สมาชิก

บันไดดอกรัก

ตอนที่ 10

หมี่กรอบที่รับอาสาเทียนมาซักถามเอาความจริงจากกระเช้ากลับมาถึงบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปเห็นเพื่อนสาวนั่งโป๊ะหน้าเด้งดึ๋งอยู่ในห้อง เพราะอยู่และรู้จักกันมานานจึงรู้ว่าตอนนี้เพื่อนกำลังเครียดขนาดหนัก เนื่องจากมีเรื่องเครียดทีไรกระเช้าหาทางออกไม่ได้ก็จะแต่งหน้า

"โห...หน้าเด้งขนาดนี้ จะไปประกวดเทพีที่ไหนเนี่ย หรือว่ามีเรื่องอะไรเครียด"

กระเช้าไม่ตอบ แต่หันมามองหน้าเพื่อนแล้วถอนใจ

"โอเค...ในเมื่อแกไม่ตอบฉัน แต่ฉันก็มีเรื่องจะถามแก"

"ฉันก็มีเรื่องจะถามแกเหมือนกัน และแกต้องตอบฉันก่อน และต้องตอบตรงๆด้วย ห้ามโกหก...ถามจริง แกชอบคุณเทียนหรือเปล่า?"

หมี่กรอบสะดุ้งโหยง เงียบไปนิดหนึ่งกว่าจะตั้งหลักได้ "แกบอกมาก่อนว่าทำไมถึงถามคำนี้ ไม่งั้นฉันก็ไม่ตอบแก"

"ก็ได้...เมื่อวานมีคนเห็นแกไปซื้อของที่กรุงเทพฯกับคุณเทียน แล้วท่าทางสนิทสนมกันมาก แต่เมื่อวานแกโกหกฉันว่าแกไปตลาดนัดคนเดียว" คำพูดของกระเช้าทำเอาหมี่กรอบถึงบางอ้อทันที

"เอาละ แกฟังฉันนะ ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกแก แต่ฉันยอมรับว่าไปกรุงเทพฯกับคุณเทียนจริงเพราะเขาชวนฉันไปซื้อของขวัญมา เซอร์ไพรส์แก แต่ที่ฉันบอกแกไม่ได้ก็เพราะคุณเทียนขอร้องเอาไว้ ถ้าไม่งั้นฉันบอกแกไปแล้ว...แล้วใครเป็นคนบอกแกล่ะ"

"แบมบี้" กระเช้าเสียงอ่อย "เขาเอารูปแกกับคุณเทียนมาให้ฉันดูด้วยล่ะ...ฉันขอโทษนะ ตอนนี้ฉันเชื่อแกแล้ว แล้วแกมีอะไรจะถามฉันล่ะ"

"แกชอบคุณธูปหรือเปล่า" หมี่กรอบปล่อยหมัดตรงเข้าหน้าเพื่อนสาวเต็มแรง เห็นกระเช้ายังงงจึงพูดต่อ "มีคนเห็นแกไปกับคุณธูปเมื่อวาน แต่แกโกหกฉันว่าไปหาหมอคนเดียว"

"เอ้อ...เขาแค่บังเอิญมาเจอฉันที่ข้างถนนตอนรถสองแถวมันเสียก็เลยรับฉันไปก็แค่นั้นแหละ"

"แล้ววันนี้ คุณธูปเอาอะไรมาให้แก" หมี่กรอบซักอย่างกับทนายความ กระเช้าบอกว่า

"บัตรนัดของหมอ ฉันทำหล่นไว้ในรถเขาแค่เอามาคืน"

หมี่กรอบฟังแล้วพยักหน้า "เอาละ วันนี้เคลียร์กันเข้าใจก็ดีแล้ว แต่คราวหน้าแกอย่าทำแบบนี้อีก ตอนนี้เรามีศัตรูรอบด้าน เราสองคนต้องหนักแน่น อย่าหูเบาเชื่อคำยุยงของคนอื่น ไม่อย่างนั้นเราจะแตกกันเอง"

สองคนยิ้มให้กัน หลังจากนั้นหมี่กรอบก็โทร.ไปเล่ารายละเอียดให้เทียนฟังแถมยังบอกอีกว่าตอน นี้ตนให้กระเช้าไปรอเทียนตามที่บอกแล้ว ให้เทียนรีบไป

ooooooo

ธูปยังไม่ชอบใจเรื่องที่บุปผาแม่ของเขาสั่งให้ ทับทิมไปทำบุญกระดูกให้บรรพบุรุษด้วยในวันพรุ่งนี้ พอมีเวลาเลยเรียกทับทิมให้เข้าไปหาในห้องทำงาน บอกกับเธออย่างไม่อ้อมค้อมว่า เขาไม่ห้ามถ้าเธอจะไปด้วย และก็จะไม่ห้ามอีกเหมือนกันถ้าเธอจะไม่ไป...เห็นทับทิมงงธูปเลยตัดสินใจพูด ตรงประเด็น

"ผมไม่ได้รังเกียจคุณ ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา คุณคือคนมีฝีมือช่วยงานผมได้มาก ผมไม่เคยทำงานกับใครได้เข้าขาเหมือนคุณมาก่อน...ผมไม่รู้ว่าคุณแม่คุยอะไร กับคุณ...แต่ผมขอ บอกตรงไปตรงมาว่า ผมคิดกับคุณแบบเพื่อนร่วมงานเท่านั้น"

"ถึงคุณธูปไม่บอก ทับทิมก็ทราบค่ะ รู้ตัวเองดีว่าเป็นใครและคุณธูปเป็นใคร ไม่เคยคิดอะไรเกินตัวอยู่แล้ว ส่วนเรื่องงานบุญที่ทับทิมจะไปก็เพราะอยากช่วยงานคุณท่านเท่านั้นเอง" ทับทิมกัดฟันพูดอย่างแค้นๆ ธูปเห็นแล้วก็สงสาร

"ถ้าเป็นยังงั้นก็ไปเถอะ ผมไม่รู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจ หรอก ตรงกันข้ามกลับดีใจด้วยซ้ำที่คุณแม่มีคนมาช่วยงาน แต่ที่เรียกมาคุยเพราะอยากทำความเข้าใจให้ตรงกันเท่านั้นเอง"

ทับทิมทำยิ้มอย่างแสนดี ธูปเองก็พยักหน้าอย่างโล่งใจ ครั้นเธอเดินจากห้องธูปออกมาที่โต๊ะตัวเอง มีโทรศัพท์เข้า พอยกหูทางโน้นก็ขอสายธูป คนยิ่งกำลังโมโหอยู่ เลยตวาดกลับไป

"จากไหนไม่ทราบ"

"จากคลินิกคุณหมอจริยาค่ะ จะโทร.มาเตือนเรื่องนัดของคุณกระเช้าในวันพรุ่งนี้ค่ะ"

"นัดของกระเช้าแล้วทำไมโทร.มาที่เบอร์นี้"

"คุณธูปเป็นคนพาคุณกระเช้ามาพบคุณหมอเมื่อวานนี้ค่ะ แต่คุณธูปไม่ได้ทิ้งเบอร์มือถือไว้ให้ เลยโทร.มาที่เบอร์กลางแล้วต่อมาที่เบอร์นี้ค่ะ...ยังไงรบกวนเรียนคุณธูปด้วย นะคะว่าพรุ่งนี้มีนัดกับคุณหมอจริยาตอนสี่โมงเย็นค่ะ..."

"ได้...ฉันจะบอกเอง" ทับทิมวางสายเสียงเหี้ยม แล้วกดเบอร์ใหม่เป็นสายของแบมบี้ กรอกเสียงลงไปว่า "แบมบี้... ฉันมีงานใหม่ให้เธอทำ"

ส่วนแบมบี้พอรับเรื่องจากทางทับทิมแล้วก็ส่งต่อไปยังอิทธิเดช บอกไปว่าคนของเธอจะคอยส่งข่าวเวลากระเช้าออกจากฟาร์ม ให้เขากะเวลาไปเจอเอง ถ้าเกิดมีคนไปกับมันด้วยก็ยกเลิกไป แต่ถ้าไม่มีอิทธิเดชอยากจะทำอะไรกระเช้าก็เชิญเลย

ดารายืนฟังอิทธิเดชติดต่อกับแบมบี้อยู่แต่ไม่รู้ว่าใคร พอลูกชายหันมาก็ถาม

"ลูกกำลังทำอะไร ไปยุ่งกับผู้หญิงชื่อกระเช้าทำไม"

อิทธิเดชยิ้มร้าย "คุณแม่มีวิธีจัดการไอ้ด็อกเตอร์กับเมียมันในแบบของคุณแม่ ผมก็มีวิธีแก้แค้นลูกๆของมันในแบบของผม แต่คุณแม่สบายใจได้ เพราะปลายทางที่เราต้องการมีจุดหมายเหมือนกันคือ ทำให้พวกมันเจ็บปวด"

"งั้นแม่ก็เอาใจช่วย ไม่ว่าลูกกำลังคิดจะทำอะไร ขอให้ สำเร็จ" สองแม่ลูกยิ้มให้กำลังใจกันและกัน

ooooooo

กระเช้าไปยืนคอยเทียนตามที่หมี่กรอบบอกไว้ พอมีเสียงฝีเท้าเดินมาทางด้านหลังก็รีบหันไปมอง เทียนยิ้มเข้ามาหาอย่างดีใจ ชิงพูดกับเธอก่อนว่า

"หมี่กรอบเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังแล้ว...ผมต้องขอโทษแทนพี่ชายผมด้วยที่ไม่หยุดรังแกคุณสักที"

"ไม่เป็นไรค่ะ กระเช้าไม่ถือสา"

"ไม่ถือสาก็ดีแล้วครับเรื่องมันไร้สาระน่ะ...นี่ครับ... ของขวัญสำหรับคุณ" ยื่นกล่องเครื่องสำอางให้

"เนื่องในโอกาสอะไรคะ"

"ผมอยากแสดงความยินดีกับการแสดงที่ผ่านไปได้ อย่างสวยงาม ผมแจกข่าวไปให้หนังสือพิมพ์ แมกกาซีนต่างๆ พอทุกคนเห็นรูปคุณก็ชมกันใหญ่ คิดว่าเป็นดาราหรือไม่ก็นางแบบที่เราจ้างมา พอรู้ว่าเป็นพนักงานในฟาร์มก็แปลกใจกันใหญ่...บางคนชอบถึงขั้นอยากมาดูตัว จริงเลยละครับ"

"มันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมังคะ กระเช้าก็แค่ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ความจริงคุณไม่ต้องซื้อของให้ ฉันก็ได้"

เทียนพยายามยัดเยียดของขวัญให้เธอจนได้

"อย่าเพิ่งเปิดนะครับ คือ...ผมเขิน...ไม่แน่ใจว่าคุณจะชอบหรือเปล่า เอาไว้ไปเปิดที่ห้องก็แล้วกัน เอ้อ...ผมมีเรื่องบอกคุณอีกเรื่องนึงคือ คุณแม่ชวนคุณไปงานทำบุญกระดูกของญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว เป็นงานเลี้ยงพระช่วงเช้า ไปด้วยกันนะครับ...และการที่คุณแม่เอ่ยปากชวน ก็เท่ากับว่าท่านยอมรับคุณในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวแล้ว...คุณดีใจ หรือเปล่าครับ"

เทียนเอื้อมมือมากุมมือกระเช้า ธูปที่แอบดูอยู่หน้าเสีย ทันใดนั้นเสียงศีลก็ร้องทักธูปว่ามาทำอะไรอยู่แถวนี้ ธูปสะดุ้ง กระเช้ารีบแกะมือตัวเองออกจากมือเทียนทันที สองคนเพิ่งรู้ว่าธูปยืนอยู่แถวนั้นด้วย ศีลหันไปเจอเทียนกับกระเช้าก็ทักทั้งสองคนอีก ธูปถือโอกาสบอกพ่อว่ามาเดินดูงานแถวนี้เพราะกำลังให้คนงานย้ายต้นไม้มาปลูก แต่ทำไมคนงานยังไม่ยกมาเสียที ว่าแล้วก็บอกว่าจะไปตามแล้วเดินหนีไปเลย เทียนมองตามด้วยความโมโห รีบเดินตามไปต่อว่าธูป

ooooooo

บัญชากับอิทธิเดชนัดเจอกันคืนนี้ที่ถนนระหว่างทางที่จะไปฟาร์มกล้วยไม้ดารา อิทธิเดชเป็นคนเอากระถางกล้วยไม้ติดโรคไปมอบให้ ไปจอดรถคอยอยู่ พักใหญ่ๆบัญชาก็ขับรถกระบะของตัวเองมาถึง เขาดูซ้ายขวาหน้าหลังเห็นว่าไม่มีใครตามมาแน่ๆก็ลงจากรถไปหาผู้ว่าจ้าง อิทธิเดชลดกระจกรถลง บัญชาบอกว่า

"ผมพร้อมแล้ว เดี๋ยวคืนนี้จะเอากล้วยไม้ที่เป็นโรคเข้าไปในฟาร์มเลย รับรองไม่นานก็เห็นผล"

"ดี...ฉันเตรียมไว้ให้แกสิบกว่าต้น ถ้าไม่พอบอก เดี๋ยวจัดเพิ่มให้" อิทธิเดชหันไปสั่งคนของตัวเองให้ลงไปย้ายของ คนขับรถลงไปมองหน้าหลังดีแล้วก็เปิดผ้าคลุมท้ายรถ บัญชาเดินตามไป สองคนช่วยกันย้ายกระถางกล้วยไม้มาที่รถของ บัญชา เสร็จแล้วคนขับของอิทธิเดชก็กลับไปที่รถตัวเองแล้วขับออกไป บัญชาจึงขึ้นรถขับออกไปมั่ง ไปถึงหน้าฟาร์มราชินีกล้วยไม้ บัญชาหักรถเลี้ยวเข้าฟาร์มแล้วต้องเบรกเอี๊ยดด้วยความตกใจ

"เฮ้ย...อะไรวะ"

ที่หน้าฟาร์มมีรถกระบะจอดอยู่สองคัน มี รปภ.เปิดรถที่ผ่านเข้าออกเช็กอย่างละเอียด บัญชาหน้าเสียตัดสินใจเลี้ยวรถกลับออกไปก่อน มาไกลพอสมควรแล้วจึงโทร.บอกอิทธิเดชว่าเอารถเข้าฟาร์มไม่ได้

"ไหนแกบอกว่าสบายมากไม่มีปัญหาไง แล้วนี่มันอะไรกันวะ" อิทธิเดชโวย

"ก็...ปกติมันไม่เห็นตรวจเข้มแบบนี้นี่ครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมเอากล้วยไม้ไปเก็บก่อน แล้ว พรุ่งนี้เช้าจะไปดูลาดเลาอีกที ถ้าไม่มีอะไรคืนพรุ่งนี้สำเร็จแน่"

อิทธิเดชวางสายด้วยความโกรธ ดาราถามลูกชายว่ามีอะไร พอเขาบอกแม่ว่าทางฟาร์มโน้นจัดวางยามแน่นหนา ตรวจรถทุกคันเลยเอากล้วยไม้เข้าไปคืนนี้ไม่ได้ ดาราชักสังหรณ์

"หรือว่าพวกมันจะรู้ตัว"

เช้าวันรุ่งขึ้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะพอบัญชาเดินไปที่โรงกล้วยไม้ก็เห็นบุปผากำลังสั่งงานหมี่กรอบอยู่

"หมี่กรอบมานี่แน่ะ มาฟังไว้แล้วจะได้คอยคุมช่างแทนฉัน ให้เขามาติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดน่ะ จะได้ดูแลได้ ทั้งกลางวันกลางคืน จากห้องนี้แล้วยังเชื่อมต่อไปที่ห้อง รปภ. ด้วย เวลามีใครเข้าใครออกในเรือนกล้วยไม้จะได้เห็น ต่อไปฉันจะสั่งติดให้ทั่วทุกจุดเลยจะได้เก็บภาพได้หมด หวังว่าพอเกิดเรื่องขึ้นมากล้องจะไม่เสียนะ" บุปผาเดินสั่งงานจนออกไป บัญชาที่แอบดูอยู่เซ็งเป็ด

"แล้วจะทำยังไงวะเนี่ย!"

ooooooo

เกือบสี่โมงเย็น ธูปทนนั่งไม่ติดต้องโทร.ไปหากระเช้าเตือนเรื่องหมอนัด แต่ยังทำฟอร์มว่าที่โทร.มานี่ไม่ใช่อะไรหรอก จะได้รักษาให้หายเสียทีเขาจะได้ ไม่เสียเงินฟรี กระเช้าทีแรกก็ดีใจนึกว่าธูปเป็นห่วงแต่พอได้ฟังแบบนี้จึงตอบเรียบๆกลับไป ว่า

"ถ้าคุณจะแค่โทร.มาเตือน ฉันก็รับทราบและขอบคุณมาก...แค่นี้นะคะ"

"เดี๋ยวๆ...แล้ว...เธอจะไปยังไง"

"ก็จะนั่งรถสองแถวหน้าฟาร์มไป แต่คุณไม่ต้องห่วง ฉันจะรีบไปรีบกลับ พยายามให้เสียเวลางานน้อยที่สุดคุ้มกับเงินที่คุณจ้าง" กระเช้าวางสาย ธูปแยกเขี้ยว

"จะพาไปสักหน่อย ทำเป็นอวดเก่ง งั้นก็ไปเองแล้วกัน"

หมี่กรอบเดินเข้าไปถามเพื่อน "วันนี้แกต้องไปหาหมอใช่หรือเปล่า ให้ฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งเอาไหม"

กระเช้าบอกว่าไม่ต้อง หมี่กรอบจึงสรุป

"งั้นฉันรอแกอยู่ที่นี่นะ ถ้ามีอะไรระหว่างทางก็โทร.มาเดี๋ยวฉันออกไปรับเอง"

กระเช้าพยักหน้ารีบกลับไปอาบน้ำที่บ้าน ส่วนหมี่กรอบโทร.บอกเทียนทันที ฝ่ายเทียนก็เหมือนตาแก่ได้นั่นลืมนี่ เดี๋ยวลืมกุญแจรถ ไหนจะต้องขับรถกอล์ฟสำหรับทำงานไปเปลี่ยนกับรถตัวเองที่บ้าน กว่าจะออกไปได้กระเช้าก็ไปแล้ว แต่ยังมีอีกรายหนึ่งที่ไปได้ตามแผนคืออิทธิเดช เพราะทับทิมส่งข่าวไปให้พวกแบมบี้ว่ากระเช้าออกไปแล้ว แบมบี้ส่งต่ออีกทอดถึงอิทธิเดชพร้อมๆกับที่แบมบี้และเพื่อนร่วมแก๊งสองคน เตรียมกล้องถ่ายรูปไปพร้อมสรรพ   เสร็จแล้วโทร.มาบอกทับทิมว่า

"พวกฉันอยู่ประจำที่นัดหมายแล้วไม่ต้องห่วง"

"ดีมาก หวังว่าเธอคงจะได้รูปเด็ดๆมาให้ฉันดูนะ" ทับทิมสั่งเสีย

"เออ...ล้างตารอดูได้เลย"  แบมบี้วางสาย  ปาร์ตี้ทำปากบูดกับเพื่อน

"นี่ ฉันพูดตามตรงนะ ฉันไม่ค่อยชอบยายทับทิมนี่เลย ชอบทำเป็นเหมือนเจ้านายพวกเราสั่งให้ทำโน่นทำนี่อยู่นั่น"

"ปล่อยมันไปก่อน ตอนนี้มันยังมีประโยชน์กับเรา เอาไว้มันหมดประโยชน์เมื่อไหร่ค่อยคิดบัญชีย้อนหลัง" แบมบี้พูดอย่างมั่นใจ

ooooooo

กระเช้ามาถึงคลินิกแล้ว ลงจากรถจ่ายเงินให้ คนขับ จะเดินไปที่หน้าคลินิกเกิดสะดุดก้อนหินจนหัวทิ่ม ทันใดก็มีแขนยื่นมากันเอาไว้ เป็นแขนของอิทธิเดชนั่นเอง กระเช้าตกใจหน้าตื่น อิทธิเดชยังไม่ยอมปล่อยเพราะพวกแบมบี้กำลังแอบถ่ายรูป พอหายตกใจกระเช้ารีบถอยออกห่าง อิทธิเดชก้มลงเก็บกระเป๋าถือให้

