สมาชิก

บันไดดอกรัก

ตอนที่ 12

เรื่องการจะอาบน้ำของธูปไม่ได้ยุติเพียงแค่นั้น เพราะเขายังไม่ได้อาบน้ำ ยิ่งกระเช้าขำไม่หยุดแถมยังพูดกับลุงบุญว่าธูปกลัวตุ๊กแกขนาดหนัก แบบนี้น่าจะจับมาอยู่ป่าบ่อยๆ ปล่อยให้นอนกับตุ๊กแกทุกคืนจะได้ชินยิ่งทำให้ธูปขนลุกขนพอง แต่ถึงยังไงวันนี้เขาต้องอาบน้ำให้ได้ จึงถามลุงบุญว่า

"ลุงครับ...ถ้าผมไม่อาบน้ำในห้องน้ำนั่น...ผมจะอาบได้ที่ไหนบ้าง"

"มันก็มีอยู่หรอก...แต่คุณจะอาบได้หรือเปล่าไม่รู้นะ"

"บอกมาเถอะครับ...ขอให้ไม่มี เอ้อ...สัตว์เลื้อยคลานผมอาบได้หมด ตกลงว่าผมจะไปอาบได้ที่ไหน"

กระเช้าหัวเราะอีก ธูปหันไปค้อนอย่างกับผู้หญิง ลุงบุญชี้ด้านหลังที่เป็่นป่าละเมาะแล้วบอกให้กระเช้าพาไป

ธูปเดินตามกระเช้าที่ก้าวฉับๆไปข้างหน้าด้วยความชำนาญทาง ส่วนธูปค่อยๆย่องมองซ้ายมองขวาไปตลอดทางพอเดินไม่ทันก็ตะโกนถาม

"นี่เธอจะพาฉันไปไหน...ฉันจะอาบน้ำนะ ไม่ใช่จะมาหาเห็ดโคน"

กระเช้าหันหน้ามาบอก "ตามมาเถอะน่า ไม่ต้องระแวง ฉันไม่พาคุณมาฆ่าหมกป่าหรอก"

"ก็ลองดูสิ เดี๋ยวก็รู้ว่าใครกันแน่ที่จะโดนฆ่า" ธูปทำเสียงโหดทั้งที่เดินย่องๆ กระเช้าอยากหัวเราะ

"จะฆ่าคุณง่ายนิดเดียว แค่ขังไว้กับตุ๊กแกสักสามสิบตัว แค่เนี้ยะ คุณก็ช็อกตายแล้ว ฉันไม่ต้องออกแรงฆ่าแกงสักนิด...

ฮิๆ" กระเช้าพูดจบก็เดินลอยหน้าไป ธูปกัดกรามอย่างแค้นๆ บอกกับตัวเองว่า

"อย่าให้ฉันรู้นะว่าเธอกลัวอะไร...ฉันจะเอาคืนให้เจ็บเลยคอยดู..."

ระหว่างที่เดินจนถึงน้ำตก ความงดงามของพรรณไม้และเสียงร้องจุ๊กจิ๊กของบรรดานกหลายชนิดทำให้สองคนอารมณ์ดีขึ้น กระเช้าเริ่มชวนคุย

"นี่คุณ...ฉันถามหน่อยเหอะ ทำไมถึงกลัวตุ๊กแก" ธูปนิ่งไม่ยอมตอบเพราะกลัวเสียฟอร์ม กระเช้าส่ายหน้าพูดต่อ

"ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมถึงได้ฟอร์มเยอะนัก...ขี้เก๊กอีกต่างหาก ทำตัวสบายๆมั่งไม่ได้หรือยังไงนะ"

กระเช้าจะเดินต่อเพราะคิดว่ายังไงธูปก็ไม่ตอบอีกแน่ๆ แต่ผิดถนัด ธูปตอบเสียงจริงจังว่า

"ถ้าเธอเกิดมาเป็นลูกชายที่ต้องดูแลกิจการนับหมื่นล้านของครอบครัว ในขณะที่มีน้องชายไม่เอาไหน เรียนหนังสือก็สอบตกซ้ำซาก วันๆเอาแต่สำมะเลเทเมา ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า จน

พ่อแม่เลิกคาดหวังแล้วหันมาฝากความหวังกับเธอแทน...เธอจะทำยังไง...ไม่สนแล้วก็ทำตามใจตัวเอง หรือพยายามบังคับตัวเองเพื่อพ่อแม่จะได้ไม่ผิดหวัง...และสิ่งที่ฉันแบกรับ มันไม่ใช่แค่ ความหวังของพ่อแม่เท่านั้น แต่มันคือหน้าตาของประเทศชาติ...จริงอยู่ที่ประเทศเราส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกเมืองร้อนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก เรามีลูกค้าจากหลายประเทศ แต่ตอนนี้เรามีคู่แข่งมากมาย เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ยังไม่รวมเวียดนามที่กำลังพัฒนาและมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกกล้วยไม้เพื่อแข่งกับเรา"

กระเช้าหยุดเดินเมื่อไหร่ตัวเองก็ไม่รู้สึก จนธูปเดินตามมาทันและหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เขาพูดต่อ

"เพราะฉะนั้น นอกจากการรักษามาตรฐาน เรายังต้องพัฒนาเพื่อครองความเป็นอันดับหนึ่งต่อไป ถ้าฉันทำตัวเหลวไหลหรือไม่เข้มงวดกับตัวเอง อะไรจะเกิดขึ้น!"

กระเช้าซึมซับสิ่งที่ธูปพูดโดยไม่รู้ตัว จากที่เคยนึกว่าเขาขี้เก๊ก เครียดจัดอะไรต่างๆมลายไปหมด

ooooooo

พอเห็นน้ำตกเต็มตา ธูปก็ชะงัก มองน้ำใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบแล้วใจคอก็เบิกบานขึ้น   ยืนมองกระเช้าหลับตาพริ้มอยู่ริมน้ำตกด้วยดวงหน้าที่อ่อนโยนขึ้น  คิดภาพเห็นเป็นสาวน้อยกำลังจะลงเล่นน้ำไปโน่น แต่พอนึกได้ว่ากระเช้าพาเขามาอาบน้ำที่นี่ธูปก็ตาเหลือก

ธูปเดินเข้าใกล้น้ำตกแล้วมองลงไป แม้น้ำจะใสจนเห็นปลาตัวเล็กๆว่ายไปมาเขาก็คิดว่าน้ำคงไม่สะอาดอยู่นั่นเอง จึงทำฤทธิ์กับกระเช้าซะยกใหญ่ แม้กระเช้าจะขู่ว่าถ้าไม่อาบที่นี่ก็ต้องกลับไปอาบในห้องน้ำกับตุ๊กแกที่บ้าน ธูปก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ท้ายที่สุดกระเช้าก็แกล้งทำตาโตจ้องไปทางข้างหลังของธูป

"คะ...คุณ...ยืนเฉยๆอย่าขยับ แล้วก็อย่าหันไปข้างหลัง"

ธูปขนลุกซู่ "ข้างหลังฉันมีอะไร..."

"มี...มี..." กระเช้าทำท่าขนพองสยองเกล้า ธูปเริ่มสั่น

"มีอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้ เร็วสิ!!"

"มะ...มี...ตุ๊กแกอยู่ที่ต้นไม้ข้างหลังคุณนิดเดียว..."

"เฮ้ยย..." ธูปร้องออกมาด้วยความกลัวสุดขีด เขาพุ่งลงน้ำด้วยสัญชาตญาณของการหนีภัย แถมพอถึงน้ำก็รีบว่ายให้ห่างฝั่งให้ไกลที่สุด เสียงกระเช้าหัวเราะฮ่าๆดังลั่น ธูปสังหรณ์ รีบเอาขาหยั่งพื้นหันกลับมาดู

"นี่เธอหลอกฉันเหรอยัยคอกระเช้า"

กระเช้าไม่ตอบ ยกมือกอดอกบอกว่าให้เขาอาบน้ำสบายๆ ธูปยืนกัดฟันครู่หนึ่งก็คิดแผนออก เขารีบถอดเสื้อตัวเอง แล้วขว้างใส่กระเช้าทันที  กระเช้าตกใจแต่ก็รีบรับไว้กับอก เสื้อที่เปียกน้ำจนชุ่มของธูปทำให้กระเช้าพลอยเปียกไปด้วย กระเช้าโวยวายแล้วถอยหนีจึงลื่นตกน้ำไปอีกคน เหมือนเทวดาอุ้มสม ดันตกลงไปข้างตัวธูป เขารีบอ้าแขนรับตวัดกระเช้าเข้าอ้อมกอดอย่างลืมตัว กว่าทั้งสองคนจะรู้สึกว่าอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันก็ผ่านไปเป็นนาที แถมเสื้อขาวของกระเช้าก็บางพอถูกน้ำก็เห็นไปถึงไหนๆ กระเช้าเถียงกับธูปได้ไม่กี่คำก็ฟอดแฟดกลับบ้านไปคนเดียว ปล่อยให้ธูปยืนยิ้มอยู่ในน้ำเหมือนคนบ้า

ooooooo

ส่วนพวกเทียน คืนนั้นต้องไปเช่าโรงแรมนอน แต่บังเอิญห้องเต็มหมดเหลืออยู่แค่สองห้อง เทียนจึงคิดว่าต้องให้หมี่กรอบกับทับทิมอยู่ด้วยกันเพราะไม่มีทางอื่น พอรับกุญแจห้องจากเจ้าหน้าที่กลับมายื่นให้หมี่กรอบก็โดนเธอถามว่า   สองคนทำไมกุญแจแค่ดอกเดียว เทียนยังไม่ทันอธิบาย ทับทิมก็ยื่นหน้าเข้ามา

"อย่าบอกนะคะ ว่าทับทิมต้องนอนกับยัยทอมนี่" เทียนพยักหน้าบอกว่ามีห้องเหลือแค่สองห้องเท่านั้น ทับทิมโวย

"ทับทิมไม่นอนกับยัยทอม...ทับทิมขอนอนกับคุณเทียนได้ไหมคะ" เทียนสะดุ้ง ตอบทันที

"ไม่ได้...เธอสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน นอนด้วยกันแหละดีแล้ว" พูดจบก็หนีไปที่ห้องตัวเองเลย ทับทิมฮึดฮัด แต่เห็นหมี่กรอบไม่สนแถมเดินเข้าห้องไปก่อนจึงรีบตาม พอเข้าไปเห็นมีเตียงอยู่เตียงเดียวแต่ค่อนข้างใหญ่ ทับทิมรีบเดินเข้าไปเอาของวางจอง บอกหมี่กรอบว่าให้นอนที่พื้นเธอจะนอนเตียง หมี่กรอบไม่สนเปิดกระเป๋าดึงเสื้อออกมาวางเตรียมอาบน้ำ ทับทิมเรื่องมากอีก

"ไม่ได้นะ ฉันต้องอาบก่อน เพราะฉันไม่ชอบอาบน้ำต่อจากใคร และไม่ชอบอาบในห้องน้ำเปียกๆ"

หมี่กรอบมัวแต่เซ็งความมากเรื่องของทับทิมจึงทำเป็นไม่สนค้นของแล้วเดินจะเข้าห้องน้ำ แต่เสียงปิดกลอนข้างในดังแกร๊ก เพราะทับทิมรีบตัดหน้าเข้าไปก่อนแล้ว แถมตะโกนบอกว่าจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการอาบเพราะต้องนอนแช่น้ำอุ่นด้วย หมี่กรอบเซ็งจัด ขี้เกียจรอจึงวางเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปหาข้าวกิน

แต่เธอไปพบเทียนนั่งดื่มเบียร์อยู่ในห้องอาหารท่าทางเมาแล้วเพราะพอมาถึง เทียนเก็บของเสร็จก็มานั่งกินเบียร์ เนื่องจากเขาพยายามโทร.หากระเช้าเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบ หมี่กรอบเห็นเทียนเมาก็เข้าไปเบรก แต่เทียนก็เอาแต่พร่ำพูดถึงกระเช้าอยู่นั่น หมี่กรอบบอกเทียนว่า

"ฉันว่าคุณเลิกคิดมากแล้วก็กินข้าวสักหน่อยดีกว่า ดื่มพรวดๆตอนท้องว่างเดี๋ยวก็เมาตายกันพอดี...เอ้าบอกมาจะกินอะไรเดี๋ยวฉันสั่งให้" เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ หันมาดูอีกทีหงายตกเก้าอี้ไปแล้ว หมี่กรอบลากเทียนกลับไปห้องไม่ไหวเลยต้องให้บริกรช่วย พาเทียนเข้าห้องได้ หมี่กรอบกลับไปที่ห้องตัวเองแต่เคาะเท่าไหร่ทับทิมก็ไม่ยอมเปิดให้เพราะนอนหลับเอาผ้าปิดหูปิดตาแบบยังไงก็ไม่เปิดให้แน่ หมี่กรอบเลยต้องกลับไปนอนห้องเทียนโดยเอาผ้าคลุมเตียงมาปูนอนที่พื้น

ส่วนทับทิม เที่ยงคืนจึงรู้สึกตัวตื่น มองหาหมี่กรอบไม่เห็นก็แปลกใจนิดหน่อย "ทำไมนังทอมมันหายเงียบไปเลย...มันคงไปนอนข้างถนนที่ไหนสักแห่งละมั้ง ฮึๆๆ" แทนที่จะห่วงเพื่อนร่วมทางที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกลับสะใจซะอีก

ooooooo

ที่บ้านของพรานบุญ ธูปเอนตัวลงบนเตียงนอนของลูกชายพรานบุญในห้องนอน แต่ไม่เคยชินกับเตียงแข็งจึงนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาอยู่นั่น ไม่รู้ว่าสภาพบ้านป่ามันเงียบเกินไปหรือเปล่า ความคิดของเขาจึงแวบไปถึงตอนที่กระเช้าตกน้ำและเขาตวัดเธอเข้ามาในอ้อมกอด ร้องฮื้อออกมาอย่างตกใจแล้วพลิกกลับอีกด้าน

ดันกลายเป็นภาพตอนกระเช้าลุกขึ้นจากน้ำมองเห็นเสื้อบางๆชัดแจ๋วจนเธอเขินตุปัดตุป่องหนีกลับบ้านไป ธูปร้องเฮ้อ...แล้วลุกขึ้นนั่ง ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองไปคิดเรื่องพวกนี้
ได้ยังไง

ด้านกระเช้า กางมุ้งนอนอยู่นอกห้องที่ซอกหนึ่งของบ้าน หลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอน แล้วต้องร้องออกมาดังลั่น เพราะธูปออกมายืนอยู่ข้างมุ้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ธูปรีบพูด

"เป็นอะไร ร้องทำไม เดี๋ยวคนอื่นเขาก็นึกว่าเธอเจอผีหรอก"

"คุณธูป...มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้เงียบๆ ตกใจหมด"

"ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้..."

"ก็มีอะไรหรือเปล่าล่ะคะ ทำไมยังไม่นอน"

"ฉันมาเรียกให้เธอเข้าไปนอนในห้อง"

"หา...อะไรนะ..." กระเช้าตกใจ แล้วเลยด่าเป็นชุด "น่าเกลียดที่สุด เมื่อกลางวันทำตัวลามกยังไม่พอ ยังจะมาชวนฉันเข้าห้องอีกเหรอ...คุณเห็นฉันเป็นอะไร?"

ธูปรีบแทรก "หยุดก่อน...ไปกันใหญ่แล้ว ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันจะมาบอกให้เธอเข้าไปนอนในห้อง ส่วนฉันจะนอนที่นี่..."

"แล้วไป...หา...เมื้อกี้คุณพูดว่าคุณจะนอนไหนนะ" กระเช้าโล่งอก แต่ก็ต้องถามออกมาอีกคิดว่าหูฝาดแต่พอธูปยืนยันว่าเขาจะนอนที่นี่เธอจึงบอกว่า

"ที่ข้างนอกนี่หนาวก็หนาว พื้นก็แข็ง คุณนอนไม่ได้หรอก"

"ฉันนอนได้ เธอนั่นแหละจะนอนเข้าไปได้ยังไง"

"ฉันนอนจนชินแล้ว คุณเข้าไปนอนในห้องเถอะ ตรงนี้ฉันนอนได้" พูดจบกระเช้าก็ทำท่าจะลงนอนอีกแต่ธูปไม่พูดพร่ำทำเพลง มุดเข้ามาในมุ้งเลย กระเช้าร้องจ๊ากรีบลุกนั่ง ธูปไล่ ให้เธอเข้าไปนอนในห้องอีก พอกระเช้าเถียงธูปก็ยื่นคำขาดว่า

"ถ้าเธอไม่ออกไป ก็นอนด้วยกันในนี้แหละ" พูดเสร็จก็เอาผ้ามาคลุมตัวแต่นอนกระแซะๆมาใกล้กระเช้าจนหลุดออกไปนอกมุ้ง กระเช้าเลยตัดสินใจ

"งั้นฉันไปนอนในห้องก็ได้..." เสียงธูปร้องสั่งว่า

"ดีแล้วที่คิดได้ รีบๆไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้ารีบพาฉันไปทำธุระให้เรียบร้อย"

สองคนเปลี่ยนที่กันนอนแล้วต่างคนต่างยิ้มอย่างมีความสุข

ooooooo

แต่เช้ามืด ธูปมุดออกมาจากมุ้ง จันทร์และพรานบุญถือถาดอาหารเตรียมมาจัดสำรับที่นอกชาน สองคนนั่นตกใจตาเหลือก พรานบุญปากไวกว่าร้องถามว่าทำไมเขาถึงมานอนอยู่ที่นี่แล้วกระเช้าไปไหน ธูปยิ้มอายๆอ้อมแอ้มบอกว่า

"คือ...ฉันเปลี่ยนที่นอนกับกระเช้าน่ะ เห็นเมื่อคืนอากาศมันเย็นๆ ก็เลยให้กระเช้าเข้าไปนอนในห้อง"

ป้าจันทร์ยิ้มปากกว้าง "คุณธูปนี่ เป็นเจ้านายที่ดีจริงๆนะเนี่ย เห็นอกเห็นใจลูกน้อง กระเช้ามันโชคดีจริงๆที่มีเจ้านายน้ำใจแบบนี้"

กระเช้าเดินขึ้นบ้านมาได้ยินพอดี เธอยิ้มให้ป้าจันทร์ในใจก็แอบคิดเหมือนกัน บุญพูดต่อ

"เดี๋ยวพวกฉันสองคนจะไปจัดสำรับอาหารเช้าไว้ที่นอกชานด้านโน้นนะคุณ อาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วจะได้มากินข้าวกัน"

"ครับ..." ธูปตอบยิ้มๆ มองตามป้าจันทร์กับพรานบุญไปแล้วนึกขึ้นมาได้ "เฮ้ย...อาบน้ำ"

กระเช้าที่ยืนมองเขาอยู่รีบเดินเข้ามาบอกเขาว่า "ไม่ต้องกลัวหรอกน่า...ฉันไล่ตุ๊กแกออกหมดแล้ว"

"เธอเนี่ยนะไล่ตุ๊กแก" ธูปตาโต

"ใช่...ฉันจับมันใส่ถุงแล้วก็เอาไปปล่อยในป่าโน่น" ชี้ไปไกลๆ

"เธอจับเองเหรอ แล้วไม่กลัวเหรอ" ธูปถามเหมือนเด็กๆ

"กลัวทำไม ตุ๊กแกตัวเล็กกว่าฉันตั้งเยอะ พิษสงอะไรก็ไม่มี กัดก็ไม่เป็นทำไมฉันจะต้องกลัว บ้านแม่ฉันก็อยู่กลางป่าแบบนี้ ขืนกลัวตุ๊กแกก็ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี เออ...ถ้าคุณยังระแวงไม่กล้าอาบน้ำคนเดียว..." กระเช้าพูดไม่ทันจบธูปร้องออกมา

"เธอจะเข้าไปอาบเป็นเพื่อนใช่ไหม?"

"บ้าน่า...ฉันจะนั่งรอเป็นเพื่อนอยู่หน้าห้องน้ำ มีอะไรก็เรียกแล้วกัน"

ธูปยิ้ม "วันนี้ทำไมใจดีจัง"

"ก็แล้วเมื่อคืน ทำไมคุณถึงใจดีจังล่ะ...ฉันก็ทำเหมือนคุณไง ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็ร้ายตอบเพื่อความเสมอภาค...ไป รีบไปอาบน้ำได้แล้วก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ แล้วก็ก่อนที่ตุ๊กแกมันจะกลับมา" กระเช้าขู่ ธูปรีบทำตามคำสั่งทันที

ooooooo

เช้าวันเดียวกันนี้ที่โรงแรม ทับทิมเดินทำท่าระเหิดระหงมาตามทางเดินจนมาหยุดที่หน้าห้องพักของเทียนหน้าตาเบิกบาน ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำของตัวเองเมื่อคืนนี้ ยืนอยู่ครู่หนึ่งจึงยกมือเคาะประตู เทียนยังนอนหลับเป็นตาย แต่หมี่กรอบหูไวรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู ปากก็บ่นไปด้วย

"ใครวะ...มาเคาะแต่เช้าเลย"

พอประตูเปิด ทับทิมรีบพูดทันทีโดยไม่ได้มองว่าเป็นใคร "ขอโทษนะคะที่ทับทิมต้องมาปลุกแต่เช้า ไม่ทราบว่าคุณ...ว้าย..." ทับทิมเงยหน้าเห็นหมี่กรอบยืนผมยุ่งหน้าตายังไม่ได้ล้าง แถมยังอยู่ในชุดนอนซะอีก

"นังหมี่กรอบ..." เสียงทับทิมทำให้เทียนรู้สึกตัว ฝ่ายทับทิมยังช็อกไม่หาย

"แก...แกมาอยู่ที่ห้องคุณเทียนได้ยังไง...แล้วแกยังอยู่ในชุดนี้ หรือว่า...เมื่อคืนแกนอนกับคุณเทียน!"

หมี่กรอบยกมือปิดหู "โอ๊ย...จะตะโกนทำไม...ใช่ ฉันนอนกับคุณเทียน...ก็แค่นอนในห้องเดียวกันแล้วฉันก็นอนพื้น ส่วนคุณเทียนนอนบนเตียง และที่ฉันต้องทำแบบนี้ก็เพราะเธอ..."

"ไม่จริง...ไม่เชื่อ" ทับทิมยังบ่น

"ไม่เชื่อก็เรื่องของเธอ ไหนกุญแจ เอามานี่" หมี่กรอบดึงกุญแจห้องจากมือทับทิมแล้วก็เดินเข้าไปในห้องเทียนอีกที เทียนเห็นหมี่กรอบอยู่ในชุดนอนก็งงบ้าง

"เธอ...เข้ามาอยู่ในห้องฉันได้ไงเนี่ย" เทียนถาม หมี่กรอบถอนหายใจแบบเซ็งกำลังสอง เดินไปหยิบของตัวเองแล้วเดินผ่านทับทิมออกไปเลย ทับทิมรีบสวนเข้าไปในห้องเทียน เห็นเขากำลังลุกจากเตียงท่าทางมึนๆ พอทับทิมวิ่งพรวดเข้าไปเทียนเลยตกใจ

"เฮ้ยย! นี่เธอเข้ามาได้ยังไงนี่"

"แล้วนังหมี่กรอบมันเข้ามาในห้องคุณเทียนได้ยังไงล่ะคะ" ทับทิมลอยหน้าถาม

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" เทียนตอบแบบซื่อบื้อๆ

"หา...ไม่รู้...นี่แสดงว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น คุณเทียนก็ไม่รู้เหรอคะ"

เทียนส่ายหน้า "ไม่รู้...ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น จำอะไรไม่ได้... แล้วตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นล่ะ?"

ooooooo

เทียนอาบน้ำเสร็จก็เก็บกระเป๋าออกจากห้องไปจ่ายเงินค่าห้องพักกับข้าวของที่เสียหายเมื่อคืนนี้ตอนที่เมา เดินไปหน้าโรงแรมเอากระเป๋าไปเก็บในรถ แล้วลงมาคอยหมี่กรอบเพราะเธอยังไม่ออกมา ส่วนทับทิมยืนกอดอกเคาะเท้าอย่างใช้ความคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น

หมี่กรอบหิ้วกระเป๋าตัวเองออกมา เทียนหันมาเห็น สองคนสบตากันอย่างเก้อๆ ทับทิมหรี่ตามอง ยิ่งเพิ่มความสงสัย พอหมี่กรอบจะเดินผ่านก็เรียกไว้แล้วเดินเข้ามาหา

"เธอบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงเข้าไปอยู่ในห้องคุณเทียน แล้วเธอลวนลามคุณเทียนหรือเปล่า?"

เทียนได้ยินสะดุ้งหันมาทำตาขวางใส่ทับทิม   "ถามอะไรบ้าๆ"

ทับทิมไม่สน กลับตอบว่า "ก็มันจริงนี่คะ ยิ่งคุณเทียนจำอะไรไม่ได้แบบนี้ โดนป้ายยาให้สะลึมสะลือแล้วทำมิดีมิร้าย แอบถ่ายคลิปไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้"

"ใช่..." หมี่กรอบเสียงแปร๋นขึ้นทันที "แล้วฉันก็จะเอาคลิปไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณเทียนไม่ยอมจ่ายเงินให้ฉันหนึ่งร้อยล้านบาท"

"หา...แก...นังทอมร้ายกาจ ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าแกจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ฉันจะโทร.ฟ้องด็อกเตอร์กับคุณท่าน..." ทับทิมตาเหลือกตาพองจะหยิบโทรศัพท์มาโทร. แต่เทียนคว้าเอาไว้

"ไร้สาระ...เชื่อเข้าไปได้ยังไง...ฟังก็รู้แล้วว่าโกหก" ดุทับทิมเสร็จก็หันไปหาหมี่กรอบ

"หมี่กรอบ บอกความจริงมา เมื่อคืนเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?" หมี่กรอบเชิดใส่ทับทิมก่อนจะเล่าเรื่องให้เทียนฟัง

"ก็ไม่มีอะไร เมื่อคืนคุณเมามากจนไม่ได้สติ ฉันก็ลากคุณไปที่ห้องแล้วฉันก็กลับเข้าห้องฉันไม่ได้ เพราะนางยักษ์มันล็อกห้องไม่ให้เข้า...ฉันก็เลยต้องนอนห้องคุณ แต่ฉันนอนอยู่กับพื้นหน้าเตียง"

เทียนหันไปดูหน้าทับทิมอย่างไม่พอใจ พูดเสียงเข้มว่า

"ที่หมี่กรอบต้องมานอนห้องเดียวกับฉัน และต้องลงไปนอนที่พื้นก็เพราะเธอล็อกห้องไม่ให้เขาเข้าไป ดังนั้น...เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เพราะเธอ และถ้าเธอยังไม่ปล่อยให้จบ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือเธอ...จะจบมั้ย..."

"เอ้อ...จบก็ได้ค่ะ" ทับทิมอุบอิบ เทียนจึงบอกให้ไปขึ้นรถ เขาจะได้รีบไปตามหากระเช้า หมี่กรอบรู้สึกปลื้มเล็กๆที่เทียนปกป้องเธอ

ooooooo

ที่ร้านขายผลไม้ของปิ่นทอง ชิดชัยกำลังคุมพวกลูกน้องในการยกผลไม้ขึ้นลงจากรถที่มาส่ง หมี่กรอบ เทียน และทับทิมเดินเข้ามาในร้าน ชิดชัยหันมาเห็นเพื่อนของลูกสาวจึงร้องทัก หมี่กรอบยกมือไหว้ ชิดชัยหันไปเจอเทียน นึกว่าเป็นธูป

"อ้าวคุณ เมื่อวานคุณมากับกระเช้านี่ แล้วทำไม..."

หมี่กรอบรีบอธิบาย "คือคนเมื่อวานที่อาเห็นเป็นพี่ชายฝาแฝด ชื่อคุณธูป แต่นี่เป็นคนน้องชื่อคุณเทียนค่ะ" เทียนยกมือไหว้ชิดชัย ทับทิมรีบแทรกตัวเข้ามาทันที

"ดิฉันชื่อทับทิม เป็นเลขาฯของคุณธูปนะคะ สวัสดีค่ะ" ชิดชัยงง แต่ก็ยกมือรับไหว้ ทับทิมพูดต่อ

"ที่พวกเรามาวันนี้เพราะต้องการจะตามหาคุณธูป และนัง...เอ้อ กระเช้าให้เจอโดยเร็วที่สุด ตอนนี้สองคนอยู่ที่ไหนรีบพาพวกเราไปเดี๋ยวนี้เลย"

ชิดชัยงง มองหน้าหมี่กรอบ หมี่กรอบรีบชี้แจง "อาจจะเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพสักเท่าไหร่ แต่...เนื้อหาก็ตามนั้นแหละค่ะ" กว่าจะพูดกันรู้เรื่องก็เสียเวลาไปพอสมควร ในที่สุดชิดชัยก็ตัดสินใจจะพาพวกเทียนไปที่บ้านพรานบุญ แต่พอเดินออกมาหน้าร้านก็เจอปิ่นทอง เธอร้องถามว่าจะไปไหน ชิดชัยบอกสั้นๆว่า

"พี่จะพาเจ้านายกระเช้าไปตามหากระเช้าที่บ้านพี่บุญ" ปิ่นทองหันไปทางเทียน

"เจ้านายกระเช้า...มันก็เจ้านายคนเมื่อวานนี้นี่ แล้วทำไมยังอยู่ที่นี่ แล้วยังต้องไปตามหานังกระเช้าอีก...พี่ชิดนี่มัน..." พูดไม่ทันจบชิดชัยกับสามคนนั่นก็ขับรถออกไปแล้ว ไม่ได้ยินเสียงปิ่นทองตะโกนถาม

ooooooo

วันนี้ศีลกับบุปผาไปเที่ยวตลาดนัด เดินดูของไปคุยกันไป บุปผาถามสามีว่าธูปกับเทียนไม่ส่งข่าวมาบ้างหรือ   เธอโทร.ไปหาใครก็ปิดเครื่องหมด   รู้สึก

เป็นห่วงว่าลูกจะปลอดภัยหรือเปล่า ศีลรับประกันว่า ถ้าเป็นอะไรต้องมีคนโทร.มาบอกแล้ว และลูกๆก็โตแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

บุปผาพยักหน้า "ขอให้จริงเถอะ...เออ...แล้ววันนี้นึกยังไงคะถึงได้ชวนฉันมาเดินตลาด"

"อยู่แต่ในฟาร์มมันอุดอู้ ออกมาดูชาวบ้านชาวช่องเขาบ้างก็ดีเหมือนกัน"

บุปผายิ้ม "ดีค่ะ จะได้ไม่น่าเบื่อ...ฉันหมายถึงชีวิตคุณน่ะค่ะ...เออ...คุณบอกว่าอยากจะทานปลาทอดกระเทียมนานแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปซื้อปลาที่แผงตรงโน้นก่อนนะคะ" บุปผาเดินไปท่าทางร่าเริง ศีลกลืนน้ำลายตามหลังแอบโล่งอกที่พูด

เอาตัวรอดได้ มองซ้ายมองขวาเจอแม่ค้าขายกล้วยไม้ เดินไปดู เห็นกำไว้เป็นกำๆจึงถาม

"กล้วยไม้นี่ขายกำละเท่าไหร่"

"ห้าบาทจ้ะ"

"โห...ทำไมถูกจัง ไปรับมาจากไหนเนี่ย"

"ไม่ได้ไปรับที่ไหนหรอก มีคนที่ฟาร์มดาราเอามาขายให้...สงสัยฟาร์มจะเจ๊งหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงได้ขายถู้กถูก..." ศีลหยิบกล้วยไม้มาพิจารณา แล้วก็รู้ว่ากล้วยไม้เป็นโรคอะไร ศีลรู้สึกเป็นห่วงดาราขึ้นมาทันที พอกลับถึงบ้านก็เล่าให้บุปผาฟังและบอกว่าเขาจะไปเยี่ยมดาราเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง

"คุณก็รู้ว่าดาราเกลียดเรายังกะอะไรดี" บุปผาไม่เห็นด้วย

"แต่เราไม่ได้เกลียดเขานี่...ยังไงเขาก็เป็นภรรยาของเพื่อนรักของผม ฟาร์มนั้นเราก็ช่วยกันสร้างมากับมือ ถึงคราวที่เขาเดือดร้อนเราก็ควรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ"

"แล้วถ้าคุณเดินเข้าไปแล้ว เขาให้คนมาไล่เรายังกะหมูกะหมา คุณจะทำยังไง" บุปผาถาม

"คุณก็มองเขาในแง่ร้ายเกินไป"

"คุณนั่นแหละ มองในแง่ดีเกินไป" บุปผายืนกระต่ายขาเดียว ศีลไม่ฟังเสียง บอกกับบุปผาอย่างเด็ดเดี่ยว

"ตกลงคุณจะไปกับผมหรือเปล่า?" จะก้าวเดินออก บุปผาหน้าตื่น

"ตกลงคุณจะไปแน่เหรอคะ?" ศีลไม่ตอบ แต่เดินออกไปแล้ว บุปผาเลยต้องเดินตาม จนกระทั่งถึงหน้าฟาร์มกล้วยไม้ดารา บุปผายังถามศีลอีกว่า

"แน่ใจนะคะคุณ กลับตอนนี้ยังทันนะฉันว่า"

"แน่ใจสิ จะกลับทำไม อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว"

"ก็กลับตอนนี้จะได้ไม่โดนด่าใส่หน้าไงล่ะ อาจจะโดนด่าลับหลังนิดหน่อยก็ยังพอโอเค"

ศีลส่ายหน้า "คุณนี่...คิดมาก เรามาทำความดี จะโดนด่ายังไง ทำความดีจะต้องกลัวอะไร"

"กลัวว่าจะไม่ได้ดีน่ะสิ..." บุปผาบ่นเบาๆ

และพอเข้าไปในฟาร์มกล้วยไม้ดารา ทั้งๆที่ดารากำลังกลุ้มใจเรื่องกล้วยไม้เป็นโรคจนทำความเสียหายจนหมดฟาร์มแล้ว แต่พอรู้ว่าใครมาขอพบก็แล่นออกมาด่าไม่ยั้ง แม้ศีลจะบอกว่าจะมาช่วยแก้ปัญหาให้ก็ตาม ท่าทีของศีลกับท่าทีของแม่ตัวเองทำให้อิทธิเดชสงสัยว่าใครผิดใครถูกกันแน่ระหว่างสองครอบครัวนี้

ooooooo

บันไดดอกรัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด