สมาชิก

ระบำดวงดาว

ตอนที่ 16

เมื่อคิดอะไรได้แล้ว ไม้ไปหาเหมยที่กองถ่ายถามว่าว่างไหมไปธุระกับตนหน่อย เหมยถามว่ามีอะไรหรือ ไม้ก็ไม่ยอมบอก

ปยุตรเข้ามาหาเหมยพอดี เห็นเหมยอยู่กับไม้ก็ไม่ ชอบใจ ไม้ถามว่าจะมารับเหมยหรือ พอปยุตรพยักหน้า ไม้ ก็พูดกันท่าว่า

"คงจะไม่ได้ เพราะวันนี้พี่เหมยมีเดทกับผม"

ปยุตรดักคออย่างรู้ทันว่า คำว่าเดทไม่เหมือนพูดกับพี่น้องเลย ไม้ตอบไปอย่างท้าทายว่าก็คงอย่างนั้น ปยุตรเลยถามแหย่ว่าแล้วเหมยคิดอย่างไม้หรือเปล่า

"พี่เหมยคิดยังไงไม่รู้ ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่า ผมรักพี่เหมย!!"

คำตอบของไม้ทำเอาปยุตรอึ้ง  แต่คนที่อึ้งยิ่งกว่าคือ น้ำหวานที่แอบดูแอบฟังอยู่ พอเหมยเดินไปกับไม้ น้ำหวานก็โทรศัพท์ทันที

"ฮัลโหล พี่ต้องเหรอคะ น้ำหวานมีข่าวลึกข่าวลับของเหมยมาบอกค่ะ"

เพียง เท่านั้น เหมยกับไม้ก็ถูกปาปารัซซี่ตามไปจนถึงสำนักงานขายโครงการบ้านจัดสรรที่ไม้พา เหมยไป  ไม้บอกเหมยว่าจะซื้อบ้านไว้ถ้าแม่กุ้งออกจากโรงพยาบาลจะได้พามาอยู่บ้านใหม่ เลย


เหมยบอกว่าตอนนี้ตนก็พอมีเงินอยู่บ้าง ไม้บอกว่าตนตั้งใจจะซื้อให้แม่ สุดท้ายตกลงช่วยกันออกเพื่อแม่กุ้งจะได้สบายเสียทีหลังจากลำบากเพื่อพวกเรา มานานแล้ว

การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเหมยกับไม้ถูกปาปารัสซี่ เก็บภาพไว้ทุกอิริยาบถ

หลังจากนั้น คืนนี้น้ำหวานก็ได้รับโทรศัพท์ของคุณจากต้อง

"ไม่ต้องโทร.มาขอบคุณน้ำหวานหรอกค่ะพี่ต้องของแบบนี้ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก ยังไงก็ต้องมีคนรู้เข้าสักวัน เพียงแต่น้ำหวานไม่อยากให้ประชาชนโดนเหมยหลอกนานๆก็เท่านั้นล่ะค่ะ...สวัสดี ค่ะ"

น้ำหวาน หวานหยดย้อยกับต้อง แต่พอวางสายแล้ว เธอยิ้มสะใจขณะพึมพำ

"ฮึ! นังเหมยฮัว ชั้นรับรองว่าทั้งไมค์ ทั้งปยุตร แกจะไม่ได้ใครสักคน!!"

ooooooo

เช้าวันต่อมาก็มีข่าวไม้กับเหมยลงในข่าวซุบซิบ ลงทั้งภาพและข่าว แต้วเห็นก่อน พอเหมยได้อ่านก็บ่นอย่างหงุดหงิดว่าเขียนมาได้ยังไง ใครๆก็รู้ว่าไม้เป็นน้องชายตน

"พี่เหมย ไม้เขา...ชอบพี่เหมยนะ..." แต้วบอก

"ไม่มีทางแต้ว ไม้เป็นน้องชายพี่ เราเป็นพี่น้องกัน" พอแต้วแย้งว่าแต่ไม่ได้สายเลือดเดียวกันเหมยก็ชะงัก แต่ก็ยังยืนยันว่า "แต่พี่ไม่เคยคิดกับไม้แบบนั้น และพี่ก็ไม่มีวันที่จะคิดด้วย..."

พูดจบเหมยเดินออกไป จึงเห็นว่าไม้ยืนอยู่ ทั้งสองมองหน้ากันแบบ...มีเรื่องต้องคุยกันยาว...

ปยุตรเห็นภาพและข่าวเช่นกัน เป็นภาพไม้โอบเอวเหมยพากันดูบ้าน เขานึกถึงคำพูดของไม้ที่ยอมรับว่าตัวเองรักเหมย แม้ปยุตรจะรู้ว่าหนังสือพิมพ์ลงเพื่อการขายข่าว แต่ลึกๆแล้วก็อดนึกหึงไม่ได้เหมือนกัน

เหมยกับไม้พากันไปนั่งคุยที่สะพานหน้าบ้าน เหมยบอกน้องชายด้วยความรักว่า รู้ว่าไม้คิดและรู้สึกอย่างไรกับตนซึ่งก็ห้ามไม่ได้ แต่สำหรับตนเองแล้ว เหมยย้ำว่า

"พี่ไม่เคยเห็นไม้เป็นอย่างอื่น นอกจากน้องชายของพี่ ความรู้สึกผูกพันแบบพี่น้องที่พี่มีให้ไม้มันไม่มีวันเปลี่ยนเป็นแบบอื่นได้"

ไม้ถามอย่างน้อยใจว่าเพราะเหมยมีปยุตรใช่ไหมถึงไม่รักตน ทำให้เหมยต้องพูดจริงจังว่า

"ฟังพี่นะไม้ ถึงปยุตรเขาจะไม่เข้ามาในชีวิตพี่ พี่ก็ไม่มีวันคิดแบบนั้นกับไม้ ลองกลับไปคิดดูดีๆว่าความรู้สึกที่ไม้มีให้กับพี่ มันใช่ความรักแบบหนุ่มสาวหรือเปล่า หรือจริงๆแล้วมันเป็นแค่ความผูกพันที่ไม้เข้าใจผิดไปเอง" พูดแล้วเห็นไม้นิ่งไปอย่างพูดไม่ออก เหมยเสยผมให้น้องอย่างเอ็นดู พูดอย่างอ่อนโยนอบอุ่นว่า "เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะ สักวันไม้ต้องเจอคนที่ดี คนที่ใช่ เชื่อพี่สิ"

"ผมจะพยายาม แม้ว่ามันคงจะยากเหลือเกิน" ไม้ตอบรับ เหมยโผเข้ากอดน้องไว้อย่างสุดรัก ไม้กอดตอบ

เจ้ากรรม! ปยุตรมาเห็นเข้าพอดีจนได้ เขายืนอึ้งปวดจี๊ดที่หัวใจ เหมยเห็นเข้ารีบผละจากไม้ ปยุตรข่มความรู้สึกบอกว่ามารับเหมยไปกองถ่ายป่านนี้นักข่าวคงรออยู่เต็มกอง แล้ว เหมยจึงเดินไปกับยุตร แต่แล้วปยุตรก็ชะงัก เมื่อได้ยินเสียงไม้ร้องบอกมาว่า

"ฝากดูแลพี่เหมยแทนผมด้วยนะพี่ยุตร" ปยุตรหันไปยิ้มให้ไม้ที่ยืนมองและยิ้มให้อยู่แล้ว

ooooooo

ฝ่ายรมมี่ หลังจากคุยกับพีทแล้ว เธอนัดพบเป้ยปฏิเสธงานที่คุยกันไว้แล้ว เป้ยถามอย่างเสียดายว่าค่าตัวตั้งเจ็ดหลัก หลังจากนั้นยังจะมีงานตามมาอีกมายมาย ทั้งอีเวนต์ ละคร ปฏิทิน ให้รมมี่ลองไปคิดใหม่ดีไหม