"เราสองคนเจอกันโดยบังเอิญบ่อยจังเลยนะครับ"

กระเช้ารับกระเป๋า ตอบว่า "มันก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละค่ะ ขอบคุณนะคะ"

กระเช้ารีบเดินแต่ถูกอิทธิเดชเข้าขวางหน้าเลยชนกับอกของเขาเต็มแรง ถูกสามสาวนั่นถ่ายรูปอีกแล้ว กระเช้าถามเขาว่ามีอะไรอีกหรือ อิทธิเดชยิ้มหวาน

"ผมแค่อยากรู้ว่า คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หลังจากที่คุณรู้ว่าผมเป็นเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ดาราคุณก็ทำเหมือนไม่อยากคุย กับผม คุณรังเกียจผมเหรอครับ..." ทำตาเชื่อมใส่

"ฉันไม่ได้รังเกียจ แต่มันก็ไม่เหมาะ ถึงฉันเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ แต่ฉันก็รู้สภาพของสองฟาร์มว่าเป็นยังไง คุณเองเป็นถึงเจ้าของ น่าจะรู้ดี"

"กระเช้าพูดถูก" เสียงเทียนดังขึ้นข้างหลังของอิทธิเดชทำให้เขาสะดุ้ง กระเช้าชะโงกหน้าผ่านอิทธิเดชไปยังเทียนอย่างดีใจหน่อยๆ ส่วนสามสาวถอยกรูดเข้าไปแอบ ต่างคนต่างงงว่าเทียนมาได้ยังไง เทียนกับอิทธิเดชเกือบมีเรื่องกันถ้ากระเช้าไม่ฉุดเทียนเข้าไปในร้านหมอเสีย ก่อน

พอกระเช้ารักษาเสร็จ เทียนก็เดินมาจ่ายเงิน แต่พยาบาลบอกว่าคุณธูปให้ส่งบิลไปที่บริษัท จำไม่ได้เหรอ คราวที่แล้ว คุณธูปพาคุณกระเช้ามาหาหมอเองแล้วสั่งไว้อย่างนี้ กว่าเทียนจะรู้ว่าหมายถึงธูปแต่ไม่ใช่เขาก็มึนตึ้บ

ooooooo

คืนนั้น ทับทิมกับสามสาวสามซ่านัดพบกันที่ร้านกาแฟ พอเห็นรูปที่ไปแอบถ่ายมาทับทิมก็ยิ้มอย่างพอใจ ชมว่าฝีมือถ่ายรูปของพวกนั้นไม่เลวเลย น่าจะไปรับจ็อบเป็นปาปารัซซี่ถ่ายรูปพวกดารา ปาร์ตี้ขัดคอว่าสวยขนาดพวกฉันนี่นะจะไปเป็นทำไมปาปารัซซี่ สวยแบบนี้ต้องเป็นดาราแล้วโดนถ่ายต่างหาก

"ย่ะ...สวยตาย..." ทับทิมแอบด่า แต่เอแคลล์เกิดได้ยิน ถามว่าใครตาย ทับทิมพูดแก้เกี้ยวว่า

"ก็นังกระเช้าไง รูปที่พวกเธอถ่ายมันมาได้ถ้าคุณธูปคุณเทียนกับคุณท่านได้เห็นรับรองมันต้องตายแน่ๆ"

แบมบี้นึกขึ้นมาได้ "เออ แล้วเมื่อเย็น อยู่ๆเทียนก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ แล้วก็ฉกตัวนังกระเช้าไปต่อหน้าคุณอิทธิเดชเลย พวกฉันโดนด่าไปหลายดอก"

"ก็ฉันเห็นมันยืนรอรถอยู่คนเดียวนี่...หรือว่าคุณเทียนตามมันไปทีหลัง...แต่ ก็ช่างเถอะ เพราะรูปที่เราได้มันก็มากพอจะทำให้นังกระเช้าโดนคุณท่านเกลียดเข้าไส้...คง ไม่มีใครอยากได้ลูกสะใภ้ที่เคยกอดกับลูกชายของศัตรูหรอก..." ทับทิมกระเหี้ยนกระหือรือ สามสาวพลอยกระดี้กระด๊าไปด้วย

"งั้นเราก็รีบส่งรูปพวกนี้ไปให้พ่อแม่เทียนดูเลยสิ เขาจะได้เฉดหัวมันออกไปซักที"

"ไม่ได้...ส่งไปตอนนี้ยังไม่ได้ จังหวะยังไม่ดี เพราะวันพรุ่งนี้ฉันกับครอบครัวของคุณธูปจะต้องไปทำบุญให้กับกระดูกของ บรรพบุรุษ เพราะฉะนั้นฉันไม่อยากให้คุณท่านมีเรื่องขัดเคืองใจในตอนนี้" ทับทิมขู่ฟ่อ

"ไปทำบุญ งั้นพวกเราไปด้วย" แบมบี้ร้องออกมา

"โอ๊ว...ไม่ได้จ้ะ เพราะมันเป็นงานภายในครอบครัว คนที่ไปก็ต้องเป็นคนในครอบครัวเท่านั้น สำหรับฉันน่ะ คุณท่านเอ่ยปากชวนด้วยตนเอง...ก็ทำนองว่าคล้ายคนในครอบครัวเดียวกันน่ะ ความจริงฉันก็อยากให้พวกเธอไปนะ แต่มันเป็นงานคนในครอบครัวจริงๆ ในเมื่อคุณท่านไม่ได้ชวนฉันก็คงชวนแทนไม่ได้ เสียใจด้วยนะ" ทับทิมทำเสียงเศร้าหน้าเศร้านิดๆ แต่พอหันหลังให้ก็ยิ้มอย่างสะใจ สองสาวร้องกรี๊ด แต่แบมบี้ยกมือห้าม

"เดี๋ยวฉันจัดการเอง!"

ooooooo

วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่พวกฟาร์มราชินีกล้วยไม้ต้องไปทำบุญที่วัด บุปผาตื่นแต่เช้าจัดแจงเรียกข้าทาสบริวารให้ตระเตรียมข้าวของขึ้นรถ แล้วยังจัดการไปถึงสามีกับลูกสองคนอีกด้วย แม้กระทั้งศีลจะนั่งอ่านหนังสือคอยก็ไม่ได้ ดุว่า

"อ้าว...จะมาอ่านอะไรตอนนี้ นี่จะได้เวลาไปแล้ว"

"คุณจะไป...แต่ไอ้เจ้าสองคนยังไม่ลงมาเลย แล้วแขกที่คุณเชิญไว้ก็ยังไม่มาสักคน" สิ้นคำพูดศีลก็ได้ยินเสียงทับทิมตอบหวานจ๋อย

"ทับทิมมาแล้วค่ะ..."

ศีลกับบุปผาหันไปตามเสียง เห็นทับทิมอยู่ในชุดสวยเก๋ค่อนข้างเรียบร้อยและราคาแพง ทับทิมยกมือไหว้ บุปผากับศีลยิ้มรับ บุปผาเอ่ยว่า

"ปกติเห็นแต่หนูทับทิมอยู่ในชุดทำงาน แต่พอแต่งตัวแบบนี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบนะ"

ทับทิมยกมือไหว้ขอบคุณคำชม เทียนโผล่ออกมาจากบ้านคำแรกที่ถามคือ กระเช้ายังไม่มาหรือ

"ถ้ามาแล้วก็ต้องเห็นสิ" บุปผาตอบ ทับทิมแอบยิ้ม แอบมองเข้าไปในบ้านด้วย ส่วนเทียนก็มองไปที่หน้าบ้านหากระเช้าเหมือนกัน

ที่ถนนภายในฟาร์ม หมี่กรอบกำลังขับมอเตอร์ไซค์มาส่งเพื่อน ยังไม่ทันถึงบ้านบุปผาเสียงรถก็กระตุกถี่ๆแล้วเครื่องก็ดับ หมี่กรอบถอนใจ

"เฮ้อ...เสียชีวิตอีกแหละรถฉัน...ขอโทษนะเพื่อน รถมันเกเรไปหน่อย"

"ไม่เป็นไร...อย่างน้อยมันก็ดีกว่าฉันเดินมาเอง...ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน" กระเช้ายิ้มให้เพื่อนแบบเซ็งๆจะเดินไป แต่หมี่กรอบเรียกเอาไว้ แล้วเดินเข้ามาจับมือ

"กระเช้า...แกเป็นคนที่โชคดีมากนะที่ได้รับความเอ็นดูจากด็อกเตอร์และคุณ ท่านซึ่งเป็นคนดีมากๆ แกควรจะตัดเรื่องคุณเทียน คุณธูป หรือใครต่อใครออกไป แล้วก็ตั้งจิตคิดแต่สิ่งดีๆ ได้ทำบุญกับคุณท่านทั้งสองคนถือเป็นมงคลชีวิตแกนะ"

กระเช้าบีบมือเพื่อนตอบ "ขอบใจมากนะหมี่กรอบ"

หมี่กรอบยิ้มอีกพลางยกมือสองนิ้วชู "สู้ๆนะเพื่อน วันนี้แต่งตัวแต่งหน้าสวยแล้ว ยิ้มสวยๆไว้ ยิ้มอย่างนางงามน่ะ อย่าลืม" กระเช้าเลยหัวเราะออกมาได้

ธูปยังไม่ลงมา ยืนคอยดูกระเช้าที่หน้าต่าง เห็นกระเช้ากำลังเดินเข้าบ้าน เทียนวิ่งเข้าไปประคองทันที ธูปมองด้วยความเซ็ง นินทาว่า แค่ขากะเผลกนิดเดียวประคองยังกะคนไม่มีขา รู้สึกคันยุบยิบทั่วตัวไปหมดเพราะตัวอิจฉามันเข้าไปเกาะ มีเสียงเคาะประตู ธูปเดินไปเปิด ทับทิมยืนอยู่ตรงนั้น เธอห่อปากร้องว้ายออกมาดังลั่น เพราะเห็นธูปใส่แต่กางเกงยังไม่ได้สวมเสื้อ หน้าอกของเขาอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ พอถูกเขาถามว่ามาเคาะห้องทำไม ทับทิมก็อึกอัก

"เอ้อ...คือ...คุณท่านให้ทับทิมมาตามคุณธูปน่ะค่ะ คือ...ทุกคนพร้อมจะเดินทางแล้วค่ะ"

ธูปให้เธอไปบอกแม่ว่าเดี๋ยวเขาจะลงไป แต่ทับทิมไม่ได้ยินเอาแต่จ้องธูปอยู่นั่น จนธูปต้องกระชากเสียงใส่

"ไปบอกคุณแม่...เดี๋ยวฉันจะลงไป แล้วเธอก็ลงไปก่อนด้วย"

ooooooo

ที่หน้าบ้าน รถตู้มาจอดเตรียมพร้อมอยู่แล้ว มีสาวใช้ที่จะไปช่วยงานที่วัดยืนรออยู่ กระเช้ากับเทียนยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นนัก ศีลกับบุปผาเดินออกมาจากบ้าน กระเช้ารีบยกมือไหว้พร้อมกล่าวสวัสดี พ่อแม่ของเทียนยกมือรับไหว้ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรกัน ทับทิมก็วิ่งหน้าตั้งออกมาสมทบพลางร้องรายงานบุปผา

"คุณธูปกำลังจะลงมาค่ะ" เสียงสั่นนิดหน่อยเพราะยังสยองเสียงไล่ของธูปเมื่อกี้ บุปผาขอบใจแล้วหันไปทางกระเช้า

"เห็นเทียนบอกว่าพาหนูไปหาหมอรักษาขามา เป็นยังไงบ้าง ค่อยยังชั่วหรือยัง"

"ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ หมอให้ยามาทา ไม่นานคงจะดีขึ้นค่ะ"

"ดีแล้ว หายไวๆนะ" บุปผาพูดเหมือนอวยพรไปในตัว แต่ต้องชะงักคำพูดแค่นั้นเพราะเสียงธูปดังขึ้น

"บางทีเขาอาจจะไม่อยากหายก็ได้นะครับคุณแม่"

กระเช้าฟังแล้วสะดุดหู แต่เทียนว้ากทันที

"นายธูป...แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง"

"ก็หมายความว่า เขาอยากจะป่วยแบบนี้ตลอดไป เอาไว้ อ้อนหนุ่มๆอย่างแกไง"

"ดีซิ...เพราะฉันชอบอยู่แล้วเวลาที่กระเช้าอ้อนฉัน หวังว่าแกคงจะไม่อิจฉาหรอกนะ"

บรรยากาศชักเริ่มมีกลิ่นตุๆ บุปผาเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยรีบห้าม

"นี่สองหนุ่ม...วันนี้วันทำบุญกระดูกปู่ย่าตายาย  จะพูดเล่นพูดหัวอะไรกันก็ให้มันเบาๆหน่อย เดี๋ยวบรรพบุรุษตกใจหมด... ไป...ไปขึ้นรถกันได้แล้ว" สั่งเสร็จบุปผาก็จัดคู่ให้นั่งด้วยกันไปซะเลย "หนูกระเช้ากับเทียนนั่งคู่กันไปเบาะหลัง ทับทิมกับเจ้าธูปนั่งคู่กันไปเบาะกลาง ส่วนคุณนั่งคู่กับฉันเบาะแรกเลย"

พ่อแม่ขึ้นรถแล้ว เทียนหันไปประคองกระเช้าโดยตั้งใจจะให้ธูปเห็น กระเช้ารู้สึกอึดอัดแต่ไม่รู้จะทำยังไงต้องเดินกะเผลกไปที่รถ แต่ธูปคว้ามือทับทิมเดินตัดหน้าจะขึ้นก่อน พอเดินผ่านก็กระแทกเสียงใส่ลมใส่แล้งให้ใครฟังก็ไม่รู้

"แค่ขาเจ็บ ทำยังกะขาขาด"

สามคู่หน้าตาแต่ละคนไม่เหมือนกัน บุปผายิ้มออก นอกหน้าเหมือนกับทับทิมไม่มีผิด ธูปนั่งหน้างอ ศีลทำหน้าเฉยๆ เทียนอมยิ้มน้อยๆที่เห็นพี่ชายโมโห ข้างทางที่รถกำลังจะแล่นผ่าน เทียนเห็นหมี่กรอบกำลังเดินจูงมอเตอร์ไซค์เพื่อเอาไปซ่อมจนหน้าเหยเพราะความหนัก เทียนเหลียวมองตาม ในใจรู้สึกสงสารหมี่กรอบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

พอไปถึงวัดกำลังถวายของพระก็มีมารสาวสามตัวมาผจญ หิ้วถังสังฆทานติดมาด้วย บรรยากาศในที่นั้นเริ่มอลเวงทันทีด้วยการก่อกวนของสามสาว ทุกคนใจเริ่มไม่สงบ แม้กระทั่งทับทิมที่เป็นคนบอกข่าวเรื่องทำบุญวันนี้ก็ตบะแตก ทะเลาะกับแบมบี้ ปาร์ตี้ และเอแคลล์ไปหลายคำ เสร็จงานทุกคนกลับบ้านด้วยจิตใจไม่ค่อยผ่องใสกันเท่าไหร่

ooooooo

ที่ฟาร์มราชินีกล้วยไม้หลังจากที่ติดกล้องวงจรปิดแล้วก็มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรคอยดูแลอย่างเข้มงวด บัญชาถือโอกาสที่เจ้านายไปทำบุญกันหมดมาเดินเลียบๆเคียงๆทำเป็นว่ามาดูแลความเรียบร้อย พอเห็นเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ๆที่มาประจำในห้องควบคุม บัญชาก็แนะนำตัวเอง

"พี่เป็นหัวหน้าคนงานที่ฟาร์มนี้ มาช่วยเจ้านายดูแลความเรียบร้อยน่ะ...แล้วมีปัญหาอะไรไหม"

"ไม่มีครับ"

"เออๆ ดี ไม่มีก็ดีแล้ว...เออ แล้วที่โรงกล้วยไม้มีกล้องทั้งหมดกี่ตัว

"สิบสองตัวครับ"

"โห...เยอะจัง แล้วเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยหรือเปล่า"

"ใช่ครับ"

"แล้วพวกน้องก็ต้องนั่งเฝ้าดูทั้งวันเนี่ยนะ"

"ใช่ครับ แต่เราจะมีเวรสลับกันเข้ามาดู" เจ้าหน้าที่ตอบนอบน้อม หมี่กรอบเดินเข้ามา พอเห็นบัญชาก็ชะงัก

"อ้าว...หัวหน้า...เข้ามาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"มีหรือไม่มี ฉันต้องรายงานเธอด้วยเหรอ" บัญชาเบ่งใส่ หมี่กรอบตอบนิ่งๆ

"ใช่ค่ะ เพราะคุณท่านให้ฉันเป็นคนดูแลความเรียบร้อยของการติดตั้งกล้องวงจรปิด และต้องรายงานว่ามีใครเข้าออกในห้องควบคุมบ้าง"

บัญชายิ่งโกรธหนัก ทำเสียงแข็งใส่ "ถ้าอย่างนั้น...ก็รายงานคุณท่านไปเลยว่าฉันเข้ามา...และยืนหายใจอยู่ในนี้ไม่ถึงห้านาที ถ้ามันจะทำให้ทางฟาร์มเสียหายก็ไล่ฉันออกได้เลย" บัญชาสะบัดก้นออกไปด้วยความแค้น พอเดินพ้นห้องออกมาแล้วก็คำรามว่า "ทำเป็นเรื่องมาก กะอีแค่กล้องวงจรปิด มันหยุดฉันไม่ได้หรอก..."

ooooooo

หมี่กรอบคอยกระเช้ากลับจากวัดอยู่ในห้องอย่างเป็นห่วง เธอฆ่าเวลาด้วยการเอาหนังสือความรู้เกี่ยวกับกล้วยไม้มานอนอ่านไปด้วย  แต่ก็ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่  รู้สึกตงิดๆว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับกระเช้าที่วัด ดังนั้น พอกระเช้าเปิดประตูเข้ามา  หมี่กรอบลุกพรวดขึ้นถามทันที

"กระเช้า...เป็นไงบ้าง"

"ก็สบายดี...ขาก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่"

"ฉันไม่ได้หมายถึงขา ฉันถามถึงงานวันนี้น่ะเป็นไงบ้าง คุณเทียน คุณท่าน คุณธูปเป็นยังไง โอเคกับแกหรือเปล่า"

กระเช้ามองหน้าหมี่กรอบแล้วถอนใจ"เฮ่อ...ก็ดีมั้ง" กระเช้านึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนถึงเวลากลับเพียงเล็กน้อย ตอนที่เธอเอาถ้วยที่กรวดน้ำลงไปเทที่ต้นไม้และไปพบธูปยืนรออยู่ พอเจอหน้าเธอเขาก็ใส่ฉอดๆว่า เธอทุ่มเทให้กับเทียนมากไปเดี๋ยวจะต้องเสียใจแน่ๆถ้าเทียนไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้ และพูดเน้นว่า

"เธอก็รู้ว่าน้องชายฉันหว่านเสน่ห์ไปทั่ว นี่ขนาดมาวัดยังตามกันมาเป็นพรวน"

กระเช้าจำได้ว่าเถียงธูปไปว่า "ฉันมั่นใจในตัวคุณเทียน เขาจะมีผู้หญิงมากมายแค่ไหนฉันไม่สน"

"ถึงเธอไม่สน แต่ผู้หญิงพวกนั้นไม่ปล่อยเธอไว้แน่ เขาจะต้องขุดคุ้ยเรื่องของเธอ และอีกไม่นานเทียนมันจะได้รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นยังไง"

ด้วยความโกรธ เธอจึงลุกขึ้นอย่างเร็วเลยเซจะล้มและธูปก็เข้ารวบตัวเอาไว้ได้ทัน หลังจากนั้นเทียนไม่รู้พุ่งพรวดมาจากไหน เข้ามาจะชกธูป กระเช้าคิดว่าตอนนั้นเธอได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในคำอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เทียนฟัง แต่เทียนก็ยังฮึดฮัดมึนตึงกับเธอตลอดทาง

หมี่กรอบฟังกระเช้าเล่าเรื่องทั้งหมดแต่กลับไปสนใจอยู่เรื่องเดียว ร้องออกมาเสียงดังเลย

"หา...คุณธูปกอดแกเนี่ยนะ"

"เขาไม่ได้กอด แต่มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆนะ"

"เออๆ อุบัติเหตุเข้าใจละ แล้วกอดกันอยู่นานหรือเปล่า"

"บ้าเหรอ จะนานได้ยังไง พอฉันรู้สึกตัวฉันก็รีบออกห่าง แต่มันไม่ทัน คุณเทียนเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันต้องอธิบายตั้งหลายรอบกว่าคุณเทียนจะเข้าใจ"

เสียงมือถือของหมี่กรอบดังขึ้น เธอเอื้อมมือไปหยิบแล้วพึมพำในลำคอเมื่อเห็นชื่อเทียนติดต่อมา

"สงสัยจะไม่เข้าใจชัวร์"

ooooooo

พอไปเจอหน้าเทียนก็จริงดังคาด เทียนเล่าให้ฟังแบบไม่ติดเบรกเลยว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมธูปกับกระเช้าถึงอยู่กันสองต่อสอง แล้วทำไมมันต้องช่วยกระเช้า แล้วกระเช้าต้องรีบออกตัวแทนมัน เขาพยายามทำใจให้เชื่อเหมือนกัน แต่มันมีสัญชาตญาณอะไรบางอย่างบอก ไม่ให้เขาวางใจสองคนนี้ ต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ

"คุณเทียน ฉันขอเตือนคุณด้วยความหวังดี ถ้าคุณเริ่มหวาดระแวงแบบนี้ สักวันคุณจะเสียกระเช้าไปจริงๆ เพราะความไม่ไว้ใจจะทำให้เกิดการจับผิด พอคุณจ้องจะจับผิด ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดคุณก็คิดว่าผิดไปหมด ถึงตอนนั้นถ้าคุณไม่เลิก กระเช้าก็ต้องเลิก   ไม่มีใครทนอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นได้หรอก"

"หมายความว่า...ถึงฉันไม่อยากเชื่อ แต่ฉันก็ต้องเชื่ออย่างนั้นเหรอ"

"มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้" หมี่กรอบปลอบเพื่อลดความวิตกจริตของเทียน

คนที่ไปทำบุญในคณะนี้อีกคนก็คือทับทิม พอกลับถึงบ้านก็ขว้างของในมือลงบนที่นอน ด่ากระเช้าว่ากล้าดียังไงมากอดกับคุณธูปของฉัน แล้วก็คว้ากระเป๋าถือมาหยิบโทรศัพท์ กดโทร.ออก รอจนมีคนรับก่อนจะกรอกเสียงลงไป

"พรุ่งนี้ พวกเธอส่งรูปนังกระเช้ากับนายอิทธิเดชมาให้ฉันด้วยนะ ถึงเวลาที่จะต้องใช้มันแล้ว"

พอกลางวันวันรุ่งขึ้น ทับทิมเห็นธูปว่างจากงานแล้วจึงเอารูปไปให้ดู บอกเขาว่า

"มีคนส่งอีเมล์รูปพวกนี้มาให้ทับทิมค่ะ ตอนแรกทับทิมก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าให้คุณเทียนเห็นกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าไม่บอกใครเลยก็คงจะไม่ดี ทับทิมเลยตัดสินใจปรินต์รูปมาให้คุณธูปดูค่ะ"

ธูปเห็นรูปแล้วตกใจ "ใครเป็นคนส่งมาให้"

"เขาไม่ได้บอกชื่อค่ะ บอกแค่ว่าแอบถ่ายมาได้โดยไม่ตั้งใจ และส่งมาให้ด้วยความหวังดี"

"แน่ใจนะว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อ"

"ทับทิมลองขยายดูภาพในคอมพ์แล้วก็ไม่เห็นความผิดปกตินะคะ และดูจากภาพที่ออกมามันเหมือนจริงมาก ทับทิมคิดว่าไม่น่าจะเป็นภาพตัดต่อหรือทำกราฟิกนะคะ...เอ้อ..แต่ถ้าคุณธูปไม่สบายใจ จะให้ทับทิมลบไฟล์แล้วเอารูปไปทิ้งก็ได้ค่ะ" พูดแบบหวังดีซะเต็มประดา

"ไม่เป็นไร ฉันจะเก็บรูปพวกนี้ไว้เอง ส่วนไฟล์ภาพก็ลบทิ้งไปไม่ต้องให้คนเห็น"

ทับทิมรับคำสงบเสงี่ยมแล้วเดินออกไป   ธูปดูภาพอิทธิเดชกับกระเช้าด้วยความไม่พอใจ

ooooooo

ที่ร้านรับซื้อผลไม้ของปิ่นทองเมียใหม่ของชิดชัยพ่อกระเช้า ขณะที่ชิดชัยกำลังสอนลูกน้องให้ห่อผลไม้โดยไม่ให้ช้ำและดูน่ากินอยู่นั้น ชิดชัยเผอิญเห็นรูปของกระเช้าที่หน้าหนังสือพิมพ์จึงหยิบมาดูอย่างตื่นเต้น รูปนั้นคือรูปที่ถ่ายตอนกระเช้าได้เป็นเทพีกล้วยไม้ที่ฟาร์มราชินีนั่นเอง ชิดชัยเห็นสวยจึงคิดจะตัดใส่กรอบไว้ดู ขณะเขากำลังจะเดินออกจากร้าน ปิ่นทองก็เดินสวนเข้ามา

"พี่ชิดจะไปไหน อย่าบอกนะว่าจะเอารูปเนี่ยไปให้นังเมียเก่ามันดู"

"เปล่า...พี่จะเอารูปกระเช้าไปใส่กรอบ ไปไม่นานแป๊บเดียวกลับ"

"อ๋อ...แล้วไป...เออ ถ้ายังงั้นฉันเอาไปทำให้เอง พี่อยู่เฝ้าร้านก็แล้วกัน ฉันไม่ไว้ใจพวกลูกจ้าง" พูดจบก็เข้าไปแย่งรูปจากมือชิดชัยเดินออกไปเลย ชิดชัยส่ายหน้าเซ็งๆ พอดีมีเสียงคนเรียกอยู่หน้าร้าน เขาหันไปดู คนที่มาเรียกเป็นพรานหาของป่ามาขาย เอารูปภาพกล้วยไม้พันธุ์หนึ่งมาให้ดู

"นี่เป็นกล้วยไม้ป่า เมื่อวานไปเจอมา สนใจหรือเปล่า ตอนนี้ให้ลูกชายเฝ้าอยู่ในป่า ถ้าชิดสนใจพี่ค่อยไปตัด พันธุ์นี้หายากมากเลยนะ ถ้าเอาไปปล่อยให้คนเลี้ยงกล้วยไม้ได้หลายหมื่นเลยแหละ"

"ก็รู้ แต่ฉันไม่มีเงินหรอก ตั้งหลายหมื่นน่ะ"

"ถ้าชิดไม่สนใจแล้วมีใครพอจะแนะนำบ้างหรือเปล่า"

ชิดชัยคิดถึงกระเช้าทันที

ooooooo

ที่ฟาร์มราชินีกล้วยไม้ กระเช้าเพิ่งออกเวรกลับถึงบ้าน ถอดเสื้อกันแดดและถอดหมวกออกพาดไม้แขวนแล้วเดินมานั่งที่เตียง ยกขาพาดเก้าอี้ค่อยๆคลายผ้าพันออก ขยับส้นเท้าหมุนไปมาไม่มีอาการเจ็บแล้วกระเช้ายิ้มอย่างดีใจ เสียงมือถือเข้า หยิบมาดูเห็นชื่อเทียนจึงกด
รับแต่ไม่มีอาการแสดงว่าตื่นเต้นเลย

"สวัสดีค่ะคุณเทียน"

"สวัสดีครับ...กระเช้ายุ่งอยู่หรือเปล่า" น้ำเสียงของเทียนต่างกับกระเช้าลิบลับ

"ไม่ยุ่งค่ะ เพิ่งจะให้ยากล้วยไม้ช่วงบ่ายเสร็จ คุณเทียนมีธุระอะไรหรือคะ"

"คือ...เย็นนี้ผมจะชวนคุณไปทานข้าวด้วยกัน คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า"

กระเช้านิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบว่าไม่มี เทียนจึงนัด เวลามาว่าห้าโมงเย็นเขาจะไปรับที่บ้าน เทียนวางสายไปแล้ว กระเช้าค่อยๆวางเหมือนใจลอยๆ บ่ายวันนั้นพอกลับไปทำงานอีกครั้ง เจอหมี่กรอบ กระเช้าเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หมี่กรอบตื่นเต้นเหมือนเป็นคนได้รับนัดเสียเอง
แต่ต้องจ๋อยไปเมื่อกระเช้าบอกว่า

"บอกตรงๆเลยนะ ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่อยากเจอเขายังไงก็ไม่รู้ ไม่ตื่นเต้น ฉันรู้สึกคล้ายกับตัวฉันเองกำลังทำผิด

อะไรบางอย่างกับเขาอยู่...เออหมี่...แกว่าสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่

มันผิดหรือเปล่า การที่ฉันอยากแต่งงานกับคุณเทียนเพราะ เขารวยน่ะ"

หมี่กรอบนิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนตอบ "ถ้าแกไม่รักเขาเลย   แต่จำใจต้องเสแสร้งแกล้งมีความสุขเพราะเงิน มันก็อาจจะไม่ถูกนัก เพราะมันเหมือนแกหาประโยชน์จากความรักของเขา แต่ถ้าแกรักเขา ฉันว่ามันก็ไม่ผิด เพราะพื้นฐานของมันก็ยังมาจากความรัก ความรวยมันก็เป็นเหมือนของแถม...คราวนี้แก..."

"ฉันก็ต้องตอบตัวเองให้ได้...ว่าฉันรักเขาหรือเปล่า" กระเช้าแย่งพูด หมี่กรอบพยักหน้ารับว่าถูกต้อง เสียงมือถือของกระเช้าดังขึ้นอีกแล้ว แต่คราวนี้พอเห็นชื่อคนที่โทร.มากระเช้าก็ตาโตอย่างดีใจ รีบบอกเพื่อนว่าพ่อมาหารออยู่ข้างนอก

ooooooo

เมื่อไปถึงหน้าฟาร์ม เห็นชิดชัยยืนอยู่ข้างๆรถกระบะคันหนึ่ง และกำลังมองดูฟาร์มกล้วยไม้อย่างตื่นเต้น กระเช้าตะโกนเรียกพ่อแล้ววิ่งออกไปหา โผเข้ากอดพ่อด้วยความคิดถึง สองพ่อลูกกอดกันกลม ที่มุมหนึ่งของฟาร์ม ธูปกำลังยืนมองอยู่ด้วยความไม่พอใจ กระเช้าถามพ่อว่าทำไมถึงรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่ ชิดชัยบอกว่า

"พ่อเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ แล้วพ่อก็ขับรถมา พ่อมีเรื่องจะถาม" ชิดชัยเล่าเรื่องที่พรานบุญเอารูปกล้วยไม้มาให้ดู และบอกให้กระเช้าไปถามเจ้านายดูว่าสนใจไหม กระเช้ารีบเอารูปดอกกล้วยไม้ไปให้ศีลดูทันที ศีลซักถามมากมาย แต่ก็บอกว่า

"กล้วยไม้ป่าถือว่าเป็นพืชอนุรักษ์ ห้ามซื้อขายหรือนำออกจากป่าอย่างเด็ดขาด ต้องโทษทั้งจำทั้งปรับเลย"

"หนูขอโทษนะคะ แต่หนูไม่ทราบจริงๆและก็ต้องขอโทษแทนพ่อด้วย"

"ไม่เป็นไรๆ ฉันเข้าใจ...เพราะกฎหมายบางอย่างก็เป็นที่รู้กันในกลุ่ม ฉันไม่โทษหนูกับพ่อหรอก ฉันดีใจซะอีกที่พ่อหนูนึกถึงฉัน เพราะถ้ามันหลุดไปถึงมือคนอื่นป่านนี้มันอาจจะโดนตัดไปแล้ว...ที่สำคัญกล้วยไม้พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ฉันกำลังตามหาอยู่ ฉันจะส่งคนไปดูให้แน่ว่าใช่จริงหรือเปล่า แล้วฉันจะติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ ทำเรื่องเพื่อนำต้นจริงออกมาศึกษา แล้วตอนนี้พ่อหนูอยู่ที่ไหนล่ะ"

"พ่อกลับนครปฐมไปแล้วค่ะ"

"เหรอ...งั้นเอายังงี้ ฉันให้หนูลางานเฉพาะกิจสองวันเพื่อไปดูกล้วยไม้ต้นนี้ให้ฉัน"

"ค่ะ...ได้ค่ะ" กระเช้าดีใจยกมือไหว้ ศีลบอกให้เธอไปเก็บของเตรียมเดินทางเลย เขาจะให้คนของเขาไปรอที่หน้าฟาร์มเพื่อจะได้ไปด้วยกัน

พอกระเช้าออกจากห้องศีลก็โทร.บอกกับเทียนทันที แต่เทียนโวยวายใหญ่

"ผมไปไม่ได้หรอกครับพ่อ เย็นนี้ผมมีนัดสำคัญ"

"ปลีกตัวไปให้พ่อหน่อยไม่ได้เหรอลูก" ศีลใช้ความพยายาม แต่คำตอบที่หนักแน่นกว่าเมื่อกี้ดังมาจากเทียนว่า

"ไม่ได้จริงๆครับพ่อ ผมขอโทษนะครับ เพราะวันนี้ผมมีนัดสำคัญมาก แค่นี้นะครับ" เทียนรีบวางสาย ศีลเกาหัว บ่นออกมา

"เจ้าเทียนมันไปไม่ได้ แล้วจะให้ใครไปล่ะคราวนี้..."

ooooooo

บันไดดอกรัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด