ตอนที่ 16
หลังจากให้ไทรงามตรวจเสร็จ อัมตีหน้าซื่อถามว่าตนเป็นอะไรหน้ามืดมาสองอาทิตย์แต่เพิ่งมาคลื่นไส้ อาเจียนได้สักอาทิตย์กว่าๆนี่เอง พอไทรงามถามว่าประจำเดือนขาดมากี่เดือนแล้ว อัมก็ทำเป็นตกใจถามว่าตนท้องใช่ไหม บีบน้ำตาสะอึกสะอื้นว่านึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้ ถามว่าจะทำอย่างไรดี
ไทรงาม แนะนำให้ไปฝากครรภ์และทางที่ดีควรจะพาพ่อของเด็กไปด้วยจะได้ช่วยกันดูแล
"คุณ อู๊ดจะมาได้ยังไงคะ เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังจะมีลูกกับอัม อัมไม่กล้าบอก อัมกลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับลูกในท้อง" พูดแล้วร้องไห้โฮๆ
ไทรงาม มือเท้าอ่อนแทบทรงกายไม่อยู่ เธอพยายามแข็งใจ กล้ำกลืนความเจ็บปวด ปลอบอัมว่าสักวันเขาก็ต้องรู้ถ้าเขาเป็นพ่อของเด็ก เขาก็ต้องรับผิดชอบ
"แต่...คุณ อู๊ดรักหมองามค่ะอัมรู้" อัมมองหน้าไทรงามอย่างหยั่งท่าที ไทรงามขอร้องว่าอย่าเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องส่วนตัวของเธอกับอู๊ดเลย อัมก็ยิ่งร้องไห้คร่ำครวญขอร้องไทรงามอย่าบอกเรื่องนี้กับอู๊ดได้ไหม ตนไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ
ไทรงามเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ อัมบีบน้ำตาร้องไห้กระซิก...กระซิก แต่แอบมองไทรงามอย่างสะใจที่แผนการนี้บดขยี้หัวใจหมอได้ไม่มีชิ้นดี
ooooooo
คืน นี้สามทุ่ม บานเย็นจะต้องให้คำตอบแก่อุษาแล้ว แต่จนใกล้ค่ำหวินกับเพิ่มยังเห็นเธอทำกับข้าวอยู่ในครัวอย่างใจเย็น เพิ่มเดาว่าเธออาจจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้แล้ว อาจทำใจยอมรับสภาพถ้าอู๊ดรู้ความจริงได้แล้ว หวินถามว่า หมายความว่าบานเย็นเลือกที่จะไม่บังคับใจไทรงามใช่ไหม
"คนที่ขมขื่นใจเพราะโดนบังคับจิตใจมานับครั้งไม่ถ้วน คงไม่อยากให้ใครมีสภาพเหมือนตัวเองโดยเฉพาะกับเพศเดียวกัน แถมยังได้ชื่อว่าเป็นลูกที่รักปานดวงใจด้วย" เพิ่มเชื่ออย่างนั้น
หวินฟังแล้วเริ่มคล้อยตาม คิดว่าบานเย็นคงทำใจได้แล้ว จริงๆ
ส่วนดำกับเด่นดาวมัวแต่ดำนากันอยู่จนเย็นเพิ่งลุกจากนาไปที่คลินิกหมองามตามที่หมอนัดไว้ แต่พอไปถึงประตูคลินิกปิดแล้ว ดำบ่นงงๆว่านัดตนมาแล้วทำไมถึงปิดคลินิกเสียก่อน เด่นดาวโทษว่าดำมัวแต่เอ้อระเหยอยู่ใครจะไปรอ ส่วนดำก็โทษว่าเพราะ
เธอดำนาแถวคดเป็นงูเลื้อยจนตนต้องเสียเวลาแก้ไขเลยทำให้ช้า เด่นดาวงอนเลยทุบแขนเขา ถูกแผลเข้าจังๆจนดำ
ร้องลั่น
เด่นดาวหยุดทุบทันทีเลิกแขนเสื้อดูแผลที่แขน ดำก็ก้มดูแผลตัวเองเหมือนกัน หน้าต่อหน้าห่างกันแค่หายใจรดถึง ดำได้ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากหญิงสาว ทำเอาเคลิ้มไปชั่วครู่
ดำนิ่งเงียบไปนานจนเด่นดาวเอะใจช้อนตามอง ตาต่อตาประสานกันอย่างจังทำเอาตกสู่ภวังค์ไปทั่งคู่ แต่แล้วก็กระเจิงจากภวังค์เมื่อเสียงอู๊ดทักขึ้นว่า
"หมองามไม่อยู่หรือครับ"
เด่นดาวกับดำต่างตั้งสติอย่างเร็ว หันไปบอกอู๊ดว่าตนสองคนก็มารอไทรงามเหมือนกัน เพราะหมอนัดดำมาล้างแผลที่นี่แต่มาก็ไม่เจอแล้ว เด่นดาวคาดว่าไทรงามอาจจะกลับไปรอที่บ้านแล้วก็ได้เพราะหน้าหนาวมืดเร็ว
แต่พอทั้งสามจะกลับไปที่บ้านปรากฏว่าฝนเทลงมาอย่างหนัก อู๊ดบ่นว่าตนไม่ได้เอารถมาเพราะสตาร์ตไม่ติดเลยทิ้งไว้ให้ใบ้ช่วยซ่อมอยู่ที่ไซต์งาน นี่ก็ยืมมอเตอร์ไซค์ลูกน้องขี่มา จะซ้อนไปกันสามคนคงไม่ได้
เด่นดาวบอกว่ามีรถอะไรก็ไปไม่ได้ ฝนตกอย่างนี้ขืนฝ่าฝนไปมีหวังได้เป็นหวัดกันแน่ๆ
ooooooo
ที่แท้ไทรงามนั่งอยู่ที่ท่าน้ำวัดไทรโศกนั่นเอง เธอนั่งเหม่อมองสายฝนด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว ดวงตาที่แห้งผากทั้งๆที่ฝนฉ่ำไปทั้งฟ้า...
และที่ใต้ต้นไทรใหญ่ สถานที่ที่บานเย็นใช้เป็นที่พักพิงใจในยามทุกข์ร้อนแสนสาหัส คืนนี้ก็เช่นกัน เธอมานั่งซุกตัวอยู่ในซอกหลืบของต้นไทรใหญ่ ตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนแต่สีหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่รับรู้อะไร บางครั้งเธอแหงนมองบ่วงที่ผูกห้อยอยู่กับกิ่งไทรเหมือนเป็นความหวังสุดท้าย
เวลาใกล้สามทุ่มเข้าไปทุกทีแล้ว...ใบ้เพิ่งซ่อมรถของอู๊ดเสร็จรีบขับมาไว้ที่บ้านไทรโศก เพื่อพรุ่งนี้เช้าอู๊ดจะได้มีรถใช้ เป็นเวลาที่ไทรงามตัดสินใจลุกจากศาลาท่าน้ำที่วัดตัดสินใจทิ้งอดีตทั้งหมดไว้ข้างหลังเดินฝ่าสายฝนบ่ายหน้ากลับเรือน
และก็เป็นเวลาที่บานเย็นตัดสินใจแล้วที่จะตัดปัญหาทั้งปวง เธอปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ที่อยู่ใต้บ่วง สองมือจับบ่วงไว้นิ่ง
เพิ่มกับหวินตัดสินใจกางร่มฝ่าฝนกลับมาเพื่อเป็นกำลังใจให้บานเย็น ส่วนอู๊ด ดำกับเด่นดาวที่ติดฝนอยู่ที่ตลาดพอสายฝนซาลงก็ชวนกันกลับ โดยอู๊ดไปส่งเด่นดาวที่บ้านก่อนแล้วค่อยมาเจอกับดำที่บ้าน
ที่ใต้ต้นไทรใหญ่ ฝนยังตกหนักฟ้าแลบแปลบปลาบ บานเย็นพึมพำทั้งน้ำตาว่า...
"แม่รักลูกทั้งสองคนสุดหัวใจ แม่จะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ลูกเสียใจเป็นอันขาด...เจ้าคุณพ่ออยู่ที่ไหน มารับเย็นไปอยู่ด้วยนะเจ้าคะ"
บานเย็นเอาบ่วงคล้องคอ เป็นจังหวะที่ฟ้าแลบยาว สว่างวาบ ทำให้เพิ่มกับหวินเห็นใบ้อยู่อีกฟากหนึ่งจึงตะโกนเรียก ทั้งสามหันมองกัน แต่ในสายตากลับเห็นบานเย็นห้อยอยู่บนกิ่งไทรใหญ่
ทุกคนตกใจสุดขีด ใบ้วิ่งห้อออกไปทันที เพิ่มได้สติก็รีบวิ่งไปที่ต้นไทร ส่วนหวินยังยืนตกใจตะลึงอึ้งอยู่ตรงนั้น
ใบ้วิ่งมาถึงก็โผเข้ากอดร่างบานเย็นอุ้มไว้ เพิ่มรีบคว้าเก้าอี้มาปีนปลดเชือกออก และหวินที่เพิ่งวิ่งมาถึงก็ยังตะลึงงันทำอะไรไม่ถูกอยู่
ooooooo
ทุกคนช่วยบานเย็นอย่างรวดเร็ว ใบ้กอดบานเย็นไว้แน่นเพราะเธอดิ้นสุดแรงไม่ยอมให้ช่วย
ไทรงามเพิ่งมาถึงใกล้ๆได้ยินเสียงหวินร้องไห้ฟูมฟายอยู่ใต้ต้นไทร เธอตกใจวิ่งเข้าไปดู บานเย็นได้สติพอดี เธอตบหน้าใบ้สุดแรง ไทรงามมองตะลึง ส่วนเพิ่มทนไม่ไหวพูดกับบานเย็นจริงจังว่า
"พอทีเถอะหนูเย็น...ชาติที่แล้วเราคงสร้างเวรสร้างกรรมมาเยอะถึงต้องมาชดใช้กรรมสาหัสในชาตินี้ เพราะฉะนั้น อย่าได้ก่อเวรก่อกรรมกับตัวเองเพิ่มขึ้นจนต้องตามชดใช้กันไม่จบไม่สิ้นเลย"
"เย็นไม่มีทางออกแล้วจริงๆ เย็นรักคุณอู๊ดกับหนูงามยิ่งกว่าชีวิต เย็นไม่อยากให้ลูกต้องผิดหวังเจ็บปวดเพราะเย็น ถ้าเย็นตาย ปัญหาทุกอย่างก็จะจบสิ้น คุณอู๊ดจะได้ไม่ต้องมารับรู้ ความจริงว่ามีแม่เป็นอีโรคเรื้อน ส่วนหนูงามก็ไม่ต้องมารับเคราะห์ แทนเย็น ไม่ต้องมาถูกคุณอุษาบังคับให้แต่งงานกับคุณอ๊อด ทุกคนจะได้มีความสุขกันเสียที" บานเย็นคร่ำครวญน้ำตานองหน้า
"ทำไมหนูเย็นตีค่าตัวเองต่ำขนาดนี้ ทำไมไม่คิดว่าถ้าตัวเองต้องมาตายในสภาพนี้แล้วลูกๆจะเสียใจแค่ไหน แกจะมีความสุขได้อย่างไรถ้ารู้ว่าแม่ต้องมาตายเพราะแก" หวินพูดไปร้องไห้ไป
"น้าบอกแล้วยังไงล่ะว่าความลับไม่มีในโลก ถ้าหนูเย็นไม่อยากบังคับใจหนูงามก็ต้องยอมให้คุณอู๊ดรู้ความจริง คุณอู๊ดจะโกรธเกลียดแม่ตัวเองที่เป็นโรคเรื้อนก็ให้มันรู้ไป เพราะนี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว" เพิ่มย้ำอีกครั้ง
"ถ้าคุณอู๊ดโกรธเกลียดไม่มองหน้าเย็น เย็นยังพอทำใจแอบมองลูกอยู่ห่างๆได้ แต่ถ้าปากลูกบอกยอมรับ แต่ใจกับแววตากลับว่างเปล่าเหมือนที่ผ่านมาแล้วเย็นจะทำอย่างไร นั่นยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเสียอีก"ใบ้ เพิ่ม และหวินต่างมองหน้าบานเย็นด้วยความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง
ไทรงามฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เธอปะติดปะต่อได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นิ่งคิดครู่เดียวเธอก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว หันหลังเดินจากตรงนั้นอย่างมั่นคง
ooooooo
ดำปั่นจักรยานถึงที่จอดรถบ้านไทรโศกลงจากรถก็เห็นอู๊ดขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงพอดี ดำมองไปเห็นไทรงามเดินไปทางเรือนใหญ่อยู่ไวๆ บอกอู๊ดว่าสงสัยจะไปตัดไหมให้ตนแน่ๆเลย ว่าแล้วรีบจ้ำไป อู๊ดรีบตามไปด้วย
ไทรงามมาถึงหน้าเรือนใหญ่ เจออุษาพอดีเธอถามว่าจะไปหาแม่เย็นหรือ เรื่องจะจับตนแต่งงานกับอ๊อดใช่ไหม เมื่ออุษาถามสีหน้าดีใจว่าแสดงว่าบานเย็นบอกไทรงามแล้วใช่ไหม แล้วทำเป็นพูดเห็นใจอู๊ดกับไทรงาม แต่คิดว่าไทรงามคงเข้าใจเหตุผลดี
แล้ว
"เลิกพูดถึงคุณอู๊ดเถอะค่ะ แล้วก็ไม่ต้องตามไปเอาคำตอบจากแม่ดิฉันด้วย เพราะที่ดิฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะมาตอบคุณแทนแม่อยู่แล้ว"
ดำกับอู๊ดนิ่งงันเป็นหุ่นอยู่ตรงนั้น
"ดิฉันตกลงใจที่จะแต่งงานกับคุณอ๊อด" ไทรงามพูดชัดถ้อยชัดคำกับอุษา
ประโยคนี้เหมือนเด็ดหัวใจของสองหนุ่มไปขยี้ ดำทนไม่ได้วิ่งกลับไปทางเรือนบานเย็น อู๊ดยังยืนเหมือนเหลือ แต่ร่างอยู่ตรงนั้น
ไทรงามกับอุษายังเจรจากันต่อ ไทรงามให้อุษาสาบานว่าถ้าตนตัดสินใจเช่นนี้แล้วเธอจะต้องไม่ไปวุ่นวายหรือเรียกร้องอะไรจากบานเย็นอีกไม่ว่าจะเรื่องอะไรทั้งสิ้น อุษาตกลงทันที
เมื่ออุษาตกลงแล้ว ไทรงามเดินแยกไปเหมือนไร้ชีวิตจิตใจ ไม่เห็นแม้แต่อู๊ดที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่ตรงนั้น มีแต่อุษาเท่านั้นที่แสยะยิ้มตาเป็นประกายวาวอย่างสะใจในชัยชนะของตนเอง
ooooooo
ดำวิ่งอ้าวไปเล่าให้บานเย็นฟัง บานเย็นแทบหัวใจวาย ปฏิเสธว่าตนไม่เคยปริปากเรื่องนี้ให้ไทรงามฟังเลยแม้แต่คำเดียว ถามว่าไทรงามไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน ดำเองก็ไม่รู้ บานเย็นตัดสินใจจะไปยับยั้งการตัดสินใจของไทรงาม แต่ไม่ทันออกจากเรือนไทรงามก็ก้าวเข้ามา แล้ว โดยมีอู๊ดตามมาติดๆ
ไทรงามบอกบานเย็นว่าไม่ต้องไปแล้ว ตนตัดสินใจดีแล้วและไม่ได้ถูกใครบังคับด้วย ตนเต็มใจแต่งงานกับอ๊อดเอง อู๊ดแทรกขึ้นขออนุญาตบานเย็นให้ตนได้คุยกับไทรงามตามลำพัง
เมื่อพากันไปที่ท่าน้ำบ้านไทรโศก อู๊ดถามอย่างตัดพ้อน้อยใจว่าตนทำอะไรผิดหรือ เธอถึงไม่พอใจ มีอะไรไม่เข้าใจกันทำไมไม่พูดไม่คุย ทำไมถึงรีบตัดสินใจอย่างนี้
"ฉันมีเหตุผลซึ่งไม่จำเป็นต้องบอกใคร" ไทรงามตัดบทอย่างเจ็บปวด เมื่ออู๊ดยังย้ำถามว่าตนทำผิดอะไรหรือ เธอขอร้องเขาว่า "อย่าเสียเวลาพูดเรื่องนี้อีกเลยค่ะ ฉันเหนื่อยแล้วก็เพลียเหลือเกินแล้ว ขอตัวกลับไปพักก่อนนะคะ"
"อย่าทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอย่างนี้ คุณจะบอกผมหรือไม่ว่าคุณตัดสินใจแต่งงานกับพี่อ๊อดเพราะคุณรักพี่อ๊อด ถ้าสิ่งที่ทำให้คุณเปลี่ยนใจมันมีสาเหตุมาจากผม คุณก็บอกผมสิหมองามว่าเพราะอะไร" อู๊ดขอร้อง
"เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผล เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่มีเหตุผลอะไรจะอธิบายว่าฉันเลือกใครเพราะอะไร"
ไทรงามพยายามตัดบทเลี่ยงที่จะพูดกันให้ยืดเยื้อเพราะมีแต่จะทำให้เจ็บปวดด้วยกันทั้งสองฝ่าย ขอร้องอู๊ดอย่าพูดอะไรอีกเลยเพราะทุกอย่างมันสายไปแล้ว พริบตานั้นเองอ๊อดก็โผล่มาปรามอู๊ดว่าไทรงามประกาศจะแต่งงานกับตนแล้ว ฉะนั้นอู๊ดไม่มีสิทธิ์คิดเป็นอย่างอื่นกับเธอนอกจากเป็นพี่สะใภ้เท่านั้น
อ๊อดแสยะยิ้มเย้ยอู๊ด ไทรงามจึงเดินแยกตัวไป
ooooooo
อู๊ดเสียใจมาก...มากจนไม่อาจอยู่กับสภาพเก่าๆได้ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า บอกคุณหญิงว่าจะไปค้างที่หน้างานสักระยะเพราะอยากเร่งงานให้เสร็จเร็วๆ คุณย่าไม่ต้องห่วง ตนจะหาเวลาแวะมาเยี่ยมคุณพ่อทุกวัน
แม้ว่าคุณหญิงจะเห็นใจ สงสารอู๊ดสักเพียงใด แต่ทำได้แค่พูดว่าถ้าตอนนี้ไม่สบายใจจะอยู่ที่นี่ก็ตามใจ เอาใจทุ่มเทกับงานก็ดีจะได้ลืมความเสียใจ ลืมความผิดหวังได้บ้าง
อู๊ดซาบซึ้งสะเทือนใจจนน้ำตาคลอเข้าไปกราบลาคุณหญิง ผู้เป็นย่ากอดและลูบหลังอู๊ดอย่างเอ็นดูสงสาร อุษามาเห็นเข้าริษยาพุ่งจี๊ดทันที แต่ตีสองหน้าทำเป็นเห็นอกเห็นใจอู๊ดจนอู๊ดเองก็ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเหมือนกัน
คุณหญิงจับตาดูการตีสองหน้าของอุษาอย่างขัดตาขัดใจจนแทบทนไม่ได้
ooooooo
ไทรงามกลับไปทบทวนความหลังที่ได้คบหากับอู๊ดในห้องนอน น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลอาบแก้ม แต่ในที่สุด เธอก็เช็ดน้ำตาจนแห้ง ขอทิ้งทุกอย่างไว้แค่นี้ บอกตัวเองว่าจะไม่อ่อนแออีกต่อไปแล้ว
แต่พอเปิดประตูออกมาก็เจอบานเย็นมารออยู่แล้ว บานเย็นบอกว่าจะมาพาเธอไปบอกยกเลิกการแต่งงานกับอ๊อด ไทรงามแข็งใจยืนยันว่าตนเต็มใจเอง ไม่มีใครมาบังคับ
บานเย็นยืนกรานว่าตนรู้ว่าลูกคิดอย่างไร ตนเคยถูกบังคับให้จำยอมมาแล้วรู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ฉะนั้นจะไม่ยอมให้ลูกต้องมาตกที่นั่งเดียวกับตนอีกเด็ดขาด ไทรงามตอบบานเย็นอย่างสะเทือนใจว่า
"เพราะงามรู้ว่าแม่เย็นเคยเจ็บปวดมากแค่ไหน งามถึงไม่อยากให้แม่เย็นต้องแบกรับความเจ็บปวดเพียงลำพังอีกต่อไป แม่เย็นลำบากเพื่องามมามาก สิ่งที่งามทำเป็นเพียงการ ทดแทนพระคุณอันน้อยนิด เทียบไม่ได้เลยกับพระคุณมหาศาลที่แม่มีต่องาม"
ไม่ว่าบานเย็นจะบรรยายความทุกข์ตรอมใจกับการฝืนใจอย่างไร ไทรงามก็ยืนกรานว่าตนพร้อมและยินดีที่จะเผชิญ หน้ากับมัน บอกบานเย็นอย่างตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่า
"ชีวิตคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อจะสุขสมหวังในทุกสิ่งทุกอย่างนี่คะ บางครั้งเราก็ต้องรู้จักที่จะอยู่เพื่อคนอื่นมากกว่าจะอยู่แต่กับหัวใจของตัวเอง หน้าที่ของหมอถูกฝึกให้มีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงงามนะคะ งามอยู่ได้ค่ะ งามต้องอยู่ได้"
"แม่อยากให้ลูกคิดให้ถี่ถ้วน" บานเย็นร้องไห้ด้วยความสงสารลูกจับใจ
"งามคิดดีแล้ว และงามจะไม่พูดเรื่องนี้อีก งามอยากให้แม่สบายใจ งามรักแม่เย็นนะคะ หัวใจของงามไม่สำคัญเท่ากับ แม่เย็นของงามหรอกค่ะ"
บานเย็นโผเข้ากอดไทรงามน้ำตาไหลพราก แต่สำหรับไทรงามแล้ว เธอไม่มีน้ำตาจะไหลให้กับความเจ็บปวดใดๆอีกแล้ว...
ooooooo
แม้แต่เด่นดาวก็ไม่อยากเชื่อว่าไทรงามตัดสินใจแต่งงานกับอ๊อด ถามดำที่มาเล่าให้ฟังว่าเป็นไปได้ยังไง ดำเองก็ตอบไม่ได้และไม่กล้าถามไทรงามด้วย แต่บอกเด่นดาวว่าต่อไปนี้ก็เป็นโอกาสทองของเธอที่จะทำความเข้าใจกับอู๊ดอีกครั้ง อวยพรให้เธอ
โชคดี
เด่นดาวมีความหวังขึ้นมา เธอโบกมือลาดำจากท้องทุ่งบ่ายหน้ากลับไปอย่างสดชื่น ดำมองตามเด่นดาวไปแล้วก็หันกลับมาปรับทุกข์กับน้องควายที่ดำไพล่ไปตั้งชื่อว่า "น้องกวาง" มองกันตาปริบๆว่า
"คงจะเหลือแต่แกล่ะมั้งที่รักฉันจริงและอยู่กับฉันไปจนตาย...น้องกวาง"
อ๊อดเบิกบานสำราญใจนักที่จะได้แต่งงานกับไทรงาม นัดอัมไปบอกข่าวที่กระท่อม อัมดีใจที่ตนจะได้พ้นทุกข์เสียที แต่อ๊อดไม่ยอมเสียเที่ยวยังส่งท้ายกับเธออีกจนได้
ส่วนทนต์ หลังจากวางแผนรวบรัดไทรงามให้กับอ๊อดสำเร็จแล้ว ก็ยุให้อุษาต้องเร่งรุกไทรงามให้หนักกว่านี้จะทำอะไรก็ต้องทำตอนที่ฝ่ายโน้นตั้งรับไม่ทัน และที่สำคัญเธอต้องจัดการเรื่องสำคัญบางอย่างให้ตนด้วย
ดังนั้น เมื่อกลับถึงบ้านไทรโศก อุษาก็จัดแจงสั่งหวินเย็นนี้ให้ทำกับข้าวเพิ่ม ทำมาชุดใหญ่เลยเพราะตนจะเชิญทุกคนในบ้านกินข้าวด้วยกัน รวมทั้งบานเย็นและไทรงามด้วย กำชับให้แต่งตัวให้สวยงาม ให้สมกับที่ได้รับเชิญให้ขึ้นมากินข้าวบนเรือนด้วย
แม้หวินจะทำอาหารมากเป็นพิเศษแล้ว แต่เมื่ออุษามาดูก็ยังสั่งทำเพิ่ม จนเพิ่มถามว่าทำกับข้าวพะเรอเกวียนขนาดนี้ จะไปเลี้ยงใครที่ไหนหรือ
หวินตอบอย่างหัวเสียว่าอุษาจะเลี้ยงใคร เนื่องในวันอะไรตนไม่รู้ทั้งนั้น แค่ฟังคำสั่งอย่างเดียวก็เวียนหัวแล้ว เพิ่มเดาว่าคงจะฉลองปีใหม่ล่วงหน้ากระมังเพราะอีกสองวันก็จะสิ้นปีแล้ว
ooooooo
อุษาบอกอู๊ดเอาตอนเย็นขณะเขามาเยี่ยมกิติที่ห้อง อู๊ดขอตัวกลับไปสั่งงานก่อนค่อยย้อนมาอีกที แต่พออู๊ดลงไปก็เจอไทรงามหิ้วกระเป๋าจะมาทำกายภาพ บำบัดให้กิติพอดี เขาขอคุยด้วย ขอร้องอีกครั้งว่า
"ถ้าคุณใช้อารมณ์ในการตัดสินใจเรื่องการแต่งงาน ผมขอให้คุณตัดสินใจใหม่อีกครั้งได้ไหมครับ" เมื่อไทรงาม ยืนอึ้งน้ำตาคลอ เขาย้ำ "ผมรักคุณ และถ้าคุณยังรักผม ผมอยากขอร้องคุณเป็นครั้งสุดท้าย...นะครับ"
ไทรงามตัดสินใจเดินจากเขาไปเพื่อตัดปัญหาทั้งปวง อู๊ดดูท่าทีของเธอก็เดาคำตอบได้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีความหวังครั้งแล้วครั้งเล่า...
งานเลี้ยงนี้ เจ้าคุณยงยศและเด่นดาวได้รับเชิญด้วย แต่เมื่อสองลุงหลานเดินทางมาถึงทางเปลี่ยวก็ถูกโจรดักปล้น รถถูกยิงจนกระจกมองข้างกระเด็น เจ้าคุณฯ ตกใจตะโกนให้ เด่นดาวก้มหัวลงแล้วท่านก็เหยียบคันเร่งหนี
แต่มือปืนที่ซุ่มอยู่ข้างทางวิ่งออกมายิงไปที่ล้อรถจนเสียหลักแฉลบลงข้างทาง เจ้าคุณฯ เปิดประตูรถลงไปต่อรองกับโจรอย่างกล้าหาญว่า อยากได้อะไรเชิญเอาไปเลยขอแต่อย่าทำอะไรท่านกับหลานสาว
เจ้าคุณฯ หยิบกระเป๋าเงินส่งให้ ถูกมันเตะทิ้งเล็งปืนใส่ ท่านต่อรองอีกครั้งว่าขออย่างเดียวอย่าทำร้ายหลานท่านเลย แต่มือปืนยิ้มเหี้ยมทำท่าจะเหนี่ยวไก
ทันใดนั้น อู๊ดขับรถกลับมาเจอเข้า เขายิงต่อสู้กับโจรร้ายจนมันหนีไปในสภาพที่ถูกยิงบาดเจ็บที่แขน เมื่อเข้าไปเพื่อช่วยเหลือเหยื่อ โจรจึงรู้ว่าที่แท้คือเจ้าคุณยงยศกับเด่นดาวนั่นเอง
เมื่อพากันไปถึงเรือนใหญ่ของคุณหญิงเล่าเรื่องให้ คุณหญิงฟังอย่างตื่นเต้นแล้ว คุณหญิงอุทานอย่างตกใจกับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นอุกอาจขนาดนี้ เจ้าคุณยงยศพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า
"ถ้าไม่ได้หลานอู๊ดช่วยเอาไว้ ผมก็คงกลายเป็นศพข้างถนนไปแล้ว ต้องขอบคุณหลานชายมากนะ ลำพังตัวปู่เองน่ะไม่เป็นไรหรอก ที่ปู่เป็นห่วงก็คือหลานดาว กลัวมันจะทำอะไรหลานดาวด้วย"
อุษาฟังแล้วแอบขุ่นเคืองอยู่ในใจแต่แสร้งตีหน้าตกใจโผเข้ากอดเด่นดาวทำเป็นปลอบใจเรียกขวัญเนียนๆ แล้วตัดบทอย่างรวดเร็ว ชวนไปทานอาหารกันดีกว่าจะได้รู้สึกผ่อนคลาย
อู๊ดเข้าไปชวนกิติไปด้วยกัน อุษาพยายามกีดกันว่าไม่ต้องลำบากเดี๋ยวตนจะให้หวินจัดสำรับมาป้อนให้เอง อู๊ดแย้งทันทีว่าถ้าขาดคุณพ่อไปคงเรียกว่าพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างที่คุณแม่ต้องการไม่ได้ ว่าแล้วเข้าไปประคองกิติขึ้นมา ทำเอากิติตื้นตันใจในความรักความมีน้ำใจของอู๊ดจนน้ำตาคลอ
ooooooo
ใบ้กับดำช่วยกันลำเลียงสำรับอาหารเข้ามาที่เฉลียงด้านนอกเรือนใหญ่อันเป็นสถานที่จัดเลี้ยงใบ้ชะงักเมื่อเห็นอู๊ดเอากิติขึ้นหลังออกมาจากห้องนอน ใบ้ปลื้มปีติที่ลูกชายเป็นคนดีเหลือเกิน
หลังจากจัดที่นั่งให้กิติแล้ว อู๊ดเห็นไทรงามเดินขึ้นมากับเด่นดาว ไทรงามสบตากับอู๊ดแล้วมองกันนิ่ง อ๊อดเห็นเข้าพานตีรวนทันที ลุกขึ้นประกาศศักดา
"สวัสดีครับทุกท่าน ดีใจจังเลยครับที่วันนี้เราทุกคนได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนที่เราจะรับประทานอาหารร่วมกัน ผมใคร่ถือโอกาสนี้แจ้งข่าวดีให้ทุกท่านทราบว่า
ผมกับคุณหมอไทรงาม เราสองคนจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ครับ"
เจ้าคุณยงยศซึ่งไม่ระแคะระคายอะไรมาก่อนเลยถึงกับมองหน้าไทรงามงงๆ ส่วนคนอื่นๆที่รู้เรื่องแล้วต่างมองหน้าไทรงามอย่างเห็นใจที่ถูกอ๊อดจู่โจม มีแต่เด่นดาวคนเดียวเท่านั้นที่แอบโล่งใจที่อู๊ดจะได้ตัดใจจากไทรงามเสียที
ส่วนอู๊ด ฟังอ๊อดแล้วหัวใจเจ็บแปลบราวกับถูกมีดกรีด แม้ไม่ถึงตายแต่ทรมานเหลือเกิน...
ไม่เพียงเท่านั้น อุษายังประกาศตอกย้ำกับทุกคนว่าอ๊อดกับไทรงามจะแต่งงานกันในวันมะรืนนี้ คุณหญิงทนไม่ได้ ทักท้วงว่าทำไมถึงได้รวดเร็วนัก อุษาตะแบงไปน้ำขุ่นๆว่าไม่เร็วเพราะทุกอย่างเพื่อนทางพระนครเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว เราไม่ต้องทำ
อะไรเลย
บานเย็นท้วงติงว่าไทรงามยังไม่เคยรู้เรื่องนี้อุษาน่าจะถามเจ้าตัวก่อน อุษาหันไปถามไทรงามอย่างเป็นต่อว่ามีปัญหาอะไรไหม ไทรงามคิดถึงคำพูด คำยั่วยุ และเรื่องราวที่บีบคั้นจนทนไม่ได้ ตัดสินใจตอบว่า
"ดิฉันไม่มีปัญหาอะไร จะแต่งวันนี้ พรุ่งนี้หรือวันไหน ดิฉันก็ต้องแต่งกับคุณอ๊อดอยู่ดี"
อุษากับอ๊อดยิ้มให้กันอย่างผู้ชนะ กิติโกรธจนมือเกร็งบีบเก้าอี้อย่างแรง
ooooooo
อู๊ดเสียใจมาก เมื่อใบ้ขับรถไปส่งเขาที่แคมป์งาน เขาขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนกันสักพักได้ไหม แล้วนั่งดื่มอย่างกลัดกลุ้ม
ดำ กลับไปนั่งกอดเข่าเจ่าจุกที่เรือนคนงาน เมื่อหวินเข้าไปเรียกอย่างสงสารลูกจับใจ ดำก็โผเข้ากอดแม่ร้องไห้ สะอึกสะอื้น
บานเย็นพูดกับไทรงามที่เฉลียงเรือนตัวเองว่าสงสารลูกและ เกลียดตัวเองที่ช่วยอะไรลูกไม่ได้
"ผิดถนัดค่ะ แม่เย็นช่วยงามด้วยการอบรมเลี้ยงดูงามมาอย่างดี ที่งามเป็นงามได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่เย็น หยุดร้องไห้เถอะนะคะ อย่าทำให้งามต้องกลายเป็นลูกที่บาปหนาทำให้น้ำตาแม่ต้องตกอีกเลย"
ไทรงาม เช็ดน้ำตาให้บานเย็นจนแห้ง แต่ตัวเองกลับน้ำตาตกใน...
ที่บ้านท่าน เจ้าคุณยงยศ เจ้าคุณฯยังไม่หายงง ถามอะไรเด่นดาวก็ตอบไม่ได้ แต่จู่ๆก็ขอเจ้าคุณปู่ออกไปข้างนอกสักครู่ พูดแล้วออกไปเลย เจ้าคุณปู่ได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วงเพราะดึกแล้ว
เด่นดาวไปหา อู๊ดที่แคมป์คนงาน เห็นอู๊ดดื่มจนเมามาย ได้ยินอู๊ดรำพึงรำพันถึงความเจ็บปวดของคนอกหักอยู่กับใบ้ เธอตัดสินใจเข้าไปขอคุยกับอู๊ดตามลำพังสักครู่ ขอโทษใบ้ แล้วพาอู๊ดออกไป
ooooooo
หนุ่ม สาวพากันไปนั่งคุยที่มุมสงบในแคมป์คนงาน เด่นดาวถามอย่างเป็นห่วงว่าทำไมอู๊ดต้องดื่มหนักขนาดนี้ ถามว่าเรื่องหมองามใช่ไหม อู๊ดไม่ตอบ แต่ขอเวลาสักพักเชื่อว่าตนคงเป็นแบบนี้ไม่นานอย่าได้ห่วงใยเลย เด่นดาวทำใจไม่ได้บอกว่าไม่ห่วงได้อย่างไรเพราะเขาเป็นคนที่ตนรักทั้งยัง เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจ้าคุณปู่กับตนไว้ด้วย
เด่นดาวสุดจะทน กับความรู้สึกของตัวเองได้ เธอบอกอู๊ดตามตรงว่าแม้จะรู้ว่าเขารักหมองาม แต่เวลานี้หมองามตัดสินใจจะแต่งงานกับอ๊อดแล้ว เขายังจะมีความหวังอะไรอยู่อีกหรือ ลืมหมองามไม่ได้เลยใช่ไหม ขอเขาเพียงว่า
"ดาว จะไม่ขอให้พี่อู๊ดลืมหมองาม แต่อยากจะขอให้พี่อู๊ดเปิดใจรับดาวเป็นคนพิเศษสำหรับพี่อู๊ดได้ไหมคะ" พูดแล้วโผเข้ากอดอู๊ดไว้อย่างยั้งใจไม่อยู่ "ดาวรักพี่อู๊ดนะคะ ดาวพร้อมที่จะดูแลและยืนเคียงข้างพี่อู๊ดไปตลอดชีวิต"
อู๊ดคิดไม่ ถึงว่าเด่นดาวจะกล้าพูด กล้าแสดงออกถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากให้เธอเข้าใจไขว้เขวกว่านี้ จึงค่อยๆดันตัวออก บอกเธอว่า
"พี่ รักดาวมากนะ แต่พี่รักดาวอย่างน้องสาว"
เด่นดาวหัวใจแทบสลายกับคำ ยืนยันของอู๊ดพาลเกลียดไทรงามไปด้วย เธอยืนเหม่ออยู่ครู่หนึ่งเมื่ออู๊ดเข้าไปถามว่าเป็นอะไร เธอยิ้มเยือกเย็นบอกว่าตนไม่เป็นอะไร แล้วขอตัวกลับโดยขออยู่คนเดียว เพราะไม่อยากเจ็บปวดมากไปกว่านี้
ส่วนดำก็รวบรวมความกล้าเข้าไปบอก ไทรงามที่ยืนเศร้าอยู่ที่เฉลียงบ้านว่า "พี่รักน้องงาม พี่อยากรู้ว่าน้องงาม คิดยังไงกับพี่" คำตอบของไทรงามทำให้ดำแทบล้มทั้งยืน
"งาม รักพี่ดำอย่างพี่ชายร่วมสายเลือดเดียวกัน มันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่ความรักฉาบฉวยฉันชู้สาวซึ่งมีวันจืดจางได้ พี่ดำเป็นมากกว่าพี่ชาย เป็นยิ่งกว่าเพื่อน"
ดำเศร้าจนเหมือนหัวใจหลุดหายไปจากตัว ปลีกตัวไปอย่างแสนช้ำเดินดุ่มไปทางทุ่งนา พอพ้นสายตาไทรงามก็วิ่งสุดฝีเท้าเหมือนจะหนีความเจ็บปวดเหมือนจะให้ลืมทุก อย่างที่ทำร้ายจิตใจตนเอง
ทั้งเด่นดาวและดำต่างอยู่ในอารมณ์เดียวกัน วิ่งไปท่ามกลางสายฝนอย่างมืดมน...
ooooooo
เด่นดาวไปนั่งตาก ฝนอยู่ริมตลิ่ง ท่ามกลางสายฝนและความมืด เธอมองคลื่นในลำคลองอย่างเหม่อลอย ใจคิดอะไรบางอย่าง...
ส่วนดำนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากเด่นดาว นัก หัวใจว้าเหว่โดดเดี่ยวปวดร้าว ขณะนั่งเหม่อใจลอยอยู่นั้น เขาเห็นเงาของหญิงสาวคนหนึ่งพุ่งลงไปในสายน้ำ ดำวิ่งพรวดไปตรงนั้น กระโดดลงไปทันที
ดำพุ่งลงน้ำดำหาร่างหญิงสาวท่ามกลางสายฝนและเกลียว คลื่น เขาดำค้นหาจนเกือบหมดหวัง ตัดสินใจดำลงไปอีกครั้ง คราวนี้เจอร่างหญิงสาวจมอยู่ก้นคลอง ดำอุ้มร่างนั้นขึ้นมาพาขึ้นฝั่งจึงรู้ว่าเป็นเด่นดาว ดำยิ่งตกใจรีบผายปอดอย่างเร็ว ทำทุกวิธีจนสุดท้ายต้องผายปอดด้วยปาก
ได้ ผล เด่นดาวรู้สึกตัวขึ้นมา แทนที่จะดีใจเธอกลับตบหน้าเขาอย่างแรงฐานมาช่วยชีวิตตนไว้ พร่ำบอกแต่ว่า "ฉันอยากตาย...ฉันอยากตาย..."
ดำถามว่าทำไมถึงต้องตาย เด่นดาวคร่ำครวญว่าในเมื่อไม่มีอู๊ดแล้วจะอยู่ต่อไปทำไม ย้อนถามดำว่าหรือเขามีความสุขที่ได้เห็นไทรงามไปอยู่กับอ๊อด
"ผมไม่ ได้มีความสุข และผมก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณ แต่ผมไม่เห็นต้องทำตัวไร้สาระแบบนี้ ถ้าคุณเป็นพวกไร้ญาติขาดมิตรก็ว่าไปอย่าง แต่นี่คุณยังมีคนที่รักคุณอีกตั้งมากมาย ท่านเจ้าคุณจะรู้สึกอย่างไรถ้ารู้ว่าหลานสาวคนเดียวของท่านต้องมาตายเพราะ แค่เรื่องรักไม่สมหวังอย่างนี้"
เด่นดาวไม่อาจทำใจได้ จนดำเตือนสติว่า ไม่เห็นจะต้องบูชาความรักด้วยการเอาชีวิตเข้าแลกแบบนี้ ถามว่าถ้าเธอไม่รักตัวเองให้ดีพอแล้วเธอจะไปรักคนอื่นให้ดีได้อย่างไร
ไม่ เพียงเท่านั้น ดำยังเตือนสติเธอว่า "ตั้งแต่เกิดมาเคยถามตัวเองรึยังว่าได้ตอบแทนบุญคุณใครแล้วบ้าง แล้วก่อนจะตายนึกออกบ้างไหมว่าลงมือทำอะไรเพื่อใครหรือยัง..."
เด่น ดาวทั้งเจ็บทั้งอาย ตบหน้าดำไปหลายฉาด ดำฉุนขึ้นมาเลยจับเธอจูบเสียจนเธอดิ้นไม่หลุด ดำรู้สึกตัวเมื่อหน้าตัวเองเปียกน้ำตาเด่นดาว เขาจึงผละออกมา ถูกเด่นดาวด่าแล้ววิ่งกลับไปที่รถขับออกไปอย่างเร็ว
เมื่อเด่นดาวไป แล้ว ดำจึงรู้ว่า ระหว่างดิ้นรนกันนั้นเขาดึงสร้อยทองเธอขาดติดมือ เมื่อแบมือดูจึงเห็นจี้ที่เป็นอักษรรูปตัว Y ไขว้กันอยู่
ooooooo
แล้ว ปมปริศนาก็คลี่คลายทีละปม..ทีละปม
เช้าวันนี้ อู๊ดในสภาพมึนๆเมาๆอยู่ คว้าไปถูกน้ำร้อนที่เชษฐ์เพิ่งยกจากเตาลวกทั้งแขน น้ำที่เพิ่งเดือดปุดๆกลับไม่ทำให้อู๊ดรู้สึกอะไรนัก เขาบอกว่าแค่น้ำอุ่นๆเท่านั้น แต่เพิ่มไม่ยอมบังคับพาไปหาหมอที่คลินิกหมองาม
หลังจากไทรงามตรวจทำ แผลให้แล้ว เมื่อจ่ายยาเธอกำชับว่าให้กินยาตามหมอสั่งจนกว่าจะหมด อู๊ดพูดหยอกแกมหยิกว่า
"ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบวันนี้ ใช่ไหมครับ โดนน้ำร้อนลวกแล้วยังไม่รู้สึกตัว ตกลงหมอจะไม่ยอมบอกผมใช่ไหมครับว่า ผมเป็นอะไรกันแน่"
ไทรงามอึกอัก พูดไม่ออก โชคดีที่อุษากับอ๊อดเข้ามาขัดจังหวะ อุษาจะให้ไทรงามเข้าพระนครไปกับอ๊อดเพื่อไปเลือกชุดแต่งงานและแหวนแต่งงาน แต่ไทรงามขอตัวอ้างว่านัดตรวจคนไข้ไว้หลายราย พูดเอาใจว่าเชื่อรสนิยมของอุษา จนอุษากับอ๊อดไม่คะยั้นคะยอ
เพิ่มจึง มีโอกาสถามไทรงามว่า ตกลงอู๊ดเป็นอะไรกันแน่ โดนน้ำร้อนลวกขนาดนั้นยังไม่รู้สึกตัวเลย ไทรงามจำต้องบอกว่าอาการของโรคทำให้ปลายประสาทชาจนไม่รู้สึกอะไร เพิ่มนึกออกพูดอย่างตกใจว่า "เอ...อาการอย่างนี้มันเหมือนกับหนูเย็นเมื่อ 20 ปีที่แล้วนะ หรือว่า..."
"ค่ะ...ลุงเพิ่ม คุณอู๊ดเป็นโรคเรื้อนเหมือนแม่เย็นค่ะ"
น้ำเสียงไทรงามราบเรียบ แต่ทำให้เพิ่มชาวาบไปทั้งตัว!
ooooooo










