สมาชิก

ตำรวจเหล็ก

ตอนที่ 17

มีคนโทร.มาหาชาญยุทธ์ เจนจิราทำเป็นจัดเอกสารบนโต๊ะทำงานเพื่อแอบฟังชาญยุทธ์คุยโทรศัพท์ว่าให้เขาไปพบคนของบอสที่ที่หนึ่ง เจนจิรารีบจดชื่อสถานที่

ขณะที่เอกภาพกับทีมกำลังยืนส่งพล.ต.ท.วิชัยขึ้นรถ โข่งขี่มอเตอร์ไซค์พาปัทเข้ามาจอด เอกภาพแปลกใจรีบถาม "มีอะไรด่วนรึเปล่าคุณ หน้าตื่นมาเชียว"

"มีเรื่องด่วนมากแต่ฉันติดต่อคุณทางโทรศัพท์ไม่ได้เลย"

"โทรศัพท์ผมเสียตั้งแต่ตกน้ำในป่ายังไม่มีเวลาไปซ่อมเลย คุณบอกว่ามีเรื่องด่วนอะไร"

"สายแจ้งมาว่าพวกนั้นกำลังประชุมกับคนของบอส"

เอกภาพมองหน้าวรัญญา "เราต้องเตรียมรับมือด่วนที่สุดเลย...คุณตามไปทำข่าวได้แต่ต้องอยู่ใต้การดูแลของผม" เขายังไม่ลืมที่จะพูดดักคอปัทมาไว้ก่อน

เอกภาพประชุมด่วนจัดแจงให้ทองใบกับปัทมาปลอมตัวเป็นคนจัดดอกไม้ห้องประชุมแล้วใส่เครื่องดักฟังเอาไว้...วีระชัยปลอมเป็นช่างไฟของโรงแรมไปซ่อนกล้องรูเข็มที่เพดาน ให้น้ำหวานปลอมเป็นบริกรโดยติดกล้องกระดุมไว้ด้วยและเก็บภาพต่างเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทองใบกับเขาจะปลอมเป็นพนักงานทำความสะอาด สังเกตการณ์อยู่ในห้องข้างๆ ถ้ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือทัน

ทุกคนทำตามหน้าที่ที่เอกภาพวางไว้ และแล้วในห้องที่จัดการประชุม กรกชกับชาญยุทธ์ต้องมานั่งเผชิญหน้ากัน ต่อหน้าซัน ลูกน้องที่บอสส่งมา ต่างฝ่ายต่างเคร่งเครียด น้ำหวานเข้ามาเสิร์ฟน้ำ เธอขยับหูกระต่ายให้เห็นหน้าทุกคนอย่างชัดเจน พลันคมสันต์สั่งให้น้ำหวานหยุด แล้วเขาเดินเข้ามาหาเธอ ด้านเอกภาพที่ดูอยู่ห้องข้างๆ ขยับตัวเตรียมจะเข้าไปช่วย น้ำหวานเองก็ใจระทึกกลัวถูกจับได้ แต่แล้วคมสันต์กลับเข้ามาดึงถาดที่เธอถือและบอกว่า

"เอามานี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอออกไปได้แล้ว ถ้าไม่มีคำสั่งห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด"

น้ำหวานก้มหัวให้แล้วพยายามส่ายกล้องที่หูกระต่ายให้เห็นหน้าผู้ร่วมประชุมทุกคนก่อนจะถอยออกไป เอกภาพโล่งอก...ซันเริ่มกล่าว "ตอนนี้ทางพวกคุณดูเหมือนจะมีเรื่องขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งทางเราไม่อยากยุ่งถือว่าเป็นเรื่องภายใน แต่บอสเห็นว่าถ้าพวกคุณยังทำงานเป็นทีมไม่ได้แบบนี้ มันจะเกิดปัญหา งานใหญ่ที่รออยู่จะเสียได้ บอสเลยสั่งให้มาบอกว่า ถ้าพวกคุณยังตกลงกันไม่ได้ บอสคงต้องย้ายฐานการทำงานไปประเทศใกล้เคียง พวกคุณตัดสินใจเอาก็แล้วกัน"

ชาญยุทธ์กับกรกชมองหน้ากันอย่างใช้ความคิด ทองใบพยายามปรับสภาพกล้องที่ติดบนเพดานและเสียงให้ชัดเจน วีระชัยกับปัทมาลุ้นดูภาพ น้ำหวานเข้ามาสมทบ เอกภาพหันหาปัทมา

"ผมยังไม่อยากให้คุณเสนอข่าวนี้นะ เดี๋ยวพวกมันจะไหวตัวย้ายฐานกันไปจริงๆ จะทำให้การกวาดล้างยากขึ้นไปอีก"

"ฉันรู้ล่ะน่า แต่ฉันมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องให้ฉันตามไปเก็บภาพด้วยทุกที่ ฉันจะได้ทำสกู๊ปพิเศษเจาะลึก...ตอนคดีของคุณเสร็จแล้ว" ปัทมาเน้นประโยคหลัง

"ที่แท้ก็อยากอยู่ใกล้ๆผมก็ไม่บอก" เอกภาพกระซิบเย้า

ปัทมาแอบหยิกจนเอกภาพหน้าเหยด้วยความเจ็บ แต่พอหันมาเห็นหน้าลูกน้องก็ทำเป็นสั่งงานแก้เก้อ ให้น้ำหวานเอาหลักฐานทั้งหมดกลับไปที่หน่วย ที่เหลือไปกับเขา สะกดรอยตามซันเผื่อจะพบบอสใหญ่...

เสร็จจากการประชุม กรกชกับชาญยุทธ์มานั่งร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อปรึกษากันเรื่องคำพูดที่บอสฝากมา กรกชพูดขึ้นว่า "ถ้าเป็นคำสั่งของบอสฉันก็ยินดีทำตาม"


"ดีเหมือนกัน ถ้าเรามัวแต่ขัดแข้งขัดขากันแบบนี้ สักวันงานใหญ่อาจจะพัง สู้มาจับมือกันแล้วให้งานเสร็จ ได้ผลประโยชน์กันคนละครึ่งแบบวินๆก็ยังดี"

กรกชตกลงตามนั้นแล้วลุกจะกลับ ชาญยุทธ์ดึงมือไว้ถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ กรกชตอบว่า เรื่องของเธอกับเขาสัมพันธ์กันแค่งาน ชาญยุทธ์ท้วง "เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอเกรซ"

"ค่ะ เราเคยรักกัน...ปล่อยให้ความรักมันอยู่ของมันตรงนั้นเถอะค่ะ อย่าไปดึงมันมาเกลือกกลั้วกับสิ่งที่เรากำลังจะทำเลย คุณชาญยุทธ์" กรกชดึงมือออกแล้วหันหลังเดินน้ำตาไหลพรากจากไป...ชาญยุทธ์เองก็สะท้อนใจไม่แพ้กัน

ในขณะที่นักรบถือผลไม้กำลังเดินเข้าโรงพยาบาล มือถือเขาดังขึ้น พอนักรบกดรับ

"พ่อมีงานด่วนจัดการให้ด้วย พ่อส่งรายละเอียดเข้าเครื่องไปแล้ว ฝากด้วยนะลูก" เสียงลุงสิงห์พูดมาตามสาย

นักรบวางสายแล้วเปิดดูข้อมูลที่ส่งมา...เขาเข้ามาที่ล็อบบีเจอวันวิสาข์ที่ยืนมองอยู่ก่อน จึงเข้าไปฝากผลไม้ให้ดาว เขามีธุระด่วนต้องไปทำ วันวิสาข์พูดสวนขึ้นว่า "ฉันไม่มีเจตนาจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่อยากจะเตือนคุณว่า ให้คิดให้ดี จะทำอะไรก็นึกถึงน้องดาวด้วยนะคะ ถ้าน้องดาวหายดีแล้วคุณ...เป็นอะไรไปใครจะดูแลน้องดาว"

"ผมมั่นใจว่าคุณหมอคงไม่ทิ้งน้องดาว"

"ฉันรับปากไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างจะใครที่ไหนสักกี่คนก็แทนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่จริงไม่ได้หรอกค่ะ คนที่น้องดาวต้องการคือคุณไม่ใช่ฉัน"

"ชีวิตผมมันไม่มีทางให้เลือกเดินมากนักหรอกครับคุณหมอ" นักรบพูดแล้วจะเดินไป

วันวิสาข์ดึงมือไว้ "ระวังตัวด้วยนะคะ นอกจากน้องดาว แล้วยังมีฉันอีกคนที่รอการกลับมาของคุณ"...นักรบยิ้มเมื่อรู้ ว่าวันวิสาข์เป็นห่วงเขา

ooooooo

ทีมของเอกภาพตามมาจับซันกับลูกน้องก่อนที่จะกลับขึ้นเครื่องบิน จึงเกิดการยิงต่อสู้กันดุเดือด นักรบได้รับคำสั่งให้มาดูแล เมื่อเขาเห็นว่าซันจวนตัวจะถูกเอกภาพจับ จึงตัดสินใจยิงตัดขั้วหัวใจซันตาย ปัทมาซึ่งหลบอยู่หลังเอกภาพ ถ่ายภาพนักรบไว้ได้ถึงแม้จะอยู่ไกลมาก นักรบหลบหนีไปได้ สิริมาศกับทีมข่าวมาทำข่าวในที่เกิดเหตุ ปัทมากับโข่งแปลกใจทำไม รู้ข่าวรวดเร็ว

"คุณรู้มั้ยว่าทำไมยัยสิริมาศนี่ถึงได้รู้ข่าวเร็วแบบนี้ทุกครั้งเลย" ปัทมาหันไปถามเอกภาพ

"เรื่องนี้คุณคงต้องเป็นคนบอกผมแล้วล่ะ เมื่อก่อนคุณก็ทำให้ผมประหลาดใจแบบนี้บ่อยๆเหมือนกัน จำไม่ได้ เหรอ" เอกภาพถามกลับทำให้ปัทมาถึงกับนิ่งอึ้ง

สิริมาศเดินเข้ามาพูดยั่วปัทมา "เดี๋ยวนี้ใช้วิธีหาข่าวแบบจับแหล่งข่าวแล้วเหรอ"

"ถ้าหมายถึงเกาะติดแหล่งข่าวล่ะก็ใช่ แต่ถ้าจะหมายถึงจับอย่างที่เธอคุ้นเคยล่ะก็ คงไม่ใช่ฉันหรอกที่ใช้วิธีนั้นน่ะ" ปัทมาพูดกระทบเพราะเคยเห็นสิริมาศควงคู่ไปกับชาญยุทธ์

สิริมาศข่มอารมณ์แล้วยิ้มเหยียดๆ ปัดว่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยเพราะคนละชั้นกัน ปัทมาสวนกลับว่าใช่ เธอไม่อยากลดชั้นมาวุ่นวายด้วย พูดแล้วก็เดินไป เอกภาพถอนใจก่อนจะเดินตามปัทมาไป วรัญญาเข้าทักสิริมาศอย่าง หยั่งเชิง เพราะเธอเห็นหน้าคนที่ไล่ยิงบน ฮ.เหมือนสิริมาศ และยังเห็นปริญญาอีกคนตอนสู้กันในป่า

"สวัสดีค่ะ คุณสิริมาศ ที่จริงเราก็เจอกันบ่อยนะคะ แต่ครั้งนี้ฉันรู้สึกคุ้นตายังไงพิกล ลักษณะแบบคุณนี่ถ้าจับปืน คงทะมัดทะแมงดีเหมือนกันนะคะ"

สิริมาศชะงักอ้างว่าเธอชอบถือไมค์มากกว่า แล้วรีบขอตัวไปทำงาน ปริญญาเดินตามกระซิบสิริมาศว่าเหมือนหมวดจะสงสัย สิริมาศบอกว่าก็แค่สงสัยแต่ไม่มีหลักฐาน...

พล.ต.ท.วิชัยไม่พอใจที่จับซันไม่ได้ ทั้งที่มีพร้อมทั้งพยานปากเอกและหลักฐานสำคัญ เอกภาพรับรองว่าจะไม่ให้มีการแลกอาวุธสงครามเกิดขึ้นได้เด็ดขาด แต่เขาขออนุญาตนำยาเสพติดของกลางมาเป็นตัวล่อขบวนการแอตแลนติส พล.ต.ท.วิชัยเห็นว่ามันเสี่ยงมาก แต่ท่าทางเอกภาพมุ่งมั่นจึงยอม แต่คราวนี้ ถ้าผิดพลาดอีกเขาคงปกป้องทีมตำรวจเหล็กไม่ได้อีก

พอ พล.ต.ท.ชาลีรู้เรื่องก็โวยวายที่เพื่อนเซ็นอนุมัติออกไป พล.ต.ท.วิชัยพูดอย่างใจเย็นว่า "อั๊วเป็นคนเซ็นอั๊วก็เป็นคนรับผิดชอบเอง จริงๆลื้อน่าจะชอบใจนะเพราะถ้าทีมตำรวจเหล็กจับคนร้ายได้ ลื้อก็ได้หน้าไปด้วย แต่ถ้าพลาด อั๊วก็รับคนเดียวเต็มๆ"

พล.ต.ท.ชาลีทำอะไรไม่ได้หงุดหงิดกลับออกไป พล.ต.ท.วิชัยโทร.บอกเอกภาพว่าเขาเซ็นอนุมัติของกลางให้แล้ว แต่เอกภาพรู้สึกสังหรณ์ใจว่า พล.ต.ท.ชาลีต้องไม่อยู่เฉยแน่

ooooooo

เอกภาพกับปัทมาซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ผมสลวยจะเอามาฝากดาว เผอิญได้ยินนักรบคุยกับดาวอยู่ ดาวถามว่าอีกหน่อยเธอหัวโล้นเหมือนพี่ห้องข้างๆ คงจะ
น่าเกลียด   ไม่มีคนรักใช่ไหม   นักรบปลอบลูกสาวว่า "ไม่หรอกลูก ไม่มีใครเกลียดเจ้าหญิงของพ่อได้หรอก"

ปัทมาได้ยินก็เอาตุ๊กตามาตัดผมจนหัวโล้น แล้วเอา ผ้าเช็ดหน้ามาโพกหัวไว้ เดินเข้ามาทักดาวกับนักรบ เอกภาพแปลกใจว่าเธอทำอะไร แต่พอได้ยินปัทมาชมว่าดาวคนสวยแล้วดาวตอบว่าอีกหน่อยเธอก็ไม่สวยแล้วเพราะหัวโล้น

"ใครบอกล่ะคะ คนไม่มีผมก็สวยได้ ดูอย่างตุ๊กตาตัวนี้สิ ก็ไม่มีผม แต่กำลังฮิตเลยนะ"

พอดาวเห็นตุ๊กตาบาร์บี้หน้าตาสวยมีผ้าคลุมผมก็ดีใจ เอกภาพเพิ่งเข้าใจช่วยพูดเสริมว่า "หลานอาเอกน่ะทันสมัยที่สุดเลยรู้เปล่าคะ"

พอวันวิสาข์เดินเข้ามา ดาวก็รีบอวดตุ๊กตาว่าหัวโล้นเหมือนเธอแต่ก็ยังสวยอยู่และกำลังฮิต วันวิสาข์ยิ้มดีใจที่ดาวไม่เสียใจอีก และบอกว่าอีกไม่นานดาวก็จะมีผมสวยเหมือนเดิม แต่ดาวกลับบอกว่าเธอไม่มีผมก็มีพ่อกับอาเอกและพี่ปัทมารัก วันวิสาข์สวมกอดดาว "โถ...ลูก..."

นักรบดีใจที่ได้ยินวันวิสาข์เรียกดาวว่าลูก...ระหว่างที่ ปัทมากับวันวิสาข์เล่นอยู่กับดาว นักรบกับเอกภาพแยกมาคุยกัน เอกภาพบอกนักรบว่า "มือปืนพญายมทำงานอีกแล้ว คราวนี้ยิงพยานสำคัญตาย ฉันหลงคิดว่าเขาจะคว้าโอกาสกักตัวไว้ซะอีก"

"ทำไมนายคิดว่าเป็นตัวจริงล่ะ" นักรบถามหยั่งเชิง

"เพราะฉันมั่นใจว่ารู้จักวิธีการทำงานของมือปืนพญายม ดีน่ะสิ หรือนายว่ายังไง คิดว่าเป็นตัวปลอมเหรอ" เอกภาพย้อนถาม

นักรบรีบกลบเกลื่อนว่าไม่รู้เพราะเขาไม่ใช่มือปืน เอกภาพมองเพื่อนแต่ไม่เห็นพิรุธอะไร จากนั้นเอกภาพก็มาส่งปัทมาที่คอนโดฯ ท่าทางเขาเพลียจนเธอต้องชวนขึ้นไปทานกาแฟบนห้อง แต่ระหว่างที่เธอไปชงกาแฟ เอกภาพก็ผล็อยหลับไปแล้ว เธอจึงเอาผ้าห่มมาห่มให้ แล้วนั่งพินิจใบหน้าของเขา นึกในใจว่า... ผู้ชายอะไรขนตางอน พลันมือถือเอกภาพดังขึ้น เขาสะดุ้งลุกขึ้น ปัทมาจะหงายเขารีบคว้าตัวกลับมา ปากประกบกันเข้าพอดี ปัทมาตกใจผลักเขาออกจะโวย เอกภาพทำท่าขอเวลารับโทรศัพท์ก่อน

"ว่าไงผู้กองมีข่าวอะไรด่วน สองแก๊งนั่นรวมตัวกันติดต่อพ่อค้ายาเหรอ ได้ๆ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้...ผมต้องไปแล้วมีงานด่วน ขอบคุณมากสำหรับ...กาแฟ" เอกภาพทำหน้ายิ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินไป ปัทมาเข้ามาขวางหน้า เอกภาพนึกได้ "โอเค เข้าใจล่ะ"

ว่าแล้วเอกภาพก็จูงมือปัทมาออกไปด้วยกัน...

ชาญยุทธ์กับกรกชยอมจับมือกัน เอาทองกับดอลลาร์ที่มีกันคนละอย่างออกมา  ไปแลกกับยาแล้วจัดการเก็บพ่อค้ายาเสีย  เอกภาพประชุมทีม มีข้อความส่งเข้ามือถือปัทมา เธออ่านแล้วส่งให้เอกภาพ พอเขาอ่านแล้วบอกทุกคน

"พวกขบวนการแอตแลนติสจะแลกของกันพรุ่งนี้ สายระบุทั้งสถานที่และเวลามาตรงกับที่เรารู้มา แสดงว่างานนี้ไม่มีตัวหลอก ทุกคนเตรียมพร้อม พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันตั้งแต่เช้า"

ปัทมาขอไปด้วย เอกภาพห่วงไม่อยากให้ไปเสี่ยง จึงท้วงว่าตากล้องไม่มีจะไปทำข่าวอย่างไร ทันใด โข่งถืออุปกรณ์ เข้ามา "ไม่ต้องห่วงครับรอง ผมมาแล้วครับ"

"ทีนี้คุณคงไม่มีอะไรขัดข้องแล้วใช่มั้ยคะ"

"คุณนี่มันนักข่าวอาชีพจริงๆ ระวังตัวด้วยก็แล้วกัน" เอกภาพไม่รู้จะหาคำไหนมาห้ามอีก

พอมาถึงจุดนัดพบ ชาญยุทธ์กับกรกชทำการแลกของกับยา แล้วตลบหลังยิงใส่พ่อค้ายาและพวก ทีมเอกภาพมาถึงเข้าสกัดกั้น ชาญยุทธ์กับกรกชขึ้นรถขับพาของหนีไป รถเอกภาพกับทีมถูกรถบรรทุกคันหนึ่งมาขวางหน้าทำให้ตามชาญยุทธ์ไม่ทัน ปัทมาโวยเอกภาพ

"นี่ใจคอคุณจะปล่อยให้พวกนั้นขนของหนีไปง่ายๆแบบนี้เหรอ"

ยิ่งเห็นเอกภาพนิ่งเฉย ปัทมายิ่งโมโห แต่แล้วคนขับรถบรรทุกลงมาทำความเคารพเอกภาพ ทุกอย่างเป็นแผนที่เอกภาพวางไว้ ทำเป็นปล่อยชาญยุทธ์กับกรกชไป และปัทมายิ่งงงมากขึ้นเมื่อเห็นพ่อค้ายากับพวกที่ถูกยิงตายลุกขึ้นมาทำความเคารพเอกภาพกันหมด

"ทุกคนปลอดภัยดีครับ มีบาดเจ็บโดนกระสุนเฉี่ยวแขนขาบ้างนิดหน่อย แต่ถ้ารองไม่สั่งให้ใส่เสื้อเกราะอ่อนกันเอาไว้ก็คงไปกันหลายคนเหมือนกันครับ" พ่อค้ายากล่าว

ปัทมาถามเอกภาพว่าเขามีแผนอะไร เอกภาพตอบ "เอาน่า รับรองเดี๋ยวคุณต้องรู้แน่นอนเพราะคุณเองก็อยู่ในแผนที่ต้องช่วยงานราชการเหมือนกัน"

ทองใบเข้ามารายงานว่าตามสัญญาณได้แล้ว เอกภาพสั่งทุกคนเตรียมลุย...

ในโกดัง ชาญยุทธ์กับกรกชยืนดูลูกน้องขนของเข้ามาเก็บ ชาญยุทธ์ยิ้มกริ่มที่ได้ร่วมงานกับกรกชและงานสำเร็จไปด้วยดี เขาจึงชวนเธอมารวมเป็นทีมเดียวกัน กรกชตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า เธอเห็นด้วยว่าควรมีทีมเดียว ชาญยุทธ์ ดีใจ "ผมนึกแล้วว่าคุณต้องเห็นด้วย ผมอ่านใจคุณไม่เคยผิดเลยจริงๆ"

"แต่ฉันว่าครั้งนี้คงจะไม่ใช่นะ เพราะทีมที่จะเหลือน่ะคือทีมของฉัน ไม่ใช่รวมทีมอย่างที่คุณเข้าใจ" พูดจบกรกชก็ชักปืนออกมาจ่อที่ท้องชาญยุทธ์แล้วเลื่อนมาจ่อหัว

ชาญยุทธ์กลับหัวเราะลั่นและว่าเธอคิดว่าเขาจะหลงเชื่อเธอหรือ ทันใด...ลุงสิงห์เดินเข้ามาในมือถือปืนเล็งมาทางกรกช แต่แล้วพอเข้ามาใกล้กลับเบนกระบอกปืนไปยิงชาญยุทธ์ เข้าที่แขน ชาญยุทธ์ร้องลั่นว่าคิดแล้วว่าลุงสิงห์ต้องอยู่เบื้องหลังการตายของวิโรจน์ กรกชยิ่งตกใจ...เรื่องถูกเปิดเผยออกมาว่า ลุงสิงห์ วิโรจน์ และภูมิชาติเคยเป็นเพื่อนกัน ลุงสิงห์วางแผนให้ทั้งสองส่งลูกไปเรียนต่างประเทศเพื่อจะได้ใกล้ชิดกันและดองกันเพื่อรวมเป็นแก๊งใหญ่ แต่แล้วลุงสิงห์กลับใช้ให้นักรบฆ่าวิโรจน์ตาย เพราะแท้จริงแล้ว กรกชคือลูกสาวของเขาที่เกิดกับปวีณา

"...พ่อกับแม่รักกันมาก่อนตั้งนาน แต่วิโรจน์มันแย่งแม่หนูไปจากพ่อ ที่ผ่านมาพ่อต้องทนทำได้แค่เฝ้าดูลูกสาวของพ่อเติบโตอยู่ห่างๆ มันทรมานใจเหลือเกินลูก..."

กรกชนึกย้อนไปตอนเด็กที่แม่มักจะสอนให้เธอรักและเคารพลุงสิงห์เหมือนพ่อและสอนเสมอว่า ต่อไปข้างหน้าลุงสิงห์จะเป็นคนที่เธอไว้ใจได้มากที่สุด...กรกชหลุดปากเรียกลุงสิงห์ว่าพ่อออกมา ลุงสิงห์ดีใจรีบให้กรกชจัดการชาญยุทธ์เสีย เจนจิราถือปืนเดินเข้ามา  ชาญยุทธ์รีบบอกให้ช่วยด้วย  แต่ เจนจิรากลับเดินมายืนข้างลุงสิงห์ "นี่แกเป็นพวกเดียวกันหมดเลยเหรอ"

ลุงสิงห์ยุให้กรกชจัดการชาญยุทธ์ กรกชตัดสินใจจะยิง ลินดาโผล่เข้ามาจะยิงกรกช สุพจน์ผลักกรกชหลบแล้วยิงสวนลินดาตาย คนสันต์ตามมาช่วยชาญยุทธ์ แต่กลับโดน ลุงสิงห์ยิงตายอีกคน   กรกชยังคงเล็งปืนไปที่ชาญยุทธ์   เขาพร่ำพูดถึงความหลังให้เธอใจอ่อน กรกชยอมรับว่าเธอยังรักชาญยุทธ์ แต่เธอเดินมาไกลเกินกว่าจะย้อนไปจุดเริ่มต้น กรกชลั่นกระสุนใส่ทั้งน้ำตา ชาญยุทธ์ล้มลงขาดใจตาย กรกชทรุดลงร้องไห้... เอกภาพกับทีมตำรวจบุกเข้ามา กรกชรีบยกปืนยิงใส่ เอกภาพยิงสวนโดนกรกชบาดเจ็บ สิริมาศขับรถออฟโรดเหินเข้ามาช่วยลุงสิงห์ กรกชและสุพจน์ พร้อมคอมมานโดชุดใหญ่ยิงป้องกันให้ ทำให้พวกเอกภาพติดตามไม่ได้ วรัญญาจำได้ว่าเป็นพวกสิริมาศ เอกภาพสั่งลูกน้องตรวจดูของกลางทั้งหมด   คือทองคำแท่ง ดอลล่าร์และยา...

ooooooo

ตำรวจเหล็ก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด