สมาชิก

สามใบไม่เถา

ตอนที่ 13

อัลบั้ม: เรื่องราวของ 3 สาวพี่น้อง ต่างพ่อแม่ แต่อยู่ในครอบครัวเดียวกันใน "สามใบไม่เถา"

บุษบาบัณถูกแก้เผ็ดโดยสาวรุ่นหลานอย่างเจ็บแสบ เมื่อเธอไปออกรายการแล้วให้สัมภาษณ์ชีวิตไฮโซ โดยใส่ชุดหรูใส่นาฬิกาฝังเพชร เธอคุยโวกับนักข่าวว่า

“ชุดนี้มีชุดเดียวในโลก ใช้โชว์งานปารีสแฟชั่นวีค บุษชอบใจก็รีบสอยมาเลย” นักข่าวถามว่าแล้วนาฬิกาล่ะ? “เรือนเดียวในโลกอีกเหมือนกันค่ะ บุษชอบอะไรที่ไม่ซ้ำใคร” เธอโพสต์ให้ช่างภาพถ่ายรูปอย่างภูมิใจ

ที่เครื่องเล่นวีดิโอวอลล์ มีมือลึกลับมากดหยุดภาพที่กำลังเล่นอยู่ แล้วใส่แผ่นดีวีดีเข้าแทน นักข่าวและช่างภาพต่างพากันชะงักมองจอทีวี บุษบาบัณว่า “มีอะไรเหรอคะ?”

ภาพในจอกลายเป็นภาพนิ่งที่บุษบาบัณกำลังกอดฟัดกันนัวเนียกับพงษ์ชัยที่ทางเดินในโรงแรม ต่อมาเป็นภาพบุษบาบัณกำลังเต้นรำกอดคอชายคู่เต้นเคลิ้ม ต่อด้วยภาพบุษบาบัณเมาจัดโก่งคออาเจียนอยู่ข้างรถริมถนนในตอนกลางคืน ปิดท้ายด้วยภาพบุษบาบัณกอดกับฝรั่งในรถเปิดประทุนกลางสี่แยกไฟแดง จบลงด้วยจอดำขึ้นตัวหนังสือสีแดงว่า “เอาคืน”

ทั้งหมดเป็นภาพเบลอที่หน้าเห็นไม่ชัดนักว่าเป็นบุษบาบัณ นักข่าวถามกันว่าใคร หน้าคุ้นๆ

บุษบาบัณแค้นใจ มองไปเห็นอุรวสากับอันตรากำลังเดินออกไปอย่างเร็ว เธอบอกนักข่าวว่า

“แค่นี้นะคะ บุษมีธุระกับท่านผู้หญิงที่สมาคมค่ะ” แล้วเดินแทบเป็นวิ่งออกไป

ไล่ตามอุรวสากับอันตรามาถึงทางเดินในห้าง บุษบาบัณถามโพล่งว่า “ภาพในร้านนั้นเป็นฝีมือพวกแกใช่ไหม!”

“โดนเข้าบ้างเป็นไง แซ่บถึงใจดีไหมคะ” อุรวสาย้อนถาม บุษบาบัณทำเป็นหัวหมอขู่ว่าการเผยแพร่คลิปทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงมันผิดกฎหมาย ขู่จะแจ้งความจับทั้งสองคน อุรวสาท้าว่า “ก็เอาสิคะ วสาจะแจ้งความจับคนที่ตัดต่อคลิปหนูอินเหมือนกัน”

บุษบาบัณปฏิเสธว่าผู้หญิงในภาพไม่ใช่ตน อันตรา

บอกว่าถ้าอย่างนั้นตนจะส่งรูปไปให้บรรดาเมียๆของผู้ชายพวกนั้นดู คงสนุกแน่เมื่อเมียน้อยโดนแก๊งเมียหลวงแหกอก อุรวสาก็ปรามว่าให้เลิกตอแยกับอินทุอรและลบคลิปชั่วๆนั่นออกให้หมด ไม่งั้นได้เจอดีแน่

บุษบาบัณโมโหพุ่งเข้าใส่อันตรา ถูกอุรวสาผลักออกไป บุษบาบัณผลักอุรวสาจนล้ม อันตราตกใจรีบประคองพี่สาวและพาส่งโรงพยาบาล โชคดีที่เด็กในท้องไม่เป็นไร บุษบาบัณยังแอบตามมาถึงโรงพยาบาล

ooooooo

แสงฉานตัดสินใจขายร้าน บุษบาบัณมาโวยวายว่าจะขายร้านทำไมไม่ปรึกษาตนสักคำ

“ต่อไปผมคงไม่ต้องรบกวนคุณบุษอีก จริงๆแล้วผมไม่ค่อยสบายใจกับการกระทำของคุณ หนูอินเป็นน้องวสาคุณไม่ควรทำกับหนูอินแบบนั้น”

บุษบาบัณย้อนถามว่าตนทำอะไร พอแสงฉานบอกว่าภิสิตเล่าให้ฟังหมดแล้ว เธอย้อนถามว่าทำไมตนจะทำไม่ได้ในเมื่อหนูอินแย่งสามีตน ย้ำปรามแสงฉานว่าเขาก็ต้องระวังตัวไว้ให้ดี ที่เมียเร่งให้หย่าอาจจะมีเรื่องความประพฤติส่วนตัวลับหลังก็ได้ แสงฉานโต้อย่าง

ไม่สะทกสะท้านว่า “คุณวสาไม่เคยนอกใจผม ผมรู้จักเขาดี”

“แน่ใจเหรอคะ นับบ้างไหมว่าไม่ได้นอนเตียงเดียวกันนานแค่ไหนแล้ว” บุษบาบัณพูดเป็นปริศนา

วันต่อมา แสงฉานจัดอาหารและเครื่องดื่มขอบคุณภิสิตที่หาคนมาซื้อร้านให้ตน ภิสิตบอกแสงฉานว่าเรื่องคลิปตนกับหนูอินก็ขอปล่อยให้เรื่องเงียบไปเองจะเป็นผลดีต่อหนูอินมากกว่า แสงฉานพูดอย่างประทับใจว่าอาสิตทำเพื่อหนูอินตลอด

“อาขอให้ได้เห็นหนูอินมีความสุขก็พอใจแล้ว”

อันตราปรารภกับอุรวสาอย่างเป็นห่วงว่า พอหนูอินรู้ว่าอาสิตจะย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่นก็ร้องไห้ไม่หยุด อุรวสาบอกอันตรา ว่าเราคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

ต่อมา อุรวสาบอกบราลีว่าป้าอัปสรป่วย ตนมาขออนุญาตพาหนูอินไปเยี่ยม อัษฎาอนุญาตและฝากเยี่ยมด้วย

พออุรวสากับอันตราพาอินทุอรเข้าไปในบ้าน

ป้าอัปสรก็ได้ยินเสียงเปียโนแว่วมา อุรวสากับอันตราลุ้นหนูอินให้เข้าไปดู อินทุอรไปถึงประตูก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นภิสิตกำลังเล่นเปียโนเพลงที่ตนต่อให้
ที่แท้เป็นแผนของอุรวสากับอันตราร่วมกับ

ป้าอัปสร หาทางให้ภิสิตกับอินทุอรได้พบกันก่อนที่ภิสิตจะไปญี่ปุ่น อินทุอรสะเทือนใจจนร้องไห้ ภิสิตลุกมาปลอบว่าตนทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอัษฎา สงสารอินทุอรจนทนไม่ได้กอดเธอไว้

“ถึงอาจะไม่อยู่ แต่อาจะคอยตามข่าวหนูอินตลอดไป ถ้าหนูอินแต่งงาน อาสัญญาว่าจะมาเล่นเปียโนให้หนูอินเต้นรำกับเจ้าบ่าว” อินทุอรยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นในอ้อมแขนของภิสิตที่เศร้าสุดหัวใจ

ooooooo

ขณะที่อุรวสากับอันตรากำลังคุยกับป้าอัปสรที่นอนพักที่โซฟา หน้าตึงแข็งเหมือนเป็นอัมพาต มีป้าต้อยกับป้าแต๋วนั่งแซวว่าร่ำร้องอยากลองฉีดโบท็อกซ์ พอพาไปทำก็บ่น ร้องโอดโอยไม่หยุด

พอดีสาวใช้พาอัษฎากับบราลีเข้ามา อัษฎาถามป้าอัปสรว่าเป็นอะไร ป้าอัปสรไม่กล้าบอกความจริง พูดผ่านๆไปว่าหน้าเป็นอัมพาตไปชั่วคราวเท่านั้น หมอบอกว่าไม่นานก็หาย

คุยกันพักหนึ่งอินทุอรก็เข้ามา อัษฎาชวนลูกๆ ว่าเยี่ยมเสร็จก็กลับกันดีไหม ป้าอัปสรจะได้พักผ่อน

ภิสิตยังนั่งอยู่ที่เปียโน พอได้ยินเสียงป้าอัปสรเดินเข้ามาเขารีบเช็ดน้ำตาถามว่าไปกันหมดแล้วหรือ ป้าอัปสรรู้ว่าเขาร้องไห้ บอกว่าอยากร้องก็ร้องเถอะ ลูกผู้ชายก็เสียใจเป็น

“ผมพยายามทำดีที่สุดแล้วครับ เพื่อหนูอิน”

“ป้ารู้ ภิสิตเป็นสุภาพบุรุษ ยอมเสียใจแต่ไม่ยอมให้หนูอินเสียชื่อ คงไม่มีใครรักหนูอินมากไปกว่านี้แล้ว”

ooooooo

เวศม์ไม่ละความพยายามที่จะเอาชนะใจอันตรา เขาไปปรึกษาผู้กำกับโฆษณาว่าต้องการทำโฆษณาคอนโดของบริษัทให้เพื่อนช่วยหน่อย แต่มีข้อแม้พิเศษอยู่เรื่องหนึ่ง...

พอถึงวันถ่ายจริงปรากฏทุกอย่างเตรียมพร้อมที่ริมสระว่ายน้ำแล้ว แต่ว่านางแบบที่นัดไว้เกิดอุบัติเหตุ อุรวสาจึงเสนอให้อันตราแทน ส่วนผู้ที่แสดงเป็นสามีก็ให้เวศม์แทน หัวเด็ดตีนขาดอันตราก็ไม่ยอม เวศม์ขอร้องว่าคิดเสียว่าทำเพื่อบริษัทก็แล้วกัน ผู้กำกับบอกนายแบบนางแบบและเด็กที่แสดงเป็นลูกเล่นน้ำกันให้สบายเดี๋ยวตนจะถ่ายไปเรื่อยๆ

เวศม์แกล้งวักน้ำใส่อันตรา เธอไม่ยอมวักน้ำใส่คืนทั้งยังยุให้หนูน้อยที่แสดงเป็นลูกช่วยรุมอีกคน เลยกลายเป็นวักน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ผู้กำกับถ่ายภาพรัว ได้ภาพสวยเป็นธรรมชาติอย่างพอใจ

อุรวสาเห็นโฆษณาชิ้นนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าตนไม่มีโอกาสอย่างนี้แล้ว เธอยกมือคลำท้องเศร้าๆ

ในที่สุด อันตราจับได้ว่าเรื่องนางแบบประสบอุบัติเหตุอะไรนั่นเวศม์กุขึ้นมาทั้งเพ ถามว่าเขาทำแบบนี้ทำไม

“ก็แค่อยากให้คุณลองคิดเล่นๆ ว่าเราจะมีความสุขแค่ไหน ถ้าได้ใช้ชีวิตครอบครัวเล็กๆอย่างสงบสุข ไม่ต้องวิ่งตามกระแสวัตถุนิยม ไม่ให้เงินทองสำคัญกว่าครอบครัว เราจะสอนลูกให้เป็นคนดีของสังคม นี่คือความฝันสูงสุดของผมที่อยากมีคุณร่วมอยู่ในนั้น”

อันตราฟังเพลินจนเกือบคล้อยตาม แต่พอนึกได้ว่านั่นเป็นการขายฝันของเวศม์เธอก็ดึงตัวเองออกจากภวังค์ กลับมาสู่ความจริงที่ตัวเองไม่เปิดรับใคร พูดเย้ยๆว่า

“เชิญคุณฝันไปคนเดียวเถอะ”

เวศม์หน้าจ๋อย แต่พยายามฝืนยิ้มให้เห็นว่าตนไม่ย่อท้อ

ooooooo

เวศม์ให้แสงฉานทำอาหารมาประกอบฉากโฆษณา เขาเอากล่องอาหารเข้ามาที่บริเวณคอนโด เห็นอุรวสากำลังเล่นกับหนูน้อยที่สวนหย่อมอย่างสนุกสนานก็แปลกใจ พอเธอเห็นเขาก็ชักสีหน้าถามว่ามาทำไม

แสงฉานบอกว่าเวศม์ให้ตนทำอาหารมาประกอบฉากโฆษณา ทักว่าเธอเคยบอกว่าไม่ชอบเด็กไม่อยากมีลูก...

“โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เคยไม่ชอบก็เปลี่ยนเป็นชอบได้ แล้วจากคนเคยรักก็เปลี่ยนเป็นไม่รักได้” ไม่พูดเปล่ายังจ้องหน้าแสงฉานอย่างหมางเมินด้วย แสงฉานพูดเสียงอ่อยว่าตนรักใคร ก็ไม่เคยเปลี่ยน “ถ้าไม่เปลี่ยนคุณก็จะเป็นฝ่ายเจ็บเอง ฉันกำลังคุยกับทนายจะมีการฟ้องหย่าเร็วๆนี้”

อุรวสาพยายามพูดทำร้ายจิตใจแสงฉานทั้งที่ตัวเองเจ็บปวดมาก แต่แสงฉานเจ็บปวดยิ่งกว่า ยืนคอตกมองตามอุรวสาที่เดินจากไปอย่างปวดร้าว...

ooooooo

งานเปิดตัวคอนโดวันนี้ อัษฎาพาครอบครัวมาร่วมพร้อมหน้า ทุกคนตื่นเต้นกับวันสำคัญนี้ มีแต่อินทุอรคนเดียวที่ท่าทางเศร้าๆ พออันตราถามว่าเป็นอะไร เธอบอกว่าไม่ค่อยอยากมางานนี้เลย

อัษฎาถามว่าที่รู้สึกไม่ดีเพราะเรื่องคลิปนั่นใช่ไหม ปลอบและให้กำลังใจลูกรักว่า

“ในโลกนี้ไม่มีใครหนีการนินทาพ้น แต่มีสองอย่างที่เอาชนะได้ทุกสิ่ง นั่นคือความดีและความจริง หนูอินต้องกล้าเผชิญหน้ากับทุกคนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเรา”

“หนูอินไม่ต้องกลัว ถ้ามีใครว่าอะไรหนูอิน พี่สองคนจะสอยมันให้ร่วงเลย” อันตราที่แต่งตัวสวยออกท่าลุย

เดินมาถึงบริเวณจัดงาน อินทุอรขอไปเข้าห้องน้ำ ไปเจอนักข่าวสามสี่คนกรูกันเข้ามาถามเรื่องคลิปหลุดว่าใช่เธอหรือเปล่า อีกคนโชว์คลิปในไอแพดให้ดู อินทุอรไม่ทันตั้งตัว ถูกแสงแฟลชเข้าตาจนพร่ามัว อันตราเห็นเหตุการณ์บอกอุรวสาว่าหนูอินแย่แล้ว อันตรากับอุรวสาทำท่าจะไปช่วยน้อง ถูกอัษฎาเบรกว่า “ไม่ต้อง พ่อเชื่อว่าหนูอินจัดการเองได้”

แล้วอินทุอรก็จัดการได้จริงๆ เธอตอบโต้และชี้แจงแก่บรรดานักข่าวอย่างมั่นใจว่า

“คนที่อยู่ในลิฟต์นั่นไม่ใช่อินค่ะ ไม่ใช่จริงๆ”

“ตอนที่เดินออกจากร้านเบเกอรี่เห็นหน้าชัดมากนะคะ”

“ดูดีๆสิคะ เขาตัดต่อภาพอินกับคุณอาภิสิตจากคนละที่มารวมกัน เป็นการกลั่นแกล้งค่ะ”

“มีหลักฐานไหมคะ”

“ตำรวจกำลังขอภาพกล้องวงจรปิดจากโรงแรม คงจะได้เห็นความจริงเร็วๆนี้ หยุดแชร์คลิปเถอะค่ะ เพราะมีความผิดตามกฎหมาย โทษทั้งจำทั้งปรับนะคะ”

อินทุอรเหลือบมองไปทางอัษฎา เห็นเขาพยักหน้า เธอก็ยิ่งมีกำลังใจ พูดต่ออย่างมีอหังการว่า

“อินมาจากครอบครัวที่มีการศึกษา ได้รับการอบรมเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น อินไม่ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมหรอกค่ะ”

เป็นคำตอบที่ทำเอานักข่าวใบ้กินไปต่อไม่เป็นเลย

ooooooo

ที่ด้านนอกงานเปิดคอนโด อุรวสาไปนั่งเงียบๆ เพลียๆอยู่คนเดียว พงษ์ชัยมาเจอถามว่าทำไมมานั่ง

คนเดียว บอกว่าตนตั้งใจจะมาอุดหนุนคอนโดของอัษฎา เธอช่วยเลือกให้ได้ไหม

อุรวสาจำต้องลุกขึ้นเพลียๆ พงษ์ชัยฉวยโอกาสรีบเข้าประคอง แสงฉานมาเห็นพอดีเขาพุ่งเข้าผลักพงษ์ชัยอย่างแรง

พงษ์ชัยผลักอกเอาคืน ดีที่เวศม์มาเจอจึงเข้าแยก ทักทายพงษ์ชัยเชิญเข้าข้างในเลยเพราะอัษฎารออยู่ พอกันพงษ์ชัยออกไปแล้วเวศม์ก็ผละไปเพื่อให้แสงฉานได้อยู่กับอุรวสาตามลำพัง

“เลิกทำตัวอย่างนี้สักทีได้ไหม” อุรวสาพูดอย่างหมางเมินเย็นชา

“ผมยังรักคุณนะวสา” แสงฉานมองอย่างตัดพ้อ เธอบอกเขาว่ารีบหย่ากันเสียเลิกเป็นตัวถ่วงในชีวิตตนได้แล้ว

เวศม์เห็นแสงฉานออกไปยืนมองหนุ่มสาวที่มากันเป็นคู่และมากันเป็นครอบครัวอย่างอบอุ่นมีความสุขเศร้าๆ จึงเข้ามาเตือนเพื่อนว่า

“พงษ์ชัยตั้งใจก่อกวนคุณ เพื่อให้ภาพคุณยิ่งติดลบในสายตาคุณวสา คุณต้องระวังและใจเย็นให้มาก”

“ขอบคุณที่เตือน ผมจะพยายาม” แสงฉานมองเข้าไปในงานแล้วรู้ตัวว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของตน จึงหันจะกลับ ถูกพงษ์ชัยพรวดมาขวางบอกว่าตนเป็นห่วงอุรวสาขอร้องเขาอย่าสร้างปัญหาอีกเลย เกรงอุรวสาเครียดจะเป็นผลร้ายต่อเด็กในครรภ์

“เด็กในครรภ์!” แสงฉานอุทานตัวชาวาบ “ขอบคุณที่บอก ยิ่งรู้แบบนี้ ผมยิ่งไม่มีวันหย่ากับวสา”

“คิดให้ดีนะครับ ผู้หญิงทุกคนย่อมอยากให้ลูกเกิดมามีพร้อมทั้งพ่อและแม่ แล้วทำไมคุณวสาถึงปฏิเสธความเป็นสามีและพ่อของลูก เพราะคุณวสาไม่เชื่อว่าคุณจะดูแลเธอกับลูกได้ คุณไม่มีความเป็นผู้นำ แค่ธุรกิจเล็กๆ ของคุณยังไปไม่รอด แล้วคุณจะดูแลครอบครัวให้มีความสุขได้ยังไง ตัวถ่วงไร้ค่าอย่างคุณ คุณวสาไม่อยากอยู่ด้วยหรอก”

แสงฉานฉุนขาดพุ่งเข้าใส่จนพงษ์ชัยเซไปชนโมเดลจำลองคอนโดล้มลง แขกในงานหันมองอย่างตกใจ เวศม์รีบวิ่งมาห้าม ลากแสงฉานออกไปบ่นว่าบอกแล้วให้ใจเย็นๆ เห็นไหมทุกอย่างพังหมดแล้ว

แสงฉานยังฮึดฮัด อุรวสาตำหนิรุนแรงว่าแค่ถูกพงษ์ชัยดูถูกก็โมโหขาดสติจนอาละวาด ถามอย่างโมโหสุดขีดว่า

“รู้ไหมว่างานวันนี้สำคัญแค่ไหน บริษัทคุณพ่อเพิ่งจะฟื้น แต่คุณทำให้มันจบไม่สวย”

“ผมรู้สึกว่าศักดิ์ศรีกำลังโดนเหยียบย่ำเพราะคำว่าผมเป็นแค่ตัวถ่วงชีวิตคุณกับลูก” ถามว่าเธอคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ

“ฉันไม่เคยคิด แต่คุณกำลังจะทำให้ฉันคิด คนที่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล เป็นสามีและพ่อที่ดีไม่ได้หรอกค่ะ” อุรวสาผละไปทันที แสงฉานถูกทิ้งยืนคอตกอย่างโดดเดี่ยว มีแต่เวศม์เท่านั้นที่เข้ามาตบไหล่ปลอบใจ

ความลับเรื่องอุรวสาตั้งครรภ์ที่ช่วยกันปกปิดวันนี้ถูกเปิดออกมารู้กันทั้งพ่อแม่และแสงฉาน อัษฎาผิดหวัง เสียใจมากที่มีเรื่องใหญ่อย่างนี้แต่ไม่มีใครบอกตนเลยสักคน

ooooooo

พงษ์ชัยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยมีบุษบาบัณตามไปดูแล

ที่โรงพยาบาลนี่เอง ศศิพิมลเห็นพงษ์ชัยเดินโอบบุษบาบัณออกไป เธอมองตะลึง สะกดรอยตามไปจนถึงโรงแรมของพงษ์ชัย เห็นทั้งสองเดินกอดรัดฟัดเหวี่ยงหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร ศศิพิมลช็อกแล้วกลายเป็นเจ็บใจ!

อัษฎาพยายามหว่านล้อมให้อุรวสาได้คิดว่า เวลานี้เธอกำลังจะได้เป็นแม่คนแล้ว เท่ากับเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ ทำให้อุรวสาที่แม้จะยังใจแข็งมีทิฐิแต่ก็อดคิดคำพูดของคุณพ่อไม่ได้

เหตุการณ์วันนี้ที่เวศม์ช่วยหย่าศึกระหว่างแสงฉานกับพงษ์ชัย แต่เวศม์ก็ถูกลูกหลงจนเจ็บหัวไหล่ อันตราคิดแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงไปที่บ้านเขา เจอศศิพิมลกำลังกดกริ่งหน้าบ้านเวศม์อย่างร้อนใจ แล้วทรุดร้องไห้อยู่หน้าประตู

อันตรามาเจอ พอเห็นเป็นศศิพิมล เธอถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ศศิพิมลยังอารมณ์ค้างไล่ไม่ต้องมายุ่ง ตนอยากตาย ตายให้พ้นๆไปจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก

“งั้นฉันนั่งเป็นเพื่อน ถ้ามีอะไรอยากระบาย ฉันก็พร้อมรับฟังนะ” อันตรานั่งลงข้างๆอย่างสงสารเห็นใจ

ooooooo

อันตราพาศศิพิมลไปที่สำนักงานนักสืบของตน ตัดสินใจเอารูปบุษบาบัณกับพงษ์ชัยมั่วกันในที่ต่างๆ ที่ตนแอบถ่ายไว้ให้ภิสิตฟ้องหย่าให้ศศิพิมลดู

ศศิพิมลแค้นมากที่ถูกบุษบาบัณแทงข้างหลัง ยิ่งเมื่อรู้ว่าทั้งสองแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันก่อนที่จะหย่ากับภิสิตด้วยซ้ำ ศศิพิมลยิ่งแค้นด่าบุษบาบัณว่าเพื่อนทรยศแทงตนข้างหลัง อันตราติงว่าจะโทษฝ่ายหญิงคนเดียวไม่ได้ สามีเธอก็ผิดด้วย พูดอย่างเห็นใจว่าดวงเธอไม่ดี

เจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้กะล่อนทั้งพงษ์ชัยและเวศม์

“เวศม์ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ เวศม์เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตที่ฉันเคยเจอมา ฉันต่างหากที่เลวเอง ฉันทรยศหักหลังเวศม์ นอกใจเขาไปเลือกพงษ์ชัยเพราะมันรวยกว่า นี่คงเป็นผลกรรมที่ฉันสมควรได้รับ”

“นายเวศม์นี่นะเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด?”

“ใช่... ถ้าเวศม์รักใคร ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่โชคดีที่สุด เพราะเธอจะได้ทั้งหัวใจ ชีวิตและความซื่อสัตย์จากเขา”

อันตราอึ้งกับคำบอกเล่าของศศิพิมล ที่ตรงข้ามกับความเข้าใจของตนตลอดมา

ooooooo

วันนี้อินทุอรนัดไปดูหนังกับเพื่อน ขณะเธอขึ้นลิฟต์ก็ได้กลิ่นประหลาดแล้วหมดสติไป พอลิฟต์เปิดบุษบาบัณเข้ามาเห็นอินทุอรหมดสติอยู่ก็ทำเป็นตกใจ

ไม่นานภิสิตที่ไปกราบลาป้าอัปสรก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ก็ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ของอินทุอร เขารีบรับสาย

“หนูอิน...อ้าวบุษ...โทรศัพท์ของหนูอินอยู่ที่คุณได้ยังไง...ว่าไงนะ!!” ภิสิตตกใจมากวางสายแล้วรีบพรวดออกไปทันที เขาไปถึงบ้านบุษบาบัณไวราวกับเหาะ มาถึงก็ถามว่าหนูอินอยู่ไหน พอรู้ว่าอยู่ข้างบนก็วิ่งขึ้นไป บุษบาบัณโดดขวางถูกภิสิตดันพ้นทางแล้ววิ่งขึ้นไป

บุษบาบัณเหวี่ยงตัวเองไปกระแทกราวบันได ร้องลั่นทำท่าราวกับเจ็บเจียนตาย

ภิสิตวิ่งเข้าไปในห้องที่อินทุอรยังนอนหมดสติอยู่ เขาไปนั่งที่เตียงก้มมองใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง แต่มุมกล้องทำให้ดูเหมือนเขาก้มจูบ ภิสิตพยายามเรียก

“หนูอิน...ได้ยินอาไหม...หนูอิน...” เมื่ออินทุอรยังไม่รู้สึกตัว ภิสิตอุ้มเธอออกจากห้องไปทันที

ขณะที่ทางบ้านทุกคนกำลังเป็นห่วงไม่รู้อินทุอรหายไปไหน โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย จนภิสิตอุ้มอินทุอรเข้ามา อันตรารีบเอายามาให้น้องดมจนรู้สึกตัว แต่บ่น ปวดหัว อัษฎาบอกให้พาไปโรงพยาบาลเลย พร้อมกับสั่งภิสิตให้ตามไปด้วย

หมอตรวจแล้วแจ้งว่าร่างกายเป็นปกติดี ไม่มีบาด แผลหรือร่องรอยโดนทำร้าย ทุกคนฟังแล้วมองหน้ากันงงๆ

เมื่อฟังภิสิตเล่าว่าบุษบาบัณเป็นคนโทร.บอกตนว่าอินทุอรอยู่ที่บ้านเธอ ตนจึงรีบไปรับมา อัษฎาสงสัยว่าแล้วทำไมบุษบาบัณไม่พาหนูอินมาที่บ้าน?

ขณะที่ทุกคนกำลังออกจากโรงพยาบาลนั่นเองเสียงไลน์โทรศัพท์ของอัษฎาดังขึ้น อัษฎาหยิบขึ้นดูแล้วตกใจ เพราะเป็นภาพบุษบาบัณถูกทำร้ายร่างกายมีแผลช้ำทั้งตัวและใบหน้า อันตราเอาไปดูบอกว่าบุษบาบัณไม่ได้เป็นคนโพสต์ภาพ ล็อกอินใครก็ไม่รู้ ภิสิตตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อกลางวันเธอยังดีๆอยู่เลย

“ทุกคนมาดูนี่” เสียงอันตราตื่นเต้น ทุกคนพากันไปดูไอแพดของเธอ “เพิ่งมีคนเอาคลิปมาปล่อยเมื่อกี๊ค่ะ”

เป็นคลิปภิสิตกับบุษบาบัณกำลังยื้อผลักไสกันไปมา แล้วภิสิตก็จับบุษบาบัณเหวี่ยงไปกระแทกบันไดก่อนขึ้นชั้นบน ภิสิตดูแล้วตกใจ อันตราเปิดอีกคลิปให้ดู เป็นภาพมุมสูงที่ภิสิตกำลังก้มจูบอินทุอรที่นอนอยู่บนเตียง

อินทุอรเอามือปิดปากตกใจ พึมพำ “ไม่จริง...”

ทุกคนช็อก รวมทั้งภิสิตด้วย

ooooooo

สามใบไม่เถา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด