ตอนที่ 12
เช้าวันใหม่กนกรัตน์มาต่อว่ามิลค์หาว่าโทร.ไปขู่ตนเมื่อคืนมิลค์งงไม่รู้เรื่องย้อนถามไม่คิดจะไปงานศพแตงโมบ้างหรือกนกรัตน์ตอบว่าจะไปให้เมื่อยทำไมแล้วกลับมาครุ่นคิดใครทำ
ในขณะที่ปาริฉัตรซึ่งเฝ้าชื่นชมนาคินทร์แต่พอได้ฟังเขาพูดกำกวมทำนองขอให้ช่วยเคลียร์งานก็ตีความไปว่าเขาจะแต่งงานกับกนกรัตน์เธอแทบคลั่ง...วันเดียวกันพราวพรรณรายชวนปานตะวันซึ่งออกมาซื้อของให้ดูหนังด้วยแต่ดันมาเจออาร์ตเข้าโดยบังเอิญปานตะวันจะเลี่ยงหนีมิลค์พุ่งพรวดเข้ามาตบอาร์ตเอาตัวปกป้องปานตะวันไว้พราวพรรณรายเข้าลุยกับมิลค์
“นังหมาบ้า!กัดไม่เลือกอย่างเนี้ย ผู้ชายเขาถึงขอหย่า”
มิลค์ร้องลั่นด้วยความแค้นใจอาร์ตรีบบอกปานตะวันว่าตนหย่ากับมิลค์แล้วปานตะวันทนไม่ไหวอีกต่อไปบอกให้เขาพอเสียทีแล้วสะบัดตัวจะหนีทันใดได้เหยียบของที่หล่นลื่นล้มหน้าคว่ำพราวพรรณรายตกใจพาปานตะวันกลับบ้านให้อัครินทร์ตรวจเช็ก...ด้วยความเป็นห่วงอัครินทร์ลืมว่าพราวพรรณรายอยู่ในห้องด้วยเปรยออกไป
“โชคดีที่สุดที่เด็กในท้องไม่เป็นอะไรไม่งั้น...”
พราวพรรณรายช็อกน้ำตาร่วงตรงเข้าตบหน้าอัครินทร์แล้วร้องไห้โฮออกมาต่อว่าต่อขานชี้หน้าทั้งสองคน “ฉันไม่อยากเชื่อเลยตะวันทำไมตะวันทำอย่างนี้... ผู้ชายชั่วร้ายทำเป็นเรียบร้อยพ่อพระที่แท้ก็แอบกินเงียบๆ... ตะวันเราเป็นเพื่อนกันทำไมเราไม่เคยรู้ทำไมตะวันมีความลับกับเพื่อนเราไม่ใช่เพื่อนกันใช่ไหม”
อัครินทร์พยายามจะอธิบายปานตะวันโพล่งขึ้นว่าอัครินทร์ไม่ได้ทำตนท้องพราวพรรณรายชะงัก... ปานตะวันยอมบอกว่าเป็นใครพราวพรรณรายลุกขึ้นโวยวายจะไปจัดการระหว่างนั้นนาคินทร์กลับถึงบ้านเดินผ่านหน้าห้องปานตะวันใจอยากเข้าไปหาแต่ตัดใจพลันได้ยินเสียงเอะอะจึงเอื้อมมือจะเปิดประตู...อัครินทร์เอามือปิดปากพราวพรรณรายเกรงใครมาได้ยินก็พอดี
กนกรัตน์โทร.มาหานาคินทร์เขารับสายแล้วตกใจรีบออกไปหาเธอ
พราวพรรณรายกัดมืออัครินทร์จนเขาต้องปล่อยแล้วยุปานตะวันอย่ายอมต้องสู้เพื่อลูกปานตะวันขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับประกายเดือน และขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอเพราะไม่อยากให้ผิดหวังพราวพรรณรายกอดเพื่อนปลอบว่าเธอยังเป็นคนเก่งคนดีของตนเสมออัครินทร์โล่งใจรู้สึกเป็นการดีที่ปานตะวันจะได้มีเพื่อนไว้ระบายความทุกข์พราวพรรณรายไม่เห็นด้วยที่ปิดบังนาคินทร์เขาควรจะรับผิดชอบปานตะวันนิ่งอึ้ง
ในขณะที่นาคินทร์มาปลอบใจกนกรัตน์เธอร้องห่มร้องไห้ว่าพ่อกับแม่บังคับให้กลับอเมริกาแต่ตนทิ้งเขาไปไม่ได้หัวใจตนอยู่กับเขานาคินทร์อึ้งสับสนว้าวุ่นใจหญิงสาวรุกหนักจะบอกพ่อแม่ว่าตนจะแต่งงานกับเขาเพื่อไม่ต้องกลับอเมริกาเขาได้แต่นิ่งเงียบเธอยิ่งน้อยใจ
อัครินทร์เดินมาส่งพราวพรรณรายที่รถเธอขอโทษที่ตบหน้าเขาอดแย็บถามไม่ได้ว่าเขาเสียใจไหมที่ปานตะวันหลุดมือไปเขายิ้มยอมรับความจริงได้เธอตัดสินใจพูดอย่างเขินๆ...ดูแลปานตะวันแล้วอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยว่าแล้วก็วิ่งไปขึ้นรถอัครินทร์มองตามขำๆ
คืนนั้นนาคินทร์นั่งกลัดกลุ้มอยู่ตรงเคาน์เตอร์-บาร์ในบ้านอัครินทร์เข้ามาตบไหล่เบาๆถามกลุ้มใจอะไรบ่อยๆเขาปฏิเสธอัครินทร์จึงแกล้งแขวะ “คนเรานี่ตลกดีพี่คินทร์ว่าไหมบางคนวิ่งไล่ตามแทบแย่เพื่ออยากจะได้อยู่ใกล้กับคนที่ตัวเองแอบรักแต่บางคนใกล้กันแทบตายกลับพยายามจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลกันซะงั้น”
นาคินทร์เมินหน้าหนีหาว่าเพ้อเจ้อให้ไปตรวจสมองเสียบ้างอัครินทร์ย้อนให้พี่ไปตรวจหัวใจตัวเองดีๆด้วยแล้วเดินจากไป
เช้าวันใหม่สาวิตรีทำอาหารต้อนรับกรวิทย์อีกตามเคยนาคินทร์เข้ามาทักทายก่อนไปทำงานแต่พอได้ยินกรวิทย์บอกว่าจะปรึกษาพ่อแม่เรื่องงานแต่งงานก็
ชะงักถามนารถนรินทร์ว่าปานตะวันไปไหนอู้งานอีกหรือนารถนรินทร์ตอบว่าเธอไม่ค่อยสบายเขาทำทีไม่สนใจเดินไป
แต่พอจะออกจากบ้านก็เปลี่ยนใจ...ปานตะวันตื่นขึ้นมารู้สึกมึนๆพอเห็นนาฬิกาว่าสายแล้วก็รีบลุกทันใดเกิดหน้ามืดจะล้มนาคินทร์เข้ามาโอบไว้ถามเป็นอะไรเธอตกใจปฏิเสธ
เขากระชับกอดเอ็ด “จะปากแข็งไปถึงไหนก็เห็นอยู่ว่าจะล้ม”
ปานตะวันดันตัวออกบอกว่าแค่มึนๆนาคินทร์รู้สึกน้อยใจประชด “จะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้” พลันเห็นยาบนโต๊ะหัวเตียง “นี่ยาอะไรเยอะแยะ...”
ปานตะวันใจหายวาบ เกรงเขารู้ว่าเป็นยาบำรุง
คนท้องพยายามแย่งคืนมาปากก็ว่าจะมาสนใจทำไมว่าตนจะป่วยจะตายแล้วไล่ให้เขาออกไปนาคินทร์เคืองประชดกลับ
“ใครจะอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงอย่างคุณไม่ได้สนใจแต่ไม่อยากโดนลูกจ้างเจ้าเล่ห์อย่างคุณเอาเปรียบอู้งาน... เลิกสำออยแล้วรีบออกไปทำงานให้คุ้มค่าจ้างได้แล้ว”
ปานตะวันมองนาคินทร์เดินออกไปด้วยหัวใจที่ร้าวราน
ooooooo
ในห้องทำงานปาริฉัตรแต่งหน้าทาปากสีสดเข้ามาจัดวางเอกสารบนโต๊ะนาคินทร์แล้วเผลอลูบไล้เก้าอี้เขาอย่างเพ้อฝันกนกรัตน์โผล่มาถามทำอะไรปาริฉัตรเคืองย้อนถามเธอนั่นแหละเข้ามาได้อย่างไรกนกรัตน์อ้างว่าที่นี่เป็นบริษัทแฟนตนจะเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้
ปาริฉัตรหัวเราะกนกรัตน์ฉุนถามหัวเราะอะไรปาริฉัตรตอบว่าขำหน้าเธอกนกรัตน์ตาวาว “ทำไมมันน่าขำตรงไหน”
“อยากให้บอกจริงเหรอคะคุณกนกรัตน์” ปาริฉัตรจ้องหน้าอย่างเป็นต่อ
กนกรัตน์โกรธ พุ่งจะเอาเรื่องก็พอดีนาคินทร์เปิดประตูเข้ามาจึงชะงักแถเข้าเกาะแขนนาคินทร์ยั่วนาคินทร์หันมาถามปาริฉัตรมีอะไรด่วนให้เซ็นเธอแขวะทันที
“มีค่ะ เอกสารจากฝ่ายกฎหมายของเรา จะขออนุมัติท่านประธานให้ทำเรื่องฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์พวกที่ชอบปลอมแปลงก๊อปปี้สินค้าส่งออกของเราน่ะค่ะ”
นาคินทร์รับคำว่าจะอ่านเอกสารก่อนปาริฉัตรย้ำพวกชอบก๊อปปี้นี่แย่จริงๆกนกรัตน์มองตาขวางรู้สึกว่าแม่คนนี้รนหาที่เสียแล้ว...หลังจากนั้นปาริฉัตรเข้ามาในห้องน้ำเอาลิปสติกที่กนกรัตน์ซื้อให้ออกมาทาหวังว่าตัวเองทาจะต้องสวยกว่าไม่ทันไรประกายเดือนโผล่มาดึงลิปสติกไปดูและว่าสีมันแดงไปหรือเปล่าแล้วพลิกดูยี่ห้อทึ่งว่าใช้ของแพงเสียด้วย
ปาริฉัตรโกรธดึงคืนมาแล้วโวย “ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะยะอย่านึกว่ามีท่านรองแบ็กแล้วจะซ่าได้เจียมกะลาหัวไว้มั่งท่านรองใช้ผู้หญิงยังกะกระดาษเช็ดก้นเช็ดแล้วก็ทิ้งๆ”
ประกายเดือนโต้ว่าทิ้งลงปากเธอหรือแล้วแหย่ว่าเหม็นก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำห้องในสุดปาริฉัตรหันมาทาลิปสติกต่อทันใดกนกรัตน์โผล่เข้ามาขู่ “ถ้ายังอยากเก็บปากไว้ทาลิปสติกสีสวยๆก็ช่วยสงบปากสงบคำอย่ากำเริบกับฉันอีก”
ประกายเดือนหูผึ่งตั้งใจฟังปาริฉัตรเถียงกนกรัตน์ว่าเธอต่างหากที่อย่ากำเริบกับตนถึงแม้จะใช้ลิปสติกสีเดียวกันแต่ก็ไม่เคยคิดจะแบ่งผู้ชายคนเดียวกันให้กนกรัตน์โกรธกระชากผมปาริฉัตรให้หันมาปาริฉัตรเสียงเฉียบให้ปล่อยไม่อย่างนั้นตนจะกระชากหน้ากากเธอกนกรัตน์คลายมือออกอึ้งๆปาริฉัตรทำหน้าเยาะเย้ยก่อนจะเดินออกไปกนกรัตน์เข่นเขี้ยวแค้นใจ...
หลังเลิกงานประกายเดือนรีบมาหาปานตะวันซื้อน้ำเต้าหู้มาฝากปานตะวันหวั่นใจเกรงประกายเดือนรู้อะไรจากพราวพรรณรายมาหรือเปล่าพอประกายเดือน ทักทำไมต้องตกใจแค่รู้ว่าเธอไม่สบายจึงมาเยี่ยมปานตะวัน ถอนใจแล้วบอกน้องว่าตนมีเวลาคุยแป๊บเดียวต้องทำกายภาพให้นารถนรินทร์เพราะใกล้ถึงวันแต่งงานเธอแล้วตนทำงานจะครบปีประกายเดือนตาโพลง
“ครบปี...อย่างนี้สัญญาที่ตะวันเซ็นกับท่านประธานก็ใกล้จะหมดแล้วล่ะสิ” ประกายเดือนชั่งใจก่อนจะถามตรงๆ “ตะวัน...ตะวันรักท่านประธานรึเปล่าเค้าถามจริงๆ”
ปานตะวันดุ “เลิกถามอะไรไร้สาระท่านประธานของเดือนเขามีคนรักชื่อคุณกนกรัตน์”
ประกายเดือนอึกอักก่อนจะเล่าเรื่องกนกรัตน์ให้ฟังแล้วถามว่าแปลกไหมปานตะวันว่าไม่เกี่ยวอะไรกับตนประกายเดือนดักคอ “จนป่านนี้แล้วนะจะปีนึงแล้วถ้าตะวันไม่เกี่ยวอะไรกับท่านประธานตะวันคงไม่อยู่ที่นี่จนครบปีหรอก”
“ที่พี่อดทนอยู่เพราะสัญญานั่นต่างหาก”
“เหรอ...คนอย่างตะวันเนี่ยนะจะอดทนอยู่เพราะสัญญา...เดือนเดือดรู้ดีว่าตะวันเดือดบ้าดีเดือดพอที่จะลุกขึ้นมาฉีกสัญญาให้กระจุยได้ทุกเมื่อ”
ปานตะวันว่าเพ้อเจ้อประกายเดือนจับมือพี่สาวพูดจริงจังว่าตนเป็นห่วงนาคินทร์และยิ่งกว่านั้นพี่นั่นแหละที่น่าเป็นห่วงที่สุดถ้ากนกรัตน์ไม่ธรรมดาขึ้นมาจริงๆปานตะวันไม่เชื่อ
ขณะเดียวกันในครัวสาวิตรีกำลังทำเค้กกับเพื่อนคุณหญิงคุณนายคุณหญิงรัตนาวดีเอ่ยถึงเรื่องนาคินทร์กับกนกรัตน์ขึ้นมาว่าตนเป็นแม่สื่อให้สาวิตรีจึงถามว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครคุณหญิงชะงักเพราะไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกัน
ooooooo
เช้าวันใหม่มิลค์มาหากนกรัตน์เพื่อยุให้จัดการปานตะวันหาว่าเป็นคนทำให้อาร์ตหย่าจากตนระวังจะมาแย่งนาคินทร์ไปอีกคนกนกรัตน์โกรธตาขวาง
นารถนรินทร์กับกรวิทย์ช่วยกันหลอกพาปานตะวันกับนาคินทร์มาลองชุดเพื่อให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเพื่อนเจ้าสาวทั้งสองมาเจอกันที่ร้านต่างอึ้งๆเคืองๆเจ้าของร้านขอถ่ายรูปเก็บไว้นารถนรินทร์กระเซ้าคู่นี้น่าจะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจริงๆทั้งสองหันมาปรามกรวิทย์ถ่ายรูปส่งไปให้สาวิตรีดูตามคำสั่งเจ้าของร้านถูกใจขอเอารูปลงไอจี...กนกรัตน์เปิดเจอเข้าพอดีรีบแล่นมาหานาคินทร์ที่บริษัทเขากลับมานั่งทำงานอยู่แปลกใจ ถามเกิดอะไรขึ้นเธอยื่นภาพในไอจีให้ดู
“เคทต้องถามพี่คินทร์ต่างหากว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะแบบนี้ใช่ไหมคะพี่คินทร์ถึงไม่ยอมแต่งงานกับเคทพี่คินทร์ควงเคทไปไหนมาไหนทั้งที่ซุกผู้หญิงคนนี้ไว้ในบ้านแล้วจู่ๆก็จะแต่งงานกับมัน”
นาคินทร์อึ้งไม่เคยเห็นอาการกราดเกรี้ยวของกนกรัตน์ค่อยๆอธิบายว่า “คุณแม่กับยัยนารถให้พี่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวส่วนปานตะวันก็เป็นเพื่อนเจ้าสาว”
กนกรัตน์ชะงัก กลับลำไม่ถูกที่อาละวาดออกไปจึงโผกอดเขาร้องไห้โฮ “เคทขอโทษอย่าโกรธเคทนะคะช่วงนี้เคทเครียดมากไหนจะถูกกดดันจากคุณพ่อคุณแม่ ให้กลับอเมริกาไหนจะมาเห็นพี่คินทร์กับผู้หญิงคนนี้เคทเลยเครียดหนักสงสารเคทให้อภัยเคทนะคะ...ที่เคทเป็นยังงี้ก็เพราะเคทรักพี่คินทร์มากมากที่สุดพี่คินทร์อย่าโกรธนะคะเคทจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วอย่าโกรธเคทรับปากเคทสิคะสิคะพี่คินทร์”
นาคินทร์พยักหน้านิดๆ กนกรัตน์ยิ้มแฉ่งกอดเขาพร่ำขอบคุณ...หลังจากนั้นกนกรัตน์เดินมาลานจอดรถ ปาริฉัตรมาดักแขวะ..ถึงหน้าตาเหมือนอย่างกับโขกจากบล็อก แต่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวนรก กนกรัตน์แว้ด...เตือนแล้วอย่ามากำเริบ ปาริฉัตรย้อนให้เตือนตัวเองดีกว่า
“คุณกนกวลีเขาทั้งสวยและก็เป็นผู้ดีทุกกระเบียด
นิ้ว เขาถึงอยู่ในใจท่านประธานตลอดเวลา แม้ว่าจะตายไปแล้ว ต่อให้พยายามทำแค่ไหน ก็ไม่มีวันเหมือน...อย่างที่ฉันบอกไง ว่าพวกของก๊อปเนี่ยมันแย่”
กนกรัตน์โกรธตบหน้าปาริฉัตรหลายฉาด ผลักเธอกระแทกกดกับรถขู่ ว่าเตือนแล้วใช่ไหม ปาริฉัตรไม่ยี่หระ ท้าอยากทำอะไรก็ทำ เพราะนาคินทร์จะได้รู้จักตัวจริงของเธอ แล้วจะได้เห็นหน้าจริง กนกรัตน์ชะงักพูดอะไร ปาริฉัตรเอามือเช็ดเลือดมุมปากเยาะๆ
“ฉันไม่ตบแกคืนหรอกนะ เพราะไอ้ที่ฉันจะเอาคืนแกน่ะ รับรองว่าแกต้องเจ็บกว่าที่ฉันเจ็บหลายร้อยเท่า” พูดจบปาริฉัตรเดินยิ้มเยาะออกไป กนกรัตน์มองตามหวั่นๆระคนแค้น
บ่ายวันนั้น ขณะที่นารถนรินทร์พูดคุยหยอกล้อปานตะวันเรื่องภาพถ่ายคู่ชุดเพื่อนบ่าวสาวที่ลงไอจี ว่าเหมาะสมกันมากน่าจะเป็นคู่แต่งงานจริงๆ อัครินทร์เข้ามายื่นกระเป๋ากุญแจที่เก็บได้ตรงเก้าอี้สนามให้ ปานตะวันจำได้ว่าเป็นของประกายเดือน ไม่ทันไรประกายเดือนโทร.เข้ามาบอกให้ช่วยหาพอดี ปานตะวันบอกจะเอาไปให้ ไม่ฟังเสียงห้ามของประกายเดือน
ในห้องทำงานนาคินทร์ กนกรัตน์มานั่งอ่านหนังสือรอไปดินเนอร์ นาคินทร์ปิดแฟ้มงานแล้วบอกว่า
ยังมีประชุมต่อ กนกรัตน์เหวอแต่ไม่กล้าโวยวายเพราะรู้ว่าไม่ควรงอแงเวลานี้ จึงบอกว่าตนจะรอ นาคินทร์พยักหน้าแล้วออกไป หญิงสาวหยิบลิปสติกสีแดงมาทาปากแก้เซ็ง แล้วลุกเดินไปเปิดแฟ้มบนโต๊ะทำงานดู เห็นใบสั่งสินค้าที่นาคินทร์เซ็นแต่ละใบมูลค่าร้อยกว่าล้านทั้งนั้นก็ตาโพลง ก้มลงจะรื้อค้นลิ้นชักแต่มันล็อก จึงหันไปมองภาพวาดของกนกวลีเคืองๆ
“คอยดูเถอะ ซักวันฉันจะปลดแกออกแล้วโยนทิ้งถังขยะ”
ทันใดเสียงเครื่องปริ๊นต์ดัง มีกระดาษออกมาเป็นภาพตัวเองก่อนทำศัลยกรรมแต่มีสีดำปิดไว้ครึ่งหน้า กนกรัตน์ตกใจมากรีบดึงภาพออกมาอ่านข้อความ “ถ้ายังไม่เลิกซ่า อีกครึ่งมาแน่”
กนกรัตน์แทบร้องกรี๊ด...ในขณะที่ปาริฉัตรเข้าห้องน้ำทาปากสีชมพูอ่อนแบบเดิมของตัวเอง แล้วยิ้มพูดกับกระจกว่า ตนไม่ยอมใช้ผู้ชายร่วมกับใครหน้าไหนทั้งนั้น หันมาเจอประกายเดือนยืนมองถาม สวยเสร็จหรือยัง ปาริฉัตรนึกว่ามาหาเรื่องจึงถามจะเข้าส้วมหรืออยากโดนตบ
“ฉันไม่ได้มาเข้าส้วมย่ะ ฉันมาตามเอกสารของท่านรอง ที่ให้ท่านประธานเซ็นเมื่อเช้า เธอยังไม่ได้ส่งคืนฉัน”
ปาริฉัตรหยิบกุญแจตู้โยนให้ไปไขเอาเอง ตนต้องเข้าประชุมกับท่านประธาน ประกายเดือนแกล้งถามไม่ทาปากสีแดงแล้วหรือ ปาริฉัตรถลึงตาดุยุ่งอะไรด้วย ประกายเดือนยักไหล่พูดใส่หน้า “ก็แค่จะบอกว่าดีแล้ว ทาสีนี้ดูดีกว่า...ทาสีแดงแล้วเหมือนอีกาคาบพริก”
พูดจบประกายเดือนวิ่งหนีไป ปาริฉัตรฮึดฮัดบ่นว่าไล่หลัง แต่ก็อดหันมายิ้มสะใจกับกระจกอีกครั้งไม่ได้ ก่อนจะเดินออกมา พลันเกือบชนกับกนกรัตน์ซึ่งยืน
ตาวาวอย่างน่ากลัว...สองสาวขึ้นมาคุยกันบนดาดฟ้า ปาริฉัตรถามมีธุระอะไร ตนมีประชุม กนกรัตน์ยื่นภาพจากพรินเตอร์ ให้ดู ถามเป็นฝีมือเธอใช่ไหม ปาริฉัตรแกล้งเอามือปิดตาทำท่ากลัวว่าผีหลอก ยิ่งทำให้กนกรัตน์โกรธกระชากคอเสื้อประกายเดือนดันไปกระแทกระเบียง ตะคอก
“อย่ามาแอ๊บ...ตอบมา ฝีมือแกใช่ไหม แกไปเอามาจากไหน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก ทำไมจะต้องโมโหขนาดนี้ นี่มันรูปแกรึไง” เห็นกนกรัตน์อึ้ง จึงผลักมือออก เสียงกร้าว “ใช่...ฝีมือฉันเอง ฉันมันคนกล้าทำก็กล้ารับ ไม่เหมือนคนอย่างแก ไม่ยอมรับความจริง กล้าทำไม่กล้ารับ”
“แก...แกไปเอามาจากไหน...แกไปเอามาได้ยังไง”
ปาริฉัตรถามกวนเอาอะไร รูปนี้หรือ ตนเอามาจากหมอโก้ กนกรัตน์ตาโพลงเสียงสั่นถามว่าหมอโก้เล่าอะไรให้ฟัง ปาริฉัตรยักไหล่ “คงจะเล่าหรอก แล้วฉันก็ไม่ถามให้โง่ด้วย คนฉลาดอย่างฉันมันลึกล้ำกว่านั้น... ก็แค่แอบเข้าไปในคลินิก ค้นหาหลักฐาน สุดท้ายฉันก็ได้มา”
กนกรัตน์กราดเกรี้ยวใส่ว่ามายุ่งกับชีวิตตนทำไม...ปาริฉัตรสวน “ก็แกอยากมายุ่งกับท่านประธานของฉันทำไม ฉันรักของฉันมาตั้งนาน ฉันรอของฉันมาตั้งนาน รอจนเมียท่านประธานตาย แต่แกก็ยังเสนอหน้าเข้ามาอีก แกนั่นแหละ มายุ่งกับชีวิตฉันทำไม”
สองสาวต่างกราดเกรี้ยวใส่กันว่าฝันสูงเกินไป กนกรัตน์โกรธจัด บีบคอปาริฉัตร สองสาวยื้อยุดกัน ลิปสติกกนกรัตน์เปื้อนเสื้อปาริฉัตร สองสาวดันกันไปมา สุดท้ายกนกรัตน์ผลักปาริฉัตรตกจากระเบียงลงมา... ระหว่างนั้นปานตะวันเดินมาเพื่อเอากุญแจมาให้น้อง ร่างปาริฉัตรตกลงมากระแทกพื้นตรงหน้า เธอร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ แต่ยังมีสติให้คนโทร.เรียกรถพยาบาล กนกรัตน์ชะโงกหน้าลงมาเห็นปานตะวันก็เข่นเขี้ยวว่าเป็นรายต่อไป
ooooooo
ฟ้ามืดแต่ทุกคนยังต้องอยู่บริษัทเพื่อให้ตำรวจสอบปากคำ รวมทั้งปานตะวันและกนกรัตน์ นาคินทร์เศร้าใจที่เลขาต้องมาตายแบบนี้ กนกรัตน์ทำทีปลอบใจแต่แอบยิ้มเหยียดมุมปาก ปานตะวันนั่งกอดกับประกายเดือนด้วยเสียขวัญ นาคินทร์หันมาเห็นเสียงเข้มทำไมยังไม่กลับ
“เอ่อ...ดึกแล้ว ตะวันอย่ากลับบ้านเลย มันไกล นอนคอนโดกับเค้าดีกว่า...” ประกายเดือนพูดไม่ทันจบ นาคินทร์โพล่งขึ้นว่าไม่ได้ ทุกคนหันมองงงๆ
“คือ...งี้ฮะ...คุณเดือนยังเตรียมเอกสารให้ผมค้างอยู่นี่ฮะ คุณเดือนไม่ต้องห่วงนะครับ กลับพร้อมผมเลยก็แล้วกัน”...กนกรัตน์ลุกพรวดไม่พอใจในรถกนกรัตน์นั่งหน้าตึงไม่พอใจที่นาคินทร์
ให้ปานตะวันนั่งรถมาด้วย พอเห็นเขาเหลือบตามองปานตะวันผ่านกระจกมองหลัง ก็รีบเอนหน้ามาซบไหล่ออดอ้อนว่ากลัวอยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อน นาคินทร์ย้อนถามกลัวอะไร เธอชะงักไม่กล้าพูดถึงปาริฉัตร...จนรถมาจอดหน้าคอนโด เธออิดออดอยากให้เขาขึ้นไปส่งบนห้อง เขาออกตัว
“วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว กนกพักผ่อนเยอะๆ นะครับ พี่เองก็จะได้รีบกลับบ้านพักผ่อนด้วยเหมือนกัน”
กนกรัตน์จำต้องถอยออก แต่อดจิกปานตะวันไม่ได้ว่า กลับไปคงจะรีบพักผ่อนเช่นกัน แล้วจุ๊บแก้มกู๊ดไนต์นาคินทร์ก่อนจะเอียงแก้มให้เขาจุ๊บกลับ เขาเหลือบมองปานตะวันอึ้งๆ...พอขับรถออกมาสักพัก นาคินทร์ก็จอดรถ สั่งปานตะวันให้มานั่งหน้า อ้างตนไม่ใช่คนขับรถ ถ้าไม่มาตนจะไปอุ้ม หญิงสาวรีบเปิดประตูย้ายมานั่งหน้า แต่เขายังนั่งนิ่งไม่ออกรถ
“อ้าว...จะเอายังไงอีก ทำไมไม่รีบไปล่ะคะ ไหนว่าจะรีบกลับไปพักผ่อน” นาคินทร์หันขวับมองโกรธๆ ปานตะวันหลบสายตา เขาแกล้งปรับเบาะนอนหน้าตาเฉย “คุณ! ทำอะไรเนี่ย”
“พักผ่อน...” นาคินทร์พูดทั้งยังหลับตา ปานตะวันโวยพักผ่อนอะไร เขาทำเสียง “ชู่ว์...วันนี้ผมเหนื่อยมาก อยากพักผ่อนจริงๆ”
ปานตะวันงงแล้วตนจะทำอย่างไร ได้แต่มองนาคินทร์นอนหลับตาแล้วถอนใจ...ส่วนนัครินทร์มาส่งประกายเดือนที่คอนโดแล้วไม่ยอมกลับ หญิงสาวเอ็ดที่เขาเกือบหลุดให้ปานตะวันรู้ว่าเขานอนที่นี่บ่อยๆ นัครินทร์ขอโทษและขอนอนมองตาเธออีกสักคืน ประกาย-เดือนใจอ่อนตามเคย แต่ในใจยังเป็นห่วงพี่สาว จะหายตกใจหรือยัง
ฟ้าสว่าง นาคินทร์ตื่นเห็นปานตะวันนั่งคุดคู้หลับอยู่เบาะข้างๆ เขามองเธอด้วยสายตารักระคนน้อยใจไม่กล้าแสดงออก ได้แต่ร่ำร้องในใจทำไมเธอต้องเป็นคนทำให้กนกวลีตาย เผอิญปอยผมเธอตกลงมาปรกหน้า เขาเอื้อมมือไปปัดให้อย่างแผ่วเบา หญิงสาวรู้สึกตัว เขารีบหลับตา เธอเอามือลูบหน้าตัวเองเหมือนโดนสัมผัส พอเห็นว่าเช้าแล้วจึงปลุกเขาอย่างเกรงใจ นาคินทร์ทำเป็นลุกขึ้นปรับเบาะให้เข้าที่ แล้วบอกเธอว่ายังไม่อยากกลับ มองไปเห็นคนใส่บาตรก็ลงจากรถไปซื้อของใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ปานตะวันมองความอ่อนโยนของเขาอย่างทึ่งๆ
แต่แล้วเขากลับพูดขึ้นว่า “คงเป็นทางเดียวที่ผมจะตอบแทนคุณฉัตร...ใครดีกับผม ผมก็ดีด้วย แต่ถ้าใครร้ายกับผม ผมก็จะร้ายตอบ”...ปานตะวันอึ้งปรับความรู้สึกแทบไม่ทัน
ooooooo
พอทุกคนในบ้านรู้เรื่องการเสียชีวิตของปาริฉัตรก็ตกใจ ทวยเทพให้นาคินทร์ดูแลไปถึงครอบครัวของเธอด้วยและถามตำรวจสรุปว่าอย่างไร นาคินทร์ตอบว่า สรุปกว้างๆ อุบัติเหตุ ฆ่าตัวตายแล้วก็ฆาตกรรม ใบตองโพล่งขึ้นให้ทำบุญล้างซวย สาวิตรีตกใจเอ็ดใบตอง
“ตายแล้ว! ทำไมอะไรมันฟังดูน่ากลัวแบบนี้ บ้านเราไม่เคยทำร้ายคิดพยาบาทอาฆาตแค้นอะไรใคร จะมาซวยเซยอะไรอย่างเธอพูดได้ยังไงกัน”
กรวิทย์ถามขึ้นว่าแล้วใครจะช่วยงานนาคินทร์ นารถนรินทร์รีบเสนอให้ปานตะวัน นาคินทร์กับอัครินทร์หันขวับมองหน้าปานตะวันว่าจะตกลงอย่างไร
ปานตะวันหลบมานั่งเครียด อัครินทร์ตามมาปลอบใจ “อย่าเพิ่งกังวลไปเลยครับ ยัยนารถก็พูดไปเรื่อย อีกอย่าง...พี่คินทร์ก็คงไม่เอาคุณไปช่วยงานหรอก ในเมื่อคุณต้องดูแลยัยนารถ”
ปานตะวันถอนใจที่นารถนรินทร์ไม่น่าหาเรื่องให้ตนเลย อัครินทร์แซวเครียดมากเดี๋ยวหลานตนออกมาคิ้วผูกเป็นโบ หญิงสาวหน้างอ อัครินทร์ปลอบ จะเครียดไปทำไม ถ้าเราไม่ยอมเสียอย่างนาคินทร์จะทำอะไรได้ ในเมื่อสัญญาระบุจ้างมาดูแลนารถนรินทร์ไม่ได้ให้มาเป็นเลขา ปานตะวันนึกได้ตนไม่ต้องกลัวว่าจะต้องอยู่ใกล้เขาอีก เธอยิ้มแล้วขอบคุณอัครินทร์
เช้าวันใหม่ ปานตะวันพยายามไม่เผชิญหน้ากับนาคินทร์ แต่ก็หนีไม่พ้น เขามาดักหน้าถามรังเกียจตนมากหรือ เธอโต้ “ก็มันสมควรไหมล่ะ”
“แล้วคิดว่าจะหนีผมได้หรือ....”
“ไม่ได้ยินที่คุณแม่คุณพูดเหรอ บ้านคุณไม่เคยทำร้าย คิดร้าย คิดพยาบาทอาฆาตแค้นใครแล้วจะซวยได้ยังไง” นาคินทร์ทำหน้าถามแล้วทำไม “แล้วไอ้เรื่องร้ายๆ ที่มันเกิดขึ้นกับคุณ มันก็อาจจะเป็นเพราะความคิดพยาบาทอาฆาตแค้นของคุณก็ได้ ใครจะไปรู้”
“เรื่องร้ายๆ ไม่ได้เกิดขึ้นกับผม”
“แต่คุณปาริฉัตรก็เกี่ยวข้องกับคุณ...ถ้าคุณไม่หยุด มันก็อาจจะเกิดเรื่องร้ายๆ ตามมาอีก”
นาคินทร์แค่นหัวเราะ “เก็บไว้หลอกเด็กหรือหลอกผู้ชายเด็กๆ โง่ๆ ดีกว่ามั้ง คุณนี่มันใจร้ายถึงขนาดเอาเรื่องคุณฉัตรมาใช้พูดให้ประโยชน์กับตัวเองเชียวเหรอ ใจร้ายจริงๆ ผู้หญิงคนนี้...งั้นคุณก็น่าจะรู้ไว้ด้วยว่าอะไรร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณน่ะ เป็นเพราะคุณที่ทำให้กนกต้องตาย”
ปานตะวันอึ้งน้ำตาเอ่อ “คุณ...คุณนาคินทร์ คุณใจร้าย...ใจร้ายที่สุด” หญิงสาวสะบัดหน้าวิ่งออกไปอย่างร้าวรานใจ นาคินทร์มองตามด้วยความสะใจ
วันเดียวกัน มิลค์ถามกนกรัตน์ถึงการตายของปาริฉัตร เธอสำลักน้ำพรวด มิลค์ถามอีกทีว่าเลขานาคินทร์เป็นอะไรตาย เซ่อซ่าตกลงมาหรือว่าโดดตึกประชดรัก หรือว่าใครผลักลงมา
“อยากโดนมั่งมั้ยล่ะ” กนกรัตน์พึมพำ
“อะไรนะ! ตะกี้แกว่าอะไรนะ”
“ฉันก็บอกว่าฉันจะไปรู้มั้ยล่ะ เรื่องของเขา ฉันจะไปเกี่ยวอะไรด้วย”
มิลค์นึกว่าจะเกี่ยวกันเพราะเห็นเป็นแฟนนาคินทร์ คงจะรู้อะไรมาเม้าท์กันบ้าง กนกรัตน์ถอนใจโล่งอก...บ่ายวันนั้น กนกรัตน์แอบมาค้นหาภาพตัวเองบนโต๊ะทำงานปาริฉัตร แต่ลิ้นชักล็อกก็เจ็บใจ ประกายเดือนเดินมาเห็นถามทำอะไร กนกรัตน์สะดุ้งทำเนียนว่าหากระดาษเปล่าซักแผ่น ประกายเดือนไม่ค่อยอยากเชื่อแต่ก็หยิบกระดาษที่เครื่องปริ๊นซ์ส่งให้ เธอรับแล้วเดินไป
ประกายเดือนกลับมานั่งครุ่นคิดว่ากนกรัตน์ค้นหาอะไร นัครินทร์เข้ามาหยอกล้อ เธอชั่งใจยังไม่อยากบอกอะไรเขา...พอเอาเอกสารมาให้นาคินทร์ที่ห้อง เขาเปรยว่าเธอคงต้องทำงานหนักหน่อย เพราะพี่สาวเธอใจดำไม่ยอมมาช่วยงานเป็นเลขา กนกรัตน์ได้ยินหูผึ่งเข้าโอบกอด
“พี่คินทร์น่ะ...จะต้องไปรบกวนคนอื่นเขาทำไมล่ะคะ เคทอยู่ตรงนี้ทั้งคน”
ประกายเดือนหมั่นไส้ หอบแฟ้มที่เซ็นเสร็จ ขอตัวกลับออกไป นาคินทร์เรียกไว้ “จริงสิคุณเดือน เอกสารที่ผมเคยส่งให้นายนัคเซ็นตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วยังไม่ได้ส่งกลับมานะครับ”
ประกายเดือนนึกได้ว่าส่งให้ปาริฉัตรแล้ว จึงบอกกำลังตามอยู่ นาคินทร์เร่งให้ไวหน่อย
ooooooo