"รมมี่คิดดีแล้วค่ะ เงินกับชื่อเสียงอาจจะมีค่าสำหรับรมมี่ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ตอนนี้มันมีค่าไม่เท่ากับคนที่เขารักและเข้าใจรมมี่หรอกค่ะ"

แต่รมมี่ไม่ได้เอ่ยพาดพึงถึงใคร หลังจากบอกปฏิเสธงานแล้วก็ขอบคุณที่เป้ยป้อนงานให้ พูดอย่างถนอมน้ำใจว่า

"ไว้มีโอกาส เราคงได้ร่วมงานกันอีก รมมี่ขอตัวเลยนะคะ สวัสดีค่ะ"

พูดเสร็จรมมี่ยกมือไหว้ลาแล้วเดินออกไปเลย ปล่อยให้เป้ยมึนที่รมมี่ยอมทิ้งเงินตัวเลขถึงเจ็ดหลักอย่างง่ายดาย

ooooooo

หลังจากที่ป้องถูกคุณพิงค์เรียกไปเตือนแล้ว เขาโทรศัพท์นัดพบกันต์ โดยจะไปหาที่โรงพยาบาลเอง หลังจากโทร.นัดแล้วป้องก็คิดหนักใจซึ่งก็ไม่ต่างกับกันต์ที่ไม่แน่ใจว่าตน พร้อมจะฟังทุกอย่างจากป้องหรือไม่

จนกระทั่งเย็น ทั้งสองพบกันที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล ป้องบอกกันต์ว่าถูกคุณพิงค์เรียกไปคุยเรื่องข่าวกับกันต์ เตือนให้รักษาภาพพจน์เพราะกลัวคนดูจะรับไม่ได้ กันต์ถามว่าตนทำให้เขาลำบากใจหรือเปล่า ป้องตอบอย่างสับสนว่า

"ผมไม่เคยลำบากใจ แต่ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไปเกี่ยวกับเรื่องของเรา ผมไม่เคยคิดว่าความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผม"

กันต์เสนอให้เรื่องของเราจบแค่นี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่ป้องไม่ต้องการแบบนั้น เขายังอยากให้กันต์อยู่ข้างๆเขาแบบนี้ต่อไป ทั้งสองเลยอยู่ในความนิ่งเงียบ จับมือมองหน้ากันเศร้าๆ

เหมยเห็นทั้งคู่ เธอเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองดี พอป้องหันมาเห็นเหมยก็ค่อยๆปล่อยมือจากกันต์

"กันต์ พี่อยากคุยด้วย" เสียงเหมยดังขึ้น ป้องกับกันต์มองกันอย่างรู้ได้ว่าเหมยจะคุยเรื่องอะไร ป้องเลยขอตัวกลับก่อน หันไปทางเหมยบอกว่า ไว้เจอกันนะเหมย เหมยบอกให้เขาอยู่ด้วยเพราะอยากคุยกับทั้งสองคน พลางเดินเข้าไปหากันต์ พูดอย่างพี่สาวที่รักน้องว่า

"พี่ไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างกันต์กับคุณป้อง ความจริงมันเป็นยังไง แต่พี่แค่อยากจะบอกว่า ความสุขของเราคือการได้ยืนอยู่บนความจริง ไม่โกหกคนอื่น และที่สำคัญต้องไม่โกหกตัวเอง"

เหมยพูดจากประสบการณ์ของตัวเอง ป้องกับกันต์มองหน้ากันอย่างรู้สึกผิดที่หลอกตัวเอง

"บางครั้ง ความจริงมันก็ไม่ได้มาพร้อมกับการยอมรับ แต่จำไว้นะ ความจริงมันมาพร้อมกับความสุขเสมอ เชื่อพี่นะกันต์" เหมยตบบ่าทั้งสองคนอย่างให้กำลังใจแล้วเดินกลับไปที่ห้องแม่กุ้ง

ป้องกับกันต์ยืนนิ่งทบทวนคำพูดของเหมย เพียงชั่วครู่ก็มองหน้ากันด้วยประกายตาที่ชัดเจนขึ้น

ooooooo

ก่อนนี้...คือตอนกลางวัน ที่กองถ่ายยอดยาหยี น้ำหวานถือหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเหมยกับไม้นั่งให้ ช่างแต่งหน้าแต่งผมอยู่ในห้องแต่งตัว มดแดงกับเหมยเดินเข้ามา มดแดงคุยเจื้อยแจ้วจนคนทั้งห้องแต่งตัวได้ยินทั่วกันว่า

"เมื่อกี้น้องเหมยตอบคำถามนักข่าวดี๊ดีฮ่ะ ซื้อบ้านเพื่อสร้างอนาคตให้กับน้องและแม่ ครอบครัวของเราจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น" มดแดงชมว่าเล่นเอานักข่าวหมดคำถามไปเลย

เหมยบอกว่าตนตอบตามความจริง น้ำหวานฟังแล้วนึกแค้นว่าเหมยรอดตัวไปได้อีกแล้ว แต่พอได้ยินมดแดงพูดแขวะว่า เหมยปิดประเด็นชู้สาวระหว่างตัวเองกับไม้ได้อย่างหมดจด แต่ต่อไปก็ยังต้องระวังเพราะคนเต้าข่าวอาจจะอยู่แถวนี้ น้ำหวานก็มองขวับตวาดถาม "เจ๊หมายถึงใคร..."

มดแดงทำสะดิ้งถามว่าตุ๊กแกที่ไหนกินปูนร้อนท้อง เลยต่อปากต่อคำกับน้ำหวาน จนเหมยต้องหย่าศึกโดยขอร้องมดแดงให้หยุด มดแดงหยุด แล้วเดินลอยหน้าก้นบิดขอไปเข้าห้องน้ำเติมแป้งหน่อย

น้ำหวานค้อนมดแดงแล้วลุกขึ้นมาเผชิญหน้าเหมย พูดเบาๆแต่กร้าวว่า

"สงครามระหว่างเธอกับฉันมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เตรียมตัวไว้ได้เลย!!"

นี่เอง ทำให้เหมยรู้ทันทีว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือน้ำหวาน นี่เอง เลยได้แต่ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย พอดีทีมงานมาตามเหมยไปเปลี่ยนชุด เหมยจึงออกจากห้องแต่งตัวไปเซ็งๆ

ooooooo

และแล้วก็มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อนักข่าวที่กำลังทยอยกันกลับ ปยุตรเองก็กำลังจะไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง น้ำหวานส่งเสียงอ่อยมาว่า เหมยให้สัมภาษณ์เสร็จก็จะกลับเลยหรือไม่คิดจะแวะไปทักทายตนบ้างหรือ

ปยุตรตอบอย่างหงุดหงิดว่าตนบอกแล้วว่าเราต่างคนต่างอยู่ น้ำหวานหัวเราะเสียงใสถามว่า

"หงุดหงิดอะไรคะเนี่ย หรือเป็นเพราะเรื่องเหมยกับไมค์...เข้าใจค่ะ คนเป็นแฟนกันมันก็อดหึงไม่ได้หรอก เพราะยังไงเหมยกับไมค์ก็ไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ"

"ผมรู้ดีว่าเหมยเป็นคนยังไง"

"ก็ดีค่ะแต่ระวังไว้บ้างก็ไม่เสียหายนะคะ เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใคร น้ำหวานเป็นห่วงคุณน่ะค่ะ" พูดแล้วทิ้งสายตาให้อย่างเปิดเผย

ที่ตรงนั้นเป็นที่รถอุปกรณ์ไฟจอดอยู่ มีเชือกเส้นหนึ่งที่ผูกไว้กับไฟดวงโตดึงรั้งขาไฟจนเชือกตึง ปยุตรเหลือบเห็น เขาตกใจเมื่อเห็นไฟดวงโตนั้นกำลังล้มคว่ำมาตรงที่น้ำหวานยืนอยู่

"ระวัง!!" ปยุตรร้องเตือนพุ่งเข้าไปคว้าตัวน้ำหวานหลบ ไฟดวงโตจึงเฉียดน้ำหวานไปนิดเดียว แต่ขาไฟล้มกระแทกแขนปยุตรที่เอาตัวบังน้ำหวานไว้


หน้าต่อหน้าแนบสัมผัสกันโดยบังเอิญ ปยุตรไม่ได้สนใจ เพราะกำลังเจ็บแขน แต่น้ำหวานรู้สึกวูบวาบกับสัมผัสนั้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนทั้งอบอุ่นซาบซ่าจน บอกไม่ถูก

เมื่อปยุตรลุกขึ้น น้ำหวานขอบคุณที่เขาช่วยตนไว้ ปยุตรถามว่าเธอไม่เป็นไรใช่ไหม น้ำหวานพยักหน้าตายังมองปยุตรอย่างชื่นชม

เหม ยออกจากห้องแต่งตัวเห็นปยุตรอยู่กับน้ำหวานในสภาพไม่ปกติก็ชะงัก น้ำหวานเห็นเหมยเลยได้ทีตรงเข้าไปจับแขนปยุตรถามว่าเจ็บไหม จะพาไปหาหมอ เขาปฏิเสธ

บอกว่าไม่เป็นไร เธอเลยทำทีขอตัวแต่พอก้าวออกไปก็เซจะล้ม ปยุตรรีบเข้าประคองไว้ คราวนี้น้ำหวานกอดเขาไว้แน่นซบอกเขาอย่างเกินกว่าเหตุ แต่สายตาชำเลืองไปทางเหมยอย่างท้าทาย

เหมยอึ้งแต่พยายามไม่คิดอะไร ก้มหน้าเดินน้ำตาคลอเลี่ยงไป น้ำหวานจึงผละจากปยุตรบอกเขาว่าสงสัยเท้าแพลง แต่ตนยังไหวบอกให้เขากลับไปเถอะ

พอปยุตรไปที่รถ น้ำหวานก็กลับเข้าไปในกองถ่ายอย่างอิ่มเอมใจ

ปลายเชือกที่มัดกับขาไฟดวงโตมีมือชายคนหนึ่งกำเชือกไว้แน่นอย่างโกรธแค้นอะไรบางอย่าง!

ooooooo

ไม้ เองก็กลับมานั่งซึมเสียใจเรื่องเหมย แต้วเดินมาปลอบใจเขาว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้ไม้ดีขึ้นไม่มีใครบังคับหัวใจให้รักหรือไม่รักใครได้ หรอก ไม้เองก็พยายามทำใจอยู่แต่เวลานี้ยังคิดไม่ตก แต้วพูดปลอบใจจากความรู้สึกของตัวเองว่า

"ถ้าเรารักใครสักคน แล้วไม่ได้รับความรักนั้นตอบ มันก็เจ็บแบบนี้แหละ แต่เราก็ยังมีความสุขที่ได้รักเขาไม่ใช่เหรอ เพียงแต่ว่ามันคงต้องยอมเป็นทุกข์ที่ต้องรอว่าเมื่อไหร่เขาจะรักเรา"

ไม้มองหน้าแต้วแซวอย่างเอ็นดูน้องว่า "แก่แดด พูดยังกับเข้าใจความรักได้ดีนักนี่"

"ก็ แต้วเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน" แต้วหัวเราะเบาๆ แต่ไม้ชะงักเพราะเขาเองก็รู้ดีว่าแต้วคิดอย่างไรกับตัวเอง แม้ว่าเขาไม่ได้รักแต้วแบบนั้น แต่วันนี้เขามีแต้วมาคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ต่างนั่งเงียบๆอย่างเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน...

ส่วนเหมยที่ เห็นภาพปยุตรจับมือน้ำหวานที่ข้างรถอุปกรณ์ไฟก็สะเทือนใจ กลับไปป้อนข้าวให้แม่กุ้งที่โรงพยาบาลก็ยังทำใจไม่ได้ แม่กุ้งทักว่ามีอะไรหรือเปล่าหน้าตาไม่ค่อยดีเลย เหมยบอกแม่กุ้งว่าไม่มีอะไร แต่แม่กุ้งที่อาบน้ำร้อนมาก่อนและเลี้ยงเหมยมาแต่เล็กดูออก บอกว่าอย่าปิดแม่เลย เหมยถึงกับน้ำตาคลอที่ถูกแม่กุ้งพูดจี้ใจดำ เล่าให้ฟังว่า

"เหมยไม่เข้าใจคุณยุตรเขาเลยค่ะแม่ เหมยเห็นเขาจับมือถือแขนกับน้ำหวาน แต่พออยู่ต่อหน้าเหมยเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมยไม่เข้าใจจริงๆ" เหมยร้องไห้ออกมา อย่างไม่ปิดบัง

"ไม่เข้าใจก็ต้องหาทางทำความเข้าใจ ให้เร็วที่สุด ความรักน่ะ ถือทิฐิไม่ได้นะลูก ถ้าเหมยรักคุณยุตร เหมยก็ต้องเปิดใจกับเขา" แม่กุ้งลูบหัวเหมยอย่างรักและห่วงใย

เหมยพยักหน้าให้แม่กุ้งอย่างเชื่อฟัง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเคลียร์เรื่องนี้กับปยุตรได้จริงๆ

ooooooo

คืนนี้ น้ำหวานยังมีอารมณ์ค้างกับรสสัมผัสที่หน้าแนบหน้ากับปยุตร อารมณ์ค้างรุมเร้าจนทนไม่ได้ โทรศัพท์ไปหา เป็นเวลาที่เขากำลังเขียนข่าวอยู่ เขารับสายโดยไม่รู้ว่าเป็นใคร

"คุณยุตรคะ นี่น้ำหวานเองค่ะ เอ่อ...คือ...น้ำหวานอยากโทร.มาขอบคุณคุณอีกครั้งเรื่องวันนี้"

ปยุตรชะงักนึกรู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ธรรมดาแน่ จึงระวังในการคุย

พอ ดีเหมยตัดสินใจโทร.มาหาเขาหมายจะเคลียร์เรื่องที่ค้างคาใจ แต่สายไม่ว่าง ปยุตรเองก็รู้ว่ามีสายแทรกเข้ามาเป็นสายจากเหมย เขาพยายามจะตัดสายจากน้ำหวาน แต่น้ำหวานไม่ยอมวางสายง่ายๆ จนเมื่อปยุตรบอกตรงๆว่าตนมีสายเข้าเอาแค่นี้ก่อน

"เดี๋ยวค่ะ เหมยรึเปล่าคะ หวังว่าน้ำหวานคงไม่ทำให้ เหมยเข้าใจคุณผิดนะคะ" น้ำหวานยื้อ

"ไม่หรอกครับ เหมยเป็นคนมีเหตุผล" ปยุตรรีบบอกแล้วตัดสายน้ำหวานทิ้ง แต่เหมยก็วางสายไปแล้ว ซ้ำยังปิดเครื่องด้วย บ่นงอนๆว่า

"ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย"

ส่วนน้ำหวาน พอปยุตรตัดสายก็พูดอย่างหมายมาดที่จะแย่งปยุตรมาให้ได้ว่า

"คุณยุตร น้ำหวานจะทำให้คุณเห็นว่าน้ำหวานมีดีกว่านังเหมยเป็นไหนๆ!!"

ooooooo

ความ รักความเข้าใจระหว่างพีทกับรมมี่เป็นไปอย่างราบรื่นเข้าใจกันมากขึ้นทุกวัน วันนี้ก็พากันไปไหว้พระให้อาหารปลากันอย่างสบายใจ หลังจากให้อาหารปลาแล้ว รมมี่ชวนไปนมัสการหลวงพ่อเพื่อให้ท่านช่วยดูฤกษ์แต่งงาน

พีทดีใจมาก ถึงกับร้องไชโยออกมา ดังนั้นหลังจากหลวงพ่อดูฤกษ์ให้แล้วทั้งสองนัดพบกับเหมยที่ร้านอาหารบอกว่า มีเรื่องสำคัญจะบอก แต่ก็ยังอำไว้ จนเหมยสงสัยว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับปยุตรหรือเปล่า

รมมี่แกล้งอำให้เหมยตื่นเต้นสงสัย จนเมื่อปยุตรเดินอ้าวเข้ามาเขาขอโทษที่มาช้า เห็นเหมยนั่งหน้าตึงอยู่เขารีบบอกกึ่งแก้ตัวว่า

"เมื่อ คืนผมโทร.กลับไปหาเหมยแต่ปิดเครื่องไปแล้ว" เหมยบอกว่าแบตหมดพอดี ปยุตรพูดไปตามน้ำว่า "ผมก็ว่าอยู่แล้ว แล้วนี่รอผมอยู่หรือเปล่า"

เหม ยบอกว่ารมมี่มีเรื่องจะบอกแต่ไม่ยอมพูดสักทีให้รอเขามาก่อนค่อยพูดกันต่อ หน้า ทำเอาปยุตรกลืนน้ำลายนึกว่าต้องเป็นเรื่องตึงเครียดแน่ๆ แต่พอพีทบอกว่า

"คือว่า..ผมกับรมมี่จะแต่งงานกัน"

ทั้งเหมยและปยุตรก็ยิ้มกว้างหายเครียดเป็นปลิดทิ้ง ต่างแสดงความยินดีกันล่วงหน้า

"โห..ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก ต้องขอดูพฤติกรรมก่อน เรื่องเก่าฉันไม่สนแต่ถ้ามีเรื่องใหม่มาฉันเอาตายแน่" รมมี่ปราม

พีท ยิ้มเจื่อน เหมยเลยแซวว่านี่ขนาดยังไม่แต่ง คิดดูแล้วกันว่าถ้าแต่งพีทจะเป็นยังไงแล้วทั้งเหมยและรมมี่ก็หัวเราะชอบอก ชอบใจกัน แต่พีทกับปยุตรลอบมองหน้ากัน เพราะความลับที่ทั้งสองเก็บงำเอาไว้ คงต้องเป็นความลับต่อไป...

วันนี้ น้ำหวานขับรถออกจากคอนโดฯ โดยไม่รู้ว่ามีรถคันหนึ่งขับตามไป เธอไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งตรงไปที่ห้องพักเหมือนนัดกับใครไว้ ระหว่างนั้นเธอรู้สึกเหมือนมีคนตามมา ดังนั้นเมื่อมาถึงห้องพักแล้วเคาะประตู พอประตูเปิดออก ศิลป์โผล่มาต่อว่าว่ามาช้าจังเลย พลางโอบเอวน้ำหวานอย่างโหยหา

น้ำหวานรีบดันเขาเข้าข้างในบอกว่าเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า แล้วรีบปิดประตูทันที

ที่ประตูหนีไฟ สายตาคู่หนึ่งจับจ้องน้ำหวานอย่างเจ็บปวดจนเธอผลุบเข้าห้องไป เขาคือหมอวาทิศนั่นเอง!

เมื่อหมอกลับไปที่เซฟเฮาส์นั่งจมอยู่กับความเจ็บปวดในความสลัว หยิบรูปน้ำหวานที่สวยหยาดเยิ้มเพราะมือหมอขึ้นมาดู แล้วกรีดหน้าน้ำหวานในรูปยับเยิน

"น้ำหวานหลอกหมอ...น้ำหวานต้องชดใช้ที่ทำกับหมอแบบนี้!!" หมอพึมพำตาแดงก่ำ

เวลาเดียวกัน น้ำหวานนอนหลับอยู่บนเตียงกับศิลป์ เธอฝันร้ายว่าถูกกรีดหน้ายับเยินร้องลั่น "หน้าฉัน...ไม่นะ...อย่านะ...หมออย่า...ไม่นะหมอ...ไม่..." พลันก็ตกใจเสียงตัวเองลุกพรวดขึ้นมาจับหน้าตัวเองอย่างตระหนกสุดขีด

ศิลป์วิ่งออกมาจากห้องน้ำถามว่าเป็นอะไร น้ำหวานกำลังตกอยู่ในภวังค์ของความตกใจเธอเอาแต่ร้องโวยวายว่า "อย่าทำฉัน...อย่าทำฉัน" ผลักศิลป์จนล้มลงที่พื้น เขาลุกขึ้นมาโวยวายว่าเป็นอะไร ตนทำอะไรให้ถึงมาผลัก

พอรู้สึกตัวน้ำหวานวิ่งไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองพอรู้ว่าเป็นแค่ฝันร้ายก็หันมาขอโทษศิลป์

"ฝันว่าอะไร เมื่อกี้ผมได้ยินคุณเรียกหมอ...หมอ...หมอที่ไหนหรือ"

น้ำหวานอึกอักแล้วโมเมว่าตนฝันว่าหมอจะฉีดยา ตนเป็นคนกลัวเข็มเลยวิ่งหนีแต่ถูกหมอจับตัวได้ ศิลป์ฟังแล้วหัวเราะ หยอกว่าโดนหมอฉีดยามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอก บอกให้รอตนครู่หนึ่งอาบน้ำเสร็จจะมาติวบทคนไข้พิเศษให้

คืนเดียวกันนี้ ที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งมีมือปาปารัสซี่ยื่นซองเข้ามา นักข่าวคนหนึ่งรับซองพร้อมเงินแลกกัน พอนักข่าวคนนั้นเปิดดู เป็นภาพน้ำหวานกับปยุตรที่เหมือนกอดรัดกันอยู่พร้อมซีดี นักข่าวยิ้มกดต่อสายภายในทันที

"มีข่าวเด็ดของน้ำหวาน ขอแซงคิวขึ้นหน้า 1 ฉบับเช้าพรุ่งนี้เลย"

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มีข่าวหราในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า "ซุปตาร์สาว น. คลุกวงในกับนักข่าวหนุ่ม คาดเขียนข่าวกันมันส์ถึงใจ"

แน่นอนว่าที่กองถ่ายฟรุตตี้กับปุ๊โกะเม้าท์กันมันปากว่า ปยุตรคิดอย่างไรถึงได้ไปยุ่งกับน้ำหวานแบบนี้เหมยจะว่าอย่างไร

น้ำหวานกรีดกรายเข้ามาถามแหย่ว่าเม้าท์อะไรกันอยู่จ๊ะน่าสนุกจัง ทั้งสองรีบบอกว่าไม่มีอะไรแต่น้ำหวานเข้ามาคว้าหนังสือพิมพ์ไปก่อนแล้ว ทั้งฟรุตตี้กับปุ๊โกะมองหน้ากันอึดอัดใจ แล้วทั้งสองก็แอบพยักเพยิดให้อีกฝ่ายลองแหยมดู

พอฟรุตตี้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นว่าลงข่าวกันไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้คนที่เป็นข่าวเดือดร้อนไปตามกัน น้ำหวานก็แทรกขึ้นว่า

"ถ้าข่าวเขาลงตามที่มันเป็น ก็ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนอะไร" ทั้งฟรุตตี้และปุ๊โกะเหวอถามว่าหมายความว่ายังไง น้ำหวานตอบหน้าตาเรียบเฉยว่า "เรื่องจริง...พอใจไหมคะ" แล้วลุกขึ้นบอกว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

พอน้ำหวานลุกไป มดแดงก็พาเหมยเข้ามาพอดี เหมยยกมือไหว้ทักทายทุกคน แต่กลับถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ มดแดงไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย บอกเหมยให้มาแต่งหน้าแต่งตัวเสียจะได้ทำงานที่เรารักกัน

เหมยเห็นท่าทางแปลกๆของฟรุตตี้กับปุ๊โกะ สุดท้ายก็เห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นจนได้ พอหยิบดูรูปและอ่านก็ถึงกับหน้าซีด น้ำหวานจับตาดูอยู่ พอเห็นหน้าเหมยซีดเผือดก็ยิ้มอย่างสะใจ

มดแดงเห็นเหมยดูหนังสือพิมพ์หน้าซีดอยู่ก็ขอดูบ้าง ไม่เพียงแค่ดูเฉยๆ ยังอ่านเสียงดังจนเหมยทนฟังไม่ได้ ลุกวิ่งออกไปจากห้อง มดแดงจะตามไป แต่ฟรุตตี้กับปุ๊โกะดึงไว้ บอกว่า ให้ปล่อยเหมยอยู่คนเดียวไปก่อนเถอะ แล้วทั้งสามก็หันมาจ้องจิกน้ำหวานเป็นตาเดียว

แต่สายตาเหล่านั้นหาทำอะไรน้ำหวานได้ไม่ ถูกเธอเชิดใส่อย่างไม่แคร์

ooooooo

แน่นอนว่าข่าวนี้ไม่พ้นสายตาคนที่ไทยนิวส์ ปยุตร ถูกเพื่อนๆล้อว่าเป็นคนเงียบๆแต่มีทีเด็ดเหมือนกัน... เป็นนักข่าวแต่ตกเป็นข่าวเสียเอง...

ทีแรกปยุตรก็งงๆ แต่พอเห็นข่าวถึงกับร้องเฮ้ย! บอก เฮียใหญ่ว่าไม่ใช่แบบนี้

"จะแบบไหนก็เหอะ แต่คนที่ยุตรต้องอธิบายให้เขาฟังน่ะไม่ใช่เฮีย"

"เหมย..." ปยุตรเดาได้ทันที แล้วก็หลับตาเห็นถึงความหนักหน่วงของปัญหาที่ต้องไปแก้

ปยุตรรีบโทร.ไปหาเหมยซึ่งอยู่ที่กองถ่าย พอเหมยเห็นเป็นเบอร์ของเขาก็ไม่รับสาย เขานึกรู้ว่างานเข้าแน่แล้ว

ส่วนเหมยนิ่งเครียดอยู่กับความคิดน้อยใจสับสนและโกรธคิดว่าถูกปยุตรหลอก ซ้ำน้ำหวานยังมาพูดให้เขวยิ่งขึ้นไปอีกว่า

"เรื่องแบบนี้ผู้ชายเขาพูดยากนะเหมย เธอน่าจะเข้าใจคุณยุตรเขา" เหมยตอบอย่างถือดีว่าเรื่องของตนตนจัดการเองได้แล้วลุกเดินหนี ก็ถูกน้ำหวานพูดตามหลังว่า "ฉันก็แค่เป็นห่วง กลัวว่าเธอจะทำใจไม่ได้ เพราะสุดท้ายคุณยุตรก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับเขาที่สุด"

"หมายความว่าไง" เหมยหันมาถาม

"อ้าว...ทายาทคนเดียวของไทยนิวส์ เขาก็ต้องอยากได้ คู่ชีวิตที่เหมาะสมและคู่ควรกับคนระดับเขาสิ"  น้ำหวานเดินเข้ามาพูดใกล้อย่างจงใจเย้ยว่า "เขาถึงเลือกซุปเปอร์สตาร์ อย่างฉัน!!"

เหมยเลยเพิ่งรู้ว่าปยุตรเป็นลูกชายคนเดียวของไพรวัลย์ เจ้าของไทยนิวส์จากปากน้ำหวานนี่เอง ซ้ำน้ำหวานยังบอกด้วยว่า ปยุตรเป็นคนกระซิบบอกตนเอง ที่เขาไม่บอกเหมยอาจเป็นเพราะเขาไม่คิดจริงจังกับเธอหรือไม่ก็กลัวเธอจะอาศัยเขาปีนขึ้นไปกอบโกยชื่อเสียงเงินทอง

น้ำหวานยิ้มเย้ยแล้วเดินเชิดไป เหมยยืนกำมือแน่น ตัวชา น้ำตาพานจะไหลออกมาให้ได้

ooooooo

รมมี่กับพีทเห็นข่าวนี้ก็เป็นห่วงเหมย ทั้งสองเชื่อว่าเป็นแผนของน้ำหวาน บ่นปยุตรว่าไม่น่าตกหลุม พรางน้ำหวานเลย แต่พีทยังเชื่อว่าปยุตรไม่ได้ทำอย่าง ที่เป็นข่าว

"แต่ภาพมันฟ้องชัดๆเลยนะคุณพีท  แบบนี้ยุตรจะอธิบายยังไง และถ้าอธิบายแล้วเหมยจะเชื่อเหตุผลของเขาหรือเปล่า" รมมี่แย้ง ย้ำว่า "แต่บอกตรงๆนะว่ายาก หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ ให้ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดก็ไม่มีทางเชื่อได้หรอกว่าไม่มีอะไรกัน"

พีทไม่สบายใจกลัวว่าปยุตรจะเดือดร้อน แต่อีกใจก็กลัวว่าเขาจะพูดความจริง รมมี่สังเกตเห็นแต่ไม่เอะใจอะไร เลยแค่หยอกปรามๆว่า

"ไม่ต้องมาทำจ๋อยเลย เคยกิ๊กๆกันอยู่นี่!"

ooooooo

เมื่อโทร.แล้วเหมยไม่รับสาย ปยุตรบึ่งไปที่กองถ่าย ฟรุตตี้กับปุ๊โกะเห็นก็จะรีบไปหา แต่มีคนไวกว่าคือน้ำหวาน เธอเดินลิ่วไปหาปยุตรถามว่าเห็นข่าวแล้วใช่ไหม  แล้วแสดงความมีน้ำใจว่า

"น้ำหวานว่าจะแถลงข่าวแก้ต่างให้ว่าคุณยุตรไม่ได้ เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ คุณพีทต่างหากที่เป็นต้นเหตุ"

ได้ยินน้ำหวานเอ่ยชื่อพีทเท่านั้น ปยุตรรีบขอร้องว่าไม่ต้องเพราะเดี๋ยวข่าวก็เงียบไปเอง

"แต่กว่าจะเงียบ น้ำหวานว่าเหมยจะแย่เอาเสียก่อนนะคะ นี่พอเหมยเห็นข่าวเขาก็หน้าซีดเลย น้ำหวานก็เข้าไปอธิบายว่าเราไม่ได้มีอะไรกัน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นทายาทของ ไทยนิวส์ น้ำหวานก็ไม่เคยมีเจตนาจะเต้าข่าวให้กับตัวเองแบบนี้"

ปยุตรตกใจมากเมื่อรู้ว่าน้ำหวานบอกฐานะของตัวเองกับเหมย เธอทำเป็นถามว่าตนทำผิดหรือ ปยุตรไม่ตอบ ถามว่าแล้วตอนนี้เหมยอยู่ไหน

"ขอตัวกลับไปแล้วน่ะค่ะ นี่กองถ่ายเขาก็ยกไปตั้งหลายฉาก เพราะเห็นว่าเหมยไม่ไหว หวังว่าคงไม่ใช่เพราะน้ำหวานนะคะ"

ปยุตรมองหน้าน้ำหวานแบบว่าก็เพราะเธอนั่นแหละ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะพูดอะไร คิดอย่างเดียวว่าต้องหาทางได้คุยกับเหมยให้เร็วที่สุด เขาหันหลังเดินอ้าวไป น้ำหวานยังเรียกไว้อีก

"คุณยุตรคะ น้ำหวานขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องลำบากใจ" พูดแล้วทำเป็นน้ำตาคลอ

"ไม่เป็นไรครับ"

ปยุตรเดินไปแล้ว น้ำหวานมองตามอย่างหมายมั่น ปั้นมือว่า

"อีกไม่นาน...คุณต้องเป็นของฉัน..."

ooooooo

ไม้เห็นข่าวนี้ก็ทั้งหงุดหงิดทั้งร้อนใจไม่พอใจที่ปยุตรทำแบบนี้ เขาเปิดประตูจะออกไปจัดการเรื่องนี้ ก็พอดีเจอแต้วหิ้วปิ่นโตมาส่ง แต้วถามว่าจะไปไหน ไม้ บอกว่าจะไปเล่นงานนักข่าวเจ้าชู้ที่กล้าทำให้เหมยเสียใจ


"ใจเย็นๆก่อนไม้"  แต้วดึงตัวไว้  "เรื่องนี้ปล่อยให้ พี่เหมยกับพี่ยุตรเขาคุยกันเองดีกว่า ไม้เข้าไปเกี่ยวด้วยก็มีแต่จะเป็นข่าวใหญ่" เห็นไม้ยังไม่หายโมโหก็ถามว่า "ไหนไม้บอกว่าไม้จะรักพี่เหมยอย่างพี่น้องแล้วไง แล้วทำไมไม้ต้องโกรธขนาดนี้ด้วย"

"ก็...ก็ฉันห่วงพี่เหมยในฐานะพี่สาว หรือเธอไม่ห่วงแต้ว ไอ้นักข่าวบ้านั่นน่ะมันทำให้พี่สาวเราเสียใจนะ"

"แต่ไอ้นักข่าวบ้าที่เธอว่าน่ะเป็นคนที่พี่เหมยรักนะไม้ เรื่องของคนสองคนเราต้องให้เขาจัดการกันเอง นอกเสียจากว่าไม้ยังคิดอะไรกับพี่เหมยมากกว่าพี่น้อง"

ถูกแต้วดักคอเอาแบบนี้ ไม้ก็ชะงักไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน

ที่ไทยนิวส์ ไพรวัลย์หัวเราะหึๆในลำคอเมื่ออ่านข่าวนี้ ขำๆที่ปยุตรมาเป็นข่าวเสียเอง เฮียใหญ่บอกว่างานนี้ปยุตรต้องปรับความเข้าใจกับเหมยชุดใหญ่เลยล่ะ

"มันก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคกันบ้าง ถ้าพิสูจน์ตัวเอง ให้ผู้หญิงที่รักเชื่อใจไม่ได้ ปยุตรก็ยังไม่เหมาะที่จะให้ใครมาฝากชีวิตไว้กับเขา"

เฮียใหญ่บ่นๆว่าไม่รู้ปยุตรไปพลาดท่าไหน ถึงได้เข้าไปยุ่งกับน้ำหวานนั่นได้

"ฉันเชื่อว่าลูกชายฉันไม่มีวันเห็นดินเป็นดาวไปได้หรอก" ไพรวัลย์เชื่อมั่นมาก

ข่าวนี้เลยกลายเป็นลู่ทางหาเงินค่าเหล้าของ รปภ.ที่คอนโดฯพีท ทั้งสองคุยกันอย่างครื้นเครงว่าสมัยนี้หากินกันง่ายแค่ภาพหลุดของดาราก็ขาย ได้เงินแล้ว

คุยไปคุยมาคนหนึ่งเลยคิดว่าถ้ามีเป็นวีดิโอคงได้เงินอื้อแน่ อีกคนกระซิบกระซาบว่า

"แล้วใครว่าไม่มีล่ะ มีแบบเต็มๆเลยล่ะ" แล้วก็เปิดให้อีกคนดูจากภาพกล้องวงจรปิดของคอนโดฯเป็นภาพน้ำหวานกับพีทนัว เนียกันอยู่ที่ระเบียงห้อง ดูแล้วยิ้มให้กันแบบว่าอย่างนี้มีเงินก๊งเหล้าได้อีกเป็นเดือนเลยล่ะ

ooooooo

ปยุตรร้อนใจตามหาจนเจอเหมยมานั่งเศร้า อยู่ที่ริมน้ำสวนสาธารณะ เขาเข้าไปหา พอเหมยหันมาเห็นก็จะลุกหนี ปยุตรเข้าไปขวางขอร้องว่า

"เดี๋ยวก่อนเหมย ผมอยากอธิบายเรื่องทั้งหมดให้คุณฟัง"

"ไม่ต้องอธิบายอะไรอีก  ทุกอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว  ตอนนี้ คุณไม่ใช่ปยุตรที่ฉันรู้จักอีกต่อไป  บางทีน้ำหวานอาจจะรู้จักคุณดีกว่าฉัน"

เหมยพูดประชดเป็นนัย แต่ปยุตรก็รู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องที่เขาเป็นลูกชายของไพรวัลย์เจ้าของไทย นิวส์ เขาชี้แจงว่า การที่เขาจะคบใครสักคนจำเป็นด้วยหรือที่ต้องบอกว่าเป็นลูกใครแล้วถ้าเป็นแบบ นั้นตนจะได้รับความจริงใจจากใคร

"คุณก็เลยซื้อความจริงใจของฉันด้วยการหลอกลวง..." เหมยสวนไปอย่างเจ็บปวด ทั้งยังเอาคำพูดของน้ำหวานมาพูดประชดว่าทายาทไทยนิวส์ก็ต้องหาคนที่เหมาะสม กับหน้าตาฐานะของตัวเอง

ปยุตรชี้แจงว่าตนกับน้ำหวานไม่ได้มีอะไรกัน เหมยถาม ว่าแล้วรูปแบบนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ปยุตรเหมือนน้ำท่วมปากเมื่อนึกถึงคำขอร้องของพีท เขาเลยพูดได้แค่ว่า ตนกับน้ำหวานไม่มีอะไรกัน

"สุดท้าย คุณก็ยังเลือกที่จะปิดบังฉัน"

"เหมย...ผมรักคุณนะ..."

"รักฉัน บอกตรงๆว่าฉันไม่รู้จริงๆว่ามันคือคำโกหกหรือเปล่า" พูดแล้วเหมยวิ่งออกไปโดยที่ปยุตรได้แต่มองตามอย่างกลัดกลุ้ม กดดัน เจ็บปวด...

ooooooo

คืนนี้ ขณะที่พีทกับรมมี่กลับจากไปหาซื้ออาหารเดินตามทางมาหน้าห้องพีท เธอเหลียวมองเหมือนสงสัยอะไร พอพีทถาม เธอบอกว่ารู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน

พีทแอบตกใจคิดว่ารมมี่จำภาพในหนังสือพิมพ์ได้ พูดกลบเกลื่อนว่าเธอมาที่คอนโดฯตนบ่อยๆก็ต้องคุ้นสิ รมมี่บอกว่าหมายถึงเหมือนเคยเห็นจากที่อื่น

"คอนโดฯที่ไหนๆแพตเทิร์นมันก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ" พูดแล้วพีทตัดบทเปลี่ยนเรื่องว่ารีบเข้าไปทำอาหารเถอะตนหิวแล้ว

ขณะที่ปยุตรนั่งรอเหมยอยู่หน้าบ้านเธอนั้น มีสายของพีทเข้า พีทออกมายืนโทร.ที่ระเบียงด้านนอกห้อง พีทขอโทษปยุตรที่ทำให้เขาเดือดร้อน บอกเขาอย่างทำใจแล้วว่า

"ถ้าคุณต้องบอกความจริงกับเหมยก็บอกเถอะครับ ผมเข้าใจ"

"ผมจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับคุณ ผมเชื่อว่าเหมยต้องเข้าใจผม" ปยุตรยังยึดมั่นในสัญญา พีทขอบคุณเขาอีกครั้งแล้ววางสาย ส่วนปยุตรก็ยังนั่งรอเหมยอยู่หน้าบ้านเช่าของเธออย่างรอคอยต่อไป

จนแต้วเดินกลับบ้านมาเจอเขานั่งเหงาอยู่คนเดียวถามว่าแล้วเหมยล่ะ ปยุตรได้แต่ส่ายหน้า แต้วเดาออกบอกเขาว่าเดี๋ยวเหมยก็คงกลับ

"พี่ขอรอเหมยอยู่ตรงนี้นะ" ปยุตรยังนั่งที่เดิม แต้วเดินมาจับแขนเขาอย่างให้กำลังใจ เขามองตอบด้วยสายตาที่ขอบคุณ

ooooooo

คืนเดียวกันนี้เอง ศิลป์หงุดหงิดที่เห็นข่าวและภาพ น้ำหวานกับปยุตร จนน้ำหวานเข้ามาง้อถามว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องงอนตนด้วย

"ก็น้ำหวานไปแอบกิ๊กกับไอ้นักข่าวนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ไม่ชอบขี้หน้ามัน" พอน้ำหวานถามว่าหวงตนหรือหมั่นไส้ นักข่าวคนนั้นกันแน่ ศิลป์ตอบอย่างหงุดหงิดว่า "มันก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ น้ำหวานทำแบบนี้เหมือนหักหน้าพี่"

น้ำหวานฉอเลาะว่ามันก็แค่การสร้างกระแสเฉยๆตนมีข่าวบ่อยๆคนจะได้ไม่ลืม ย้ำว่า

"น้ำหวานมีพี่ศิลป์อยู่แล้วทั้งคน น้ำหวานจะไปคิดอะไรกับใครได้"

"ปากหวานแบบนี้พี่ต้องให้รางวัลเสียแล้ว" ศิลป์ทำท่ามันเขี้ยวขึ้นมา น้ำหวานรีบบอกว่า

"แต่รางวัลที่น้ำหวานอยากได้ที่สุดคือการได้ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีดาวประดับ ฟ้า ในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม... พี่ศิลป์ให้น้ำหวานได้รึเปล่าคะ"

"เรื่องนั้นเรื่องเล็ก" พูดแล้วชี้ที่ตัวเอง "นี่ใคร? พี่ศิลป์... เส้นปึ้ก...รับรองน้ำหวานของพี่ศิลป์จะต้องคว้ารางวัลมากอดแน่นอน แต่ตอนนี้เอารางวัลจากพี่ไปก่อนนะ..."

ศิลป์โถมเข้าซุกไซ้น้ำหวานอย่างเมามัน น้ำหวานโอนอ่อนตามแลกกับความหวังอีกก้าวใหญ่ในฐานะนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมประจำปี!

ooooooo

ความเสียใจผิดหวังในตัวปยุตร ทำให้เหมยไปหาไม้ที่โรงแรมที่เขาพักอยู่ พอเห็นหน้าไม้เหมยก็โผ เข้ากอดไว้ร้องไห้จนตัวสั่น ไม้กอดปลอบเหมยให้ใจเย็นๆ

เหมยขอโทษไม้ที่ต้องมารบกวน ขอนอนค้างที่นี่สักคืน ไม้ยกห้องให้เธออยู่ให้สบายใจ เมื่อใจสงบลง เหมยพูดกับไม้ว่า บางทีอะไรที่เราคิดว่าเป็นของเรามันก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ไม้รู้ว่าเหมยหมายถึงอะไร เขาบอกเหมยว่า

"มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าพี่เหมยอยากได้มันแค่ไหน และที่สำคัญพี่เหมยอยากจะรักษามันไว้รึเปล่าต่างหาก...บอกตรงๆนะว่าผมไม่ ค่อยชอบขี้หน้านายปยุตรนั่นหรอก แต่ว่าผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาดีกับพี่เหมยมาตลอด"

"แต่เขาโกหกพี่นะไม้ เขามีเรื่องปิดบังพี่"

"พี่เหมย...บางทีคนเราก็พูดความจริงไม่ได้เสมอไปหรอก เหมือนที่ผม...รักพี่ ผมก็ไม่สมควรพูดมันออกมา จริงไหม" เหมยมองไม้อย่างทึ่งที่คำพูดคำจาความคิดอ่านของเขาโตขึ้นมาก ไม้มองหน้าเหมยแล้วบอก "อาบน้ำแล้วก็นอนได้แล้ว" พลางจับมือเหมยลุกขึ้นพาไปดันเข้าห้องเพื่อพักผ่อน

แต่พออยู่คนเดียว เหมยก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาอีก ยังคิดไม่ตกว่าทำไมปยุตรต้องปิดตนด้วยว่าเขาเป็นลูกใคร คิดแล้วบอกตัวเองว่า "ฉันคงไม่ดีพอสำหรับคุณ"

เป็นเวลาที่ปยุตรยังนั่งรอเหมยอยู่หน้าบ้าน จนแต้วสงสารบอกให้เข้าไปนั่งรอในบ้านดีกว่าเพราะดึกแล้ว ปยุตรยังคงขอนั่งรออยู่ตรงนั้น แต้วได้แต่มองด้วยความเห็นใจ แต่ตัวเองก็สงสัยว่าเหมยไปไหนเลยลองโทร.เข้ามือถือไม้เผื่อรู้

พอไม้เห็นเบอร์ของแต้วก็กดสายทิ้งเพราะไม่รู้จะบอกแต้วอย่างไรว่าคืนนี้เหม ยมานอนที่ห้องตน แต้วยิ่งงง ลองโทร.อีกครั้ง คราวนี้กลายเป็นสัญญาณปิดเครื่องไปแล้ว

"ทำไมต้องปิดเครื่องด้วย แค่จะโทร.ไปถามว่าพี่เหมย ติดต่อไปบ้างหรือเปล่า หรือว่า..."


แต้วกังวลขึ้นมาทันที กลัวว่าสิ่งที่เธอระแวงจะเป็นจริง...

ooooooo

จนเช้าวันใหม่ แต้วออกไปดูเห็นปยุตรนั่งหลับอยู่ หน้าบ้าน เธอกับกันต์เข้าไปปลุก พอปยุตรตื่นเขาถามทันทีว่า "เหมยล่ะแต้ว"

แต้วบอกว่าเหมยยังไม่กลับเลย กันต์ก็พูดอย่างเป็นห่วงว่าเหมยไม่เคยเป็นแบบนี้ แต้วสงสัยว่าหรือเหมยจะไปนอนกับแม่กุ้ง กันต์บอกว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเมื่อวานตนอยู่กับแม่กุ้งจนค่ำยังไม่เห็นเหมย เลย พลันก็นึกขึ้นได้ มองหน้าแต้วถามว่า

"หรือว่าพี่เหมยจะไปหาไม้ ไม่แน่นะ อาจจะไปนอนที่ห้องไม้ก็ได้"

ปยุตรใจหายวาบบอกแต้วให้ช่วยพาตนไปที่คอนโดฯไม้หน่อยได้ไหม แต้วเองก็อยากรู้พยักหน้ารับทันที

ooooooo

เหมยตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ยังไม่สดชื่น บอกไม้ว่าต้องตื่นเพราะกลัวแต้วกับกันต์จะเป็นห่วงตนไม่เคยไปนอนค้างที่ไหน และที่มานี่ก็ไม่ได้บอกใครด้วย ไม้ชวนกินอาหารเช้ากันก่อน

ไม้เห็นเหมยยังเครียดๆอยู่เลยแหย่จนเธอหัวเราะออกมา เหมยเลยเอาคืนด้วยการเอาแยมป้ายหน้าไม้ ไม้หลบเหมยจะละเลงอีก เลยวิ่งไล่กันอยู่ในห้อง จนไม้จับตัวเหมยได้ เหมย ดิ้นเลยเสียหลักเหมยถูกไม้ล้มทับทั้งตัว

แต้วเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี ทั้งปยุตรและแต้วต่างตะลึงงัน แต้วเสียความรู้สึกมากพึมพำ

"คนอุตส่าห์เป็นห่วง ที่แท้..."

เหมยกับไม้หันมองแต้ว เห็นวิ่งหนีไปแล้ว ไม้รีบลุกขึ้นตามไปเพื่อจะชี้แจง ส่วนเหมยพอลุกขึ้นปยุตรก็เดินเข้ามาถึงตัวแล้ว เขาต่อว่าหน้านิ่งมาก

"ไหนคุณเคยบอกว่าไม่มีอะไรกับไม้ไง  แต่ที่ผมเห็นเมื่อกี๊..."

"ฉันไม่มีอะไรจะต้องอธิบายกับคุณ" เหมยสวนไปอย่างไม่หายเคืองท่าทีปฏิเสธเขาเต็มที่

เหมยจะเดินหนีถูกปยุตรรั้งแขนไว้ถามเสียงเข้มขึ้นว่า "ใครโกหกใครกันแน่"

"นี่ปล่อยฉันนะ คุณปยุตร" เหมยเสียงเข้ม ปยุตรไม่ยอมปล่อยซ้ำยังพูดเย้ยว่าตนจับแค่นี้ทำเป็นหวงตัวทีน้องชายตัวเองทำมากกว่านี้กลับยอม   เหมยโกรธเลือดขึ้นหน้าตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ด่าเขาว่า

"ดูถูกฉันเกินไปแล้ว ฉันไม่คิดจะทำตัวเหมือนคุณกับยัยน้ำหวานนั่นหรอก"

ถูกย้อนเอาอย่างเจ็บแสบ ปยุตรเลือดขึ้นหน้าดึงเธอเข้าไปจูบอย่างแรง ถูกเหมยผลักออกตบหน้าซ้ำอีกที ตวาดเสียงสั่นสะท้าน

"ฉันเกลียดคุณ!!"

เหมยเดินเข้าห้องปิดประตูปัง ทิ้งให้ปยุตรยืนมึน เจ็บปวดอยู่ตรงนั้น ส่วนเหมยพอเข้าห้องก็ร้องไห้อย่างหนักที่ปยุตรทำกับตนอย่างนี้ นาทีนี้ ความเชื่อมั่น มั่นใจ และไว้ใจในตัวเขามลายหายสูญไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่เพียงความเจ็บปวดด้วยกันทั้งสองคน...

ooooooo

ส่วนไม้วิ่งไล่แต้วไปทันกันที่ทางเดินในคอนโดฯ แต้วร้องไห้กับภาพบาดตาบาดใจที่เห็น  ไม้คว้าตัวไว้

บอกว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ตนกับเหมยไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่เธอคิด ย้ำกับแต้วว่า "พี่เหมยเป็นพี่สาวเรานะ"

"แน่ใจเหรอไม้ ว่าพี่เหมยแค่พี่สาว อย่าหลอกตัวเองเลยไม้ เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆหรอก"

"เธอจะมารู้ดีไปกว่าตัวฉันได้ยังไง" ไม้ย้อนถามหลังจากนิ่งงันไปครู่หนึ่ง

"เพราะแต้วรักไม้ไง แต้วถึงรู้ว่ามันยากที่จะเลิกรัก... ให้พยายามแค่ไหนมันก็ยังรัก...ทั้งๆที่รู้ว่าไม้ไม่มีวันรักแต้ว" แต้วโพล่งออกไปอย่างสุดที่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกแล้ว

ไม้อึ้งสนิทกับความจริงที่รู้จากแต้ว แม้จะรู้มาบ้างแต่ก็ไม่นึกว่าแต้วจะพูดออกมาอย่างนี้ พริบตานั้นเอง แต้วสะบัดมือหลุดจากไม้วิ่งหนีไป ไม้มองตามแต้วไปอย่างไม่อาจที่จะรั้งเธอไว้ได้อีก...

ooooooo

น้ำหวานยังเดินหน้าเล่นเกมตามแผนของตนกับคนรอบข้าง ทั้งคนรัก คนชัง และคนร่วมงาน วันนี้ ขณะเธอมาที่ลานจอดรถของคอนโดฯเพื่อจะออกข้างนอกนั้น มีกล่องเครื่องมือช่างหล่นลงมาตรงหน้าจนเธอตกใจร้องกรี๊ด

แต่หันมองซ้ายขวาก็ไม่มีใครที่จะอยู่ในรัศมีที่ทำกล่องหล่นลงมา มองไปไกลๆ เห็นรปภ.ยืนคุยอยู่กับช่างอาคารคนหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ แต่เธอก็เดินเข้าไปด่า

"ไอ้พวกบ้า ทำอะไรกันไม่ระวัง ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ!" รปภ.กับช่างมองหน้ากันงงๆ น้ำหวานก็ยังด่าต่อ "ยังมาทำหน้าไม่รู้เรื่องอีก ฉันเกือบหน้าแหกเพราะเครื่องมือของพวกแก ไอ้บ้า!"

ด่าจนหนำใจแล้วก็เดินกลับไปที่รถ รปภ.กับช่างยิ่งงง รปภ.ถามช่างว่าเอาเครื่องมือลงมาแล้วหรือ ช่างบอกว่ายังก็เห็นอยู่ว่าตนอยู่ตรงนี้ด้วยกันตลอด ทั้งสองเลยได้แต่งงกับงง

ขณะน้ำหวานเดินมาที่รถนั้น มีร่างคนเดินตัดผ่านไปแว้บๆ น้ำหวานหันขวับรู้สึกเหมือนถูกจับตามอง แต่ก็ไม่เห็นใคร เธอจึงขึ้นรถขับออกไป

ที่มุมหนึ่ง เท้าของชายลึกลับก้าวออกมายืนมองรถน้ำหวานที่ขับออกไป แล้วหันหลังกลับ...

ooooooo

ที่สถานีเอบีซี ในห้องทำงานคุณพิงค์ คุณพิมลมานั่งคุยกันถึงบางเรื่อง คุณพิงค์ฟังแล้วพูดเปรยๆ ปลงๆ ว่า

"มีข่าวได้ไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ กองคุณพิมลนี่"

"ดิฉันก็พยายามดูแล้วนะคะ แต่ว่าเรื่องส่วนตัวลึกๆ ของแต่ละคน ดิฉันก็เข้าไปดูแลไม่ถึงจริงๆค่ะ โดยเฉพาะน้ำหวานนี่ เรื่องเขาเยอะ"

"ฉันรู้ว่าใครเป็นยังไง จะว่ากันไป เราก็ปั้นพวกเขาได้แต่ตัว ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะเป็นดาวฤกษ์หรือดาวร่วง มันก็ขึ้นอยู่ที่แต่ละคนทำตัวนั่นแหละ"

ทั้งคุณพิงค์และคุณพิมลผู้คร่ำหวอดในวงการมองหน้ากันปลงๆ

แล้ววันนี้  ละครเรื่องยอดยาหยีที่ผ่านการตัดต่อ ลงเสียงแล้วก็มาฉายดูกัน คุณพิงค์ปรารภกับคุณพิมลว่า

"ฉันว่าจะเอายอดยาหยีลงละครลอตนี้เลย ถ่ายเสร็จแล้วนี่"

"เหลืออีกคิวเดียวก็ปิดกล้องแล้วค่ะ แหม...ยอดยาหยีได้ออกอากาศเร็วขนาดนี้ คงต้องขอบคุณความเมตตาของคุณพิงค์ค่ะ" คุณพิมลยิ้มดีใจมาก

"ไม่ต้องขอบคุณหรอกคุณพิมล ฉันก็ว่าไปตามงาน งานดี ผู้จัดแฮปปี้ สถานีได้ ดาราก็มีงานต่อ...มันก็วินวินกันทุกฝ่าย ส่วนไอ้เรื่องจะได้ถ้วยได้กล่องรึเปล่าก็ต้องลุ้นกันอีกที"

"แต่สมัยนี้ไม่รู้เขาตัดสินกันด้วยอะไรนะคะ ว่าใครควรจะได้รับรางวัล คนที่ควรได้ดันไม่ได้แต่คนที่ไม่ควรได้ก็ดันได้ซะงั้น" คุณพิมลบ่นแกมเบื่อ

"แต่ฉันก็ยังเชื่อว่านักแสดงและทีมงานที่เขาตั้งใจทำงาน เขาก็ยังภูมิใจในผลงานของพวกเขา โดยที่ไม่ต้องมีรางวัลอะไรมาเป็นเครื่องการันตีหรอก ใช่ไหมคุณพิมล"

"ค่ะ...คุณพิงค์"

สองผู้คร่ำหวอดในวงการยังไม่เคยหมดศรัทธากับงานที่ตัวเองทำ

ooooooo

ระบำดวงดาว

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด