ตอนที่ 11
อัลบั้ม: “สายลับสามมิติ” สนุก ฮา “ป๋อทุลุมิติจับมือน้ำตาลควงปืนผดุงความยุติธรรม”
ที่ห้องทำงานของ ดร.อาทิตย์ในมูลนิธิ ทีมงานของ ดร.อาทิตย์อยู่กันครบ ทุกคนหน้าเครียดโดยเฉพาะ ดร.อาทิตย์
แต่แล้วลินดาก็ทำลายความเงียบให้กลายเป็นความเครียด เธอโยนแส้ที่ถูกเชนตัดขาดขณะต่อสู้กันให้นารีเอาไปซ่อม
“เห็นฉันเป็นอะไร อีปลายแถว!” นารีด่าแล้วชักมีดออกมาจะขว้างใส่ลินดา
“จะกัดกันเองใช่ไหม เดี๋ยวจะหากรงให้เข้าไปฟัดกัน” ดร.อาทิตย์ตวาด “เอาล่ะทุกคนฟัง ความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น มีเหตุผลเดียวคือ เราดันประมาทเกินไป”มิสเตอร์โอเคแทรกว่าไอ้พวกกระจอก พวกเล่นปาหี่ชัดๆ “แต่ก็เป็นคณะปาหี่ที่สามารถขัดขวางการขายอาวุธและเกือบคว่ำพวกเราได้ด้วย”
อินทุบอกว่า “ให้เกียรติคู่ต่อสู้” นารีพูดต่อให้ว่า “ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของความหลงตัวเอง”
ทุกคนเงียบ ดร.อาทิตย์ย้ำว่าโดยเฉพาะไอ้สายลับเชน พูดแล้วหันมองลินดา ทุกคนมองตาม ลินดาถามอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ทำไม ตนเพิ่งยิงมันไปสองนัดเมื่อกี๊
“เธอไม่มีความสุขเหรอ?” อินทุถาม นารีถามว่าเธอจำมันไม่ได้? ลินดายืนยันว่าจำไม่ได้ อินทุแทรกทันทีว่า “โกหก เธอยิงมันไม่ตรงจุดสำคัญ”
“งานนี้เป็นเรื่องแน่! เธอกับมันเคยเป็นคู่หูกันนี่นา” นารีดักคอ ทำให้ลินดาโมโหปรามว่า
“แกสองคนสุมหัวกันใส่ร้ายฉันเกินไปแล้วนะ อย่าวอนให้ฉันต้องลงไม้ลงมือ ทำให้แกสองคนต้องคลานมาขอโทษฉัน” เป็นคำพูดที่ทำให้ทุกคนมองหน้ากันรู้ว่ากำลังจะมีเรื่อง ดร.อาทิตย์ตัดบทแทรกขึ้นว่าลินดาจำเชนไม่ได้ นารีจะแย้งอีก ถูก ดร.อาทิตย์ยกมือห้าม มิสเตอร์โอเคมอง เห็น ดร.อาทิตย์ทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ก็ระเบิดหัวเราะ
“ฮ่ะๆๆ I see...I see ไอรู้แล้วว่ายูคิดอะไร เราจะเจอจุดอ่อนของไอ้เชนแล้ว เป็นจุดตายของมันด้วย”
“หึๆ ประมาณนั้น...ฉลาดนี่” ดร.อาทิตย์ชม แล้วทั้งดร. อาทิตย์และมิสเตอร์โอเคต่างมองลินดา เธองงว่ามองทำไม?
ooooooo
ที่บ้านเช่า ตฤณกับลุงเจิดกำลังช่วยกันจับเจนจิราที่สวมหมวกสแกนสมองที่วิศวะประดิษฐ์ขึ้น เจนจิราโวยวายว่าเอาอะไรมาใส่หัวตน ตะโกนให้ถอดออก
ตฤณและลุงเจิดทั้งหลอกทั้งปลอบว่าทุกคนกำลังช่วยเธอ เจนจิราบอกว่าตนไม่เป็นอะไร ช่วยตนทำไม ตนคิดถึงบารมี วิศวะดุว่า “ก็นั่นแหละ กำลังจะช่วยให้เธอหายบ้าจากไอ้หมอบารมีไง” แล้วต่อสายระโยงระยางไปยังโน้ตบุ๊ก
กว่าวิศวะจะต่อสายเสร็จ ทั้งตฤณและลุงเจิดก็ถูกเจนจิราทั้งด่าทั้งถอง พอต่อสายเสร็จ วิศวะหัวเราะสะใจว่า เดี๋ยวตนกด Enter ส่งข้อมูลในอดีตทุกอย่างของเจนจิราที่ตนเซตไว้ในโปรแกรมวิ่งเข้าไปในหมวกเอ้กอี๊เอ้ก เอ้ก กระแสไฟฟ้าอ่อนๆจะเข้าไปกระตุ้นให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัสของเจนจิราหลุดจากการถูกสะกดจิต จำทุกอย่างได้ กลับมาเป็นคนเดิม
แต่พอลุงเจิดถามว่าแน่ใจหรือ วิศวะกลับบอกว่าไม่แน่ใจ แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ ทุกคนเลยจ้องจับตาความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น พริบตานั้นเจนจิราถอดหมวกเขวี้ยงใส่ตฤณ ลุงเจิดหัวเราะร่าบอกว่าแบบนี้ชัวร์ป้าบ วิศวะ ถามว่าเจนจิราหายแล้วใช่ไหม ลุงเจิดบอกให้เข้าไปลองดู
พอวิศวะเดินเข้าไป เจนจิราก็แผดเสียง “กรี๊ดดดด...บารมีช่วยด้วย...”
ลุงเจิดพูดหน้านิ่งว่า ยังไม่หายว่ะ...แล้วโยนให้เป็นเรื่องเวรกรรม ปวันติงว่าลุงเป็นนักวิทยาศาสตร์ไหงโยนให้เป็น เรื่องเวรกรรมซะงั้น พอถูกซักถามมากเข้า ลุงเจิดอธิบายว่า
“อย่างกรณีของหนูเจน ฉันว่าทางเดียวที่จะรักษาหายคือ จิตที่พลุ่งพล่านย่อมเยียวยาด้วยจิตที่เยือกเย็นและมีเมตตาเท่านั้น อมิตตพุทธ ไปล่ะ ขอให้ตฤณหาหนทางให้เจอ” ว่าแล้วลุงเจิดก็เดินออกไป วิศวะร้องบอกให้รอด้วย ปวันเงยหน้ามองขึ้นไปชั้นบน นึกถึงเชน พึมพำขำๆว่า
“แล้วอย่างอีตาสายลับจิตหมกมุ่น ต้องเยียวยาด้วยอะไร หึๆ”
ooooooo
ขณะเชนนอนพักอยู่นั้น ทิวากับราตรีดี๊ด๊ามาหา ต่างเสนอบริการพิเศษของตน โดยทิวาจะป้อนอาหารและร้องเพลงให้ฟัง ส่วนราตรีจะเช็ดตัว ประแป้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้
สองป้าแย่งกันว่าใครจะทำก่อน เถียงกันลั่นห้อง เชนหน้าแหยมองไปที่ประตูเห็นตังตังแอบดูอยู่เลยส่งสายตาให้ช่วย
ทิวากับราตรีตื๊อไม่สำเร็จพากันเดินหน้าเหี่ยวลงไป เจอปวันยกโจ๊กใส่ชามขึ้นมา ปวันถามว่าเชนเป็นยังไงบ้าง ทิวากับราตรีต่างสะบัดหน้าไปคนละทางบอกว่า “ไม่รู้!” “ไม่ชี้” ทำเอาปวันงงถามว่าเป็นอะไร ตนถามดีๆ ก็มาเหวี่ยงใส่
“ก็เชนไม่ยอมให้เขาเช็ดตัว ป้อนข้าวน่ะซีคะ มนุษย์ป้าเลยรมณ์เสีย แต่สำหรับหมวด เชิญค่ะ” ตังตังเฉลย แล้วดันหลังปวันให้เข้าห้องไป บอกว่าตนขอไปดูน้าเจนก่อน หัวเราะคิกๆแล้ววิ่งตื๋อไป
ปวันเอาโจ๊กมาให้เชน พอเห็นปวันมา เชนก็สำออยทำเป็นเจ็บหนัก ทั้งปวดแผลเป็นไข้ แต่ปวันรู้ทัน ดูแผลก็ไม่อักเสบ จับตัวก็ไม่มีไข้ พูดอย่างรู้ทันว่า ตนไม่ใช่ลินดาอย่าเสียเวลามาสำออยเลย แล้วยัดเยียดให้กินโจ๊กเสีย
ตกค่ำฝนตกฟ้าร้อง ปวันทำแผลให้เชนเสร็จ เชนตอบแทนด้วยการร้องเพลง Always on my mind ให้ฟัง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างชื่นฉ่ำ บรรยากาศอำนวยจนเขินด้วยกันทั้งคู่
ooooooo
เกิดเหตุให้ตกใจเมื่อเจนจิราเข้าห้องน้ำแล้วหายไป ตังตังเห็นมุ้งลวดในห้องน้ำถูกถอดวางที่พื้น บอกตฤณว่าเจนจิราต้องหนีไปทางนี้แน่เลย
เจนจิราวิ่งหนีไปถึงหน้าบ้านเจอทิวากับราตรีที่ได้ยินเสียงตฤณตะโกนเรียกเจนจิราโผล่หน้ามาดู เห็นทั้งตฤณ ตังตัง ปวัน และเชนวิ่งตามเจนจิรา ตะโกนให้จับไว้ ขวางไว้ ทิวากับราตรีจึงลงไปช่วยสกัด บอกเจนจิราให้กลับบ้านเสีย ตากฝนเดี๋ยวจะไม่สบาย
“หลีกไปให้พ้น ฉันจะไปหาบารมี...” แล้วผลักสองป้าพ้นทางวิ่งตรงไปที่ประตูรั้วหนีออกไป วิ่งไปชนลินดาเข้าอย่างจัง พอพวกตฤณวิ่งตามมาเห็นลินดาต่างพากันตกใจคิดว่า ดร.อาทิตย์ส่งเธอมาเล่นงานพวกตน
เชนกล่อมลินดาให้ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรเจนจิรา ถ้าจะทำให้มาทำกับตนคนเดียว แล้วเดินกะเผลกๆ เข้าไปท่ามกลางความเป็นห่วงของทุกคน
ลินดากระอักเลือดและมีเลือดกำเดาไหลที่จมูกข้างหนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลืออย่างอ่อนระโหย เชนโผเข้าไปกอดลินดา ในขณะที่ตฤณวิ่งไปจับตัวเจนจิราไว้ แต่เธอก็ยังร่ำร้องจะไปหาบารมี จนตฤณตะโกนใส่หูหมายเรียกสติและความทรงจำเก่าๆกลับมา แต่ไม่ได้ผล
ส่วนลินดาพออยู่ในอ้อมกอดของเชนก็ทำเป็นจำได้ แต่พอจำได้ก็หมดสติพอดี เชนร้องเรียกลินดาสุดเสียง ในขณะที่ปวันยืนมองอึ้ง
ooooooo
เมื่อพาลินดาเข้าบ้าน ทิวากับราตรีเป็นห่วงที่เธอยังสลบไสลไม่ได้สติ เสนอให้เรียกรถพยาบาลมารับไปส่งโรงพยาบาลดีกว่า ปวันบอกว่าตนรู้จักน้องที่ทำงานร่วมกตัญญูคนหนึ่ง ทำท่าจะโทร.เรียก
พอลินดาได้ยินว่าจะเรียกร่วมกตัญญูมาก็ทำเป็นฟื้นขึ้นมา เชนดีใจมากร้องเรียก...ลินดา...ลินดา...เธอลืมตามองเชนทำเป็นจำได้ แล้วโผเข้ากอดเขาแน่น
“ลินดา ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ เชนอยู่นี่”
“เชนอยู่นี่ หึ! อยู่แบบเดี้ยงๆ นายลืมไปแล้วเหรอว่าใครเป็นคนยิงนาย”
ลินดาทำเป็นตกใจถามว่าตนเป็นคนยิงเชนหรือ ร้องอย่างตกใจว่า “ลินดาไม่รู้ตัว ไอ้ด็อกเตอร์อาทิตย์มันสะกดจิตลินดา มันหลอกใช้ลินดา มันหลอกใช้”
“เมื่อวานยังจำเชนไม่ได้ เป็นสมุนรับใช้ไอ้ด็อกเตอร์อยู่เลย วันนี้อยู่ดีๆก็โผล่มาทำตัวสะบักสะบอมกอดเชน น่าสงสาร” ปวันมองลินดาอย่างไม่เชื่อ ลินดาบอกว่า
นั่นมันเมื่อวานตนถูกสะกดจิต แต่วันนี้ตนหายแล้ว ตนสู้กับมันแล้วหนีมาตามหาเชน
“เชนคิดอยู่แล้ว ว่าอำนาจอธรรมไม่มีทางครอบงำจิตใจลินดาไว้ได้นานหรอก”
ปวันแทบไม่เชื่อหูว่าเชนจะพูดอย่างนั้น ถามว่าฟังลินดาพูดแค่นั้นก็เชื่อแล้วหรือ เชนย้อนถามว่าหรือเธอจะให้ไล่ลินดาที่บาดเจ็บอยู่ออกไป ปวันจึงเป็นฝ่ายไปเอง เชนจะตาม ลินดาก็มารยา สำออย จนเชนต้องรีบกลับมาประคองไว้
ทิวากับราตรีรีบตามมาคว้าแขนปวันไว้ บอกว่าถึงพวกตนจะไม่ชอบเธอเท่าไร แต่ถ้าให้เลือกระหว่างแม่ลินดากับเธอตนไว้ใจเธอมากกว่า เพราะดูๆแล้วแม่นั่นโผล่มาแปลกๆ แล้วมอบกุญแจพวงใหญ่ให้ปวันบอกว่าเธอต้องอยู่ที่นี่ ให้พักฟรีจนกว่าลินดาจะไปจากบ้านเช่านี้
ส่วนตฤณก็ปลุกปล้ำอยู่กับเจนจิราที่ร่ำร้องแต่จะไปหาบารมี จนต้องเอายาให้กินบอกว่าเป็นยาแก้ปวดหัวลดไข้ กินยาแล้วนอนพักตื่นมาก็หาย หลอกล่อจนเจนจิรายอมกินยา พูดเสียงอ่อนล้าว่า
“ฉันตื่นขึ้นมาแล้ว พาฉันไปหาบารมีนะ...สัญญานะ...”
พอเจนจิราหลับ ตฤณก็เฝ้าดูอยู่อย่างเป็นห่วง ตังตังเลยค่อยๆหลบออกไปอย่างรู้หน้าที่
ooooooo
ดร.อาทิตย์เฝ้ารอผลงานของตนอยู่ที่ห้องทำงานในมูลนิธิ อินทุเข้ามารายงานอย่างตื่นเต้นดีใจว่า
“นายครับ! สำเร็จครับ ลินดาแฝงตัวเข้าไปใน บ้านเช่าแล้ว”
“ไอ้สายลับเจ้าเสน่ห์มันต้องเป็นปลาใหญ่ตายน้ำตื้นด้วยเสน่ห์ที่มันมั่นใจไปเอง หึๆๆ” ดร.อาทิตย์หัวเราะสะใจในขณะที่มิสเตอร์โอเคลุกขึ้นบิดคอหักนิ้วเตรียมพร้อม เอ่ยถามว่า
“ใครบอกว่าไอ้เชนมันจะตายด้วยเสน่ห์ไร้สาระแบบนั้น มันต้องตายด้วยน้ำมือของกระพ้มนี่ โอเค เชน โอเค เชน ฮ่ะๆๆ เพราะเราเกิดมาเป็นคู่อริกัน” มิสเตอร์โอเคตะเบ็งเสียงเบ่งกล้ามห่ามเถื่อนอย่างผยอง
เพียงเช้าวันรุ่งขึ้น ดร.อาทิตย์ก็ส่งกำลังไปบุกบ้านเช่า ทุกคนตื่นขึ้นมาต่างเตรียมป้องกันตัวกันชุลมุน ตฤณเป็นห่วงเจนจิรา ในขณะที่เจ้าตัวก็เอาแต่พร่ำเพ้อเรียกหาบารมีไม่ขาดปาก
ลินดาสะใจเมื่อรู้ว่าพวก ดร.อาทิตย์บุกมาแล้วแต่เชนก็ยังไม่รู้ตัวพยายามพาลินดาหนี มีแต่ปวันเท่านั้นที่ตั้งสติได้และต่อสู้กับพวกที่บุกเข้ามาเป็นสิบคน
เชนกับลินดาโผล่มายิงต่อสู้กับพวกที่บุกเข้ามา เชนตะโกนบอกให้ตฤณพาพวกผู้หญิงหนีไปก่อน ตฤณรับทราบพาลินดา เจนจิรา ตังตัง ลงบันไดด้านข้างสวนลงไปข้างล่าง
พอลงมาก็เจอมิสเตอร์โอเคดักอยู่ ครั้นจะหันหลังกลับก็มีสมุนของ ดร.อาทิตย์ ทั้งหมดไม่รู้จะทำอย่างไร
“ไอ้โอเค แน่จริงสู้กันตัวต่อตัวซิวะ” เชนตัดสินใจร้องท้า
“ไอ้สายลับเชน ทำมาพูดเหมือนอยู่ในหนังทีวี ฟังไว้นะ ที่นี่ในโลกแห่งความจริงนี้ พวกเราต้องตายจริง เจ็บจริง ไม่มีการล้อเล่นอีกต่อไป เรื่องอะไรฉันจะโง่สู้กับแกตัวต่อตัว และโลกแห่งความจริงนี้ บ่อยครั้งธรรมะก็ไม่ชนะอธรรม...”แล้วมิสเตอร์โอเคก็ให้โอกาสทุกคนสวดมนต์
ทันใดนั้น ทิวากับราตรีก็โผล่มาข้างหลังมิสเตอร์โอเคพร้อมปืนลูกซอง ราตรีประกาศอย่างห้าวหาญว่า
“แกนั่นแหละที่ต้องเป็นคนสวดมนต์ถึงพระเจ้า มนุษย์ป้าคนนี้จะสังหารแกเอง!” สิ้นเสียงราตรีก็ยิงตู้ม! แล้วทิวาก็ตามไปอีกหนึ่งตู้ม! แล้วตามอีกหลายตูมจนมิสเตอร์โอเคต้องหลบงุด
“คุณเชนตาตฤณ พาทุกคนหนีไป ทางนี้ฉันจัดการเอง” ราตรีตะโกนบอก
ส่วนเชนพอได้ยินทิวากับราตรีตะโกนดังนั้น ทุกคนช่วยกันยิงสมุน ดร.อาทิตย์ที่มาดักอีกทางพยายามจะฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้
ปวันที่โทร.ตามจ่าเจี๊ยบ ได้รับสายอีกทีก็ถามอย่างร้อนใจว่าถึงหรือยัง มัวทำอะไรอยู่!
แต่ไม่นานจ่าเจี๊ยบก็ขับรถมาถึง ทุกคนรีบไปขึ้นรถ มิสเตอร์โอเคเห็นก็ตะโกนท้า
“เฮ้ย...ไอ้เชน แน่จริงแกอย่าหนีซีวะ มาดวลกันตัวต่อตัวก่อนซีโว้ย ไอ้เชน...กลับมา!” มิสเตอร์โอเคพาพวกไล่ยิงรถแต่ไม่ทัน ซ้ำลูกน้องยังมารายงานว่ามนุษย์ป้าสองคนก็หนีไปแล้ว มิสเตอร์โอเคตะโกนลั่น “ไม่โอเค...แบบนี้ไม่โอเค!”
ooooooo
เชนกับพวกได้ไปพักที่บ้านพักตากอากาศของจันทร์เจ้า เชนถามว่าที่นี่ที่ไหน
“นี่บ้านพักตากอากาศริมชายหาดส่วนตัวของจันทร์เจ้าเองค่ะ” จันทร์เจ้าที่เฝ้าเชนอยู่ไม่ห่างตอบอย่างอ่อนหวาน
จ่าเจี๊ยบเข้ามาบอกว่า “ผมไปสำรวจรอบๆมาแล้ว ปลอดภัยหายห่วง”
เชนมองจ่าเจี๊ยบงงๆ ปวันชี้แจงว่า “จ่าเจี๊ยบพาเราหนีมาที่นี่ คนอื่นๆอยู่ข้างล่าง”
“ถ้าไม่ใช่คุณนะเชน จันทร์เจ้าไม่เปิดบ้านให้ใครมาพักง่ายๆหรอกนะคะ”
“พอคุณจันทร์เจ้ารู้ว่านายลำบากก็เสนอตัวช่วยทันที” จ่าเจี๊ยบบอกแล้วเดินเข้าไปแซวเบาๆ “เสน่ห์แรงก็ดีอย่างนี้แหละนะ”
เชนปากหวานตามเคยว่าน้ำใจจันทร์เจ้างามไม่แพ้ใบหน้า ทำเอาจันทร์เจ้าเขิน ลินดาหมั่นไส้ด่าเบาๆ“ดัดจริต!”
“หากไม่มีคุณจันทร์เจ้า ผมและเหล่าเกลอแก้วคงไร้ที่พึ่งพักพิง...ขอบคุณมากนะครับ” เชนหว่านเสน่ห์เต็มที่ จันทร์เจ้าเขิน เสนอว่าเปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นให้ตนเช็ดตัวให้ได้ไหม “คุณจันทร์เจ้าครับ ให้เป็นหน้าที่ของจ่าเจี๊ยบเถอะนะครับ ผมคงไม่สบายใจ หากใครครหาว่า คุณจันทร์เจ้าถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายในที่รโหฐาน”
จันทร์เจ้าทำหน้าเง้าเสียดาย จ่าเจี๊ยบจึงบอกทุกคน “เชิญสุภาพสตรีทั้งหลายออกไปรอที่อื่นก่อนนะครับ
เมื่อลงมาข้างล่างแล้ว ปวันจับตาดูลินดาอย่างไม่วางใจ เหลือบเห็นเชนเดินลงมา เธอเดินไปช่วยประคอง
“ถึงเราจะหนีมาไกล แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ พวกเราต้องระวังตัวไว้ ผมกับลินดาจะคอยสับเปลี่ยนเวรยามกัน 24 ชั่วโมง” เชนปรารภกับปวัน
พอปวันได้ยินชื่อลินดาก็ปล่อยมือจากเชนบอกว่า ยัยนั่นแหละตัวอันตราย
เชนได้ยินเสียงคลื่นก็นึกว่าเสียงท้องตัวเองร้อง พอปวันบอกว่านั่นคือเสียงคลื่น เชนพึมพำงงๆ
“คลื่น!!??”
ooooooo
เชนตื่นเต้นที่ได้เห็นทะเล เห็นสีสวยของผืนน้ำที่ไกลสุดสายตา เห็นทรายขาวของชายหาด เชนเพลิดเพลิน เดินชมวิวไป ก้อร่อก้อติกกับปวันไป ตามประสาสายลับเจ้าเสน่ห์
พลันก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงเจนจิราร้อง “ช่วยด้วย!! โจรลักพาตัว...ช่วยด้วย!!” ตามด้วยเสียงตฤณและเด็กๆ ตะโกนเรียก เจน...น้าเจน... พอหันมองก็เห็นเจนจิราวิ่งอ้าวมาโดยมีตฤณและตังตังกับกังฟูวิ่งไล่ตาม
ตฤณกลัวชาวบ้านจะมาช่วยจริงๆ เลยตะโกนบอกว่าพวกตนเล่นสนุกกันเท่านั้น ตังตังก็ประสานเสียงว่าเล่นสนุกมากเลย แต่กังฟูนั่งหอบแฮ่กบ่น “สนุกจะตายอยู่แล้ว” และไม่ยอมวิ่งตามเอาดื้อๆ
ปวันตะโกนบอกเจนจิราว่า ตฤณพยายามช่วยเธอ เจนจิราก็ยังวิ่งร้องขอความช่วยเหลือและเรียกหาบารมีไม่ขาดปาก
แต่ในที่สุดเจนจิราก็ถูกตังตัง กังฟูและจ่าเจี๊ยบจับได้ ตฤณเอาเชือกมัดมือแล้วปวันกับเด็กๆก็ช่วยกันพาเธอกลับบ้านพัก ระหว่างนั้นปวันเสนอว่าต้องพาเธอไปรดน้ำมนต์ 7 วัด ตฤณติงว่ามันไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ มันเป็นเรื่อง วิทยาศาสตร์แต่ตนก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามันใช้วิธีไหนและเราจะแก้ไขยังไง ปวันถามจ่าเจี๊ยบว่ามีวิธีอะไรจะแนะนำไหม
“ผมเคยดูในหนัง แต่ไม่ได้โดนสะกดจิตนะ แบบว่านางเอกความจำเสื่อม จำพระเอกไม่ได้ แล้วพระเอกก็หาวิธีทบทวนความทรงจำเก่าๆ ความหลังต่างๆ ที่ทำด้วยกัน ร้องเพลงรักที่เคยร้อง อะไรประมาณนี้ พอจะเอามาประยุกต์ใช้ได้ไหม”
ตฤณเห็นว่าไม่เลว ตังตังยกมือยินดีร่วมมือด้วย ส่วนกังฟู ขอร่วมมือแบบนั่ง ไม่เอาวิ่งแล้ว
ปวันมองหน้าตฤณอย่างให้กำลังใจ ตฤณหันมองเจนจิราอีกต่ออย่างหนักใจ
ooooooo
ลุงเจิดกับวิศวะไปเช่าบ้านไม้เก่าโทรมเป็นเซฟเฮาส์ พอมาเห็นบ้านวิศวะบ่นว่าซอมซ่อแบบนี้ใครจะอยู่ได้ ถูกลุงเจิดย้อนถามว่า คิดว่ามาพักร้อนรึไง นี่เรากำลังหนีเอาชีวิตรอดนะ ตฤณเลยเงียบ
ลุงเจิดเอาเสื้อผ้าเก่าๆมาให้วิศวะเปลี่ยนเพื่อจะได้ดูกลมกลืนกับสภาพสังคมที่นี่ คนอื่นจะได้ไม่สงสัย แล้วต่างก็หามุมของตัวเองเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน
แต่พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ มิสเตอร์โอเคก็ตามมาถึงพอดีเพราะมันแอบเอาเครื่องติดตามตัวติดไว้ที่หลังลุงเจิดนั่นเอง
มิสเตอร์โอเคถีบผนังบ้านด้านหนึ่งพัง แล้วพรวดเข้ามาสั่งลูกน้องจัดการทันที!
ลุงเจิดกับวิศวะวิ่งหนีสุดฝีเท้า วิ่งไปตามตรอกซอย มิสเตอร์โอเควิ่งไล่ตามมา วิศวะบอกลุงเจิดให้วิ่งเข้าไปในร้านค้าที่เป็นเพิงเล็กๆ และกำลังเปิดทีวีอยู่ ลุงเจิดหยิบแว่นสามมิติออกมาใส่แล้วจูงมือวิศวะวิ่งเข้าไปในร้าน พลันก็ถูกดูดเข้าไปในทีวี ทั้งสองถูกดูดไปตกที่เวทีมวยไทยไฟต์ที่กำลังชกมวยกันอยู่พอดี
“เรามาโผล่ที่เวทีมวยไทยไฟต์...เรารอดแล้ว” วิศวะดีใจ
“แน่ใจ?” มิสเตอร์โอเคยืนอยู่บนเสาป้ายโฆษณาตะโกนถามเย้ย ลุงเจิดกับวิศวะตกใจกระโจนจากเวที ไปกันคนละทาง มิสเตอร์โอเคระเบิดหัวเราะลั่น “ฮ่าๆๆ สนุกสุดๆไปเล้ย...”
ลุงเจิดกับวิศวะหนีไปด้วยกันโดยมีแว่นสามมิติพาหนีได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่มิสเตอร์โอเคก็ตามไปได้ทุกที่อย่างไม่น่าเชื่อ จนสุดท้ายหนีไปเข้าห้องนั่งเล่นของ ดร.อาทิตย์ กลายเป็นหมูวิ่งไปชนปังตออย่างจัง! ทั้งศิษย์และอาจารย์ต่างหน้าซีดที่หนีมาติดกับอย่างไม่มีทางหนีไปไหนอีกแล้ว!
ooooooo
ระหว่างอยู่ที่บ้านพักตากอากาศนั้น ลินดาอ่อยเชนหมายให้เผลอใจเพื่อกำจัด แล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อเชนเข้าห้องน้ำลินดาถือมีดตรงไปที่ห้องน้ำหมายฆ่าเขา
จ่าเจี๊ยบกับปวันเดินผ่านมาเห็นลินดากำมีดท่าทางมุ่งร้ายต่อใครสักคน ได้ยินเสียงผิวปากจากในห้องน้ำก็เดาได้ว่าเชนอยู่ในห้องน้ำ ปวันตรงไปถามลินดาว่า “เอามีดมาทำไม เธอจะทำอะไรเชน”
“ฉันจะทำอะไรเชนหรือเชนจะทำอะไรฉันก็ไม่ใช่เรื่องของหล่อน” ลินดาตอบอย่างท้าทายแล้วจะแทงปวัน ปวันหลบและดึงมีดไปได้แต่ปลายมีดกรีดโดนมือลินดาจนเลือดออก เป็นจังหวะที่จันทร์เจ้าผ่านมาเห็นพอเห็นเลือดก็ร้องกรี๊ด เชนออกจากห้องน้ำ เขาหาว่าปวันทำร้ายลินดา ฝ่ายนั้นสำออยทันทีว่าตนทำอะไรให้ ปวันถึงได้เกลียดตนขนาดนี้
“เธอนั่นแหละ ถือมีดมาจะทำร้ายเชน” ปวันแฉ ลินดาอ้างว่าตนเอามีดมาปอกผลไม้ต่างหาก แล้วควักแอปเปิ้ลจากกระเป๋ากางเกงให้ดู ทำเป็นตัดพ้อว่า “คุณปวันมองลินดาในแง่ร้ายตลอดเลย”
เชนหูเบาตำหนิปวันว่า ลินดากลับมาเป็นคนเดิมแล้วแต่เธอยังระแวงไม่เลิก ปวันโมโหเลยเดินหนีไป จันทร์เจ้ามาเจอบอกเชนว่า ปวันกับลินดานางร้ายกับนางร้ายมีเรื่องกัน แต่ตนเป็นนางเอก เข้าไปเกาะเชนอ้อนให้ปกป้องตนด้วย เชนเอามือจันทร์เจ้าไปจับมือลินดาบอกเธอว่า
“คุณจันทร์เจ้าคนงาม ทำแผลให้คู่หูของผมด้วยนะครับ” แล้วเชนก็วิ่งตามไปดึงแขนปวันไว้
“นายไม่เชื่อฉันว่าลินดาเป็นนางนกต่อ ลินดาไม่ได้หวังดีกับเรา” ปวันพยายามบอกเชนอีก แต่เชนก็ไม่เชื่อยืนยันว่าลินดาเป็นคู่หูเป็นเพื่อนตน “ฮึ! ไว้ใจกันเหลือเกินนะ นายไม่คิดบ้างหรือไงว่าทำไมพอนายรับลินดามาอยู่ด้วย ไอ้พวกอาทิตย์มันถึงส่งคนมาถล่มเรา รู้ความเคลื่อนไหวของเราราวกับนั่งอยู่ด้วยกันในบ้านงั้นแหละ”
“ก็อาทิตย์มันจ้องจะเล่นงานเราอยู่แล้ว มันรู้ที่อยู่ของเรา มันจะบุกมาตอนไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับลินดา”
ปวันกับเชนโต้กัน ฝ่ายหนึ่งระแวงลินดาอีกฝ่ายปกป้องลินดา เชนหาว่าปวันหึงตนไม่มีเหตุผล ทำเอาปวันสะดุ้งใจแต่กลบเกลื่อนหาว่าเชนหลงตัวเอง เตือนเขาให้ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน โดนฆ่าเมื่อไรแล้วจะรู้สึก พูดแล้วเดินหนีไปอีกทาง เชนมองตามอย่างหนักใจที่ไม่อาจเปลี่ยนความเชื่อของปวันได้
ooooooo
ตฤณยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจนจิรา ไม่ว่าจะพูดอย่างไรทำอย่างไรเจนจิราก็ยังพร่ำเพ้อถึงแต่บารมี เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็เดินลงทะเลจะฆ่าตัวตายทำเอาตฤณต้องตามไปลากขึ้นจากทะเล ขึ้นมาถึงเธอก็เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญถึงบารมี
“โถ...เจน ทำไมตัวเองเป็นถึงขนาดนี้” ตฤณรำพึงอย่างเศร้าใจ
ส่วนปวันกับลินดา เหมือนขมิ้นกับปูน ลินดาเดินมาเจอโทรศัพท์ของใครก็ไม่รู้วางอยู่ที่โต๊ะ ก็แอบหยิบจะเอาไปโทร. แต่พอเริ่มกดปุ่มโทรออก ปวันก็ถามขึ้นว่า “โทร.หาใครหรือ?”
“อยากจะโทร.สั่งไก่ อยากกินไก่กินพิซซ่า” ลินดาเฉไฉ
เพราะยังมีกลุ่ม ดร.อาทิตย์ที่จะต้องตามสืบ ปวันจึงให้จ่าเจี๊ยบกลับไปทำงานทางโน้น ส่วนตนจะเกาะติดทางนี้ จ่าเป็นเตือนปวันว่าอยู่ทางนี้ก็ให้ระวังตัวด้วยตนเป็นห่วง ถ้าทางตนมีอะไรจะรีบส่งข่าว แต่พอปวันหันกลับมาเห็นเชนอยู่กับลินดาก็พึมพำกับตัวเอง “เชน...นายรักเขาใช่ไหม?”
ปวันถือโทรศัพท์จงใจให้ลินดาเห็น แล้วทำทีเดินไปหาที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ พอมีสัญญาณจะโทร.ก็ลืมเบอร์ เลยทำเป็นรีบร้อนกลับไป เอาโทรศัพท์วางไว้ที่โต๊ะล่อตาลินดา พอปวันเดินผ่านไป ลินดาก็แอบหยิบโทรศัพท์เดินอ้าวไปอีกทาง
ที่แท้ปวันล่อให้ลินดาห่างจากเชนแล้วลากเชนไปจับผิดลินดา ปวันลากเชนไปยังมุมหนึ่ง เห็นลินดากำลังจะกดโทร.ออก ลินดาไปคว้าโทรศัพท์คืนพูดเหมือนจับคนร้ายได้ว่า “จับได้พร้อมของกลางเลยนะ...ไหนดูซิว่าโทร.หาใคร”
ลินดาจะแย่งโทรศัพท์คืนแต่เห็นเชนวิ่งตามปวันมาเลยสำออยทำเป็นเซล้มเอามือที่มีผ้าพันแผลพันอยู่
ยันกับพื้น เชนบ้าจี้วิ่งไปประคองถามว่าเจ็บไหม ลินดาทำท่าเจ็บมาก จ้องหน้าปวันถามว่าผลักตนทำไม
เชนหูเบาเชื่อลินดา ถามปวันอย่างไม่พอใจว่าทำร้ายลินดาอีกแล้วหรือ ฝ่ายแม่นั่นก็สำออยว่า ทำไมถึงเกลียดตนขนาดนี้ ตนทำอะไรให้หรือ
“ปวัน คุณเลิกตั้งแง่กับลินดาเถอะ ยังไงเราก็พวกเดียวกัน อยู่กันอย่างสมานฉันท์ สามัคคีกันได้ไหม เรามีศึกข้างนอกต้องรับมือ อย่าแตกแยกกันเองเลย” ปวันพูดอย่างผิดหวังว่าคุณไม่เชื่อฉัน “ผมเชื่อจากหลักฐาน ไม่ใช่สันนิษฐาน”
ปวันทนไม่ได้เดินหนีไปทั้งน้อยใจทั้งหงุดหงิด
เชนจะตามไป ถูกลินดารั้งไว้บอกว่า
“ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ให้เวลาคุณปวันได้อยู่กับตัวเองสักหน่อยดีกว่า ตามไปตอนนี้ก็รังแต่จะทะเลาะกันหนักขึ้น” เชนเลยชะงักหันกลับมา ลินดาแอบยิ้มที่รั้งเชนไว้ได้ และทำให้ปวันกับเชนแตกคอกันได้
ooooooo
ปัญหาหนึ่งชายกับสามหญิง ยังเป็นเรื่องให้มีปัญหากันไม่จบสิ้น
ลินดานั้นต้องการทำลายเชนตามบัญชาของ ดร.อาทิตย์ จันทร์เจ้าอยากได้เชนไว้แก้เหงาใจ ส่วนปวันระแวงลินดาว่าเป็นคนท่ี ดร.อาทิตย์ส่งมาเป็นไส้ศึก แต่เชนกลับมองลินดาเป็นมิตร
แก๊งเด็กๆก็มุ่งมั่นที่จะช่วยน้าเจนกับน้าตฤณ ตังตังมีกังฟูเป็นคู่หูอยู่แล้ว กังฟูวางแผนบางอย่างจึงชวนสมายล์มาสนุกด้วยกัน พอคนขับรถพาสมายล์มาส่ง กังฟูถามทันทีว่าได้ของที่สั่งไหม
ของที่กังฟูสั่งให้สมายล์หามาให้คือน้ำหอมอโรม่า กลิ่นกระดังงา พ่อบอกว่าช่วยคลายเครียดเผื่อจะเรียกสติได้ พอได้มาก็เอาไปให้ตฤณฉีดรอบตัวเจนจิรา พอฉีดแล้วก็เฝ้าดูปฏิกิริยาจากเธอ ปรากฏว่าเธอนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเรียกเบาๆ “บารมี...” อึดใจเดียวก็คลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก วิ่งอ้าวกลับไปที่บ้านพักจนตฤณวิ่งตามแทบไม่ทัน
แต่ตฤณยังเพียรพยายามที่จะให้เจนจิรากลับมาเป็นคนเดิม ทดลองวิธีเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังเพื่อฟื้นความทรงจำ เจนจิราฟังตฤณแล้ว เธอจำเขาได้ จำเรื่องราวในอดีตได้
ตฤณดีใจมากที่เจนจิราจำเขาได้ ถามเขาว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เรียกตังตัง กังฟู และสมายล์ได้อย่างถูกต้อง บอกตฤณว่าตนรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน
“ตัวเองถูกสะกดจิต น่าจะเป็นฝีมือไอ้อาทิตย์
ตัวเองหายแล้ว” ตฤณบอก
“เค้าหายแล้ว...แล้วตอนที่เค้าถูกสะกดจิต เค้ามีอาการยังไงเหรอ เอาเพชร เอาทองส่งให้ ดร.อาทิตย์หมดเลย หรือว่าพวกมันใช้เค้าทำอะไรหรือเปล่า”
ขณะตฤณกำลังดีใจกับการกลับคืนมาเป็นเจนจิราคนเดิมนั้น พลันบรรยากาศก็เครียดทันทีเมื่อบารมีมาเรียก
“เจน!!!”
พอเจนจิราหันเห็นบารมี สีหน้าแววตาเธอก็กลับเหมือนเดิม ตฤณยังพยายามถามว่าเจนหายแล้วไม่ใช่หรือ เธอมองเขาด้วยแววตาเลื่อนลอย แล้วทักบารมีอย่างยินดี
“บารมี...มารับเจนแล้ว...”
“โธ่เว้ย!!” ตฤณสบถอยากจะบ้าตาย ส่วนพวกเด็กๆ ที่มาซุ่มดูอยู่ต่างมองกันงงๆ
ooooooo
ลินดาส่งวีดิโอบ้านพักตากอากาศและสภาพทั้งภายในภายนอกที่แอบถ่ายไว้ไปให้ ดร.อาทิตย์ดู พอ ดร.อาทิตย์ดูก็รู้ทันทีว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน ขอบใจและชมลินดาที่ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อได้ยอดเยี่ยม
ดร.อาทิตย์วางแผนจะฆ่าพวกเชนทั้งหมด บอกอินทุกับนารีว่า
“แต่แผนนี้จะทำได้ ฉันต้องมีผู้ช่วย” อินทุถามว่าหมายถึงมิสเตอร์โอเคใช่ไหม “เหอะ! ไอ้โอเคมันเก่าไปแล้ว ฉันต้องหาผู้ช่วยคนใหม่ที่พูดน้อยๆแต่พลังมากๆไร้เทียมทาน”
ดร.อาทิตย์มองไปที่แว่นสามมิติ หวังจะใช้ไปเอาวายร้ายตัวใหม่จากในหนังมาเป็นผู้ช่วยตน
จันทร์เจ้าวางโทรศัพท์ของตนไว้ล่อลินดาหมายจะจับให้ได้คาหนังคาเขา ลินดาเองก็เกือบติดกับ เพราะย่องไปเอาโทรศัพท์ ขณะกำลังจะโทร.ออก จันทร์เจ้าก็เข้ามา ลินดารีบหย่อนโทรศัพท์เข้าที่เดิม
จันทร์เจ้าเข้ามาแต่ลินดาหายไปแล้ว จันทร์เจ้ามองหาไม่เห็นลินดา เจอแต่โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าก็ทำเป็นบ่นตัวเองว่าลืมไว้ที่นี่เอง
ที่แท้ลินดาโดดขึ้นไปเกาะฝ้าดูอยู่ ถ้าตัวเองถูกจับได้ก็จะฆ่าจันทร์เจ้าปิดปากเสีย แต่จันทร์เจ้าออกไปเสียก่อน ลินดาจึงลงจากฝ้าบ่น
“เกือบได้ฆ่านังนี่ปิดปากซะแล้ว เอ๊ะ...แล้วนังปวันหายหัวไปไหน เสียแรงที่เคยเป็นตำรวจ สุดท้ายหล่อนก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทันฉัน ฮิๆๆ” ลินดาหัวเราะเยาะ
ปวันกำลังไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าชุดเดินชายหาด เลือกได้ชุดถูกใจในราคา 400 บาท พอได้ชุดก็ยืนคิด...
“ในเมื่อพูดดีๆไม่ยอมเชื่อ ได้...เดี๋ยวเจอกัน นายเชน!”
ooooooo
บารมีจะพาเจนจิรากลับ แก๊งเด็กๆพากันเกาะเจนจิราไว้แน่นส่งเสียงกันเซ็งแซ่ไม่ยอมให้เจนจิราไป ถูกบารมีตวาด
“โฮ่ย...หนวกหูไอ้เด็กพวกนี้ ปล่อยเจนเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อย เป็นเด็กไม่อยู่ส่วนเด็ก มายุ่งอะไร”
ตฤณสะอึกออกมาปรามบารมีว่า ห้ามทำอะไรเด็กเด็ดขาด และให้ปล่อยเจนจิราด้วย ประกาศกร้าวว่า
“วันนี้เป็นตายยังไงฉันไม่มีวันยอมให้นายได้ตัวเจนกลับไปเด็ดขาด” บารมีพุ่งเข้ามาถามว่าอยากตายหรือ เชนโผล่พรวดมาเตือนว่า
“อย่าเสี่ยงดีกว่าคุณหมอ ตอนนี้ผู้ช่วยตฤณเขาคือคู่หูของเชน เขาไม่ใช่คนเดิมแล้วนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน” พูดพลางเดินกะเผลกๆเข้ามา
เมื่อบารมีไม่ยอมปล่อยเจนจิรา ตฤณจึงท้าต่อยกัน พวกเด็กๆเชียร์น้าตฤณกันเซ็งแซ่ ในขณะที่บารมี มีเจนจิราคนเดียวที่ทั้งร้องทั้งเต้นเชียร์อยู่คนเดียว พอบารมีถูกตฤณเล่นงานจนสะบักสะบอม เจนจิราก็หาว่าบารมีถูกรุม
เชนกระซิบอะไรบางอย่างกับตังตัง ครู่หนึ่ง ตังตังไปกระซิบกับจันทร์เจ้า พอเห็นบารมีย่ำแย่ จันทร์เจ้าก็ร้องโวยวายขึ้นว่า “ว้าย...ตายแล้วคุณหมอ เจ็บมากไหมคะ กรี๊ด...จมูก! จมูกคุณหมอมัน...มัน...โอ๊ววววว!!” จันทร์เจ้าทำหน้าสยอง
บารมีตกใจคลำจมูกตัวเองนึกว่าซิลิโคนโผล่ จันทร์เจ้าเร่งให้รีบเข้าไปทำแผลก่อนที่หน้าหมอจะไม่เด๊ะ แล้วพาบารมีไป เจนจิราร้องโหวกเหวกโวยวายที่ถูกทิ้ง แต่ก็ยังตะโกนบอกบารมีว่า ตนจะปกป้องเขาเอง
“เป็นอย่างนั้นไปฉิบ! แทนที่จะตาสว่าง กลับมืดบอดลงไปอีก” เชนบ่นกับตฤณเซ็งๆ
“มันใช้วิธีอะไร ตัวกระตุ้นการสะกดจิตให้แรงขึ้นมันคือตัวบารมีใช่ไหม เมื่อเจนเห็นบารมีก็จะเร้าให้บ้ามากขึ้นจนแก้ไขได้ยาก แต่ผมจะไม่ท้อหรอก เจน...เจนฟังนะ ผมจะช่วยคุณให้ได้ ไม่ใช่เพื่อตัวผมแต่เพื่อคุณ... เจน” ตฤณมุ่งมั่นมาก
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว เชนหันมองไปทางทะเล เขาชะงักกึกแล้ววิ่งออกไปพลางร้องเรียกอย่างตื่นเต้น
“คุณปลายฟ้า...คุณปลายฟ้า...” แต่พอวิ่งไปถึง
ไม่เห็นปวันที่แต่งเป็นปลายฟ้าแล้ว มองหาจึงเห็นเธอนั่งหลับตานิ่งอยู่ที่โขดหิน เลยไม่กล้าเข้าไปรบกวนสมาธิ
ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของลินดา เธอเขม้นมองพึมพำ นังนั่นใครกัน?”
พอดีปลายฟ้าหาคำตอบให้กับนวนิยายตอนจบของตนได้ เธอลืมตาลุกขึ้นก็เห็นเชนมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว เธออุทาน “เชน” เชนยิ้มเท่ให้ตอบเสียงหล่อว่า “ใช่แล้วครับ ผมเอง...สุดหล่อเชน”
ส่วน ดร.อาทิตย์เปิดหนังเรื่องต่างๆดูเพื่อหาวายร้ายมาเป็นผู้ช่วยของตน จนเลือกได้ “ไซล่าร์” เขาดีใจมากพึมพำ...
“ไซล่าร์...ไซล่าร์...แกคือตัวร้ายในฝันของฉันจริงๆ เห็นทีฉันต้องไปเชิญแกด้วยตัวเองซะแล้ว”
แล้ว ดร.อาทิตย์ก็หยิบแว่นสามมิติมายืนจังก้าอยู่หน้าทีวี ครู่เดียว เกิดแสงสว่างวาบขึ้นที่จอทีวี
เสียงกรีดร้องของคนในทีวีที่กำลังหนีตายและเสียงคำรามของไซล่าร์ในหนังที่ตามฆ่ากัดกินคนอย่างน่าสยดสยองปรากฏขึ้น ดร.อาทิตย์สวมแว่นสามมิติทันที พริบตานั้น ร่าง ดร.อาทิตย์ก็กลายเป็นแสงสว่างวาบขึ้นแล้วพุ่งหายไปในทีวี!
ooooooo










