สมาชิก

ตำรวจเหล็ก

ตอนที่ 15

เมื่อเห็นยอดชายออกมาให้ข่าวว่าเปิดธุรกิจใหญ่โต ชาญยุทธ์คาดว่ายอดชายคงสร้างภาพดึงความสนใจให้บอสหันมามองเพื่อให้ได้ชิงเป็นตัวแทนแอตแลนติสในไทย แต่เขาไม่มีวันยอม

เผอิญเอกภาพมาแวะซื้อดอกไม้เพื่อจะไปง้อปัทมา ยอดชายกับนทีเดินออกมาจากโรงแรม ถูกลอบยิงล้มลง นทีหลบหนีไปได้ ผู้คนแตกตื่น เอกภาพรีบเอาดอกไม้ใส่ในเสื้อแจ็กเกตวิ่งตามล่ามือปืน เอกภาพร้องให้มือปืนหยุด แต่มันกลับยิงใส่ เอกภาพร้องบอกผู้คนให้หลบแล้วตัดสินใจยิงใส่มือปืนกลางหลังล้มคว่ำลง ดาวดำกระจายเกลื่อน เอกภาพ เข้าไปหยิบดาวดำขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจ

มือปืนถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ข่าวมือปืนพญายมถูกจับได้แพร่สะพัด นักข่าวกรูมาที่โรงพยาบาล สิริมาศเข้ามาสัมภาษณ์เอกภาพ "จับมือปืนพญายมได้แล้วเหรอคะรองเอกภาพ"

"เป็นการสันนิษฐานเบื้องต้นจากหลักฐานที่เจอครับ ยังไงต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้วสรุปสำนวนอีกที" เอกภาพพยายามพูดแบบกลางๆ

สิริมาศยังถามอีกว่าคนที่ถูกยิงใช่ยอดชายหรือเปล่า เอกภาพรับว่าใช่ อาการสาหัสยังให้ปากคำไม่ได้ แล้วเขาขอตัวรีบเดินไป สิริมาศจึงหันมารายงานข่าวสดออกไปตามสไตล์ของเธอ กรกชเห็นข่าวในทีวี พูดกับลุงสิงห์ว่า "ถ้ามันใช่มือปืนพญายมจริงๆมันก็เป็นคนที่ฆ่าพ่อน่ะสิคะ"

"ทางตำรวจเขายังไม่ยืนยันไม่ใช่เหรอครับคุณหนู"

แต่กรกชอยากไปดูให้เห็นจริงเพราะที่ตัวมือปืนมีดาวดำสัญลักษณ์มือปืนพญายม ลุงสิงห์จึงให้สุพจน์ตามไปคุ้มครองกรกช...ที่ห้องคนไข้ ดาวดูข่าวทีวีอยู่กับนักรบและวันวิสาข์

"อาเอกเก่งจังเลยนะคะคุณพ่อ คุณหมอ ต่อไปนี้มือปืนพญายมก็ไปทำร้ายคนอื่นไม่ได้แล้วใช่มั้ยคะ" ดาวถามขึ้นมา

นักรบหน้าเจื่อนสบตาวันวิสาข์ เธอจึงเข้าไปลูบหัวดาวเบาๆแล้วพูดว่า "หมอก็อยากให้มือปืนพญายมหยุดทำร้ายคนอื่นสักทีเหมือนกันจ้ะ"

นักรบรู้สึกถึงคำพูดและสายตาของวันวิสาข์ที่มองเขา เธอคงรู้อะไรบางอย่างและสื่อกับเขา ทำให้เขาต้องหลบสายตา... เมื่อมีโอกาสออกมาอยู่ตามลำพัง วันวิสาข์หยิบดาวดำที่เธอเก็บได้ที่บ้านนักรบวันที่ไปเยี่ยมดาวออกมาดูอย่างครุ่นคิด นักรบเข้ามาทัก  เธอจึงรีบเก็บดาวดำใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์  แล้วหันมายิ้มบอกเขาว่าเธอคิดอะไรเพลินๆเท่านั้น

"บอกได้มั้ยครับว่าคุณหมอคิดอะไรอยู่" นักรบถามอย่างจริงจัง

"ฉันอยากให้คนที่ถูกจับมาเป็นมือปืนพญายมตัวจริง ถ้าเป็นแบบนั้นได้คงจะมีหลายคนที่มีความสุขมาก" วันวิสาข์ มองหน้านักรบ

"คุณหมอคือคนนึงในนั้นด้วยหรือเปล่าครับ"

"ใช่ค่ะ"

"ทำไมล่ะครับ"

"เพราะมีคนบางคนที่ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นมือปืนพญายมตัวจริง"

"คุณหมอรังเกียจหรือว่ากลัวมือปืนพญายมเหรอครับ" นักรบถามแบบกลัวคำตอบ

"ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ แต่เป็นเพราะฉันคิดว่าจุดจบของมือปืนพญายมคงจะไม่สวยแน่ๆ ฉันไม่อยากให้ใครคนนั้นเป็นแบบนั้นค่ะ" วันวิสาข์จ้องตาด้วยแววตาเป็นห่วงและจริงใจ

นักรบถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกได้แต่หลบตาเฉมองไปทางอื่น แล้วต่างก็นิ่งเงียบกันไป...ปัทมากับโข่งมาถึงโรงพยาบาล เห็นเอกภาพจึงเข้าไปขอสัมภาษณ์มือปืน เอกภาพพูดอย่างสุภาพ

"ผมให้คุณหรือนักข่าวคนไหนเข้าไปสัมภาษณ์ไม่ได้ หรอก ตอนนี้ทั้งมือปืนทั้งคุณยอดชายยังไม่ฟื้นเลย แต่ถึงจะฟื้นแล้วผมก็คงอนุญาตไม่ได้อยู่ดี มันเกี่ยวกับรูปคดี คุณก็น่าจะรู้นี่นา"

ปัทมาฮึดฮัดขัดใจเพราะเคืองเรื่องที่กรกชเกาะแขนกันไปวันก่อน ทันใด ธัญญะพากรกชเข้ามาแล้วพาเข้าไปในห้องคนไข้ ปัทมาโวยเอกภาพทันที "นี่มันอะไรกันคุณ ทีฉันไม่ยอมให้เข้าไป แต่คุณกรกชลูกน้องคุณแทบจะอุ้มกันเข้าไปเลย"

โข่งกระตุกให้ปัทมาใจเย็น ปัทมากลับต่อว่าเอกภาพเลือกปฏิบัติ เอกภาพอธิบาย "คุณกรกชน่ะเขาอยู่ในฐานะผู้เสียหาย คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพ่อของเขาถูกมือปืนพญายมยิงตาย เขาเป็นเจ้าทุกข์ที่เคยแจ้งความเอาไว้แล้ว เขาก็ต้องมีสิทธิ์ดูตัวผู้ต้องหา คุณไปอารมณ์เสียอะไรมาจากไหนเนี่ยถามจริง"

"ทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจทำมาเป็นถาม" ปัทมาบ่นกระปอดกระแปดแล้วเดินหนีไป

โข่งวิ่งตาม เอกภาพมองตามด้วยความงงกับอารมณ์ของปัทมา...

พอกรกชได้เห็นหน้ามือปืนที่นอนอยู่บนเตียงก็ระงับอารมณ์ไม่อยู่พุ่งเข้าตบหน้า ธัญญะรีบดึงกรกชออกและเตือนว่าไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาปล่อยเป็นหน้าที่ของกฎหมายดีกว่า กรกชเดินออกจากห้องพร้อมธัญญะ เจอกับชาญยุทธ์ที่มาขอดูหน้ามือปืนเช่นกัน สิริมาศปรี่มาขอสัมภาษณ์ "ไม่ทราบว่าวันนี้คุณกรกชกับคุณชาญยุทธ์มาพร้อมกันที่นี่เพราะอะไรคะ"

ทั้งสองตอบเหมือนกันว่าอยากมาเห็นหน้ามือปืนที่ฆ่าพ่อ สิริมาศยังถามกรกชว่าเห็นหน้ามือปืนแล้วรู้สึกอย่างไร กรกชพูดกระทบชาญยุทธ์ว่าดีใจและอยากให้คนที่อยู่เบื้องหลังชดใช้กรรมด้วย...ชาญยุทธ์ไม่สะทกสะท้าน   เขาเข้าไปดูหน้ามือปืน   ขณะออกมาสวนกับพยาบาลที่มีผ้าปิดปากมาขอเช็ดตัวคนไข้ ธัญญะจึงอนุญาตให้เข้าไป

ooooooo

ยังอารมณ์เสียไม่หาย แม้โข่งจะปลอบอย่างไร ปัทมาก็ยังหงุดหงิด จนโข่งเห็นเอกภาพเดินมาจึงรีบปลีกตัวออกไป เอกภาพเข้ามาพูดกับปัทมา "ยังคุยกันไม่ทันรู้เรื่องเลยคุณก็เดินหนีมาซะแล้ว"

"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว ไปดูแลคุณกรกชคนพิเศษของคุณโน่น" ปัทมางอน

เอกภาพดึงดอกไม้จากในเสื้อมาส่งให้ "ผมซื้อมาให้คุณ แต่เจอเรื่องซะก่อนเลยต้องรีบปฏิบัติหน้าที่"

"ซื้อมาให้ฉันทำไม นี่คุณให้ผิดคนหรือเปล่า เอาไปให้ คนโน้นโน่นถึงจะถูก"

"ไม่ผิดคนหรอก ผมมีคนที่จะให้ดอกไม้แค่คนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าคนที่อยากให้เขาไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร ผมคงต้องเอาทิ้งขยะไป น่าสงสารดอกไม้ไม่มีคนสนใจ"

"คุณมีสิทธิ์อะไรมาเอาดอกไม้ของฉันไปทิ้งขยะ" ปัทมาโวยก่อนที่เอกภาพจะทิ้งดอกไม้

เอกภาพยิ้มดีใจ...ปัทมาถามว่าเขามีธุระอะไรกับเธอ เอกภาพฟังน้ำเสียงยังขุ่นๆจึงบ่นว่ายังไม่หายงอนอีก ปัทมาโต้ว่าใครงอน

"ก็คุณนั่นแหละ ไอ้ที่ทำอยู่นี่นะเขาเรียกว่างอน เรื่องที่ผมพาคุณกรกชไปทานข้าววันก่อนนะไม่มีอะไรจริงๆ คุณกรกชยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องที่นายยอดชายฟ้องผม แล้วเขาขอให้

เลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน ผมก็ต้องทำตามมารยาทเท่านั้นเอง"

"ฉันก็มีหลักฐานว่าคุณไม่ได้ทำผิด แต่ช่างเถอะมันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ"

"ผมดีใจจังที่รู้ว่าคุณเป็นห่วงผมจนต้องหาหลักฐานมาช่วย ขอบคุณมากนะครับ...ส่วนเรื่องวันนี้ ผมอนุญาตให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆ มันเป็นหน้าที่คุณคงเข้าใจนะ"

"ถ้าวันหลังฉันจะทำหน้าที่นักข่าวแบบไม่มีข้อแม้ ให้ใครบ้าง คุณอย่ามาว่าฉันก็แล้วกัน"

"เอางี้ดีกว่า เพื่อเป็นการขอโทษคุณ จะให้ผมทำอะไรก็ได้ยกเว้นให้คุณเข้าไปหามือปืนกับนายยอดชาย" เอกภาพเสนอทางเลือกให้

แต่ปัทมากลับย้อนถามว่าเชื่อหรือว่าคนที่จับมาได้เป็นมือปืนพญายมตัวจริง เอกภาพนิ่ง ปัทมาจึงขอให้เขาถอดหมวกตำรวจออกแล้วคุยกันในฐานะประชาชนคุยกันหรือเพื่อนก็ได้ เอกภาพอมยิ้มหยอดให้เบี่ยงประเด็น "ขอเป็นมากกว่าเพื่อนได้มั้ย แบบคนที่รู้สึกดีๆให้กันน่ะ"

ปัทมาตัดบทว่าจะฐานะอะไรก็ได้ที่เขาจะไม่บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เอกภาพจึงย้อนถามว่าเธอคิดอย่างไร ปัทมาจึงบอกว่าเธอคิดว่าไม่ใช่ตัวจริง เอกภาพยิ้มแล้วพูดว่า "คุณเชื่อความคิดของตัวเองน่ะถูกที่สุดแล้ว   ตำรวจน่ะจะใส่หมวกหรือถอดเครื่องแบบก็ยังเป็นตำรวจวันยังค่ำแหละ เพราะมันเป็นกันที่จิตวิญญาณ"

ปัทมาสรุปว่าก็คงเหมือนนักข่าวที่อย่างไรก็ทิ้งวิญญาณนักข่าวไม่ได้...วีระชัยวิ่งมาตามเอกภาพว่าเกิดเรื่องแล้ว ปัทมารีบเรียกโข่งให้ตามเอกภาพไป...ชาญยุทธ์รออยู่ที่รถ ลินดาเดินเข้ามารายงานว่าทุกอย่างเรียบร้อย ชาญยุทธ์ยิ้มอย่างพอใจ

เอกภาพมาถึงห้องคนไข้ ธัญญะรายงาน "มีนักฆ่าปลอมตัวเป็นพยาบาลเข้าไปสังหารมือปืนครับรอง แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรกันแน่ ต้องรอผลพิสูจน์อีกทีหนึ่ง"

ไม่มีใครจำหน้าพยาบาลได้เพราะมีผ้าปิดปาก เอกภาพหันมาเห็นโข่งกับปัทมาถ่ายภาพทุกซอกทุกมุมจึงห้าม ปัทมาชิงพูดก่อนว่า "ขอโทษนะคะ นี่มันหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องนำเสนอเรื่องที่เกิดขึ้น หวังว่าคงจะไม่ใช่ความลับอะไรอีกนะคะ"

เอกภาพเถียงไม่ออก พลัน สิริมาศปรี่เข้ามาตัดหน้าปัทมา จึงเกิดการเถียงกันขึ้น ปัทมาพูดทิ้งท้ายใส่สิริมาศว่าให้วิเคราะห์ข่าวเก่งเหมือนปาก ข่าวคงน่าดูกว่านี้แล้วเดินไป สิริมาศยืนโกรธตัวสั่น...มุมหนึ่งในโรงพยาบาล นักรบคุยกับเอกภาพ เขาถามขึ้นว่า

"แกคิดว่ามือปืนพญายมที่ถูกเก็บนี่เป็นตัวจริงหรือเปล่า"

"ฉันบอกไม่ได้หรอก ไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาของมือปืนพญายมชัดๆสักที แต่ถ้านี่ไม่ใช่มือปืนพญายมแล้วตัวจริงจะถือโอกาสล้างชีวิตซะใหม่ เรื่องมันก็คงจะจบไปพร้อมกับมือปืนที่ตายไป ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม" เอกภาพวางดาวดำลงข้างตัวนักรบก่อนจะเดินไป...

การตายของมือปืนทำให้กรกชสงสัยว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า แต่น่าเสียดายที่ยิงยอดชายไม่ตาย ลุงสิงห์จึงบอกว่า "ใครเริ่มเอาไว้เราไม่รู้ แต่ถ้าอยากให้มันจบเราก็จัดการเองซะก็สิ้นเรื่อง"

วันต่อมา สิริมาศถือกระเช้ามาเยี่ยมยอดชายในฐานะคนคุ้นเคยไม่ใช่ฐานะนักข่าว วีระชัยจึงอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมได้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงสิริมาศร้องให้ช่วยด้วย   วีระชัยกับตำรวจสองนายวิ่งเข้ามา เห็นสิริมาศยืนหน้าตื่นเล่าว่า

"มีคนร้ายเข้ามาในนี้ค่ะผู้กอง ฉันทำธุระในห้องน้ำ พอออกมาก็เห็นคนร้ายมันป้วนเปี้ยนอยู่แถวเตียง พอฉันร้องขอความช่วยเหลือมันก็เข้ามาตบหน้าฉันก่อนจะหลบออกไปทางประตูนั้นค่ะ" สิริมาศชี้ไปที่ประตูระเบียงที่เปิดอยู่

วีระชัยให้ตำรวจตามไปดูตรงประตูระเบียง เขามาดูยอดชายพบว่าเสียชีวิตแล้วเพราะถูกดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจออก...เอกภาพหน้าเครียดเดินจะออกจากโรงพยาบาล สิริมาศและนักข่าวรุมถาม ปัทมากับโข่งมาถึงก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เอกภาพจึงพูดให้นักข่าวเบนความสนใจไปว่า

"คุณยอดชายเสียชีวิตแล้ว คุณสิริมาศเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่างครับ"

นักข่าวทุกคนจึงหันมาหาสิริมาศ เธอหน้าเหลอหลาแล้วรีบเล่าเหตุการณ์พร้อมกับเอียงแก้มให้ดูรอยถูกคนร้ายตบ โข่งสะกิดปัทมาพูดขำๆว่านักข่าวตกเป็นข่าวเสียเอง แต่ปัทมาสงสัย

"ยัยสิริมาศนี่ทำตัวน่าสงสัยขึ้นทุกวัน...ฉันไม่อยากเชื่ออะไรคนแบบนี้เลยนะพี่โข่ง..."

คมสันต์ได้รับรายงานจากลูกน้องรีบมารายงานต่อชาญยุทธ์ และถามด้วยความแปลกใจว่า คนของเราไม่ได้ฆ่ายอดชายแล้วเป็นคนของใคร แต่ชาญยุทธ์ไม่สนใจ...ส่วนกรกชพอรู้ข่าวจากลุงสิงห์ก็ดีใจ ทีนี้ก็เหลือเสี้ยนหนามแค่ชาญยุทธ์เท่านั้น...

เมื่อยอดชายตาย นทีก็หันมาขอซบ พล.ต.ท.ชาลี แต่ดูท่า พล.ต.ท.ชาลี จะเอาไว้หลอกใช้เท่านั้น แล้วค่อยเขี่ยทิ้งทีหลัง...

และในวันหนึ่ง นักรบมาพบลุงสิงห์ที่บ้าน นักรบเคยเป็น

เด็กวัดที่ลุงสิงห์ไปพบและขอมาอุปการะจากหลวงตา โดยรับปากหลวงตาว่าจะเลี้ยงเหมือนลูกเพื่อจะได้ฝากผีฝากไข้ยามแก่...

"ผมอยากขอหยุดงานเอาไว้ก่อน ตอนนี้เอกภาพเริ่มระแคะระคายเรื่องมือปืนพญายมแล้ว แต่คงยังไม่มีหลักฐานแน่นหนาก็เลยยังไม่ทำอะไร อีกอย่างตอนนี้น้องดาวก็อาการไม่ค่อยจะดี ผมอยากจะดูแลแกอย่างใกล้ชิด"

"ไม่มีปัญหาหรอกเรื่องนั้น ไอ้น้องดาวมันก็หลานฉัน ฉันก็เป็นห่วงมันเหมือนกัน แกจะพักฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามีงานที่ต้องใช้แกล่ะก็ แกคงไม่ปฏิเสธนะ แกคงไม่ลืมหรอกนะว่าเราเคยตกลงอะไรกันไว้"

"ผมไม่ลืมหรอกครับ ไม่ต้องห่วง ผมรับปากว่าถ้าสิ่งที่พ่อให้ทำมันไม่เกินความสามารถของผมล่ะก็ ผมจะทำให้"

"มันต้องให้ได้แบบนี้สิวะ ไอ้ลูกชาย" ลุงสิงห์จับไหล่นักรบเขย่าด้วยความพอใจ...

พอนักรบเดินออกจากบ้านลุงสิงห์ เขาสวนกับสิริมาศ ทั้งคู่สบตากันอย่างสงสัยก่อนจะเดินผ่านกันไป...

ooooooo

ตำรวจเหล็ก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด