวัวแถวนี้เนี่ย แสบหูเป็นบ้า" ต๋องแกล้งตามมากวนประสาท
กระถินเงยหน้ามาตวาดไล่ทั้งน้ำตา ต๋องแกล้งร้องว่าอ้าว...ไม่ใช่เชือดวัวแต่เป็นคนร้องเหมือนวัวถูกเชือด กระถินยิ่งโกรธตะเพิดต๋องไปให้พ้นและเอาผักในกระจาดขว้างใส่
"โอ๊ยๆอย่าๆถ้าปาอีกฉันจะจูบล่ะนะ" ต๋องคว้ามือกระถินไว้
"เอาซี้...เลิกทำตัวเป็นพระเอกตบจูบได้แล้วนะ มันไม่เวิร์ก" กระถินจ้องหน้าเอาเรื่อง
"อะ เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ว่าฉันไม่มีทางเป็นพระเอกในชีวิตเธอได้ ฉันยอมแพ้"
กระถินเจ็บจี๊ดในใจหน้าเจื่อนลง ต๋องพูดว่าที่เขาเข้ามาเพื่อจะบอกว่า ที่เธออยากไปเรียนต่อเมืองนอก เขาดีใจด้วยเพราะเป็นอนาคตของเธอ กระถินสะท้อนใจที่เขาไม่ท้วงจึงประชด
"นั่นสิ นายเองก็กำลังมีความสุขกับคนที่นายรัก ฉันควรยินดีด้วย"
"เก็ตอะไรง่ายๆอย่างนี้ก็ดี คืองี้นะ กระถิน...พรุ่งนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงประกาศตัวแฟนสาวของฉันอย่างเป็นทางการ แล้วฉันจะทำบะหมี่ที่อร่อยที่สุด เพราะมันจะทำด้วยหัวใจของฉันให้เขาทาน...เธอว่าแฟนฉันเค้าจะชอบมั้ย" ต๋องจ้องกระถินอย่างสื่อบางอย่าง
แต่กระถินแสลงใจบอกปัดให้ไปบอกกันเอาเอง ต๋องไม่สนใจเอาแผนที่ร้านใส่มือเธอแล้วรีบเดินไป กระถินมองตามด้วยความเสียใจ มองแผนที่ทางไปร้านซึ่งไม่มีชื่อร้าน...
วันรุ่งขึ้น กระถินตัดสินใจไปตามแผนที่ เธอเห็นร้านตกแต่งน่ารักอยู่ริมหาด อยู่ไม่ห่างจากบ้านลุงกับป้าของอู๊ด
เท่าไหร่ ภายในร้านบรรยากาศสบายๆน่านั่ง ตกแต่งด้วยลูกโป่งสีขาวและชมพู กระถินแปลกใจที่ไม่มีคนเลย เธอหยิบเมนูบนโต๊ะมาดู มีแต่รายการอาหารที่เป็นบะหมี่ทั้งหมด จึงบ่น "ร้านอยู่ริมทะเลแท้ๆ ขายแต่บะหมี่...เอ๊ะ!"
พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าทุกอย่างนี่เธอเคยพูดกับต๋องไว้ และต๋องก็ขอเป็นหุ้นส่วนด้วย กระถินชาวาบไปทั้งตัว ทันใด...มีบ๋อยยกอาหารที่มีฝาครอบมาวาง "ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารครับ"
"ฉันยังไม่ได้สั่งเลยนะคะ" กระถินแปลกใจ
"เป็นเมนูพิเศษที่พ่อครัวที่นี่จัดให้คุณกระถินครับ" บ๋อยเปิดฝาครอบอาหารขึ้น
กระถินตกตะลึงเมื่อเห็นบะหมี่หมูแดงเป็นรูปหัวใจ น้ำตารื้นขึ้นมาทันที นึกถึงคำพูดของต๋องที่บอกว่าวันนี้จะประกาศตัวแฟนและจะทำบะหมี่ที่อร่อยที่สุดที่ทำจากหัวใจให้ทาน...กระถินมองหาต๋องทั่วร้าน วิ่งไปหาในครัว เห็นต๋องสวมชุดพ่อครัวลวกบะหมี่อยู่ เขาหันมามองเธอด้วยสายตาเว้าวอน กระถินโผเข้าไปกอดต๋องน้ำตาร่วง กำแพงแห่งทิฐิมลายไป ต่างกอดกันด้วยความอบอุ่น ซึ้งใจ
พลัน...อู๊ดกับลูกกบซึ่งแอบอยู่ในลังก็โผล่พรวดออกมา ดึงเปเปอร์ชูตกระจายรอบตัวต๋องกับกระถิน แก้วรุ้งควงเหมันต์เดินเข้ามา ตบมือดีใจไปด้วย กระถินตะลึงเมื่อเห็นเหมันต์ ต๋องกอดกระถินปลอบไม่ให้โกรธ พาเดินออกมาจากครัว ทั้งยายบัว แป๊ะเล้ง สำลี เจษฎา จีรนุช และชาติ
ตบมือโห่ร้องกันใหญ่ กระถินรู้ว่าตัวเองโดนทุกคนหลอก
"โอ้โฮ...สรุปว่าทุกคนเลย ร่วมมือกันหลอกกระถิน"
"เรียกว่าเป็นแผนปรับความเข้าใจจะดีกว่าจ้า อยู่ๆใครจะยอมให้ลูกสาวหอบกระเป๋าไปเมืองนอกล่ะ" ชาติบอกกระถิน
เหมันต์พูดบ้างว่ายังจะมาจับคู่แก้วรุ้งกับต๋องอีก กระถินเสียงอ่อยว่าเธอไม่รู้นี่ว่าเหมันต์ปลอดภัย ยายบัวจึงตำหนิว่านี่แหละที่ชอบคิดเองเออเองมันต้องโดนซ้อนแผนแบบนี้ถึงจะเข็ด จีรนุชเตือนทุกคนให้รีบออกไปหน้าร้าน เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ กระถินทำหน้างงๆ พอออกมาเห็นผ้าคลุมป้ายชื่อร้านเปิดออกเป็นชื่อร้าน...กระถิน+ต๋อง...
"เราเป็นหุ้นส่วนกัน ตามสัญญาแล้วนะ" ต๋องยกนิ้วก้อยเกี่ยวก้อยกระถิน
ทุกคนเฮ ยินดีด้วย ต๋องพูดว่าอีกสามสี่ปีเรียนจบ ร้านขายดีเขาคงยกขันหมากมาขอกระถินได้ ชาติกระแอมแล้วชูหมัดถามต๋องว่าคิดดีแล้วหรือ ต๋องโอดโอยว่าอย่าขู่เขานักเลย
"โดนแน่ไอ้ต๋อง ขอแล้วขอเลย ห้ามเอามาคืนนะเว้ย" ชาติแกล้งดึงคอเสื้อต๋องมากระซิบดังๆ กระถินงอน ชาติรีบบอกว่าลูกเขยแบบนี้หายาก ที่จะเสี่ยงชีวิตช่วยลูกสาว ต๋องรีบยืดอก...
เหมันต์กับแก้วรุ้งออกมาเดินเล่นริมหาด มองแสงอาทิตย์ ยามเย็น เขาถามแก้วรุ้งว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่มีอำนาจวิเศษอะไรอีกแล้ว เธอยังรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมหรือเปล่าแก้วรุ้งหยิบไม้ที่พื้นมาแตะบ่าเขาแล้วพูดว่า
"ในนามของความรักที่ไม่มีฐานะความแตกต่างเหลื่อมล้ำใดๆมาขวางกั้นได้ แก้วขอแต่งตั้งให้พี่เป็นผู้ชายที่พิเศษที่สุดในชีวิต เป็นเจ้าชายของแก้ว...แก้วรักพี่เหมันต์ค่ะ" แก้วรุ้งโน้มหน้าไปจูบแก้มเหมันต์
เหมันต์รวบตัวเธอมากอดแล้วอุ้มเธอหมุนไปรอบๆอย่างดีใจและบอกรักเธอเช่นกัน...ต๋องพูดกับกระถินว่าเขาอิจฉาเหมันต์กับแก้วรุ้ง เพราะกระถินไม่เอาใจเขาบ้างเลย กระถินจึงแกล้งแกว่งชิงช้าที่ต๋องนั่งอยู่ด้วยพลังจิต ต๋องโวยทันที
"นึกว่ามีพลังจิตแล้วแกล้งใครก็ได้งั้นเหรอ"
"ก็นายอยากให้คนเอาใจ...รู้ตัวมั้ย ว่านายเป็นฮีโร่ของฉันเลยนะ" กระถินพูดเอาใจ
"อะไร จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย เธอก็รู้ว่าตั้งแต่แผลหาย ฉันก็ไม่มีพลังพิเศษแล้ว ฉันจะเป็นฮีโร่ของเธอได้ยังไง"
"คนที่มีอำนาจแต่เลว เห็นแก่ตัว ถึงจะมีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ ฉันก็ไม่เรียกว่าฮีโร่หรอกนะ" ต๋องทำหน้างง กระถินขยายความ "ผู้ชายธรรมดาที่รู้จักเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่นอย่างจริงใจเหมือนนายไงล่ะ ขอบใจที่นายทำความฝันร้านบะหมี่ของฉันให้เป็นความจริง"
ต๋องยิ้มเขินๆ กระถินอยากจะถามบางอย่างแต่ไม่กล้าจึงยื่นสายไหมให้แทน "จะ...สายไหม...ถ้าฉันจะบอกว่า...ฉันรักเธอ"
ต๋องตะลึงปลื้มใจมาก เขากอดเธอแล้วจะหยิบแหวนมาสวมให้ แต่ทำหล่น จึงใช้พลังพิเศษในตัวเรียกแหวนลอยขึ้นมาในมือ ซึ่งกระถินไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าเขายังมีพลังเหนือมนุษย์อยู่
"กระถิน เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันแปลกใจได้มากที่สุด แล้วก็เป็นคนเดียวอีกเหมือนกันที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุดในโลก" ต๋องเอาแหวนสวมที่นิ้วกระถิน "กระถินดอกนี้ฉันจองแล้วนะ แหวนวงนี้เป็นสัญญาว่าฉันจะอยู่กับเธอเสมอ ไม่ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน ต๋องจะรักกระถินคนเดียว" ต๋องกอดกระถินอย่างซาบซึ้งอีกครั้ง...
ooooooo
อวสาน










